รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] - บทที่ 806 ทั้งจักรวาลโกลาหลเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ดึงดูดความสนใจจำนวนมาก!
- Home
- รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]
- บทที่ 806 ทั้งจักรวาลโกลาหลเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ดึงดูดความสนใจจำนวนมาก!
บทที่ 806 ทั้งจักรวาลโกลาหลเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ดึงดูดความสนใจจำนวนมาก!
สสารระดับสูงที่ไหลหลากออกมาทำให้ทุกหนแห่งเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ รวมทั้งแดนบรรพโกลาหลเองก็ได้รับผลประโยชน์ ฟ้าดินแปรเปลี่ยนเหมาะสมกับการฝึกฝน สิ่งมีชีวิตต่างพัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดดด้วยความเร็วอย่างมาก
ทว่าทั้งหมดเป็นเพราะคุณชายต้องการจะเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมเพียงเท่านั้นหรือ?
ลั่วสุ่ยรู้สึกว่าสิ่งต่าง ๆ ไม่ได้เรียบง่ายปานนั้น
ภายใต้สถานการณ์การเปลี่ยนแปลงอย่างมากของสภาพแวดล้อม คุณชายอาจเตรียมการบางอย่างที่พวกนางไม่สามารถรับรู้ได้
หรือคุณชายต้องการจะป้องกันบางสิ่งเอาไว้ก่อนกัน
“โลงกระดูกเบื้องหลังอาณาจักรมืดมิดคือสิ่งใดกัน?”
ภายในใจของลั่วสุ่ยหนักอึ้งขึ้นมา กระทั่งทำให้คุณชายต้องลงมือจัดเตรียมเช่นนี้ อนาคตก็น่าจะหนักหนาจริง ๆ!
จะเกิดขึ้นที่จักรวาลโกลาหลแห่งนี้หรือ?
นางคิดขึ้นมาอีกครั้ง คุณชายต้องการเปลี่ยนแปลงจักรวาลโกลาหลอื่น ๆ ครั้งใหญ่ด้วยหรือไม่?
ระหว่างที่ขอบเขตของนางพัฒนาอย่างต่อเนื่อง นางก็ได้รู้เรื่องราวต่าง ๆ มากขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย
จักรวาลโกลาหลอื่น ๆ ยังคงมีอยู่นับไม่ถ้วน หากต้องการจะเปลี่ยนแปลงทั้งหมด คุณชายจะสามารถทำได้หรือ? และจะเป็นภาระหนักหรือไม่?
นางเชื่อมั่นในความแข็งแกร่งของคุณชาย แต่หากต้องการจะเปลี่ยนแปลงจักรวาลโกลาหลทั้งหมด จะต้องเป็นเรื่องน่าตื่นตะลึงมากอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำอย่างแน่นอน
กระทั่งนางเองยังไม่มั่นใจว่าคุณชายจะสามารถทำได้จริงหรือไม่
“ไม่ว่าในอนาคตจะเกิดอันใดขึ้น ข้าจะติดตามอยู่ข้างกายและต่อสู้ร่วมกับคุณชายเอง!”
นางเอ่ยออกมาอย่างแน่วแน่
ไม่ว่าอนาคตจะยากลำบากเพียงใด นางก็จะอยู่เคียงข้างคุณชายเสมอไม่เปลี่ยนแปลง!
…
เวลาค่อย ๆ คล้อยผ่าน หลี่จิ่วเต้าเดินท่องชมจักรวาลหมื่นดาราทั้งหมด
อีกทั้งเขาเองก็ได้วาดจักรวาลหมื่นดาราที่ตนได้เห็นอีกด้วย
หลังจากวาดภาพเสร็จ การเปลี่ยนแปลงก็เกิดขึ้นทุกหนแห่งในจักรวาลโกลาหลแห่งนี้ สสารเหนือชั้นไม่ธรรมดาหลั่งไหลพรั่งพรู หล่อเลี้ยงทุกสรรพสิ่ง ทำให้เกิดการวิวัฒน์อย่างบ้าคลั่ง!
สิ่งมีชีวิตทั้งหมดต่างได้รับอานิสงส์นี้ กฎเกณฑ์ทั้งหมดสมบูรณ์มากขึ้น การฝึกฝนราบรื่นกว่าเดิม ไม่ติดปัญหายากเย็นอีกต่อไป
“เกิดอันใดขึ้น!?”
“นี่มันยอดเยี่ยมเกินไปแล้ว!”
“ยังต้องเข้าไปแดนบรรพโกลาหลนั่นอีกหรือ ที่นี่ทรงพลังมากเสียยิ่งกว่าแดนบรรพโกลาหลเสียอีก!”
สิ่งมีชีวิตจากทุกอาณาจักรต่างบ้าคลั่งขึ้นมา ตื่นเต้นอย่างถึงที่สุด การกลายเป็นเซียนคงอยู่ไปชั่วนิรันดร์ ไม่ได้เป็นเพียงความฝันสำหรับพวกตนอีกต่อไป ทั้งหมดล้วนอยู่ใกล้เพียงเอื้อม!
พวกเขาต่างทอดถอนใจออกมา เมื่อได้รับโอกาสดังนี้แล้ว ในอนาคตพวกเขาจะต้องบรรลุความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ในการฝึกฝนแน่!
ทว่าก็ยังมีสิ่งมีชีวิตบางส่วนเกิดความกังวลใจขึ้นมา
“สภาพแวดล้อมพลิกกลับอย่างกะทันหันเปลี่ยนเป็นเหนือชั้นไม่ธรรมดาอย่างยิ่ง หลังจากนี้จะมีสิ่งเลวร้ายใดเกิดขึ้นหรือไม่?!”
“คิดอีกแง่หนึ่งแล้ว นี่นับว่าเป็นแสงสายัณห์ยามตะวันรอน*[1]ใช่หรือไม่?!”
ภายในใจของพวกเขาไม่สงบเป็นอย่างยิ่ง เกิดการคาดเดาขึ้นมากมาย
บนท้องฟ้าไม่มีขนมเปี๊ยะตกลงมา*[2] นี่อาจเป็นสัญญาณก่อนที่พายุซัดโหม!
“คิดมากไปก็เปล่าประโยชน์! พวกเราจะสามารถทำสิ่งใดได้? ล้วนทำสิ่งใดไม่ได้ทั้งนั้น! สิ่งเดียวที่พวกเราทำได้ก็คือใช้เวลาเพื่อฝึกฝน!”
“ไม่ผิด มีเพียงแค่ความแข็งแกร่งเท่านั้นที่จะทำให้พวกเราสามารถรับมือกับพายุที่ถาโถมเข้ามาได้!”
ภายในใจของพวกเขารับรู้ได้ถึงวิกฤตกาลที่จะเกิดขึ้น ทว่าก็ไม่ได้ตื่นตระหนกอันใดมากนัก ในทางตรงกันข้าม พวกเขายิ่งจริงจังกับอนาคตมากขึ้น
หลังจากนั้น พวกเขาก็พากันปิดด่านฝึกตนไปทีละคน กอบกุมช่วงเวลาที่จะแข็งแกร่งเอาไว้ให้มั่น
…
อาณาจักรทั้งหมดเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ สสารระดับสูงไหลพรั่งพรู จ้กรวาลโกลาหลพัฒนาขึ้นอย่างน่าตื่นตะลึงและเหนือชั้น พร่างพราวเป็นพิเศษดึงดูดความสนใจของสิ่งมีชีวิตต่างจักรวาลโกลาหลจำนวนมาก!
“เกิดเรื่องอันใดขึ้นที่จักรวาลโกลาหลแห่งนั้น?!”
“สสารนั่นช่างน่าอัศจรรย์เป็นอย่างยิ่ง!”
ยอดฝีมือจำนวนมากต่างตื่นตะลึง พวกเขานับได้ว่าแข็งแกร่งยิ่ง สามารถกระโดดออกจากจักรวาลโกลาหลเดิมของตน สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับจักรวาลโกลาหลแห่งนั้นได้!
พวกเขาหวั่นไหว เกิดความต้องการจะลองไปเยือนจักรวาลโกลาหลแห่งนั้น นี่อาจนับเป็นโอกาสครั้งใหญ่!
“เตรียมตัวให้พร้อม จากนั้นพวกเราไปกันเถิด!”
“ต้องไปดูเสียหน่อยแล้ว!”
พวกเขาต่างออกคำสั่งลงไป ที่แห่งนั้นน่าอัศจรรย์ยิ่ง ทำให้พวกเขาเคลื่อนไหวอย่างเร่งรีบ
…
ปรโลก
“พวกเราจะไปที่นั่นหรือ? กฎเกณฑ์ของสถานที่แห่งนั้นยุ่งเหยิงอย่างถึงที่สุดแล้ว!”
ฉินก่วงอ๋องขมวดคิ้วเอ่ยออกมา
มีหยินย่อมมีหยาง มีหยางย่อมมีหยิน พวกเขานั้นเป็นกฎหยิน ไม่ว่าจะหนแห่งใด ทุกจักรวาลโกลาหลล้วนมีปรโลกของตัวเอง
ทว่าจักรวาลโกลาหลแห่งนั้นเป็นข้อยกเว้นเดียว
แน่นอนว่าข้อยกเว้นนี้ไม่ได้เกิดขึ้นมาตั้งแต่แรก ทว่าเพิ่งเกิดขึ้นภายในไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ จนจักรวาลโกลาหลแห่งนั้นกลายเป็นข้อยกเว้น สิ่งมีชีวิตที่ตายไปแล้วไม่ถูกพวกมันควบคุม
“เพื่อฟื้นฟูกฎหยินให้กลับมาอย่างที่ควรจะเป็น”
พระกษิติครรภโพธิสัตว์ปรากฏขึ้น มือสองข้างประกบแล้วเอ่ยออกมา “อามิตาพุทธ ครั้งล่าสุดพวกเราวางแผนจะร่วมมือกับปริภูมิเวลาเพื่อจัดการกับคนผู้นั้น ทว่าจากการสืบสวนของพวกเราแล้ว บุคคลผู้นั้นน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างยิ่ง ไม่ใช่ธรรมดาทั่วไป สุดท้ายพวกเราจึงเลือกที่จะยอมวางมือ”
คนที่เขาเอ่ยถึงก็คือหลี่จิ่วเต้า
หลี่จิ่วเต้าเคยลงมือคืนชีพให้คนกลุ่มหนึ่ง แต่ทว่าไม่หลงเหลือร่องรอยใดไว้ หลังจากนั้นเมื่อจักรพรรดินีคืนชีพอาจารย์ของนางขึ้นมา นางก็เผชิญหน้ากับพวกเขา
พวกเขาจึงเข้าใจเรื่องราวขึ้นมาบ้าง รับรู้ถึงการดำรงอยู่ของหลี่จิ่วเต้า
การย้อนเวลา ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเขาไม่ได้รับคำอนุญาตจากกองกำลังปริภูมิเวลา ในเมื่อจักรพรรดินีตกเป็นเป้าหมายของกองกำลังปริภูมิเวลา
แต่ทว่าน่าเสียดายที่กองกำลังของปริภูมิเวลาไม่อาจทำให้จักรพรรดินีสิ้นชีพได้
พวกเขาทั้งสองฝ่ายได้มาหารือกันภายหลัง ตัดสินใจจะร่วมมือกันจัดการกับหลี่จิ่วเต้า เพื่อรักษาศักดิ์ศรีของกองกำลังทั้งสองเอาไว้
แต่ความร่วมมือดังกล่าวเกิดขึ้นไม่เท่าไรก็สิ้นสุดลงอย่างรวดเร็ว
พวกเขาไม่ใช่กองกำลังธรรมดา เรื่องราวจำนวนมากถูกสอบสวนออกมาอย่างรวดเร็ว พวกเขาพลันตระหนักได้ว่าหลี่จิ่วเต้านั้นอาจจะน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก ไม่ง่ายต่อการจัดการ
หากต้องการจะสู้กับหลี่จิ่วเต้าอย่างถึงที่สุด พวกเขาก็จำเป็นต้องใช้กำลังมากกว่านี้
ทั้งรู้สึกว่าไม่คุ้มค่าและมีความเสี่ยงสูงเกินไป สุดท้ายจึงต้องยุติความร่วมมือลง
“ก่อนหน้านี้ก็แล้วไปเถิด กฎหยินยังคงอยู่ ทว่าตอนนี้กฎหยินไม่มีอยู่แล้ว!”
พระกษิติครรภโพธิสัตว์เอ่ย “เป็นเช่นนี้ไม่อาจยอมได้ จำเป็นต้องจัดการ จักรวาลโกลาหลแห่งนั้นไม่ธรรมดา พวกเราจำเป็นต้องจัดการให้ได้!”
สสารระดับสูงหลั่งออกมาในจักรวาลโกลาหลแห่งนั้น ทำให้ทุกสิ่งอย่างวิวัฒน์ขึ้น สิ่งนี้ทำให้พวกเขาตัดสินใจอย่างเด็ดขาด ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องจัดการจักรวาลโกลาหลแห่งนั้นให้ได้ จากนั้นก็สร้างกฎหยินขึ้นมาใหม่!
“คนที่แข็งแกร่งเช่นนั้นปรากฏขึ้นมาในจักรวาลโกลาหลเล็ก ๆ แห่งนั้นได้อย่างไร สิ่งนี้ได้รับคำอธิบายแล้ว!”
ดวงตาของพระกษิติครรภโพธิสัตว์เปล่งประกาย “เขาอาจจะเข้าใจได้ถึงความพิเศษของจักรวาลโกลาหลแห่งนั้นล่วงหน้า ดังนั้นจึงยังคงรั้งอยู่ในจักรวาลโกลาหลแห่งนั้น! และเมื่อถึงตอนนี้ความพิเศษของจักรวาลโกลาหลแห่งนั้นก็เริ่มเผยออกมาให้เห็นแล้ว…”
“ข้าเองก็คิดเช่นเดียวกัน! จักรวาลโกลาหลแห่งนั้นยังคงวิวัฒน์ขึ้นไปอย่างบ้าคลั่ง หลังจากนี้จะต้องพิเศษเหนือชั้นเป็นอย่างมากแน่นอน!”
เหยียนหลัวอ๋องกล่าว “พวกเราจำเป็นต้องวางหมากล่วงหน้าในจักรวาลโกลาหลแห่งนั้น ต้องสร้างกฎหยินขึ้นมาให้ได้!”
“อามิตาพุทธ!”
พระกษิติครรภโพธิสัตว์เอ่ย “นี่จะต้องเป็นการต่อสู้อันดุเดือด ทุกคนเตรียมตัวให้ดีเถิด! หลังจากนี้ข้าเองก็จะเตรียมตัว พลังและเส้นสนกลในของปรโลกจะต้องสำแดงออกมาให้เป็นที่ประจักษ์!”
หลังจากพระกษิติครรภโพธิสัตว์กล่าวจบ ฉินก่วงอ๋องและคนอื่น ๆ ต่างตกตะลึง
แม้พวกเขาจะเป็นจ้าวจำหนักต่าง ๆ สถานะในปรโลกนับว่าไม่ต่ำ แต่ก็ไม่ได้มีความเข้าใจเกี่ยวกับพลังทั้งหมดของปรโลกเท่าใดนัก มีหลายสิ่งที่พวกเขายังไม่รู้
อย่างเช่นเรื่องเกี่ยวกับพระกษิติครรภโพธิสัตว์
ผู้ยิ่งใหญ่ในพระพุทธศาสนา ทว่ากลับมาปรากฏตัวอยู่ในยมโลกได้อย่างไร?
พวกเขาเองก็ไม่รู้เช่นกัน
“เข้าใจแล้ว!”
“การต่อสู้ครั้งนี้พวกเราจะต้องชนะ!”
พวกเขาตอบรับ
หลังจากนั้นพวกเขาก็ไปเตรียมตัว
พวกเขาไม่สามารถไปยังสถานที่แห่งนั้นโดยปราศจากการเตรียมการใด ๆ ได้ หากทำเช่นนั้นจะต้องประสบเคราะห์ร้ายอย่างหนักแน่นอนแบบไม่ต้องสงสัย อย่างไรเสียหลี่จิ่วเต้าก็ยังอยู่ในจักรวาลโกลาหลแห่งนั้น!
“อามิตาพุทธ สถานที่แห่งนั้นจะกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของพวกเราหรือไม่?”
พระกษิติครรภโพธิสัตว์เอ่ยขึ้นมาในใจ
พวกเขามีภารกิจที่สำคัญยิ่งกว่า จักรวาลโกลาหลแห่งนั้นพิเศษและอยู่เหนือชั้นเป็นอย่างยิ่ง บางทีอาจสามารถกลายมาเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของพวกเขาได้!
…
ในจักรวาลโกลาหลแห่งนี้
ตำหนักปริภูมิเวลาโบราณ
“พวกเราต้องเตรียมการ หลังจากนั้นก็เข้าไปยังจักรวาลโกลาหลแห่งนั้น! กฎปริภูมิถูกทำลายลงไปนานแล้ว ถึงเวลาฟื้นฟูกฎปริภูมิขึ้นมาใหม่!”
ยอดฝีมือปริภูมิเวลาผู้หนึ่งเอ่ย
ก่อนหน้านี้พวกเขาเคยพยายามอดกลั้น ไม่ต้องการก่อการปะทะครั้งใหญ่ ทว่าตอนนี้จักรวาลโกลาหลแห่งนั้นเปลี่ยนเป็นพิเศษเหนือชั้นอย่างยิ่ง พวกเขาต้องเตรียมพร้อมอย่างถึงที่สุด
การสร้างกฎปริภูมิเวลาเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง นี่เป็นสิ่งที่พวกเขาทำมาโดยตลอด
กระทั่งเทวโลกเองก็ยังถูกสร้างกฎปริภูมิเวลาเอาไว้ พวกเขาลึกลับเป็นอย่างยิ่ง กระทั่งเทวโลกยังไม่อาจรู้ถึงที่มาของพวกเขาได้อย่างชัดเจน
ขณะเดียวกัน สิ่งมีชีวิตในเทวโลกก็กริ่งเกรงพวกตนเป็นอย่างยิ่ง ไม่กล้ายั่วยุท้าทายกฎปริภูมิเวลาที่พวกเขาสร้างขึ้นมา
…
จักรวาลโกลาหลจำนวนมากต่างเคลื่อนไหว เตรียมพร้อมไปยังจักรวาลโกลาหลแห่งนั้น
ทว่ามีหนึ่งคนหนึ่งเต่าที่ตรงกันข้าม
พวกเขาก็คือซีและเต่าชรา
ซีและเต่าชราได้ออกเดินทางจากจักรวาลโกลาหลที่เต่าชราอาศัยอยู่ เดินหน้าต่อไปตามเส้นทาง
เต่าชราแบกซีไว้บนหลังระหว่างเคลื่อนที่ไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว ความเร็วของเต่าชรานั้นนับว่ามากจริง ๆ
ยามที่ซีบอกว่าตนเองต้องการจากไป เต่าชราก็ได้ขอติดตามซีไปด้วยโดยยอมเป็นพาหนะให้ นางร่วมกล่าวว่าเรื่องทางไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ไม่จำเป็นต้องมาเป็นพาหนะให้นาง
แต่เต่าชรายังคงยืนกราน มันต้องการจะทำบางสิ่งเพื่อซี ดังนั้นซีจึงไม่อาจปฏิเสธได้ ทำได้เพียงยอมให้เต่าชราแบกนางมุ่งตรงไปข้างหน้า
ระหว่างทางพวกเขาหยุดแวะในจักรวาลโกลาหลจำนวนไม่น้อย ความแข็งแกร่งได้รับการปรับปรุงเป็นอย่างมาก และหลังจากที่ขอบเขตได้รับการพัฒนาแล้ว ความเร็วก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
“พวกเราเข้าไปยังเทวโลกแล้ว ยังไม่ถึงอีกหรือ?!”
เต่าชราถามออกมาด้วยความประหลาดใจ เบื้องหน้าก็จะเข้าไปยังเทวโลกแล้ว ซีจะไปที่ใดกันแน่!
“ไม่! ถัดไปจากนี้อีก!”
ซีส่ายหัว นางเองก็รู้สึกประหลาดใจเช่นเดียวกัน
ภาพสะท้อนเส้นทางโบราณยังคงไปต่อ ด้านหลังเทวโลกจะเป็นสถานที่แบบใดกันแน่?
ก่อนออกเดินทาง นางไม่รู้จักเทวโลกแม้แต่น้อย ทว่าหลังจากเดินทางมาจนถึงตอนนี้ นางก็ค่อย ๆ มีความเข้าใจเกี่ยวกับเทวโลกมากขึ้น
เทวโลกอยู่เหนือจักรวาลโกลาหลทั้งหมด เป็นแหล่งกำเนิดทุกสรรพสิ่ง หัวใจโกลาหลเองก็ร่วงหล่นลงมาจากเทวโลก ก่อนกลายมาเป็นจักรวาลโกลาหลต่าง ๆ
ทว่านางกำลังจะไปถึงเทวโลกแล้ว แต่มันกลับไม่ใช่จุดหมายปลายทาง!
กล่องสี่เหลี่ยมนำศพของบิดามารดาและคนในตระกูลของนางไปที่ใดกันแน่?
นางรู้สึกหนักอึ้งขึ้นมา กล่องสี่เหลี่ยมนั้นไม่ธรรมดาเกินไปแล้ว มีที่มาและจุดกำเนิดเช่นไรกันแน่?
ไม่น่าแปลกใจเลยที่แม้กระทั่งความมืดอันน่าพรึงกลัวยังถูกดึงดูดให้มาหา!
แล้วบนร่างของนางมีความลับอันใดอยู่กัน?
นางไม่อาจลืมสิ่งที่ตนเองเคยประสบในคราวนั้นได้ ผีให้ความมืดมิดต้องการให้นางก้าวไปต่อ ราวกับหวังให้นางจมลงไปในความมืด!
นางอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับพลังความมืดนั่น!
“พวกเราจะเข้าไปยังเทวโลกหรือ?”
เต่าชราถามออกมาขัดจังหวะความคิดของซี
ซีพยักหน้า “อืม ไปเถิด! เทวโลกเหมาะกับการให้พวกเราฝึกฝนอย่างไม่ต้องสงสัย สามารถทำให้พวกเราพัฒนาได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น”
“พวกเรา?”
เต่าชราเอ่ยออกมาด้วยท่าทางแปลกประหลาด “อย่ากล่าวเช่นนั้น ต้องพูดว่าทำให้เจ้าพัฒนาอย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้นต่างหาก”
มันเลื่อมใสในตัวซีจากใจจริง ความเร็วการฝึกฝนเรียกได้ว่าก้าวทะยานไปอย่างรวดเร็ว ใช้เวลาเพียงไม่นานก็สามารถบรรลุขั้นต่อไปได้ นับว่าวิปริตอย่างยิ่ง ตัวมันนั้นไม่คู่ควรจะเปรียบเทียบกับซีแม้แต่น้อย!
“ไปเถิด!”
ซีแย้มยิ้มเบาบาง ก่อนจะเข้าสู่ชั้นแรกของเทวโลกไปพร้อมกับเต่าชรา
การเข้าไปยังเทวโลกไม่ใช่เรื่องง่าย ตอนนี้แม้ซีจะอยู่ในขั้นเก้าขอบเขตลอยชาย แต่เมื่อเข้าไปยังเทวโลกก็ต้องเผชิญหน้ากับการต่อต้านไม่น้อย
ซียังคงไม่หยุด นางพาเต่าชราขึ้นไปยังเทวโลกชั้นสอง ต้องการจะฝึกฝนในสภาพแวดล้อมที่ดียิ่งกว่า
นางช่างชวนให้ผู้คนตื่นตะลึงยิ่งนัก หนทางฝึกฝนราบเรียบไร้อุปสรรค ตราบใดที่มีสสารฝึกฝนเพียงพอ นางก็จะสามารถพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว
น่าเสียดายที่ภายนอกเทวโลก ในจักรวาลโกลาหลเหล่านั้น สสารฝึกฝนไม่ได้ทรงพลังมากถึงเพียงนั้น ไม่อย่างนั้นขอบเขตของซีจะต้องสูงยิ่งกว่านี้อย่างแน่นอน!
เทวโลกยิ่งสูงก็ยิ่งเข้าไปได้ยากยิ่งขึ้น เมื่อยามเข้าสู่ชั้นสอง ซีก็ต้องเผชิญกับแรงต่อต้านที่มากขึ้นจนเกือบจะไม่สามารถเข้าไปได้!
“ชั้นสามไม่มีหวังแล้ว ทำได้แค่อยู่ฝึกฝนที่ชั้นนี้เท่านั้น…”
ซีเอ่ยออกมา นางรู้ว่าเทวโลกมีอยู่เก้าชั้น ยิ่งสูงขึ้นไปเท่าไร สภาพแวดล้อมก็จะยิ่งดีขึ้น สสารฝึกฝนก็เหนือชั้นยิ่งกว่า เทวโลกชั้นที่เก้าจะต้องพิเศษเหนือชั้นอย่างถึงที่สุด
ทว่าตัวขอบเขตพลังในปัจจุบัน นางไม่อาจขึ้นไปในทันที ทำได้แต่รั้งอยู่ชั้นที่สองก่อน จากนั้นค่อยเข้าไปยังชั้นที่สูงกว่าเมื่อขอบเขตของนางพัฒนาขึ้นแล้ว
ยังดีที่ร่างกายของนางพิเศษ มีพรสวรรค์ในการฝึกฝนสูงล้ำ ทำให้นางไม่ต้องอยู่ในชั้นนี้นานเกินไป
“พวกเราไปกันเถิด หาสถานที่ดี ๆ เพื่อฝึกฝน!”
ซีเอ่ยกับเต่าชรา
“ตกลง!”
เต่าชราตอบกลับ รีบทำตามคำพูดของซีทันที
ในตอนแรกขอบเขตของมันสูงกว่าซี ทว่าซีนั้นสะท้านฟ้าเกินไป สามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็วจนน่าตื่นตะลึง ขอบเขตก้าวขึ้นไปเหนือกว่ามันมาก
ตอนนี้มันอยู่เพียงแค่ขั้นห้าขอบเขตลอยชายเท่านั้น
ระหว่างทาง ซีได้พบกับสถานที่ดี ๆ หลายแห่ง ทว่านางก็ยังคงไม่พอใจมากนัก สภาพแวดล้อมยังไม่ดีเท่าที่ควร นี่จะทำให้การฝึกฝนใช้เวลานาน
“ชั้นสองเทวโลก...ใช่แล้ว ตระกูลเทียนเองก็อยู่ที่นี่!”
ในตอนนั้นเอง ดวงตาของซีก็เปล่งประกายขึ้นเมื่อนึกเรื่องตระกูลเทียนขึ้นมาได้
เมื่อนางกระโดดออกจากจักรวาลโกลาหลแห่งนั้น นางได้พบกับคนจากตระกูลเทียนที่ต้องการดึงนางให้เข้าร่วม ทว่านางปฏิเสธไป
หลังจากนั้นเทียนหมิงผู้เป็นบุตรชายคนสุดท้องของประมุขตระกูลเทียน ก็คิดจะใช้นางเพื่อกำจัดบุตรชายคนโตของประมุขตระกูลเทียนอย่างเทียนลู่ ทว่านางช่วยเหลือเทียนลู่เอาไว้ พร้อมจัดการกับเทียนหมิงและผู้อาวุโสเซิน จากนั้นก็มอบคนทั้งสองให้เทียนลู่นำกลับไปยังตระกูลเทียนเพื่อจัดการ
เหตุผลหลักที่นางทำเช่นนั้นก็เพราะไม่ต้องการจะทำตามความต้องการของเทียนหมิง ตัวของเทียนหมิงนั้นเจ้าเล่ห์หน้าเนื้อใจเสือ ทำให้นางรังเกียจเป็นอย่างยิ่ง
ขณะเดียวกันนางก็ต้องการจะสะสางเรื่องราวทั้งหมด ไม่ต้องการให้ตระกูลเทียนมาเกี่ยวพันกับนางอีก จึงได้สร้างบุญคุณไว้กับเทียนลู่
“ตามคำบอกเล่าของเทียนลู่แล้ว ตระกูลเทียนแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ดังนั้นสถานที่ตั้งจะต้องดียิ่งกว่าที่อื่น! หากพวกเราไปที่ตระกูลเทียนจะเป็นการดีสุดสำหรับการฝึกฝน…”
ซีกล่าวออกมาพร้อมด้วยรอยยิ้มน้อย ๆ
นางช่วยเทียนลู่จัดการเทียนหมิง นับเป็นบุญคุณชีวิต หากนางไปที่ตระกูลเทียนเพื่อฝึกฝนสักระยะหนึ่ง ไม่น่าจะมีปัญหาแต่อย่างใด
“ใช่แล้ว! ไม่มีอันใดเหมาะสมไปมากกว่านี้อีกแล้ว! ดียิ่ง พวกเราจะได้ไปดูว่าเทียนหมิงจอมเจ้าเล่ห์หน้าเนื้อใจเสือผู้นั้นจะถูกลงโทษเช่นไร!”
เต่าชราพยักหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า
“เช่นนั้นพวกเราไปกันเถิด”
ซีและเต่าชราออกเดินทางตรงไปยังตระกูลเทียนทันที
[1] แสงสายัณห์ยามตะวันรอน (回光返照) – เป็นการอุปมาถึงอาการที่สดใสและดีขึ้นก่อนจะตาย
[2] บนท้องฟ้าไม่มีขนมเปี๊ยะตกลงมา (天上不会掉馅饼) – ไม่มีของที่ได้มาเปล่า ๆ