ภาพตรงหน้า หลังจากที่อันมาถึงห้องของอิงคือ…
ลูเซี่ยนกับอิงกำลังยืนจูบกันอย่างดูดดื่มอยู่หน้าลิฟต์ อันยืนนิ่งอึ้ง ทำอะไรไม่ถูก เธอรู้สึกเจ็บปวดอย่างบอกไม่ถูกกับเห็นภาพที่เห็น อันช็อกและรู้สึกชาไปทั้งตัว
ทั้ง ๆ ที่เธอพยายามไม่สนใจข่าว ไม่อยากคิดเรื่องแบบนี้เข้ามาในหัว เธอเตรียมใจไว้แล้วระดับนึง แต่..พอเจอจริง ๆ มันช่างเจ็บปวด
ริมฝีปากนั้น เธอก็เคยได้สัมผัสมัน เมื่อคืนริมฝีปากนั้น ร่างกายนั้น ยังอยู่กับเธอยังเข้ามาในตัวเธอ แต่พอตอนนี้…ตกลงเธอเป็นอะไรกับเขากันแน่…ในเมื่อมาหาอิงได้ตลอดเวลาแล้วทำไม ต้องมาหาอัน
‘ฉันเป็นคนอิจฉาพี่ตั้งแต่เมื่อไหร่’ อันคิดในใจ
อันดึงสติและพยายามทำตัวให้เข้มแข็งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทำเป็นไม่สนใจภาพตรงหน้า เธอเข้าไปในห้องของอิงเหมือนปกติ ผ่านพวกเขาไปเหมือนอากาศ หยิบเอกสารและตารางงานของนทีที่ได้จัดแจงรายละเอียดงานของอิงที่ถูกวางไว้บนโต๊ะไม้ในห้องรับแขกขึ้นมาอ่าน ไม่สนใจบทสนทนาของทั้งคู่ที่ดังพอสมควร อันไม่รู้สึกอยากอยู่ที่นี่นานเท่าไหร่นัก จึงได้ขัดจังหวะการคุยของทั้งสองคน
“ขอโทษที่ต้องขัดจังหวะนะคะ”
อันพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย มองไปยังสองคนนั้น อิงทำสีหน้าไม่ค่อยพอใจที่มาพูดขัดจังหวะเธอ หันมามองจ้องเขม็งใส่อัน ส่วนลูเซี่ยนยืนมองเธออยู่เงียบ ๆ ไม่รู้ว่าสายตานั่นกำลังคิดอะไรอยู่
“มีอะไร”
อิงพูดเสียงห้วน ๆ บ่งบอกถึงอารมณ์ไม่พอใจ
“ตารางงานพรุ่งนี้…”
อันไม่ทันพูดอะไร ลูเซี่ยนก็พูดขัดขึ้นมาก่อน
“ผมไปก่อนดีกว่า ดูถ้าคุณมีงานบางอย่างที่ต้องทำ ไว้พรุ่งนี้ผมจะมารับคุณที่คอนโดนะ แล้วอย่าลืมบอกเรื่องงานของเราให้อันรู้ด้วยละ”
ลูเซี่ยนเหลือบมองอันเล็กน้อยก่อนจะหันไปยิ้มให้อิง รอยยิ้มอ่อนหวานแบบนั้น ลูเซี่ยนไม่เคยที่จะยิ้มให้เธอเลยสักครั้ง แต่เขากลับยิ้มมันออกมาง่าย ๆ ให้กับอิง แล้วสายตาอ่อนโยนนั้นมันอะไร กับเธอมีแต่ความเย็นชา โหดร้าย อันพยายามไม่คิด แต่มันก็อดไม่ได้ เธอพยายามกลั้นอารมณ์ทั้งหมดเอาไว้
“เข้าใจแล้วค่ะ โชคดีนะคะ”
ก่อนจากกันทั้งคู่ได้หอมแก้มอย่างจงใจให้อันเห็น อิงยืนโบกมือลาลูเซี่ยนหน้าลิฟต์ ก่อนจะเดินเข้ามาในห้อง นั่งบนโซฟาเล่นโทรศัพท์ไม่สนใจอัน ทั้ง ๆ ที่อันยืนรอเธออยู่
ห้องกลับมาอยู่ท่ามกลางความเงียบ
“…”
“อิง ตารางพรุ่งนี้ เริ่มตั้งแต่เจ็ดโมงครึ่งนะ ดังนั้นประมาณตีห้าครึ่ง ฉันจะมารับ”
“…”
อิงไม่ตอบอะไร นั่งเล่นมือถือไปเรื่อย
“อิง!”
อันย้ำเสียงดังขึ้น
“เออ รู้แล้ว แล้วต่อไปละ” อิงตอบ
“7.30 อัดรายการข่าวบันเทิง 9.00 ถ่ายแบบแฟชั่นเสื้อผ้า 12.00 พักเที่ยง 14.30 ถ่ายละคร สุดท้าย 3 ทุ่ม งานปาร์ตี้ของลูเซี่ยน งานปาร์ตี้อะไร” อันถาม
“งานปาร์ตี้แสดงความยินดีให้กับโรงแรมของลูเซี่ยน ที่ติดท็อป 10 ของโลก อ้อ! ลืมบอก งานนี้เธอต้องไปด้วย”
“เอ๊ะ! อิงไม่อยากให้ฉันออกงานคู่กับเธอไม่ใช่เหรอ เพราะไม่อยากให้ความลับที่เราเป็นฝาแฝดต้องเปิดเผย”
อันถามเพราะไม่เข้าใจสิ่งที่อิงกำลังทำ
“ฉันเปลี่ยนใจแล้ว เธอควรจะได้มีชื่อเสียงเป็นของตัวเองบ้าง ไม่ต้องอยู่ใต้ร่มเงาฉันอีกต่อไปไง ไม่ดีเหรอ เธอเองตั้งแต่เด็กก็อยากเป็นดาราอยู่แล้วนิ นี่ไงโอกาสของเธอมาแล้วก็คว้าซะสิ ฉันเองก็มีเรื่องจะบอกเธอในงานนั้นด้วย อย่าสายละ”
“…”
เธอยิ่งไม่เข้าใจสิ่งที่อิงกำลังทำเข้าไปใหญ่ คนอย่างเธอนะเหรอจะเห็นอกเห็นใจอัน
“แต่…”
“หยุดถามสักที รำคาญ ถ้าไม่มีอะไรก็กลับไปได้แล้ว” อิงไล่
“ก็ได้ พรุ่งนี้จะมารับ 5.30 น.น่ะ”
“…”
“อิง”
“รู้แล้ว! ย้ำอะไรนักหนา ถ้าหมดธุระก็กลับไปได้แล้ว น่ารำคาญจริง ๆ เลย”
อิงไล่เธอ เธอยังมาหาพี่สาวได้ไม่ถึง 10 นาที อิงก็ไล่เธออย่างกับหมูกับหมา ถ้าไม่ใช่เรื่องงาน น้องสาวคนนี้คงไม่มีความหมายในสายตาพี่เลยสินะ อันน้อยใจ
อันออกจากคอนโดของอิง เดินไปที่ป้ายรถเมล์หน้าคอนโด
เธอพยายามตัดภาพที่ลูเซี่ยนจูบกับอิงออกไปจากสมอง อยู่ ๆ น้ำตาเธอก็คลอเบ้า เหมือนมีอะไรแหลมคมเข้ามาแทงในหัวใจ
‘เราคงต้องทำให้มันถูกต้องสักที พอดีกว่าเนอะ แล้วความลับละ จะทำยังไงกับมันดี’
อันคิดไปเรื่อย ระหว่างยืนรอรถแท็กซี่ที่คิดว่าคงผ่านมาสักคัน แต่แทนที่รถแท็กซี่จะมาจอดรับ กลับเป็นรถหรูสีดำคันหนึ่งจอดเทียบกับเธอ ก่อนจะเปิดกระจกเลื่อนลงเล็กน้อยพอให้เห็นคนด้านใน
‘ลูเซี่ยน’ อันพูดในใจ
ลูเซี่ยนเหมือนกำลังคุยโทรศัพท์ด้วยท่าทางที่ผ่อนคลาย เขามาจอดทำไมตรงนี้ คิดว่ากลับไปแล้วเสียอีก เขายังต้องการอะไรจากเธออีก ในเวลานี้อันไม่อยากเจอหน้าเขาที่สุด
“รู้แล้ว แค่นี้ก่อนนะอิง” เสียงปลายสายคืออิงงั้นเหรอ
ถ้าหวานกันขนาดนี้ก็ขึ้นไปหาเธอต่อสิ ลูเซี่ยนไม่เคยมีรอยยิ้มแบบนั้นให้อันสักครั้ง อันรู้สึกน้อยใจจริง ๆ อันเดินหนีจากเขา ในเมื่อรถแท็กซี่ไม่มาง่าย ฉันเดินกลับเองก็ได้ อันเร่งฝีเท้าเดินไปตามฟุตบาท
“ว๊าย”
อันรู้สึกเหมือนตัวเองเซไปทางด้านหลัง เมื่อถูกบอดี้การ์ดคนหนึ่งของลูเซี่ยนเดินมาดึงตัวเธอไว้ อันดิ้น สะบัดแขนตัวเองออกจากมือของบอดี้การ์ด เธอกำลังไม่พอใจลูเซี่ยนอย่างมาก หันไปมองลูเซี่ยนที่นั่งอยู่บนรถ
“ขึ้นมา มีเรื่องจะคุยด้วย” ลูเซี่ยนพูด อันยืนนิ่ง ไม่ทำตามคำสั่งเขา
“…”
“จะขึ้นมาดี ๆ หรือต้องให้ลาก”
ดูน้ำเสียงเย็นชานั้นสิ ถ้าอยู่กับเราแล้วมันอึดอัดนัก ก็ปล่อยสักที อย่าให้ไอความลับบ้า ๆ มาเป็นเครื่องผูกรั้ง อันตัดสินใจจะพูดเรื่องนี้กับลูเซี่ยน อันปาดน้ำตา แล้วขึ้นรถไปอย่างโดยดี
เวลาผ่านไปเกือบ 10 นาทีที่รถเลื่อนบนถนน ลูเซี่ยนไม่พูดอะไรกับเธอสักคำ อันเองก็เช่นกัน
อันคิดในใจ ‘ไหนว่ามีเรื่องจะคุยกับลูเซี่ยนไง แต่เอาเข้าจริงก็พูดไม่ออก’
เธอกลัวการถูกตัดขาดจากลูเซี่ยนขนาดนี้เลยเหรอ แต่มันคือสิ่งที่ถูกต้อง
“อิงบอกแล้วใช่ไหมเรื่องงาน” ลูเซี่ยนเริ่มบทสนทนา
“ค่ะ”
“เอานี่ ชุดที่เธอต้องใส่ในวันพรุ่งนี้ แล้วฉันจะส่งบอดี้การ์ดมารับที่คอนโด”
อันมองถุงกระดาษในมือลูเซี่ยน
“ค่ะ”
อันหยิบถุงกระดาษในมือของลูเซี่ยนมาไว้บนตักของตนเอง ทำตามที่เขาสั่งอย่างว่าง่าย นั่งเงียบ ไม่พูดไม่จา ไม่ยอมสบตาลูเซี่ยน มีความคิดมากมายอยู่ในหัวอัน ตอนนี้ไม่รู้ว่าจะพูดกับเขาเรื่องอะไรก่อนดี เพราะภาพที่อิงกับลูเซี่ยนจูบกันมันยังติดอยู่
ลูเซี่ยนรู้ถึงบรรยากาศที่ดูตึงเครียด เขาเลยยกตัวอันขึ้นมาบนตักเขา กอดเธอไว้เฉย ๆ ราวกับปลอบเธอ เขาคิดจะทำอะไร อันดิ้นเล็กน้อย เป็นเชิงบอกปฏิเสธ ไม่อยากให้เขาแตะเนื้อต้องตัว ตาเธอแดงระเรื่อเหมือนกำลังจะร้องไห้ พยายามกลั้นไม่ให้น้ำตามันไหลออกมา
“ถ้าหมดเรื่องที่จะคุยแล้วก็จอดค่ะ”
อันพูดเสียงสั่น เธอไม่อาจกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมาได้ และแกะมือของลูเซี่ยนออก แต่ลูเซี่ยนไม่สนใจ ยังกอดเธอไว้แน่นไม่ยอมปล่อย แม้เธอจะออกแรงดิ้นเยอะแค่ไหนก็ตาม อันร้องไห้ตลอดทางกลับบ้านอยู่เงียบ ลูเซี่ยนก็คอยปาดน้ำตาให้เธอ ทำไมเขาไม่พูดหรืออธิบายอะไรให้เธอฟังสักนิด
“ทำไมไม่ไปอยู่กับอิงละ” อันถาม
“…” ไม่มีเสียงตอบจากลูเซี่ยน
“แล้วเมื่อไหร่จะทิ้งของเล่นชิ้นนี้สักที”
“…”
“อัน ผมเคยบอกแล้วใช่ไหมว่า อย่าพูดแบบนั้น” ลูเซี่ยนพูดเสียงเข้ม
“แต่มันเรื่องจริง ถ้ามีอิงอยู่แล้วก็เลิกยุ่งกับฉันสักที ฉันไม่ได้หน้าด้านหน้าทนไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีหรอกนะ”
“อัน ช่วยนั่งเงียบ ๆ ให้ผมรู้สึกสบายใจหน่อยได้ไหม”
ลูเซี่ยนพูด อันยิ่งไม่เข้าใจสิ่งที่เขากำลังทำ มันไม่ต่างอะไรจากอิงเท่าไหร่นัก ที่อยู่ ๆ อยากให้เธอไปออกงานด้วยกัน มีเรื่องอยากถาม อยากระบายทุกอย่างออกไป
อันนึกถึงริมฝีปากและรอยยิ้มที่เขายิ้มให้อิง อันนั่งนิ่งเก็บอาการ นั่งเงียบ ๆ ไม่พูดอะไรออกมาต่อจากนั้น ลูเซี่ยนรู้ว่าเพราะอะไร แต่เขาก็ยังไม่พูดอะไร เพราะมันยังไม่ถึงเวลาที่อันจะรู้ เขานั่งกอดอันไปเรื่อย ๆ จนถึงคอนโด ก่อนเธอจะเปิดประตูออก ลูเซี่ยนจับข้อมือเธอเบา ๆ
“จากนี้ อย่าเชื่อใจใคร นอกจากผม เข้าใจไหม”
“ทำไมคะ?”
“เข้าใจรึเปล่า” ลูเซี่ยนบีบข้อมืออันเล็กน้อย
“… เข้าใจแล้วค่ะ”
“เข้าใจว่าอะไร”
“เข้าใจว่า ห้ามเชื่อใจใครนอกจากคุณ”
“…”
ลูเซี่ยนเงียบ จ้องเข้าไปในตาของเธอ
“…”
อะไรทำไมอยู่ ๆ ก็เงียบ อันคิด
“นั่นรวมถึงทุกคนที่เธอรู้จัก แล้วก็พี่เธอด้วยนะ”
“เอ๊ะ”
พูดจบ ลูเซี่ยนปล่อยมือจากอัน แล้วรถก็เคลื่อนออกไป เธอไม่เข้าใจคำพูดของลูเซี่ยนอีกแล้ว มีเรื่องอะไรที่เธอไม่จำเป็นต้องรู้งั้นเหรอ อันมองรถของลูเซี่ยนจนสุดลูกตาก่อนจะเดินขึ้นคอนโด จนแล้วจนรอดเขาไม่คิดจะอธิบายอะไรให้อันฟัง
ภายในรถสีดำคันหรูที่พึ่งเคลื่อนออกจากคอนโดอัน
“จับตาดูอิงกับอันให้ดีด้วย” ลูเซี่ยนพูด
“ครับท่าน”
MANGA DISCUSSION