อันยืนอยู่หน้าโรงแรมของลูเซี่ยน ซึ่งเป็นสาขาใหญ่ที่สุดในไทย เขามักจะพักอยู่ที่นี่แทบทุกวัน ดูเหมือนว่าวันนี้ดูทุกคนเร่งรีบไปหมด วุ่นวายเหมือนมีอะไรไม่ดีเกิดขึ้นรึเปล่า โดยเฉพาะบอดี้การ์ดหน้าโรงแรมที่คุมเข้มอย่างแน่นหนากว่าปกติ
อันเดินเข้าไปในโรงแรมโดยไม่คิดอะไร ทุกคนในโรงแรมที่เป็นพนักงาน ต้อนรับเธออย่างดี เพราะคิดว่าเธอคือคู่หมั้นของลูเซี่ยน บางครั้งการเป็นแฝดมันก็ดีแบบนี้แหละนะ อันขึ้นลิฟต์ไปชั้นบนสุด ชั้นทำงานของลูเซี่ยน น่าแปลกที่ไม่เห็นมีบอดี้การ์ดคอยรักษาความปลอดภัยหน้าลิฟต์เหมือนปกติ มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นนะ เธอเดินไปเรื่อย ๆ ได้ยินเสียงพูดคุยออกมาจากห้องห้องหนึ่ง บอดี้การ์ดเกือบทั้งหมดอยู่ตรงนั้น
อันเดินเข้าไปใกล้ ๆ บอดี้การ์ดในห้องไม่ทันระวังตัว เผลอปล่อยให้เธอเข้ามา เพราะรู้ว่าเธอเป็นคนสำคัญของลูเซี่ยน โดยไม่เอะใจ ว่านั่นคืออัน
อันยืนอยู่ด้านหลังข้าง ๆ เหล่าบอดี้การ์ด เธอพยายามแทรกตัวเข้าไปอยู่ด้านหน้าสุด เธอเห็นแค่ลูเซี่ยนยืนคุยกับใครสักคน
“ครับ ผมแน่ใจว่าแกริค ลักพาตัวเธอไปเพื่อต่อรองกับท่านลูเซี่ยน”
อย่างที่ลูเซี่ยนคิด แกริคจะใช้จุดอ่อนของเขาเป็นเครื่องต่อรอง ลูเซี่ยนยิ้มมุมปากด้วยสีหน้าน่ากลัว
“อะไรนะ”
อันพูดออกมา เมื่อได้ยินสิ่งที่พวกเขาคุยกัน ลูเซี่ยนหันไปมองต้นเสียงด้านหลัง เขามีสีหน้าตกใจที่เห็นแขกไม่ได้รับเชิญ ที่ไม่คิดว่าจะมาอยู่ที่นี่ กลับมาได้ยินอะไรแบบนี้ อันจ้องมองบอดี้การ์ดของเขา ทั้งสองคนที่เนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือด อันยืนนิ่ง สับสนวุ่นวายกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“แกริค แกริค แกริคจับตัวอิงไปเหรอ”
อันเดินไปจับชุดสูทของลูเซี่ยน ตัวเธอสั่นกลัวและตกใจ
“…”
ลูเซี่ยนไม่ตอบ มีแค่สีหน้าเรียบเฉยไม่บ่งบอกถึงอารมณ์ใด ๆ เธอยืนนิ่งจ้องมองใบหน้าลูเซี่ยน ต้องการคำตอบที่แน่ชัด ยืนยันสิ่งที่เธอคิด เขาพลาดไป คิดไม่ถึงว่าเธอจะมาที่นี่ เขาลืมย้ำบอดี้การ์ดว่าอย่าให้เธอขึ้นมา
เมื่อลูเซี่ยนไม่ตอบสิ่งที่อันถาม อันเลยเดินเข้าไปถามบอดี้การ์ดที่เห็นอันก็ตกใจไม่แพ้กัน เพราะคิดว่าเธอคืออิง เขาพอรู้มาบ้างว่าอิงมีฝาแฝดแต่ไม่คิดว่าเหมือนกันจนแยกไม่ออกแบบนี้
“นิ ทำไมเลือดเต็มตัวละ อิงละ อิงอยู่ไหน อิงโดนทำร้ายด้วยเหรอ”
น้ำเสียงสั่น ๆ ของอัน แสดงให้เห็นว่าเธอกำลังตกใจ วิตกกังวล
ลูเซี่ยนลากอันออกจากห้อง เธอพยายามดิ้นและเดินตรงเข้าไปหาบอดี้การ์ดเพราะต้องการได้คำตอบของคำถาม ลูเซี่ยนตัดสินใจอุ้มเธอพาดขึ้นบนบ่า พร้อมพูดกับบอดี้การ์ดว่า
“ไปเรียกหมอมารักษาสองคนนั้นด้วย” แล้วเดินจากไป
อันดิ้น พยายามดันตัวออกจากลูเซี่ยน เธอต้องการจะคุยกับบอดี้การ์ดคนที่โชกเลือดในห้องพยาบาล
“ปล่อย” อันพูดและดิ้นไม่หยุด
ลูเซี่ยนไม่พูดอะไร ก่อนจับเธอโยนเข้าไปในห้องห้องหนึ่ง ในชั้นบนสุดของโรงแรมล็อกประตู แล้วยืนขวางประตูเอาไว้ อันเดินไปตรงที่ประตู เพื่อต้องการออกจากห้องนี้ อันไม่อยากแม้แต่จะคุยหรือมองหน้าลูเซี่ยนเท่าไหร่ ถ้าไม่จำเป็น ในเมื่อเธอไม่ได้คำตอบที่ต้องการ มันทำให้อันรู้แน่ชัดอย่างนึงว่า ตอนนี้อิงอยู่กับแกริค เธอต้องไปช่วยอิง เธอไม่จำเป็นต้องคุยกับเขาอีกต่อไป
“ปล่อยฉันนะ ฉันจะไปช่วยอิง” อันพูด
“ช่วย ช่วยยังไง เอาแรงที่ไหนไปช่วย แล้วรู้เหรอว่าต้องไปที่ไหน” ลูเซี่ยนพูด
“…”
อันเงียบ
ก่อนจะพูดขึ้นต่อไปว่า
“งั้นคุณก็ไปช่วยเธอสิ คุณรู้ใช่ไหมว่าเธออยู่ไหน”
อันจับเสื้อสูทของเขา ลูเซี่ยนทำหน้าเย็นชา จนดูน่ากลัว
เขาคงไม่อยากเห็นหน้าอันเท่าไหร่นัก ที่เธอไปทำลายงานเลี้ยงแสนสำคัญของเขา อันคิดในใจ
“…”
“ลูเซี่ยน คุณยังโกรธที่ฉันทำลายงานเลี้ยงคุณอยู่ใช่ไหม ฉันขอโทษ ฉันสัญญานะ ฉันจะไม่มายุ่งเรื่องของคุณกับอิงอีก ต่างคนต่างอยู่ ถ้าไม่อยากเห็นหน้ากันขนาดนั้น ฉันก็จะไม่มาให้เห็นอีกต่อไป เพราะฉะนั้นช่วยอิงนะ นะ แค่ครั้งนี้ ฉันขอร้อง คุณบอกแค่ที่อยู่ของอิงก็ได้ ฉันขอแค่นั้น แล้วที่เหลือฉันจัดการเอง”
อันขอร้องเขา ลูเซี่ยนถอนหายใจพูดว่า
“คิดว่าเราคุยเรื่องนี้กันรู้เรื่องแล้วนะตอนคุยโทรศัพท์ ว่าผมกับอิงเป็นแค่ว่าที่ ต่างคนต่างมีอิสระที่จะทำอะไรก็ได้ แล้วดูเหมือนว่า อิงจะเป็นฝ่ายไปหาแกริคเองด้วยความเต็มใจ แล้วทำไมผมต้องช่วยละ ส่วนที่บอดี้การ์ดสองคนนั้นเลือดโชก มันเป็นเพราะความสะเพร่าส่วนตัวไม่เกี่ยวอะไรกับอิงหรือใครทั้งนั้น”
อันได้ยินชัดเต็มสองหูว่าบอดี้การ์ดพูดถึงอิงกับแกริค แล้วทำไมเขาถึงบอกว่าไม่เกี่ยว แล้วเรื่องที่อิงถูกลักพาตัวไป แม้ตอนแรกจริงอยู่ว่าเธอเต็มใจ แต่ถึงยังไง อิงก็กำลังเป็นคู่หมั้นของลูเซี่ยน เขาควรจะเป็นห่วงเธอให้มากกว่านี้
“แต่…อย่างน้อยคุณก็ต้องเป็นห่วงเธอบ้างสิ พวกคุณกำลังจะหมั้นกันนะ”
“อืม ไม่เลย”
ลูเซี่ยนพูดตอบอย่างไม่คิดอะไร
“เอ๊ะ งั้นคุณหมั้นกับเธอทำไม” ลูเซี่ยนไม่ตอบ
“…”
‘นี่มันเรื่องอะไรกัน’ อันคิดในใจ
“คุณลูเซี่ยน คุณเคยรักอิงบ้างไหม” อันพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“ทำไม คนจะหมั้นกันต้องรักกันด้วยเหรอ คนเราหมั้นกัน แต่งงานกันเพราะผลประโยชน์ทั้งนั้นแหละ ผมได้ประโยชน์ด้านความสัมพันธ์ทางธุรกิจสื่อ ส่วนอิงได้มีหน้ามีตาในสังคมธุรกิจชั้นสูง แค่นี้ก็น่าจะพอแล้วที่เราจะหมั้นกัน”
คำพูดเย็นชาถึงขั้วหัวใจ คิดอยู่ว่าเขาเป็นคนเย็นชา โหดเหี้ยมแต่ไม่คิดว่าจะร้ายกาจแบบนี้
“พูดอะไรนะ คนเราถ้าจะแต่งงานกันก็ต้องรักกันสิ มันทั้งชีวิตเลยนะ” การมีคนข้างกาย มันก็แค่สร้างจุดอ่อนให้ตัวเองเท่านั้นแหละ”
“แล้วคิดจะหมั้นกับอิงทำไม!”
อันพูดเสียงดังและเข้มขึ้น ปลดปล่อยอารมณ์ทั้งหมดที่เข้ามาถาโถมจนเกินจะรับไหวออกมา เธอเสียใจที่ลูเซี่ยนทำเหมือนเธอไม่ใช่คนรู้จัก แล้วยังหมั้นกับพี่ทั้ง ๆ ที่ไม่มีความรู้สึกดีต่อกัน ไหนอิงถูกแกริคลักพาตัว แล้วไหนที่เขายังนิ่งเฉยไม่ช่วยอิง ที่สำคัญ สิ่งที่ทำให้เธอเจ็บปวดที่สุด คือการหลงรักผู้ชายคนนี้
“ผมบอกไปแล้วว่า ผลประโยชน์ทางธุรกิจ”
“…แล้วอิงรู้รึเปล่าว่าคุณคิดอย่างนี้”
ลูเซี่ยนเงียบไม่ตอบ มันเป็นคำตอบที่ดีพอที่อันเข้าใจ
เพี๊ยะ!
อันตบหน้าลูเซี่ยน ด้วยความโกรธถึงขีดสุด นี่เป็นครั้งที่สองที่อันตบหน้าลูเซี่ยน
“คุณคิดจะใช้พี่ของฉัน เพื่อทำเรื่องแบบนี้งั้นเหรอ แค่คุณทำร้ายฉันยังไม่พอ คุณจะเอาพี่ฉันเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยทำไม”
อันร้องไห้ออกมา การมาพบเขาในรอบหลายสัปดาห์หลังจากการเหยียดหยามครั้งนั้น แล้วยังมารู้ความจริงเรื่องนี้อีก อันไม่สามารถเก็บความรู้สึกที่อัดอั้นทั้งหมดไว้ได้
“เพราะเธอ…เป็นแค่ของเล่นไง แต่พี่เธอนะ เป็นเครื่องมือชั้นดีที่ทำประโยชน์ได้อีกเยอะ” ลูเซี่ยนพูด
อันไม่อยากเชื่อว่าลูเซี่ยนจะพูดแบบนี้ ทั้ง ๆ ที่คิดว่าเขาน่าจะเห็นเธอเป็นมากกว่าของเล่น เห็นเธอเป็นผู้หญิงที่มีหัวใจ อันร้องไห้ออกมา กำมือแน่น ก่อนจะตบลูเซี่ยนอีกครั้งหนึ่ง
เพี๊ยะ!
“คุณมันไม่มีหัวใจ คุณมันเห็นแก่ตัว พอกันที!” เธอพูด ก่อนจะเดินออกไป
“ฮึ แน่ใจเหรอที่พูดอย่างนั้น”
ลูเซี่ยนพูด ใช้หลังมือแตะแก้มเบา ๆ แรงตบของอันทำให้เขาเจ็บพอสมควร แปลกที่เขาไม่ตอบโต้เหมือนเช่นเคย ป่านนี้ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงฉีกเสื้อเธอขาดกระจุยกระจาย
“…”
“คุณมาที่นี่เพื่อขอร้องผมให้ช่วยอิงไม่ใช่เหรอ”
ลูเซี่ยนพูดจี้จุดอ่อนของอัน เขามักใช้จุดอ่อนของคนอื่นเสมอ เขาเย็นชา คิดเหนือชั้น ฉลาดเป็นกรด สิ่งเหล่านี้ทำให้เขามีไพ่เหนือกว่าในทุก ๆ เหตุการณ์ และทุกคนจะต้องศิโรราบต่อลูเซี่ยน
“ตอนแรกใช่ แต่ตอนนี้ไม่” อันพูด
‘เขายังต้องการอะไรอีก’ อันคิดในใจ
“ถ้าผมบอกว่า ผมรู้ที่ที่อิงอยู่ตอนนี้และสามารถช่วยเธอได้ละ” ลูเซี่ยนจ้องหน้าอัน
“…” อันนิ่งไม่พูดอะไรออกมา
นี่เขาคิดจะพูดให้ความหวังลม ๆ แล้ง ๆ หลังจากย่ำยีความรู้สึกด้วยคำพูดเมื่อกี้งั้นเหรอ แต่อีกใจหนึ่งเขาเป็นมาเฟีย เขารู้จักคนเยอะ เขาต้องรู้วิธีช่วยอิงได้แน่ ๆ
อันจ้องหน้าลูเซี่ยนที่เรียบเฉย ไม่มีความรู้สึก หรือความคิดใด ๆ แสดงออกมา เธอเดาความคิดของลูเซี่ยนไม่ออก น้ำตาค่อย ๆ ไหลแอบแก้ม ตาแดงก่ำ อันจ้องมองเข้าไปในตาลูเซี่ยน เรายังคงเชื่อในคำพูดของลูเซี่ยนได้อีกเหรอ แต่…เรื่องนี้มันยากเกินที่อันจะเอื้อมไปถึงจริง ๆ ดูจากบอดี้การ์ดที่เจ็บปางตายแล้ว คงเกี่ยวพันกับเรื่องธุรกิจด้านหลังของลูเซี่ยนแน่ แต่ทำไมต้องจับอิงไปด้วยล่ะ คำถาม ความขัดแย้งมากมายตีกันอยู่ในหัวอัน
“หวังไปเถอะ ฉันจะไม่เชื่อคำพูดคุณอีกแล้ว คุณแค่ต้องการเครื่องมือชั้นยอด เพื่อให้เป้าหมายของคุณสำเร็จ เชิญสนุกไปกับแผนของคุณเถอะ”
“แปลว่าถ้าอิงตายก็ไม่เป็นไรสินะ”
“…”
“เธอก็เห็นแล้วนิ ว่าบอดี้การ์ดที่ฉันส่งไปคุ้มกันอิง เจ็บปางตายกลับมา คิดว่าอิงจะรอดกลับมาในสภาพที่สมบูรณ์ ครบ 32 เหรอ”
“…” อันนิ่งเงียบ คิดไม่ตก
“…”
“ช่วยได้จริงเหรอ”
อันพูดขึ้นเหมือนมีความหวัง ลูเซี่ยนยกไหล่ข้างหนึ่ง เหมือนกับบอกว่า คิดว่าฉันคนนี้คือใครละ ลูเซี่ยนเดินไปหยิบไวน์ในตู้เย็นขึ้นมาดื่มอย่างสบายใจ ไม่ทุกข์ร้อน นี่ไม่ใช่เวลาที่จะทำแบบนั้นสักนิด อันร้อนใจจะเป็นบ้าอยู่แล้ว และเธอก็ไม่อยากอยู่กับลูเซี่ยนสองต่อสองนานสักเท่าไหร่ ความสัมพันธ์ที่คิดว่าจะกลับมาคุยกันได้เหมือนเมื่อก่อน มันไม่มีเหลืออีกต่อไป เพราะลูเซี่ยนเป็นคนทำลายความสัมพันธ์นั้นเองกับมือ หลายครั้งต่อหลายครั้ง
“งั้นก็ช่วยสิ” อันพูด
ลูเซี่ยนแบมือเชิงขออะไรสักอย่าง หรือไม่ก็มีอะไรเป็นของแลกเปลี่ยน
“อะไร”
“คิดว่าคนอย่างผมจะช่วยคนฟรี ๆ งั้นเหรอ”
‘คนเห็นแก่ตัว’ อันคิด
“… ไหนคุณบอกว่า หมั้นกันเพราะผลประโยชน์แค่นั้นยังไม่พอเหรอ”
“ใช่หมั้น แต่ตอนนี้เจ้าตัวไม่อยู่ ไปกับผู้ชายอีกคนไหนต่อไหน คิดว่ายังจะมีประโยชน์กับผมอีกงั้นเหรอ แถมยังต้องมาสร้างความเดือดร้อนให้คุณอีก เอาเข้าจริง ผมไม่เดือนร้อน ร้อนรน จนปัญญาขนาดที่จะหาคนใหม่ที่มีชื่อเสียงพอ ๆ กับอิงมาหมั้นกับผม ”
“…”
เธอไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับคนคนนี้ เขาไม่มีหัวใจของความเป็นคนอยู่เลยสักนิด อันกำมือแน่น ทั้งตัวเธอมีเงินไม่ถึงหมื่น ถ้าเอาพวกเครื่องประดับ และทรัพย์สินของอิงไปขายคงได้เยอะอยู่
“แล้วอยากได้อะไร เงินอยากได้เท่าไหร่ ล้าน สิบล้าน ร้อยล้าน” อันพูดไปเรื่อย ๆ
ลูเซี่ยนยกมือขึ้นห้ามไม่ให้เธอพูด
“เรื่องเงินผมไม่ต้องการ ผมหาเงินได้มากกว่าที่คุณหาได้เป็นร้อยเท่า พันเท่า”
“แล้วยังต้องการอะไร เพราะฉันไม่มีอะไรที่คุณต้องการ”
“คุณก็รู้หน้าที่ของตัวเองดีนะอัน ลองอ้อนวอนให้ผมใจอ่อนดูหน่อยเป็นไง”
เธอรู้ว่าสิ่งที่ลูเซี่ยนพูดหมายถึงอะไร เธอกำมือแน่น
“แล้วแต่คุณนะ ผมแค่เสนอให้เท่านั้น”
“ฉันไม่คิดจะยุ่งกับพี่เขยหรอกนะ”
“ถ้าทางคุณจะไม่เข้าใจที่ผมพูดก่อนหน้านี้ ว่าอิงกับผมไม่ได้เป็นอะไรกันก็แค่ผลประโยชน์ ถึงจะมีแผนหมั้นก็เถอะ แต่เธอเป็นคนละกรณี เธอเป็นของเล่นของผมมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว”
“ซึ่งคุณก็มีอะไรกับอิงได้เหมือนกัน”
อันนึกถึงภาพจูบอย่างดูดดื่มในคืนนั้น
“แล้วตอนนี้อยู่ให้มีป่ะล่ะ ก็ต้องเป็นหน้าที่ของน้องสิ เคยทำแทนตลอดไม่ใช่เหรอ แต่แค่สถานการณ์ตอนนี้มันกลับกัน เธอจะทำหรือไม่ทำก็ได้ ผมไม่เดือดร้อน แต่พี่สาวคุณผมไม่รู้นะ ถ้าคุณช้าไปแม้แต่ก้าวเดียวอาจจะสายเกินไป รีบตัดสินใจซะ”
“…”
อันหลับตานิ่ง ก่อนตัดสินใจเธอเข้าไปหาลูเซี่ยนที่นั่งจิบไวน์
เธออยากช่วยอิง ถึงเธอจะร้ายกับอันแค่ไหนแต่ยังไงอิงก็คือพี่สาวสายเลือดเดียวกัน อันหยุดอยู่ตรงหน้าลูเซี่ยน
“สุดท้ายแล้ว ของเล่นชิ้นนี้ที่คุณเอาแต่ดูถูกเหยียดหยามก็ยังมีประโยชน์สินะ” อันพูด
“…”
“รักษาสัญญาที่พูดไว้ด้วยละ” อันพูด
“…”
“ตอบสิ” ลูเซี่ยนพยักหน้าเชิงตอบตกลงรึเปล่าน่ะ
MANGA DISCUSSION