งานปาร์ตี้ในวงการธุรกิจถูกจัดอย่างหรูหรา นักธุรกิจมากมายหลากหลายวงการ ระดับร้อยล้าน พันล้านและมากกว่านั้น ถูกรวบรวมมาอยู่ในงานปาร์ตี้แห่งนี้ ชายหญิงชุดสูทและชุดราตรีราคานับแสน เครื่องประดับแพรวพราว แสดงถึงความร่ำรวยและอำนาจ นับ 100 ชีวิต ยังไม่รวมถึงนักข่าว เซเลบ และดาราในวงการทั้งในและต่างประเทศที่มาเยือนงานงานนี้
ปาร์ตี้ครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อแสดงความยินดีให้กับลูเซี่ยนเจ้าของโรงแรมและภัตตาคารสุดหรู ที่โรงแรมของเขาถูกจัดให้เป็นสถานที่ที่คนอยากเข้าพักมากที่สุดติดอันดับ 1 ใน 3 ในโซนเอเชียและติดท็อป 10 ของโลก งานนี้ถูกจัดขึ้นในห้องโถงขนาดใหญ่ของโรงแรมหรู ซึ่งถือเป็นกรณีพิเศษที่เปิดโอกาสให้คนทั่วไปที่ไม่ใช่สมาชิกสามารถเข้างานได้ เพียงแต่ต้องได้รับบัตรเชิญเท่านั้น ซึ่งโรงแรมนี้เปิดตัวในไทยไม่ถึง 2 ปี ก็สร้างผลงานและชื่อเสียงให้กับลูเซี่ยนไม่น้อยเลยทีเดียว
เวลา 19.30 น.
มีรถหรูสีดำ มาจอดเทียบพรมแดงหน้าโรงแรม นักข่าวตั้งกล้องรอถ่ายภาพมุมที่ดีที่สุดของคนที่อยู่ในรถ เป็นเวลาเดียวกับที่บอดี้การ์ดสองคนรีบเปิดประตูรถให้แขกคนสำคัญของงาน ชายหนุ่มเจ้าของงาน ลูเซี่ยน ลี ลงมาจากรถคันหรูในชุดทักซิโด้สีดำ เต็มไปด้วยเสน่ห์ที่ไม่อาจบรรยาย ทั้งบุคลิกการเดิน หน้าตาหล่อเหลา ทุกสายตาต่างถูกเขาสะกดเอาไว้ และเป็นจุดดึงดูดของผู้คนให้งานนี้ และมีอีกหนึ่งชีวิตที่ยืนเคียงคู่ ควงแขนลูเซี่ยน ซึ่งเธอก็กำลังตกเป็นข่าวกับลูเซี่ยนในเวลานี้ อิง ณภัสสร เธอมาในชุดราตรีรัดรูปสีแดงสด เกล้าผมยกสูง ทั้งตัวถูกประดับประดาด้วยเครื่องประดับแพรวพราว ส่องรัศมีเฉิดฉาย น่าหลงใหล การที่ดาวเด่นสองวงการเดินควงคู่กัน เธอและเขากลายเป็นจุดเด่นที่สุดของงานไปแล้วในขณะนี้ ช่างกล้องต่างรัวแฟลช เพื่อให้ได้ภาพถ่ายที่สวยที่สุด ไปลงหน้าหนังสือพิมพ์ในวันพรุ่งนี้
ลูเซี่ยนยืนข้างกายอิง รอถ่ายภาพกับช่างภาพและนักข่าว ลูเซี่ยนคอยระวังกระโปรงยาวลากพื้นของอิงไม่ให้เธอสะดุดล้ม รวมไปถึงคอยพยุงตัวเธอขึ้นบันไดเข้าไปในงาน ราวกับงานประกาศผลรางวัลยอดเยี่ยมอะไรอย่างนั้น จากนั้นลูเซี่ยนก็พาเธอไปแนะนำผู้คนในงานรู้จักซึ่งเป็นระดับบิ๊กของประเทศและของโลกทั้งนั้น อิงตื่นเต้นมือไม้สั่น ทำตัวไม่ถูก เพราะนี่เป็นงานใหญ่และงานสำคัญที่สุดเท่าที่อิงเคยไปมา
“นี่ครับแชมเปญ”
ลูเซี่ยนถือแก้วแชมเปญมาให้อิง ที่ยืนรออยู่ตรงโต๊ะกลมเล็ก ๆ ข้าง ๆ ระเบียงสีขาว
“ขอบคุณค่ะ”
อิงรับแก้วจากมือลูเซี่ยนจิบเล็กน้อยพอเป็นพิธี เป็นอะไรที่ตื่นตาตื่นใจกับบรรยากาศที่ไม่เคยเห็นมาก่อน คนรวย คนสำคัญทั้งในและต่างประเทศรวมตัวกันเพื่องานนี้เยอะแยะมากมาย
“คงเหนื่อยสินะครับ”
ลูเซี่ยนเริ่มบทสนทนา หลังจากที่เขาพาอิงไปแนะนำให้รู้จักกับแขกมากมายในงานบางส่วน
“ไม่หรอกค่ะ อิงสนุกดี ได้รู้จักคนดัง ๆ ที่อิงเคยเห็นแต่ในโทรทัศน์ ไม่คิดว่าจะได้เข้าใกล้หรือยืนคุยแบบใกล้ชิดแบบนี้ อิงเหมือนฝันไปนะคะ” อิงตอบลูเซี่ยน
แต่ในใจคือ การที่เธอรู้จักกับคนดัง ๆ เยอะ ๆ นั่นก็แปลว่าเธอสามารถกอบโกยอะไรจากคนเหล่านี้ได้บ้าง และเธอพร้อมที่จะเสนอตัว ถ้าคนเหล่านั้นต้องการเธอ สายตาอิงลุกวาวไปด้วยโอกาส เธอจะพลาดโอกาสนี้ไปไม่ได้
“ว่าแต่ทำไม อันถึงยังไม่มานะ นี่ก็ใกล้จะถึงเวลาเริ่มพิธีเปิดแล้ว วันสำคัญแบบนี้ อิงอยากให้อันได้มามีส่วนร่วมด้วย”
อิงกล่าวพร้อมส่องสายตามองดูทั่วงานหาน้องสาวฝาแฝด
“เดี๋ยวก็คงมาแหละครับ เพราะผมสั่งให้คนไปรับเธอแล้ว” อิงพยักหน้า
“อิงว่า เธอคงตกใจไม่น้อยแน่”
“นั่นสิครับ”
ลูเซี่ยนพูดพร้อมหยิบแชมเปญขึ้นมาดื่ม อิงไม่รู้หรอกว่า การที่ลูเซี่ยนตัดสินใจทำเช่นนี้เพราะเหตุใด แอบคิดว่ามันเร็วเกินไปเหมือนกัน รู้จักกันไม่ถึงเดือน แล้ว… แต่นั่นมันก็ส่งผลดีกับเธอ เพราะเธอจะได้มีชื่อเสียง เงินทอง หน้าตาทางสังคมมากขึ้น
เสียงทุกคนในห้องโถงต้องฮือฮากันอีกครั้ง ตากล้อง ช่างภาพ นักข่าวต่างรีบรัวแฟลชด้วยสีหน้างงเป็นไก่ตาแตก สับสน มีคำถามอยู่ในหัวมากมาย เมื่อมีสาวสวยหน้าตาเหมือนอิงปรากฏตัวขึ้น ณ ห้องโถงของงาน เธออยู่ในชุดเดรสยาวผ้าลูกไม้สีชมพู ผ่าหลัง ปล่อยผมยาว แต่งหน้าโทนสีธรรมดา มีสีหน้าเรียบเฉย สงบเสงี่ยม แต่ดูสะดุดตามีเสน่ห์ชวนมอง เธอตื่นเต้นมากทำตัวไม่ถูกเช่นกัน เมื่อมีกล้องมากมายมารุมถ่าย ยิ่งแฟลชห้อมล้อมเธอ อันพยายามมองหาพี่สาวฝาแฝด และนักข่าวก็พยายามเข้ามาทักทายเธอมากมาย แต่เธอเลือกที่จะไม่ตอบคำถาม เพราะไม่รู้จะต้องพูดอะไรออกไปบ้าง ส่วนใหญ่จะสงสัยว่าเธอเป็นใคร หน้าตาทำไมถึงเหมือนอิง ดาราสาวชื่อดังขนาดนี้ เธอยิ้มแต่ไม่พูดอะไร สักพักอิงเดินฝ่าเข้ามาหาอันท่ามกลางนักข่าว ลากตัวอันออกมา พร้อมบอกกับนักข่าวว่า รอประกาศบนเวทีนะคะ
อิงพาอันไปที่โต๊ะ ซึ่งลูเซี่ยนยืนรออยู่อยู่ก่อนแล้ว เขามองมาทางอันด้วยสายตาพึงพอใจในชุดที่เธอใส่ มันเหมาะกับอันมาก เขาตั้งใจสั่งตัดชุดนี้ให้อันเป็นพิเศษโดยเฉพาะ อันหลบสายตาดูเจ้าเล่ห์ของลูเซี่ยน ทำเป็นไม่สนใจ ยืนใกล้ ๆ อิง
“สวัสดีครับคุณอัน ไม่ได้เจอกันนานมากแล้วนะครับ”
ลูเซี่ยนทักเธอ เขายักคิ้วข้างหนึ่งใส่อัน เหมือนเป็นการบอกว่า ไม่เล่นไปตามบทหน่อยเหรอ
“นั่นสิคะ แต่ก็พึ่งเจอกันเมื่อคืนที่ห้องอิงถึงแค่แปบเดียวก็เถอะค่ะ” อันตอบ
อิงมองดูเหตุการณ์อยู่เงียบ ๆ รู้สึกไม่สบอารมณ์จึงชวนอันไปตักอาหาร และพูดกระซิบข้างหูเธอว่า
“คุณลูเซี่ยนเป็นของฉัน”
อันอึ้งไปเล็กน้อย จ้องหน้าอิง อันไม่เข้าใจว่าทำไมเธอต้องหึง เพราะในเมื่อตัวอันเองรู้ดีว่าเธอเป็นได้แค่ของเล่นแก้เหงาของลูเซี่ยน อิงคือตัวจริงต่างหาก
“เข้าใจที่ฉันพูดใช่ไหม” อิงบีบแขนอันเล็กน้อย
“รู้อยู่แล้ว”
“งั้นก็ดี”
อิงทำสีหน้าดุ ๆ ใส่อัน แล้วเดินไปหาลูเซี่ยน อันแค่ยืนมองอยู่ห่าง ๆ อันมองหาของกินในงานไปเรื่อย ๆ ไม่อยากจะเข้าไปเป็นส่วนเกินกขค. ของคนแถวนั้น และไม่อยากกดดันตัวเองให้รู้สึกเศร้าเสียใจ
อันพยายามสร้างเพื่อนใหม่คุยกับแขกในงานที่เข้ามาทักทายอยู่พักหนึ่ง ให้รอฟังจากปากของอิงเองดีกว่า เพราะถ้าหากเธอตอบอะไรไปแล้วผิดกับสิ่งที่อิงจะพูดมันอาจจะกระทบกับชื่อเสียงของอิงได้
“บัดนี้ได้เวลาอันสมควรแล้วขอเชิญคุณลูเซี่ยน ลี ขึ้นมาบนเวทีเพื่อกล่าวเปิดงานครับ”
พิธีกรพูดทั้งหมด 3 ภาษาคือ ไทย อังกฤษ และจีน ตามด้วยเสียงปรบมือดังต้อนรับลูเซี่ยนขึ้นบนเวที
“สวัสดีครับผมลูเซี่ยน ลี ก่อนอื่นผมต้องขอบคุณแขกผู้มีเกียรติในงานนี้ทุกท่านที่มาร่วมงานแสดงความยินดีให้กับโรงแรมของผม รางวัลนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้หากไม่มีทุกคนคอยสนับสนุนผม ทั้งแขกของโรงแรม พนักงานของผม ผมต้องขอบคุณจากใจจริง…”
ลูเซี่ยนพูดเป็นภาษาอังกฤษ กล่าวไปเรื่อย ๆ อันยืนฟังลูเซี่ยนพูดอยู่หน้าเวที แสงไฟและแสงแฟลชรัวใส่เขา เขาดูเปล่งประกาย น่าหลงใหล จนห้ามใจที่จะหลงรักไม่ได้ เขามีเสน่ห์ทุกท่าทาง กิริยา รอยยิ้มที่ดูเป็นมิตร สิ่งเหล่านี้ทำให้อันรู้สึกชื่นชมเขา รวมไปถึงความเก่งกาจในการบริหารธุรกิจ น้ำเสียงพูดอังกฤษของเขา ทุกอย่างที่เป็นตัวตนของลูเซี่ยน คือสิ่งที่อันหลงรัก แม้ต้องเก็บความรู้สึกทั้งหมดไว้ในส่วนลึกของจิตใจก็ตาม
ความจริงอาจจะเรียกได้ว่า อันตกหลุมรักลูเซี่ยนตั้งแต่แรกพบ แม้จะถูกเขาทำอะไรไม่ดี ทำให้เสียใจ ร้องไห้ ทำเหมือนของเล่นแก้เหงา แต่ก็ห้ามใจไม่ให้รักเขาไม่ได้ เธอช่างเป็นผู้หญิงที่งี่เง่าสิ้นดี อันคิดอยู่ในใจ
“… และผมจะแนะนำผู้หญิงคนนึงให้ทุกคนรู้จักครับ ซึ่งหลาย ๆ คน คงรู้จักเธอดีอยู่แล้ว อิง ณภัสสร”
ลูเซี่ยนพูด ไม่นานแสงไฟสปอตไลต์ถูกส่องมาที่อิง เธอเดินขึ้นไปบนเวทีพร้อมกับเสียงปรบมือ อิงพูดกล่าวแนะนำตัวปกติ ก่อนจะพูดต่อไปว่า
“วันนี้หลาย ๆ คนคงจะตกใจ ที่อยู่ดี ๆ มีอีกคนที่เหมือนอิงมาก ๆ มาปรากฏตัวอยู่ในงานนี้ ซึ่งอิงเก็บเรื่องนี้เป็นความลับมาตลอด เพราะเธอคนนั้นกลัวการออกสื่อ พบปะผู้คน และไม่อยากเป็นข่าว เราหน้าเหมือนกันมาก จนอาจทำให้ใครหลาย ๆ คนเข้าใจผิดได้ค่ะ เราเลยเลือกที่จะปิดเรื่องนี้ความลับเอาไว้ แต่เธอคือกำลังใจสำคัญที่สุดของอิงค่ะ เธอคือน้องสาวฝาแฝดของอิงเองค่ะ ชื่อของเธอคือ อัน นริศราค่ะ”
อิงพูดจบแสงสปอตไลต์ถูกสาดส่องมาที่ที่ตัวอันยืนอยู่ และเสียงปรบมือก็ดังขึ้นตามมา อันเดินขึ้นไปบนเวที ยืนอยู่ข้าง ๆ อิง และแนะนำตัวอย่างเป็นทางการต่อหน้าแขกและนักข่าว
“ค่ะ การที่อิงพาอันมาแนะนำตัวให้ทุกคนรู้จักในวันนี้ เพราะอิงอยากให้อันได้อยู่ในช่วงเวลาพิเศษที่สำคัญที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตอิงค่ะ”
อิงพูด พร้อม ๆ กับน้ำตาคลอเบ้า อันงงว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมอยู่ ๆ เธอต้องร้องไห้ออกมาต่อหน้าสื่อ
‘เกิดอะไรขึ้นเหรอ’
อันคิดในใจ อิงจับมือกับลูเซี่ยนไว้แน่น และพูดออกมาว่า
“ผมกับอิงจะหมั้นกันครับ”
ทันทีที่ลูเซี่ยนประกาศออกไป เสียงเฮดังขึ้นพร้อมกับความดีใจและความตกใจของใครหลาย ๆ คน แน่นอนว่ารวมถึงอันด้วย เธอยืนนิ่ง เหมือนภาพเบลอไปช่วงขณะหนึ่ง หูอื้อไม่ค่อยได้ยินเสียง เหมือนสัมผัสทั้งห้าจู่ ๆ ก็ดับลง เธอไม่ทันได้ตั้งตัวกับเรื่องอะไรแบบนี้ มันเร็วเกินไปที่จะตั้งรับ
อันดึงสติกลับมาปรบมือให้กับภาพตรงหน้าที่ลูเซี่ยนและอิงยืนกอดกัน ยิ้มแย้มต่อหน้าสื่อ นักข่าวมากมายต่างรัวคำถามใส่อิงกับลูเซี่ยน ในช่วงเวลานี้สำหรับอัน เป็นช่วงเวลาที่นาฬิกามันเดินช้าเกินไป
‘เจ็บจัง ทำไมหัวใจ ฉันถึงเจ็บละ เรารู้อยู่แล้วนิว่าเรื่องแบบนี้ต้องเกิดขึ้นสักวัน’
อันคิดในใจ อิงสะกิดเธอ เพื่อเรียกสติเธอคืนมา เมื่อมีนักข่าวกำลังถามคำถามอัน
“คุณอันละครับ รู้มาก่อนรึเปล่าว่าคุณลูเซี่ยนกับคุณอิงจะหมั้นกัน” นักข่าวคนหนึ่งถามเธอ
“ไม่ทราบมาก่อนเลยค่ะ พึ่งมารู้เหมือนกันพร้อมกับพี่ ๆ นักข่าวทุกคน”
อันตอบไปด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“แล้วรู้สึกยังไงบ้างคะ”
“ตอนแรกก็ตกใจนะคะ แต่ตอนนี้ก็รู้สึกดีใจไปกับพี่อิงที่ได้เจอคนดี ๆ อยู่ข้างกาย พี่อิง เห็นเธอดูเข้มแข็งอย่างนี้ แต่จริง ๆ แล้วลึก ๆ เค้าอ่อนไหวง่ายมาก เมื่อเห็นเธอมีความสุข อันก็มีความสุขค่ะ”
อิงเข้ามากอดอัน หลังจากฟังสิ่งที่อันพูดจบ ไม่มีใครในโลกนี้ที่รู้จักตัวตนของอิงดีไปกว่าอันอีกแล้ว
“ขอบคุณน่ะ”
อิงพูดด้วยสีหน้ามีความสุข น้ำตาคลอ ๆ เบ้าตา พร้อมกับจ้องหน้าอัน
“มีอะไรอยากบอกกับคุณลูเซี่ยนและคุณอิงไหมคะ” อันมองหน้าอิงสลับกับลูเซี่ยน
“ค่ะ ก่อนอื่นก็ดูแลพี่สาวของอันให้ดี ๆ นะคะ เรามีกันอยู่แค่สองคนพี่น้อง ปกป้องดูแลเธอให้ดี อย่าให้เธอต้องเจ็บปวด ทรมาน หรือร้องไห้ ทำให้เธอมีแต่เสียงหัวเราะและรอยยิ้มในทุก ๆ วัน อย่างที่บอกแหละค่ะ เธอเป็นคนที่ส่วนลึก ๆ แล้วอ่อนไหวง่าย คอยรับฟังเธอให้มาก ๆ ขอให้รักกันนาน ๆ นะคะ”
อันจ้องหน้ามองลูเซี่ยน เธอต้องการบอกเขาเป็นพิเศษแล้วยิ้มให้อย่างไม่มีอคติใด ๆ อยู่ในใจเลยแม้แต่น้อย เธอแสดงความยินดีจากใจจริง
“แล้วคุณอันอยากรับงานแสดงบ้างไหมครับ”
อันยิ้มแล้วตอบไปว่า
“ตอนเด็ก ๆ อันมีความฝันที่อยากจะเป็นนักแสดงเหมือนกับใครหลาย ๆ คน แต่ตอนนี้ไม่แล้วค่ะ อันอยากเป็นคนธรรมดาที่ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขมากกว่ากับสิ่งที่ตัวเองรักอีกหนึ่งอย่างก็พอแล้วละคะ”
อันตอบคำถามนักข่าวไปเรื่อย ๆ ก่อนเริ่มพิธีการอื่น ๆ ต่อ ทั้งสามเดินลงจากเวที หาเครื่องดื่ม รับประทานอาหาร และพูดคุยกับแขกในงานอย่างเป็นกันเอง
MANGA DISCUSSION