ระหว่างที่เธอนั่งแท็กซี่ คนขับรถก็คอยแอบมองเธอผ่านกระจกรถอย่างสงสัย ระแวงเธอ เพราะสภาพที่นุ่งผ้าห่มออกมา หัวกระเซิง เท้าเปล่า ราวกับเป็นคนหนีออกจากบ้านหรือไม่ก็คนไร้บ้าน คิดจะหลอกนั่งแท็กซี่ฟรี ๆ รึเปล่า อันได้แต่ยิ้มบาง ๆ ให้คนขับรถ
เมื่อถึงคอนโด อันเดินไปยืมเงินแม่ค้าร้านอาหารตามสั่งที่เธอกินประจำข้างคอนโด เอาไปให้แท็กซี่ก่อน เพราะเธอไม่มีอะไรติดตัวมาเลย ก่อนจะรีบขึ้นห้องไป ท่ามกลางความงุนงงของคนที่เดินผ่านไปผ่านมา
“อยู่คอนโด ก็ออกจะหรูหรา ไฮโซ ทำไมถึงแต่งตัวแบบนั่นขึ้นแท็กซี่”
คนขับรถแท็กซี่ส่ายหัว ก่อนจะขับรถออกไป
อันรีบแต่งตัวใส่เสื้อยืด กางเกงธรรมดา วิ่งหาตู้โทรศัพท์แถว ๆ คอนโด โทรหานที เขาน่าจะเป็นคนที่รู้เรื่องราวตอนนี้ดีที่สุด
“ฮัลโหล” นทีรับโทรศัพท์
“พี่นที”
“อัน เธอไปอยู่ไหน พี่ตามหาให้ทั่วเลย โทรศัพท์ก็ไม่รับ พี่กังวลจนไม่รู้จะต้องทำยังไงแล้วเนี่ย”
“ขอโทษค่ะพี่นที พอดีอันติดธุระสำคัญนิดหน่อยค่ะ ทำให้ไม่ทันระวังไม่รู้ว่าทำมือถือตกไว้ที่ไหน ตอนนี้เรื่องอิงเป็นไงบ้าง มีใครรู้เรื่องที่อิงหายตัวไปรึยังคะ”
อันปกปิดเหตุผลที่เธอไม่สามารถรับโทรศัพท์ได้ รวมไปถึงธุระสำคัญ นั่นคือหลังจากที่เธอเข้าไปคุยกับลูเซี่ยน เธอก็ถูกลูเซี่ยนขังไว้ในห้องจนต้องปีนหน้าต่างหนีมา
“ไม่มีใครรู้เรื่องนี้ พี่ยกเลิกงานของอิงวันนี้ไปหมดแล้ว บอกแค่ว่าอิงไม่สบาย”
“แล้วพี่ได้ข่าวอิงบ้างรึยังคะ”
“ยังเลยอัน พี่จะทำยังไงดี”
อันนิ่งเงียบไปสักพัก คิดหาวิธีที่จะติดต่ออิงให้ได้ก่อน ในเมื่อพึ่งลูเซี่ยนไม่ได้ เธอก็ต้องพึ่งตัวเอง
“จริงสิ พี่มีเบอร์แกริคไหม”
“เอ๊ะ ก็มีอยู่ เพราะเขาติดต่อหาอิงผ่านพี่ แต่พี่ติดต่อกลับไปก็ไม่มีใครรับสายหรือว่าการที่อิงหายไปมันเกี่ยวกับแกริคจริง ๆ”
“ค่ะ พี่นทีเป็นคนบอกเองนิค่ะ ว่าคนที่อยู่กับอิงเป็นคนสุดท้ายคือแกริค”
“แต่นั้นไม่ใช่เหตุผลที่จะตัดสินว่าเขาจะลักพาตัวอิงไปนะอัน อาจจะเป็นพวกสโตกเกอร์ที่คลั่งไคล้อิงก็ได้ที่จับตัวอิงระหว่างทางกลับก็เป็นไปได้ อันไปรู้อะไรมารึเปล่า”
“ก็นิดหน่อยค่ะ แต่อันไม่สามารถบอกเหตุผลอะไรได้มากกว่านี้”
“พี่เคยโทรหาแกริคแล้ว แต่เขาเองก็ไม่รับโทรศัพท์ พี่จะแจ้งตำรวจดีไหม”
“อย่าค่ะ!” อั
นรีบเบรกพี่นทีเอาไว้ เพราะถ้าแจ้งตำรวจ ลูเซี่ยนอาจจะโดนลูกหลงไปด้วยก็ได้
อะไรเนี่ย! เวลานี้ยังมาห่วงอะไรลูเซี่ยนอีกเหรอ
“เอ่อ…ประมาณว่า ถ้าตำรวจจับลูเซี่ยนไปด้วย อิงคงต้องเสียใจ”
อันกำลังคิดหาเหตุผลต่าง ๆ นานาในหัวสมองอ้างไปเพื่อต้องการปกป้องลูเซี่ยน
“เอ่อ…อันขอเบอร์แกริคหน่อยสิ”
“… อันจะเอาไปทำอะไร” นทีสงสัย
“อันอยากโทรไปหาเขาค่ะ มีเรื่องอยากจะคุยกับเขา”
“อัน ถ้าเป็นอย่างที่อันพูดมาว่าแกริคลักพาตัวอิงไป มันเสี่ยงเกินไปนะ ดูเหมือนเขาเองก็มีอำนาจอยู่พอสมควร ถ้าเธอได้รับอันตรายหรือถูกจับตัวไปอีกคนจะทำยังไง” นทีพูดเป็นห่วงอัน
“พี่นที ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ อันมีวิธี นะคะพี่นที อันขอเบอร์แกริคหน่อย”
ตอนแรกนทีลังเลที่จะให้ แต่ทนลูกตื๊อของอันไม่ไหวเลยให้เธอไป แต่มีข้อแม้ว่าเธอต้องรายงานสิ่งที่เกิดขึ้นให้เขาฟัง
ทันทีที่เธอได้เบอร์แกริคไป เธอก็รีบโทรหาทันที
“ฮาโหล”
เสียงปลายสาย นุ่มลึกไร้ความรู้สึกของแกริคพูด ไหนว่าไม่รับโทรศัพท์ไง แล้วทำไมถึงรับสายเราละ
“ใช่คุณแกริครึเปล่าคะ ฉันอันเป็นน้องสาวของอิง”
“มีเรื่องอะไร”
แกริคพูดเหมือนไม่สนใจอันเลย ด้วยน้ำเสียงแบบของไปที
“ฉันอยากรู้ว่าพี่สาวฉันเป็นยังไงบ้าง”
“ทำไมมาถามผมละ”
“ก็คุณเอาตัวพี่สาวฉันไปไม่ใช่เหรอ”
“รู้ได้ยังไงว่าผมเป็นคนเอาตัวพี่สาวคุณไป”
“นั่นไม่ใช่เรื่องที่ฉันต้องบอกคุณ รู้แค่ว่าฉันรู้ก็พอ”
“แล้วจะทำไม แต่คนที่ผมอยากคุยด้วยไม่ใช่คุณ แต่เป็นคู่หมั้นของพี่สาวคุณ”
“นั่นก็เรื่องของคุณ แต่ฉันถามถึงอิง ว่าสบายดีไหม”
“ก็สบายดี”
“ฉันไม่เชื่อหรอก ถ้าอย่างนั้นก็ให้ได้ยินเสียงหน่อยสิ”
“ไม่! นี่มันไม่ใช่เรื่องของเธอที่จะเข้ามาแส่”
“…”
“ช่างไม่รู้อะไรเสียจริงนะสาวน้อยจอมอิจฉา เธอจะเดือดร้อนทำไมที่พี่สาวที่เธอไม่ชอบขี้หน้า หายตัวไป เธอควรจะดีใจสิ ดูจากในข่าว เธอต้องการจะจ้องตำแหน่งพี่ของตัวเองอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ ทั้งงาน รวมถึงคู่หมั้นพี่สาวเธอ นี่ก็เป็นโอกาสดีแล้ว ที่เธอจะได้ในสิ่งที่เธอต้องการไปอย่างสบาย ๆ เธอควรขอบคุณผมนะ อ่ะ! แต่…เดี๋ยวก่อน”
แกริคเงียบไปสักพัก เหมือนมีความคิดดี ๆ แวบขึ้นมาในสมอง ยิ้มมุมปากเล็กน้อย เหมือนเขาจะคิดแผนสำรองได้ กันไว้ก็ไม่เสียหายอะไร
“เรามาคุยกันสักหน่อยดีกว่า เที่ยงเจอกันที่ร้านกาแฟ ข้าง ๆ บริษัทที่อิงทำงาน”
แกริคพูดจบก็ตัดโทรศัพท์ทันที
“เอ๊ะ ฮัลโหล ๆ แกริค ตู๊ดอยู่ ๆ ก็วางสาย
‘น้องสาวจอมอิจฉางั้นเหรอ’ อันคิดในใจ
‘ช่างเถอะ เรื่องอิงสำคัญกว่า ไม่ใช่เวลาคิดเรื่องไร้สาระ’
อันโทรไปหานทีทันที พูดเรื่องราวทั้งหมดที่คุยกับแกริค ซึ่งนทีอาสาจะไปรับเธอที่คอนโดและพาเธอไปยังสถานที่ที่แกริคนัดเจอ เขาเป็นห่วงอิงไม่น้อยไปกว่าเธอเลย
ลานจอดรถหน้าร้านกาแฟ สถานที่ที่แกริคนัดเจออัน
“พี่นทีต้องรออยู่บนรถนะคะ เดี๋ยวอันไปคุยกับเขาเอง”
“อัน พี่ว่าพี่ไปเองดีกว่า มันอันตราย ถ้าเขาจับอันไปอีกคนจะทำยังไง”
“ไม่มีทางหรอกค่ะ จากที่คุยผ่านทางโทรศัพท์แกริคเหมือนไม่ค่อยชอบอันเท่าไหร่นัก อีกอย่างแกริคอยากคุยกับอัน เอางี้ถ้าเหตุการณ์เริ่มไม่ดี ให้พี่หนีไปเลยนะ ถ้าฉุกเฉินจริง ๆ ค่อยโทรหาเบอร์นี้”
อันยื่นนามบัตรของคนคนนึง
“ลูเซี่ยน” นทีมองหน้าอัน
“เธอได้นามบัตรนี้มาได้ยัง”
อันไม่ตอบอะไร มันมีหลาย ๆ คำถามเกิดขึ้นในหัวนทีตอนนี้ เบอร์ส่วนตัวของลูเซี่ยน คนที่รู้เบอร์ลูเซี่ยนจริง ๆ มีน้อยมาก แม้แต่นทีหรืออิงยังไม่เคยได้มันมาเลย
ส่วนใหญ่ทั้งนทีและอิงจะติดต่อกับเบอร์สาธารณะของลูเซี่ยนมากกว่า แต่อันกลับมีมัน ต้องมีอะไรเบื้องลึกเบื้องหลังที่นทียังไม่รู้อีกเป็นภูเขาเลากา
“ต้องฉุกเฉินเท่านั้นนะคะ”
อันยิ้มไม่ตอบคำถาม แต่พูดย้ำเรื่องการโทรไปหาเบอร์นั้นแทน ก่อนจะลงจากรถ เดินไปที่ร้านกาแฟที่แกริคนัดไว้
อันนั่งรอไม่กี่นาที ชายในชุดสูทสีดำเดินเข้ามานั่งตรงกันข้ามกับอัน จ้องหน้าเธอ เหมือนเชิงเปรียบเทียบระหว่างเธอกับอิง อันไม่ได้ปกปิดใบหน้าของตัวเองเหมือนในอดีต เผยให้เห็นใบหน้าที่เหมือนกันกับอิงต่อหน้าแกริค อย่างน้อยตอนนี้มันก็ช่วยปกป้องเธอจากแกริคเพราะคนในร้านและนอกร้านต่างเห็นเธอ คิดว่าเธอคืออิง ถ้าเกิดอยู่ดี ๆ เธอหายไป คนเหล่านี้ก็จะเป็นเบาะแสให้กับเธอได้
“เหมือนกันจริง ๆ” แกริคจ้องอันไม่วางตา
ในเมื่อแกริคดูเหมือนไม่ชอบเธอ จากข่าวที่เป็นกระแสเมื่อไม่นานมานี้ อันคงต้องเล่นละครตบตาแกริคได้ง่ายขึ้น ในเมื่อนั่นคือสิ่งที่แกริคอยากจะเห็นอันในแบบที่ข่าวนำเสนอ อันคิดในใจ
“ไม่เหมือนกันหรอกค่ะ”
อันทำสายตาเหมือนนางร้ายจ้องแกริคราวกับทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ เขายักไหล่เชิงดูท่าทีออกว่า เธอน่าจะร้ายกาจกว่าที่เห็นในข่าว
“อิงเป็นยังไงบ้าง”
“อืมม ก็บอกไปแล้วทางโทรศัพท์นะว่าสบายดี ครบสมบูรณ์ทุกอย่าง ไม่มีแผลแม้แต่รอยขีดข่วน”
“…”
อันไม่ตอบอะไร คิดว่าเขาจะมาไม้ไหน ก่อนจะพูดออกไปว่า
“แล้วเมื่อไหร่ปล่อยตัวอิง”
“บอกแล้วไงว่ามันไม่ใช่เรื่องของเธอ เธอไม่มีสิ่งที่ผมต้องการเลยสักนิด”
“ผมแค่อยากมาดูหน้าตาของอัน น้องสาวฝาแฝดของอิง ณภัสสรเท่านั้น ว่าในหนังสือพิมพ์กับตัวจริงเหมือนกับที่ลงข่าวรึเปล่า แต่เห็นท่าทีของคุณก็พอรู้แล้ว อย่างที่ผมบอกไปการที่อิงไม่อยู่ น่าจะทำให้คุณมีความสุขมากกว่านะ”
“แล้วไง มันก็แค่นั้น มันจะไปสนุกอะไร สู้อยู่ด้วยกันแย่งชิงดีชิงเด่น ยังสนุกกว่า”
“ฮึ อิจฉาพี่ถึงขนาดต้องทำลายงานสำคัญของอิงกับลูเซี่ยน กิริยาท่าทางแบบนี้ คงมีหน้าตาเท่านั้นที่เหมือน แต่นิสัยคงต่างกันมากราวฟ้ากับดิน”
“เรื่องของฉัน ฉันไม่ยอมให้ใครมาดีเด่นไปกว่าฉันได้หรอกนะ อ่อจริงสิ ที่บอกว่าฉันไม่มีสิ่งที่คุณต้องการ แม้ร่างกายนี้ก็ทำให้ไม่ได้เหรอ”
อันเลื่อนแขนเสื้อลงเผยให้เห็นไหล่ขาวเนียน ยั่วยวนเขา แกริคนิ่งเงียบ บ่งบอกถึงอารมณ์ขุ่นมัวในจิตใจ เขาดูท่าจะไม่ชอบอันจริง ๆ
“ฮึ คนอย่างเธอ…อืม ก็น่ะ อาจจะมีประโยชน์ก็ได้ เผื่อไว้ก่อนก็ไม่เสียหาย”
แกริคพูดเรื่องอะไร อันไม่เห็นจะเข้าใจสิ่งที่เขาพูด
“…”
“เอาหนังสือสัญญาของลูเซี่ยนมาให้ฉัน” แกริคจ้องเธอ
“หนังสือสัญญาอะไร”
“เรื่องนั้นเธอไม่จำเป็นต้องรู้ ถ้าได้มันมาเมื่อไหร่ก็ติดต่อมาแล้วกัน แล้วฉันจะคืนอิงให้”
“นิไม่ได้ติดตามข่าวในหนังสือพิมพ์มากพอรึยังไง ว่าฉันกับลูเซี่ยนมองหน้ากันแทบไม่ติด แต่…ฉันก็ไม่ปฏิเสธที่จะร่วมเล่นเกมนี้ ถ้ามันเป็นอีกทางที่จะได้ใกล้ชิดกับลูเซี่ยน เผื่อเขาจะหันมามองฉันใหม่”
อันทำสายตาเจ้าเล่ห์
“ฮึ นั่นก็แล้วแต่เธอ”
“แล้วฉันจะรู้ได้ไง ว่าคุณจะทำตามที่พูด”
“อืม นั่นสินะ เธอจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็แล้วแต่ แต่อิงอยู่กับฉัน คนสวยอย่างอิงเป็นที่นิยมมากเลยนะโดยเฉพาะในตลาดด้านหลัง ยิ่งเป็นคนมีหน้ามีตาด้วยแล้ว ถ้าถูกทอดขายในตลาดคงได้กำไรอย่างงาม”
แกริคพูดจบ แล้วเดินจากไปทันที
อันนั่งนิ่งอยู่ในร้านคนเดียวสักพัก ร่างกายของอันสั่นไปหมดเพราะความกลัว ตอนคุยกับแกริค เธอพยายามแสดงละครที่แกริคอยากให้อันเป็นซ้อนทับความกลัวข้างใน พออันตั้งสติได้ ขาเริ่มขยับ เธอเลยเดินกลับมาขึ้นรถ
สีหน้าซีดเซียวของอัน ทำให้นทีเป็นห่วงไม่น้อย ยิ่งพอกลับขึ้นรถอันก็ยังนั่งเงียบไม่พูดอะไร
“ว่าไงบ้างอัน”
นทีเขย่าตัวเธอเบา ๆ เรียกสติเธอกลับมา
“ไม่มีอะไรค่ะ เขาแค่มาบอกว่าอิงปลอดภัยดี และอยากเจออันแค่นั้น”
อันนิ่งเงียบอีกครั้ง ครุ่นคิดอะไรบางอย่าง
ตอนนี้เธอรู้เหตุผลแล้วทำไมเขาถึงจับตัวอิงไป หนังสือสัญญาบางอย่างที่อยู่กับลูเซี่ยนคือสิ่งที่แกริคต้องการเลยใช้พี่เป็นตัวประกัน
ทางฝั่งแกริค…
“ท่านแกริค คิดเหรอว่าเธอจะเอาหนังสือสัญญามาให้ท่านได้”
“ไม่หรอก ฉันแค่อยากเล่นสนุก ๆ ฆ่าเวลาเท่านั้น ถึงเธอได้มาจริง ๆ ฉันก็จะได้เอาทั้งสองแฝดนั้น ไปขายเก็งกำไรสองต่อ ที่สำคัญถ้ามีคนนอกรู้เรื่องที่อิงหายไปละก็ ลูเซี่ยนเองคงตกอยู่ในอันตรายด้วยเหมือนกัน คนที่ต้องการล้มลูเซี่ยน และตระกูลลีมันมีอยู่ไม่น้อย นี่คือโอกาสของตระกูลเฟ่ย มันไม่มีอะไรง่ายไปกว่านี้อีกแล้ว แค่ลงแรงนิดหน่อยในช่วงแรก ที่เหลือก็ให้กระแสมันไหลไปเอง แต่เราต้องแน่ใจก่อนว่า เราต้องได้หนังสือนั่นมาแล้ว เอาจริง ๆ ฉันอยากให้ลูเซี่ยนเอาหนังสือมาให้ด้วยตัวเองเสียมากกว่า เพราะถ้าฉันได้หนังสือสัญญาเมื่อไหร่ จะฆ่าเขาทิ้งทันที ทีนี้ก็แก้แค้นให้ตระกูลเราได้สำเร็จ”
แกริคพูดกับบอดี้การ์ดคนขับรถ ระหว่างขับรถกลับที่พัก
ทางด้านของอัน…
“พี่นที กลับไปก่อนนะคะ” อันพูด
“เอ๊ะ”
“พอดีอันมีเรื่องนึงที่ต้องทำนะคะ”
อันพูดเสร็จ รีบลงจากรถทันที ไม่รอให้นทีถามอะไรต่อ
MANGA DISCUSSION