รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] - บทที่ 671 เส้นทางโบราณถูกตัดขาด ตกลงไปในดินแดนหนึ่ง!
- Home
- รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]
- บทที่ 671 เส้นทางโบราณถูกตัดขาด ตกลงไปในดินแดนหนึ่ง!
บทที่ 671 เส้นทางโบราณถูกตัดขาด ตกลงไปในดินแดนหนึ่ง!
ปริภูมิเวลานั้นลึกลับเป็นที่สุด กาลเวลาไร้ความเมตตา ทวนกระแสสายธารแห่งกาลเวลาอันยาวนาน ไฉนเลยจะราบรื่นไม่เป็นอันใด
เป็นไปไม่ได้!
ต่อให้น่าประหวั่นพรั่นพรึงระดับปรโลกของพวกมัน ควบคุมจักรวาลหลายแห่ง ยังมิกล้าทำตามอำเภอใจกับปริภูมิเวลา
ถึงแม้พวกมันมีความสามารถพอให้ทะลวงผ่านปริภูมิเวลาได้แน่นอน
ภายในปริภูมิเวลามีพลังเกินหยั่งปกปักรักษาอยู่!
“สิ่งมีชีวิตที่ตายไปแล้วจักได้มายังปรโลก นี่คือกฎอันเป็นนิรันดร์ ในกาลเวลาอันยาวนานที่ผ่านมายังมิเคยมีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้นสักครา ทว่าช่วงนี้กลับเกิดเรื่องอยู่บ่อย ๆ!”
เหยียนหลัวอ๋อง จ้าวแห่งขุมนรกที่ห้าเอ่ยเสียงเข้ม “ก่อนนี้เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นสองครั้ง แปลกประหลาดยิ่งนัก พวกเราไม่มีร่องรอยให้ตามสืบด้วยซ้ำ ตกลงว่าเป็นฝีมือผู้ใดกันแน่?!”
ใช่แล้ว
เหตุการณ์เช่นนี้หาได้เพิ่งเคยเกิดเพียงครั้งเดียว ก่อนหน้านี้เคยเกิดเรื่องราวเช่นนี้ขึ้นสองครั้งแล้ว
มีพลังบางอย่างพรากสิ่งมีชีวิตที่ตายแล้วไปจากปรโลก ชุบชีวิตสิ่งมีชีวิตเหล่านั้น!
ที่แตกต่างจากคราวนี้คือ สองครั้งก่อนเกิดขึ้นกะทันหันเกินไป ซ้ำยังไม่อาจควบคุม พวกมันไม่ทันได้ตั้งตัว พลังนั้นก็พาตัวสิ่งมีชีวิตที่ตายแล้วไปจากปรโลก
หลังจากเกิดเรื่อง พวกมันก็ไม่พบร่องรอยใด ๆ จวบจนบัดนี้ยังคงเป็นปริศนาครั้งใหญ่
“ข้ารู้สึกว่าเหตุการณ์ครั้งนี้อาจเกี่ยวข้องกับสองครั้งก่อน…”
อู่กวนอ๋อง จ้าวแห่งขุมนรกที่เก้าขมวดคิ้วพลางกล่าว “การดำรงอยู่ของปรโลกลึกลับปานใด ไม่มีทางมีสิ่งมีชีวิตล่วงรู้ถึงมากมายปานนั้น หากว่าไม่เกี่ยวข้องกัน ข้าไม่เชื่อนัก”
“ข้าเองก็คิดเช่นนั้น”
ฉินก่วงอ๋องพยักหน้า เอ่ยด้วยนัยน์ตาลึกล้ำ “ในจักรวาลโกลาหลแห่งนี้ ต้องมีสิ่งมีชีวิตลึกล้ำเกินหยั่งตนหนึ่งดำรงอยู่ ทรงพลังแกร่งกล้า สองครั้งก่อนคงเป็นฝีมือของสิ่งมีชีวิตตนนั้น พวกเราถึงไม่รู้สึกตัวเลย ส่วนครั้งนี้ สิ่งมีชีวิตตนนั้นคงลงมือทางอ้อม ให้สตรีสองนางนั้นยืมพลัง”
อันที่จริง ฉินก่วงอ๋องเดาไม่ผิด
สองครั้งก่อน ครั้งหนึ่งคือชุบชีวิตเสี่ยวหยา
ครานั้น หลี่จิ่วเต้าบรรเลงเพลงฉินด้วยตนเอง พลังยิ่งใหญ่เกินจินตนาการ
ส่วนพิรุณคืนชีพในครั้งที่สองซึ่งชุบชีวิตให้กับสิ่งมีชีวิตจำนวนมากนั้น ก็เป็นฝีมือของหลี่จิ่วเต้าเอง
ทว่าครั้งนี้แตกต่างออกไป
ครั้งนี้หลี่จิ่วเต้ามิได้ลงมือด้วยตนเอง แต่ให้จักรพรรดินีกับหยวนอีนำอักษรและสมบัติทั้งสี่แห่งห้องอักษรที่หลี่จิ่วเต้าประทานให้มา นับว่าแตกต่างกันมากโข
กล่าวโดยไม่เกินจริงเลยว่า สองเหตุการณ์นี้ต่างกันถึงแก่น เรื่องที่หลี่จิ่วเต้าลงมือด้วยตนเองหรือไม่นั้น เป็นสองเรื่องราวที่ไม่เหมือนกัน ไม่อาจยกมาเปรียบเทียบกันได้
“นี่เขากำลังดูแคลนปรโลกของเรา เห็นว่าปรโลกของเรายอมให้รังแกง่าย ๆ หรือ”
ไท่ซานอ๋อง จ้าวแห่งขุมนรกที่เจ็ดแค่นเสียงเย็น “สองครั้งก่อนหน้านี้ เจ้าสิ่งมีชีวิตตนนั้นยังลงมือด้วยตนเอง หนนี้ไม่แม้แต่จะอยากลงมือด้วยตนเองแล้วหรือ นี่เป็นการดูถูกปรโลกของเราโดยไม่ปิดบังสักนิด!”
จ้าวแห่งนรกขุมอื่นต่างมีเปลวเพลิงแห่งโทสะลุกโชนเช่นกัน
จะมิให้พวกมันโกรธเกรี้ยวได้อย่างไร?
ไท่ซานอ๋องพูดไม่ผิด การกระทำในครั้งนี้เป็นการดูถูกดูแคลนปรโลกของพวกมันจากสิ่งมีชีวิตตนนั้นอย่างชัดเจน
หนนี้ สิ่งมีชีวิตตนนั้นไม่ยอมลงมือด้วยตนเอง เหมือนเป็นการบ่งบอกว่า ดูเอาเถิด ข้าไม่ลงมือด้วยตนเองก็ยังได้ตามที่ต้องการอยู่ดี ข้าสามารถพาสิ่งมีชีวิตที่ตายไปแล้วในปรโลกของพวกเจ้าไปได้เท่าที่ปรารถนา
การท้าทายดูหมิ่นอย่างร้ายแรงเช่นนี้ พวกมันทนมิได้จริง ๆ โมโหเป็นอย่างมาก
“ไม่เป็นไร เขาต้องชดใช้ให้กับเรื่องนี้ ความเป็นความตายไฉนเลยจะยอมให้แทรกแซงง่าย ๆ ผู้มีชีวิตอยู่เป็นหยาง ผู้ตายเป็นหยิน วิญญาณหยินทุกดวงล้วนอยู่ในการปกครองของปรโลก มีกฎระเบียบคอยควบคุมกำราบ!”
ฉินก่วงอ๋องกล่าวต่อ “รอจนสตรีสองนางนั้นถูกพลังปริภูมิเวลาสังหาร กลายเป็นวิญญาณหยิน อยู่ใต้อาณัติของเรา เราจักใช้สตรีสองนางนั้นเป็นจุดทะลวง เปิดโปงตัวตนของสิ่งมีชีวิตตนนั้น!”
เป็นดั่งที่มันว่า ปรโลกมีพลังควบคุมวิญญาณหยินอันกล้าแกร่ง ต่อให้ก่อนตาย วิญญาณหยินตนนั้นทรงพลังเพียงใด เมื่อตายไปแล้ว ก็ไม่เป็นภัยต่อปรโลกของพวกมันสักนิด
ถึงครานั้น ยมบาลหัววัวหัวม้ายังกำราบพวกนางได้ง่าย ๆ!
“น่ากลัวว่าพระกษิติครรภโพธิสัตว์ทรงคิดเช่นนี้ ถึงได้สั่งให้พวกเรารามือ มิให้ต่อสู้ต่อ”
ฉินก่วงอ๋องเอ่ยอย่างใช้ความคิด
“เข้าใจแล้ว”
“รอพวกนางสองคนมาอยู่ที่นี่!”
จ้าวแห่งนรกขุมอื่นพากันเอ่ยด้วยรอยยิ้มเย็น
แม้ว่าจักรพรรดินีกับหยวนอีมีพลังจากเส้นทางโบราณคอยคุ้มครอง ถึงกระนั้นก็มิอาจขวางกั้นการระเบิดจากพลังในปริภูมิเวลา คนทั้งสองต้องถูกพลังในปริภูมิเวลาสังหารอย่างแน่นอน!
…
บนเส้นทางโบราณ
จักรพรรดินีพาอาจารย์ของนางและหยวนอีมุ่งหน้าย้อนกลับไปอย่างรวดเร็ว มิกล้าเสียเวลาไปมากกว่านี้
ปรโลกให้ความรู้สึกอันตรายเกินไปสำหรับนาง นางกลัวจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดอันใดอีก มีแต่กลับไปอยู่ในยุคปัจจุบันแล้วจริง ๆ นางจึงจะวางใจได้อย่างสมบูรณ์
อาจารย์ของจักรพรรดินีผมขาวหงอก ดวงหน้าแก่ชรา นางมิอาจหยุดยั้งการกัดกร่อนจากกาลเวลา ก้าวสู่บั้นท้ายชีวิต สิ้นอายุขัยตั้งแต่ยื้อแย่งโอกาสวาสนาเสี้ยวหนึ่งมาให้จักรพรรดินีได้ ครานั้นนางเหลือเวลาไม่มาก ใกล้แตกดับเต็มที
ทว่า เวลานั้น นางยังมีโอสถเทียนตี้ต้นหนึ่งในมือ ยื้ออายุขัยนางต่อไปได้อีกหนึ่งชาติภพ แต่นางมิได้เลือกกลั่นโอสถเทียนตี้ต้นนั้น กลับเก็บโอสถเทียนตี้ต้นนั้นไว้ให้จักรพรรดินี
นางเปิดทางให้จักรพรรดินีด้วยชีวิต สละชีพของตน เพื่อยื้อแย่งโอกาสวาสนาหนึ่งเสี้ยวอันแสนสำคัญให้แก่จักรพรรดินี
ระหว่างทาง นางไม่รู้ว่าเกิดเรื่องใดขึ้น นับแต่ตื่นก็อยู่ในภาวะมึนงงมาโดยตลอด
“ไม่ว่าเกิดเรื่องใดขึ้น การได้พบเจ้าอีกครั้งข้าก็พึงพอใจ และมีความสุขมากแล้ว…”
นางจ้องมองจักรพรรดินีด้วยแววตาเปื้อนยิ้ม นางอยู่ในวัยชรา ดวงหน้าโรยรา กระนั้นยังงดงามอยู่มาก บุคลิกสง่า นางในวัยละอ่อนย่อมต้องเพริศพริ้งเฉิดฉันไร้ที่ติ
จักรพรรดินีหันกลับไป เข้าใจดีว่าบัดนี้อาจารย์ของนางกำลังรู้สึกอย่างไร นางเป็นเหมือนอาจารย์ ปีติตื้นตันเป็นอย่างมาก
“ท่านอาจารย์ เรายังมีเวลาให้ร่วมยินดี จากนี้ไป เราจะไม่แยกจากกันอีก!”
จักรพรรดินี้เอ่ย พร้อมสาบานในใจ ไม่ว่าผู้ใดก็มิอาจพรากพวกนางจากกันอีก
พวกนางเดินทางกลับกันอย่างรวดเร็ว กระโจนผ่านยุคสมัยแล้วยุคสมัยเล่า อาจารย์ของจักรพรรดินีมองจนตาค้าง พวกนางกำลังเดินทางไปยังอนาคตอย่างนั้นหรือ
“ข้าสังหรณ์ใจไม่ดีเท่าไร…”
จักรพรรดินีขมวดคิ้ว เร่งความเร็วขึ้น ยมราชแห่งสิบขุมนรกยอมแพ้กะทันหันเกินไป นางรู้สึกว่าเรื่องนี้มีบางอย่างไม่ชอบมาพากล
ตู้ม!
ทันใดนั้น เสียงระเบิดดังขึ้นข้างนอก เส้นทางโบราณสั่นไหวรุนแรง ปริภูมิเวลาสองข้างทางยุ่งเหยิง มองไม่เห็นทางข้างหน้า
พวกนางมองไม่เห็นยุคปัจจุบันแล้ว!
ซ่า!
สายธารแห่งกาลเวลาอันยาวนานไหลเชี่ยวกราก ภาพปริภูมิเวลาทั้งปวงหายลับ พวกนางรู้สึกเหมือนเส้นทางโบราณเอนเอียงไปจากเดิม มิได้เชื่อมต่อกับยุคปัจจุบันอีกแล้ว
“ขาดออกจากกันแล้ว เหลือแค่เส้นทางท่อนเล็ก ๆ ของเรา!”
หยวนอีมองด้านหลัง เห็นว่าถูกบดบังเช่นกัน ไม่เห็นสักสิ่ง
วูบ!
คล้ายว่าเส้นทางโบราณตกลงไปอยู่ที่ไหนสักแห่ง แรงเคลื่อนมหาศาลส่งผลให้พวกนางกลิ้งเป็นตลบ ยังดีที่พลังจากเส้นทางโบราณห่อหุ้มพวกนางไว้ ถึงมิได้ร่วงออกไป
“ที่นี่ที่ไหน!?”
หลังจากทุกอย่างหยุดนิ่ง จักรพรรดินีมองไปรอบ ๆ สูดหายใจเข้าลึก เนื้อตัวหนาวเย็น ภาพตรงหน้าที่ได้เห็นพลิกผันโลกทัศน์ของนาง!
หยวนอีอกสั่นขวัญแขวนไม่แพ้กัน
การเดินทางเพื่อชุบชีวิตในครานี้เหนือความคาดหมายของนางอย่างเหลือแสน!