ในใจลึก ๆ อันอดเป็นห่วงไม่ได้จริง ๆ เรื่องที่อิงจะหมั้นกับลูเซี่ยน อีกใจเธอก็ยินดี อีกใจหนึ่งก็เสียใจ อีกใจหนึ่งก็กังวลว่าอิงรู้จักลูเซี่ยนมากขนาดไหน ทั้ง ๆ ที่มีข่าวด้วยกันไม่ถึงเดือน โดยเฉพาะอิงรู้เรื่องธุรกิจเบื้องหลังของลูเซี่ยนรึเปล่า อันคิดอยู่นานว่าจะพูดเรื่องนี้กับอิงดีไหม เพื่อความสบายใจ อันตัดสินใจเดินเข้าไปคุยบางอย่างกับอิงที่ยืนดื่มเครื่องดื่มอยู่ที่โต๊ะคนเดียว…
“อิง”
อันเรียกอิง ระหว่างที่อิงกำลังดื่มเครื่องดื่มอย่างมีความสุข ส่วนลูเซี่ยนก็เข้าไปทักทายแขกในงาน
“อันมาดื่มด้วยกันสิ วันนี้ฉันมีความสุขมากเลยน่ะ ตอบคำถามนักข่าวจนคอแห้งถึงเมื่อกี้ เฮ้อ กว่าจะผ่านไปได้”
อิงดูมีความสุขเป็นพิเศษกว่าปกติ อันรับแก้วแชมเปญจากอิง ก่อนชนแก้ว แล้วยกดื่มพร้อม ๆ กัน อันจิบเล็กน้อยและเหลือบมองอิง อันแสดงสีหน้าเป็นกังวล ว่าควรจะพูดออกไปดีไหม ในเมื่ออิงดูมีความสุขมากแบบนี้
‘เอาว่ะ เป็นไงเป็นกัน’ อันพูดกับตัวเองในใจ
อันหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนพูดออกไปว่า
“อิงแน่ใจเหรอว่าจะหมั้นกับลูเซี่ยนจริง ๆ”
คำถามนั้นสร้างความไม่พอใจให้อิงเล็กน้อย เปลี่ยนสีหน้ามีความสุขเมื่อกี้มามองตาเหวี่ยงใส่อัน
“ทำไม!”
อิงพูดด้วยน้ำเสียงกระโชกโฮกฮาก
“ฉันไม่ได้หมายความในทางที่ไม่ดี แค่อยากรู้ว่า มันไม่เร็วไปหน่อยเหรอ”
“ก็ไม่นิ เดี๋ยวนี้ รู้จักกันแค่แปบเดียว ถ้ารู้ว่าใจตรงกัน จะหมั้นกันหรือแต่งงานกันก็ไม่มีปัญหา”
“…” อันมีสีหน้ากังวล
“ถามทำไม หรือเธออิจฉาฉัน อยากจะแย่งลูเซี่ยนไปจากฉัน” อิงถามออกไป
“ฉันไม่เคยคิดแบบนั้น ฉันแค่กลัวว่าลูเซี่ยนจะทำให้เธอเสียใจ อยากรู้แค่ว่าเธอรู้จักลูเซี่ยนดีแล้วเหรอ”
“ไม่ต้องกลัวหรอก เพราะลูเซี่ยนเป็นคนขอฉันหมั้นเอง ส่วนไอเรื่องที่รู้จักดีหรือไม่ดี ดู ๆ กันไปก็ได้ เขาเองก็เป็นนักธุรกิจโรงแรมชื่อดัง มีสาขาอยู่ทั่วโลก มีหน้าตาในสังคม เขาคงไม่ทำอะไรวู่วามหรอกนะ”
“…”
ลูเซี่ยนขออิงหมั้นงั้นเหรอ อันคิดในใจ อันรู้สึกสมเพชตัวเองที่เป็นได้แค่ของเล่นของเขา
อันคิดว่า อิงคงไม่รู้เรื่องที่ลูเซี่ยนมีธุรกิจอีกหนึ่งอย่างอยู่ด้านหลังในเงามืด เธอควรจะทำยังไงดี ที่จะเตือนอิงให้รับรู้เรื่องนี้
“อืม คือว่านะอิง ฉันคิดว่าเธอน่าจะถามลูเซี่ยนหน่อยไหม ว่าเขามีอะไรที่ยังไม่ได้บอกเธออีกรึเปล่า” อันพูดอย่างลังเลใจ
“หมายความว่าอะไร เธอรู้อะไรมา”
อิงเริ่มสงสัยในสิ่งที่อันพูด แต่เธอพูดออกไปไม่ได้เพราะมันอาจจะเป็นอันตรายกับตัวของอิงและคนรอบข้าง มันเป็นความลับระหว่างลูเซี่ยนกับอัน
“ไม่มีอะไรหรอก”
อันยิ้มแห้ง ๆ อันอยู่ในสภาพที่ไม่สามารถทำอะไรได้เลย เหมือนอยู่ริมปากเหว ไม่มีที่ให้พักพิง หันไปทางไหนก็เจอแต่ขอบเหว
‘ไม่เป็นไร’ อันคิดในใจปลอบตัวเอง
“คุยกับเธอแล้วปวดหัวจริง ๆ ไปที่อื่นเลยไป รำคาญ”
อิงพูดก่อนหันหลังให้อัน ลูเซี่ยนแม้จะคุยอยู่กับคนอื่นแต่สายตาของเขาไม่ได้ละออกไปจากภาพของอิงและอันที่กำลังคุยกันเลย ดูเหมือนว่าทั้งคู่จะมีปัญหากัน ก่อนเขาจะขอตัวออกจากวงสนทนาแล้วเดินมายังโต๊ะที่อันและอิงยืนอยู่
อันนิ่ง ครุ่นคิดเรื่องในหัวที่มันเยอะแยะไปหมด ตีกันไปมายุ่งเหยิง มันอึดอัดใจ จนอยากพูดทั้งหมดออกไป อันตัดสินใจที่จะพูดออกไปในสิ่งที่คิดว่าถูกต้อง…
“อิง…” อันพูด
“…”
“อิง ฉันว่านะ เธออย่าพึ่งรีบหมั้นกับลูเซี่ยนเลยดีกว่า ลองศึกษากันไปอีกสักพักดูก่อนไหม”
อิงได้ยินเช่นนั้นเกิดความไม่พอใจอย่างมาก ใช้แชมเปญในมือสาดใส่หน้าอันทันที แขกในงานหันมาดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีเสียงฮือฮาเกิดขึ้นยกใหญ่ นักข่าวและช่างภาพ เตรียมยกกล้องรอถ่ายช็อตเด็ดระหว่างอิงกับอัน
“หยุดพูดจาอวดดีสักทีอัน ที่แท้เธอเองก็อิจฉาฉันใช่ไหมล่ะ ที่เห็นฉันหมั้นกับลูเซี่ยน คงร้อนรนจนตัวสั่นที่ลูเซียนเลือกฉันไม่ใช่เธอถึงได้พูดจาแบบนี้”
อิงพูดเสียงดังพอสมควร ที่จะทำให้พวกเธอเป็นจุดสนใจมากกว่าเดิม แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่ง คิดว่าพี่น้องคงทะเลาะอะไรกันบางอย่าง ได้แต่ยืนดูอยู่ห่าง ๆ แต่ภาพนั้น แน่นอนว่าไม่พ้นมือนักข่าว ที่พยายามถ่ายทุกช็อต
“ฉันไม่ได้คิดแบบนั้น ฉันแค่หวังดีเตือนอิงเท่านั้น ลูเซี่ยนอาจมีเรื่องบางอย่างที่อิงยังไม่รู้หรือไม่ได้บอกอิงก็ได้”
“เอ๊ะ! นังนี่”
อิงทำท่าเยื้องมือจะไปตบหน้าอัน แต่ถูกลูเซี่ยนห้ามไว้ก่อน ลูเซี่ยนมองหน้าอัน สำรวจเสื้อผ้า เนื้อตัวอันที่เลอะไปด้วยคราบแชมเปญด้วยสีหน้าเย็นชา ไม่พอใจ ที่อันก่อความวุ่นวายในงาน ลูเซี่ยนเดินเข้าไปใกล้ ๆ อัน และกระซิบอะไรบางอย่างข้างหูเธอ ทำให้อันมีสีหน้าถอดสี น้ำตาคลอเบ้า แดงระเรื่อเหมือนกำลังจะร้องไห้
“คิดว่าเรานอนด้วยกันแค่ไม่กี่ครั้ง แล้วมีสิทธิ์ที่จะทำอะไรก็ได้ตามใจชอบงั้นเหรอ อย่าหลงตัวเองไปหน่อยเลย เธอมันก็แค่ของเล่นแก้เหงาแทนอิงเท่านั้นแหละ”
คำพูดของลูเซี่ยนที่พูดกับอัน ทำให้เธอยืนนิ่งสนิท ตาค่อย ๆ แดงระเรื่อ กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ให้ไหลออกมา คำที่เขาบอกไม่ให้เธอพูด แต่ลูเซี่ยนกลับพูดมันออกมาอย่างง่ายดาย มันบอบช้ำเกินจะรับไหว สิ่งที่ลูเซี่ยนพูดมันตอกย้ำถึงสถานะของอันได้เป็นอย่างดี อิงได้แต่มองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างสงสัยว่าพูดอะไรกัน แต่มองจากสีหน้าของอันแล้ว คงเป็นเรื่องที่ไม่ดีนักหรอก มันก็ทำให้อิงรู้สึกดีอยู่ลึก ๆ ในใจ
ลูเซี่ยนเดินออกมาจากอันไปยืนข้าง ๆ อิง โอบเอวของเธอไว้ แล้วพูดออกไปว่า
“คนที่ไม่ให้เกียรติงานของผม ผมยังพอทนได้ แต่การที่คุณเป็นน้องสาวแล้วไม่ให้เกียรติพี่สาวตัวเอง ซึ่งเป็นคู่หมั้นของผม อันนี้ที่ผมทนไม่ได้ กรุณาออกไปจากงานของผมด้วย”
ลูเซี่ยนพูด สร้างความสะใจให้อิงไม่น้อย ก่อนที่เขาโบกเรียกบอดี้การ์ดนำตัวอันออกไป
“ฮึ ๆ”
อันหัวเราะเบา ๆ อยู่คนเดียวเหมือนเธอกำลังสติแตก
ในที่สุดทุกอย่างก็กระจ่างชัดเจน ความรู้สึกกดดันที่มีมาทั้งหมดมันโล่งเบาสบาย เธอน่าจะคิดได้ตั้งนานแล้วว่า การคิดแทนคนอื่น ความหวังดี สิ่งที่ทำไปทั้งหมด มันสูญเปล่า
ในเมื่อเขาไม่คิดจะฟังหรือสนใจเราเลยสักครั้ง เราไม่ใช่คนสำคัญตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เราไม่มีสิทธิ์เลือก เราก็เป็นได้แค่ตัวประกอบในละครของเขา แล้วทำไมเราต้องแคร์ความรู้สึกของเขาด้วย อันคิดในใจ
น้ำตาค่อย ๆ ไหลออกมา อันปาดมันออกช้า ๆ ไม่ให้เลอะอยู่บนใบหน้าแสนสวย ก่อนจะเผชิญหน้าตรง ๆ กับลูเซี่ยน ไม่หลบสายตาเขาอย่างที่เคยเป็นมาตลอด อันจ้องมองไปในดวงตาของลูเซี่ยน ด้วยใบหน้าที่ไร้ซึ่งความรู้สึก ไร้ซึ่งอารมณ์เศร้า หรือเสียใจอย่างที่เป็นมา
อันพึมพำกับตัวเอง ดังพอที่ลูเซี่ยนได้ยินสิ่งที่เธอพูด
“นี่นะเหรอสิ่งที่บอกให้เชื่อใจกัน นี่คงเป็นจุดจบของของเล่นแก้เหงาสิน่ะ คิดอยู่ว่าจุดจบระหว่างเรามันอยู่ตรงไหน ในที่สุดก็รู้สักที พอแล้วละ เจ็บเกินพอแล้ว”
อันเดินออกไปจากห้องโถงอย่างสง่าผ่าเผยด้วยศักดิ์ศรีของตน เธอจะไม่ยอมให้ใครมาเหยียบย้ำความรู้สึกเธอได้อีกต่อไป ลูเซี่ยนทำหน้านิ่งเฉย ซ่อนความรู้สึกบางอย่างข้างในเอาไว้ เขาเห็นได้ชัดว่า อันกำลังเปลี่ยนไปจากที่เคยเป็น กลายเป็นอันที่เขาไม่รู้จักและเขาจะไม่ยอมให้เป็นแบบนั้น แต่มันยังไม่ถึงเวลาที่จะคุย เพราะมีเรื่องที่สำคัญกว่ารออยู่
อันเดินจากไปพร้อมกับบอดี้การ์ดของเขา จากนั้นไม่นาน ลูเซี่ยนก็ไปส่งอิงที่คอนโด แล้วกลับมาพักที่โรงแรม สะสางงานที่ค้างอยู่ให้เสร็จ แม้ว่าเขาจะมีสีหน้าเรียบเฉยเหมือนปกติ แต่จิตใจของลูเซี่ยนอดคิดไม่ได้ถึงคำพูดที่อันพูดทิ้งไว้ เขาเองก็ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นในงานของเขา จากที่อิงเล่าให้ฟัง อันพยายามพูดบางอย่างเกี่ยวกับเขาให้อิงฟัง ซึ่งลูเซี่ยนเดาได้ว่าเรื่องอะไร แต่เขาคิดไม่ถึงจริง ๆ ว่า ว่าที่คู่หมั้น ดาราสาวสวยชื่อดังจะเป็นผู้หญิงที่ไม่สนใจใครเลยจริง ๆ แม้กระทั่งทำให้น้องสาวของตนเป็นที่อับอายต่อสายตาแขกในงาน มันออกจะเกินไป
วันต่อมาหลังจากจบงานเลี้ยง ข่าวของอิงและอันถูกตีขึ้นหน้าหนึ่ง สร้างเสียงฮือฮาดังไม่แพ้กัน มีข่าวทั้งดีและไม่ดี โดยเฉพาะอันจะถูกโจมตีอย่างหนัก ถูกมองว่าเป็นคนที่อิจฉาพี่ตัวเอง จนต้องทำลายงานปาร์ตี้ที่สำคัญ ไปไหนมาไหนเธอถูกตราหน้าว่าเป็นคนอิจฉาพี่ตัวเอง เพื่อนร่วมงานก็มองเธอเป็นคนไม่ดีไปด้วย มีบ่อยครั้งที่ถูกแฟนคลับอิงเข้ามาด่าอันต่อหน้าต่อตา และบริษัทที่อันทำงานก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ยังดีที่อันไม่ถูกไล่ออกจากงาน เพราะผลงานและความดีความชอบที่ผ่านมา
ผ่านไปราว ๆ ไม่กี่อาทิตย์ ข่าวที่เกิดขึ้นเริ่มซาไป จนไม่เป็นที่พูดถึงเหมือนแต่ก่อน แต่ไม่ว่าจะมีข่าวอะไรออกมาส่งผลกระทบกับอัน อันไม่สนใจ เธอยังใช้ชีวิตเหมือนปกติ แต่ต่างจากเดิมตรงที่เธอไม่ต้องปลอมตัวอีกต่อไปแล้ว เธอเป็นตัวของตัวเองอย่างเต็มที่ ไม่ต้องใส่แว่นหนา ๆ ใส่เสื้อป้า ๆ อันได้ใส่เสื้อผ้าที่เธออยากใส่ ไปไหนแบบไม่ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ หรือคอยระวังตัวอีกต่อไป ในงานด้านวงการบันเทิงมีหลายค่ายดัง ๆ ติดต่อให้เธอแสดงหนัง แต่เธอก็ปฏิเสธไปทุกครั้งอย่างชัดเจน
“หืม นี่นะเหรอฝาแฝดอิง ถ้าอยู่ด้วยกันคงแยกไม่ออก” แกริคนำรูปอิงกับอันนำมาเทียบกัน
“ครับท่าน”
“แต่ดูเหมือนว่า พี่น้องคู่นี้จะไม่ถูกกันนิ” แกริคพูด
“ครับ หรือเราจะเอาพี่น้องคู่นี้มาใช้ประโยชน์ดีไหมครับ”
ลูกน้องคนหนึ่งของแกริคพูดเสนอ
“อืม…คนน้องไม่น่าสนใจเท่าไหร่ คนที่น่าสนใจจริง ๆ น่าจะเป็นคนพี่ต่างหาก”
แกริคพูดขึ้น ขณะนั่งอยู่ในห้องทำงานในโรงแรมแห่งหนึ่งในประเทศไทย มีบอดี้การ์ดคอยห้อมล้อม
“ฉันอยากคุยกับอิง ณภัสสรเป็นการส่วนตัว ช่วยนัดเธอให้ฉันหน่อย” แกริคพูดออกคำสั่งกับลูกน้องคนสนิท ลูกน้องโค้งรับคำสั่ง
MANGA DISCUSSION