รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] - บทที่ 503 มังกรสิ้นกรงเล็บ จากมังกรกลายเป็นงู! -บทที่ 504 ครั้นอ้าปาก…เอ่ยสิ่งใดได้สิ่งนั้น!
- Home
- รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]
- บทที่ 503 มังกรสิ้นกรงเล็บ จากมังกรกลายเป็นงู! -บทที่ 504 ครั้นอ้าปาก…เอ่ยสิ่งใดได้สิ่งนั้น!
บทที่ 503 มังกรสิ้นกรงเล็บ จากมังกรกลายเป็นงู!
ฝาโลงร่วงหล่น ในที่สุดหยวนอีก็ได้เห็นสิ่งที่อยู่ในโลง นับว่าเกินความคาดหมายของนางไปมาก นางคิดไม่ถึงเลยสักนิด
ด้านในคือเด็กผู้หญิงวัยละอ่อน อายุราว ๆ แปดขวบ ผิวขาวผ่องนวลเนียน ดวงหน้าวิจิตรงดงาม ผมดกดำวาววามเป็นพิเศษ สยายประบ่า ท่าทางน่ารักเป็นที่สุด ดูเหมือนองค์หญิงน้อยผู้สูงศักดิ์
นางหลับตาสองข้าง ขนตากระเพื่อมขึ้นลงเล็กน้อย นี่คือสิ่งมีชีวิตในโลงศพ…เซียนท่านหนึ่งอย่างนั้นหรือ!?
หยวนอีคิดไม่ถึงจริง ๆ ไม่อาจเชื่อได้ลง
นางคิดว่าผู้ที่อยู่ในโลงคงเป็นปีศาจเฒ่า หรือเป็นสิ่งมีชีวิตโบราณน่าขนลุกบางอย่าง ถึงอย่างไรโลงศพนี้ก็อยู่มาแสนนาน และเรื่องที่สิ่งมีชีวิตในโลงศพสั่งให้มังกรดำทำช่างชั่วร้ายอำมหิต
ทว่าหลังฝาโลงร่วงหล่น ภายในกลับเป็นองค์หญิงน้อยวัยละอ่อนผู้น่ารัก ไม่เข้าข่ายชั่วร้ายแม้แต่น้อย จะให้นางเชื่อได้เยี่ยงไร ประหลาดเกินไปแล้ว!
“นาย…ท่าน!?”
มังกรดำคงคิดไม่ถึงเช่นกัน เนตรมังกรของมันเบิกกว้างด้วยความเหลือเชื่อ เจ้านายของมันผู้เป็นเซียนท่านหนึ่ง ไยจึงกลายเป็นเด็กผู้หญิงไปได้
มันเกาหัวด้วยกรงเล็บมังกร นิ่งค้างไปอย่างสิ้นเชิง นี่ไม่เหมือนกับเจ้านายในภาพจำของเขาเลย ห่างกันไกลโข!
“คงมิใช่ว่านายท่านถูกสลับตัวหรอกหรือ!”
มันพึมพำในใจ คิดว่าเด็กหญิงผู้นี้อาจเป็นลูกของนายท่าน นายท่านมิได้ผนึกตัวเองในโลง หากแต่ผนึกลูกของตนไว้ในโลง
“ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้!”
มันมองพินิจอีกครั้ง หน้าตาเด็กหญิงมีความคล้ายคลึงกับภาพจำเจ้านายของมันอยู่บ้าง เป็นไปได้ว่านี่อาจเป็นลูกของนายท่านจริง ๆ!
“น่ารักไปหรือไม่!”
มันมองอยู่อย่างนั้น คิดไม่ถึงว่าลูกของนายท่านจะน่ารักเพียงนี้ มันอยากเกินทน อดไม่ได้ที่จะเอื้อมเข้าไป หมายลูบผมเด็กหญิง
และมันยื่นกรงเล็บมังกรเข้าไปจริง ๆ เด็กหญิงตัวจ้อยน่ารักน่าเอ็นดู สะกดใจมันไว้เต็ม ๆ
พรวด!
ในตอนนั้นเอง เด็กหญิงเบิกตาโพลง ประหนึ่งสัตว์ร้ายตื่นขึ้น กลิ่นอายชั่วร้ายถาโถมสู่ฟ้าดิน กรงเล็บมังกรที่มังกรดำยื่นเข้าไปสลายกลายเป็นหมอกเลือดในบัดดล ถูกบดขยี้ด้วยพลังอันน่ากลัว!
“เจ้า…อยากตายหรือ!”
เด็กหญิงปริปาก เสียงนั้นเย็นยะเยือกไปถึงกระดูก เหลือเค้าความน่ารักที่ไหน นางดูคล้ายยมทูตผู้ออกจากอเวจีจิ่วโยว เห็นแล้วชวนให้ผวาใจสั่น!
โดยเฉพาะยามนางบดขยี้กรงเล็บข้างนั้นของมังกรดำ นางปล่อยให้โลหิตมังกรสาดกระเซ็นเปื้อนใบหน้าขาวนวลของนางโดยมิได้หยุดยั้ง ส่งผลให้นางดูน่ากลัวยิ่งขึ้น!
“นาย…ท่าน!”
มังกรดำตกใจแทบแย่ หัวมังกรขนาดใหญ่โขกกับพื้นไม่หยุด ร่างมังกรสั่นเหมือนเจ้าเข้า นี่ใช่ลูกของนายท่านที่ไหน นี่คือนายท่านของมันชัด ๆ!
มันบังอาจอยากลูบผมนายท่าน ช่างรนหาที่ตายยิ่งนัก!
ชั่วอึดใจนี้ มันหนาวสะท้านไปทั้งตัว วิญญาณสั่นเทิ้ม มิกล้ามองนายท่านของมันแม้แต่น้อย
เด็กหญิงใช้มือเช็ดโลหิตมังกรบนหน้า ก่อนจะเอาเข้าปาก ใช้ลิ้นค่อย ๆ แตะโลหิตมังกรบนมือ
หยวนอีเห็นภาพนี้แล้วชาไปทั้งหนังศีรษะ ขนตั้งชันไปทั้งตัว
เด็กหญิงตัวกระจ้อยน่าเอ็นดูปานนั้น กลับมีกิริยาเช่นนี้ สวนทางกันเกินไปแล้ว เด็กหญิงไม่ลืมตายังจะดีเสียกว่า!
“กรงเล็บของเจ้าเกินจำเป็น!”
เด็กหญิงเลียโลหิตมังกรบนมือ จ้องมองมังกรดำด้วยสายตามุ่งร้าย
พรวด พรวด พรวด!
จากนั้น พลังอันน่าประหวั่นพรั่นพรึงปรากฏ ตัดกรงเล็บที่เหลือของมังกรดำออก มังกรดำเจ็บจนใบหน้าเหยเก แทบหมดสติ
เด็กหญิงโบกมือ กรงเล็บมังกรที่ถูกตัดไปของมังกรดำลอยไปอยู่กับเด็กหญิง นางหยิบกรงเล็บมังกรขึ้นมากัดกินคำโต โลหิตมังกรไหลลงมาตามมุมปากเด็กหญิงไม่หยุด
หยวนอีเห็นภาพนี้แล้วคลื่นไส้นัก คิดไม่ถึงเลยว่าเด็กหญิงตัวกระจ้อยน่ารักเช่นนี้จะโหดร้ายน่ากลัวได้ถึงเพียงนี้!
‘สิ่งที่อยู่ในโลงมิใช่อะไรดี ๆ จริง ๆ ด้วย!’
นางคิดในใจอย่างอดไม่ได้ การคาดเดาทุกอย่างในตอนแรกไม่ผิดเพี้ยน สิ่งที่อยู่ในโลงศพนั้นชั่วช้าสามานย์ มิใช่คนดี ภาพเด็กหญิงตัวกระจ้อยน่ารักเป็นเพียงรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น
“ข้า…!”
มังกรดำร่ำไห้ ร่างมังกรชักกระตุก มือมันพาซวยโดยแท้ ไม่สิ กรงเล็บพาซวย!
บัดนี้สิดี มันสูญเสียกรงเล็บทั้งหมด แล้วมันต้องกลายเป็นตัวกระไร จากมังกรกลายเป็นงูอย่างนั้นหรือ
“เจ้าใจกล้าไม่เบา…”
เด็กหญิงกัดกรงเล็บมังกรในมือคำโต ดวงตาจ้องมองหยวนอีด้วยความมุ่งร้าย “ว่ามาสิ เจ้าอยากตายด้วยวิธีใด”
หยวนอีมองเด็กหญิง เอ่ยขึ้นอย่างอดไม่ไหว “เจ้าเปลี่ยนรูปลักษณ์ยามสนทนากับข้าได้หรือไม่ เป็นปีศาจเฒ่าแท้ ๆ แต่กลับอยู่ในรูปลักษณ์เด็กหญิงไร้เดียงสา เจ้าไม่รู้สึก…กระดากบ้างหรือ”
นางหมดคำบรรยายจริง ๆ ไม่เชื่อหรอกว่าร่างเด็กหญิงนี้คือร่างจริงของนาง เป็นไปได้อย่างไรกัน?
ไม่มีทางเลย!
“เจ้ากล้าหาญยิ่ง ป่านนี้แล้วยังบังอาจพูดจาเยี่ยงนี้กับข้า ผู้ใดมอบความกล้าให้เจ้ากัน”
เด็กหญิงกินกรงเล็บมังกรมหึมาในมือเข้าไปในไม่กี่คำ ตนเช็ดปากที่มีโลหิตมังกรเปรอะเปื้อนเต็มไปหมด ดวงตาน้อย ๆ เปล่งประกายน่าหวาดหวั่น “ผู้ใดอยู่เบื้องหลังเจ้าหรือ”
เด็กหญิงมิได้ลงมือทันที เพราะรู้สึกถึงบางอย่างที่ไม่ชอบมาพากล กระบี่หยกเล่มนั้นตนเองมิสู้จะมองออกเท่าใด จึงสงสัยว่ามีใครบางคนชักจูงหยวนอีอยู่เบื้องหลัง
เด็กหญิงตัวกระจ้อยผู้น่ารักกลับน่าสะอิดสะเอียนชวนผวาเยี่ยงนี้ รบกวนจิตใจหยวนอีเป็นอย่างยิ่ง
ทว่า นางข่มความรู้สึกไม่ชอบใจก่อนจะเอ่ยขึ้น “ซี เจ้ารู้จักซีหรือไม่”
“ซี!”
หลังเด็กหญิงได้ยินชื่อนี้ มีสีหน้าเปลี่ยนไปทันที “ซีส่งเจ้ามารึ!?”
นางจะไม่รู้จักซีได้อย่างไร ตนนั้นคุ้นเคยเป็นอย่างดี คุ้นเคยจนไม่อาจคุ้นเคยไปกว่านี้ไดัอีก!
มิน่า แม้แต่นางยังมองกระบี่หยกเล่มนี้ไม่ออกเท่าใด หญิงสาวผู้นี้ถูกซีส่งมาหรือนี่ หากเป็นเช่นนี้ ทั้งหมดมีคำอธิบายที่สมเหตุสมผล
อีกด้าน หลังหยวนอีเห็นการเปลี่ยนแปลงทางสีหน้าของเด็กหญิง รวมถึงวาจาที่เด็กหญิงเอื้อนเอ่ย ดวงตาของนางก็ลุกวาว
ตามคาด สิ่งที่อยู่ในโลงศพเกี่ยวพันกับซี!
“ซีอยู่ที่ใด!?”
คุณชายส่งนางมาเพื่อสืบหาร่องรอยของซี หยวนอีถามขึ้นอย่างรีบร้อน
เด็กหญิงผงะ ซีเป็นคนส่งหยวนอีมาจัดการตัวนางมิใช่หรือ ไฉนจึงยังมาถามว่าซีอยู่ที่ใด
หรือตนคิดผิดไป?
“ผู้ใดอยู่เบื้องหลังของเจ้า!?”
ดวงตาของเด็กหญิงเปล่งประกายน่าพรั่นพรึง สีหน้าเคร่งเครียดถึงขีดสุด ดูเหมือนเรื่องราวซับซ้อนกว่าที่นางคิดไว้มาก!
ยังมีคนเสาะหาร่องรอยของซี หาเบาะแสมาจนเจอตนเอง หมายจะทราบที่อยู่ของซี!
คนผู้นี้เป็นใครกัน!? จุติลงจากภพเซียนเหมือนกันหรือ
มาจากตระกูลไหนกัน
“นี่ ข้าถามเจ้าอยู่ เจ้าอย่าเอาแต่ย้อนถามข้าสิ เจ้าช่วยตอบคำถามของข้าได้หรือไม่”
หยวนอีหมดคำบรรยาย เหตุใดเด็กหญิงผู้นี้มีคำถามมากกว่านางเสียอีก!
“ไว้หน้าเจ้าเกินไปหรือ!”
เด็กหญิงแค่นเสียงเย็น พลังปราณสยดสยองแผ่ซ่านออกจากรอบตัว นางก้าวออกจากโลง
ชั่วพริบตานั้น ปฐพีสั่นคลอนเพราะนาง!
_____________________________________________________________________________________________________________________________________________________________
บทที่ 504 ครั้นอ้าปาก…เอ่ยสิ่งใดได้สิ่งนั้น!
เด็กหญิงลงมือ หมายจะกำราบหยวนอี เพื่อให้ได้รู้เรื่องที่ตนเองอยากรู้
นางเจิดจรัสเกินไป ประกายนับล้านห้อมล้อมรอบตัว พลังปราณล้นฟ้าแผ่พุ่งออกมากระแสแล้วกระแสเล่า มิติแทบถล่ม สายโซ่รักษาระเบียบกฎวิถีฟ้าดินแหลกเหลวด้วยแรงกระเทือน
นางอยู่ในขอบเขตใดกัน เป็นถึงเซียนจริงหรือ
หยวนอีไม่รู้ สัมผัสความนิรันดร์จากตัวเด็กหญิงมิได้ เรียกว่ามีก็ได้ แต่นั่นไม่สมบูรณ์ มันเป็นความนิรันดร์ที่ขาดช่วงตอน
เป็นมาอย่างไรกัน?
เคยถูกปกคลุมด้วยวัตถุนิรันดร์ แต่แล้วต่อมาขาดช่วงไปหรือ นางสัมผัสถึงปราณนิรันดร์อันขาดช่วงได้ แปลกมาก ไม่เหมือนกับที่นางคิดเลยสักนิด
ต้องเคยเกิดปัญหาบางอย่างกับเด็กหญิงเป็นแน่!
ครืนคราน!
ฟ้าดินกู่ก้อง เด็กหญิงชี้นิ้วออกไป ดูคล้ายแสงแห่งกาลอวสาน ทิ่มแทงไปหาหยวนอี!
“สี่กระบี่ประหารเซียน!”
หยวนอีมิกล้าลังเล เรียกกระบี่ประหารเซียนออกมาในบัดดล!
กระบี่ประหารเซียนสี่เล่มเหินออกจากกล่องไม้ แสงเซียนรายล้อม ปราณเซียนซัดสาด จากที่เคยมีขนาดเท่าของประดับเล็ก ๆ พลันขายตัวออกมา กลายเป็นกระบี่ยาวเล่มแล้วเล่มเล่า บดขยี้ลำแสงกาลอวสานที่ทิ่มแทงมาหาหยวนอีจนสิ้น!
“กระบี่เซียนสี่ด้ามหรือ!”
ม่านตาเด็กหญิงหรี่ลง สัมผัสถึงจังหวะแห่งเซียนอย่างแรงกล้าจากกระบี่ทั้งสี่เล่มได้ สี่เล่มนี้คือกระบี่เซียนอย่างแท้จริง ซ้ำยังทรงพลังกว่ากระบี่เซียนธรรมดามากโข บางทีอาจมีระดับขั้นสูงยิ่งกว่านั้น!
“อย่างที่คิด! ผู้ที่อยู่เบื้องหลังเจ้าจุติลงจากภพเซียนจริงด้วย!”
เด็กหญิงยิ้มเย็น ไม่นานนักก็กลับมาสงบเยือกเย็นอีกครั้ง “ผู้ที่อยู่เบื้องหลังเจ้าอยู่ที่ใด แถวนี้หรือ”
นางคลี่แผ่ประสาทสัมผัสเซียนออกไป ปกคลุมออกไปหลายร้อยลี้ในชั่วพริบตา ซ้ำในพริบตานี้ นางสืบค้นทุกสิ่งในรัศมีหลายร้อยลี้นี้ได้หมด!
ในเมื่อจุติลงจากภพเซียน ซ้ำยังหานางจนพบ ไม่มีทางไม่รู้ในความสามารถของนาง หยวนอีเพิ่งอยู่ขอบเขตใด มีหรือจะต่อกรกับนางด้วยกระบี่เซียนสี่เล่มนี้ได้
เป็นไปได้อย่างไร!
นางรู้สึกว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังหยวนอีหลบอยู่ใกล้ ๆ นี้!
ทว่าเรื่องที่นางคิดไม่ถึงคือ นางสัมผัสไม่ถึงความผิดปกติแต่อย่างใด ทุกสิ่งทุกอย่างในรัศมีหลายร้อยลี้นี้เป็นปกติ!
“คงมิได้คิดจริง ๆ ว่าประทานกระบี่ยาวสี่เล่มนี้แก่เจ้าแล้วเจ้าจะจัดการข้าได้กระมัง”
นางมีสีหน้าอึมครึม “ไม่มีทางไม่อยู่ ข้าจะโจมตีจนกว่าเจ้าจะยอมปรากฏตัว!”
จากนั้น นางลงมืออีกครั้ง พลังสยดสยองถาโถมสู่ปฐพี นางใช้วิชาเซียนเข้าบดขยี้!
พลังที่เหนือจินตนาการเดือดพล่าน กฎระเบียบในฟ้าดินนี้ลุกเป็นไฟ ประกายแดงฉานทาบทับฟ้าดิน ทะเลเพลิงจุติลงจากฟากฟ้า แผดเผาทุกสิ่ง!
ไม่ทันได้จุติลงมา ทุกอย่างในแถบนี้ก็ถูกหลอมละลายจนสิ้น นี่คือเพลิงเซียน น่ากลัวเกินไป วัตถุธรรมดาไม่อาจหยุดยั้งได้!
แม้กระทั่งมิติผืนนี้ยังไม่อาจแบกรับทะเลเพลิงนี้ไวได้ หลอมละลายเป็นแถบ หลุมโหว่มโหฬารปรากฏบนนภาหลุมแล้วหลุมเล่า พลังมิติอันยุ่งเหยิงไหลหลาก ภาพการณ์น่าประหวั่นพรั่นพรึงเป็นที่สุด!
“ไปเถิด!”
หยวนอีคำรามเบา ๆ ตัวนางไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด กล่องไม้ซึ่งบรรจุสี่กระบี่ประหารเซียนมิใช่ของธรรมดา มีประกายนุ่มนวลฉายออกมา ขวางกั้นทุกสิ่งจากนาง
สี่กระบี่ประหารเซียนส่งเสียงกู่ร้อง พุ่งขึ้นไปอย่างพร้อมเพรียง เข้าปะทะกับทะเลเพลิงซึ่งจุติลงจากฟากฟ้า!
ทะเลเพลิงซัดสาดดุดัน เปลวไฟน่าสะพรึง พริบตาเดียวก็กลืนกินสี่กระบี่ประหารเซียนเข้าไป!
“เจ้ายังมิได้บรรลุเป็นเซียน ขอบเขตต่ำต้อยเป็นหนักหนา ต่อให้มีกระบี่เซียนสี่เล่มในมือแล้วอย่างไร! เมื่ออยู่ต่อหน้าข้า เจ้ายังคงต้อยต่ำดั่งมดปลวก!”
เด็กหญิงยิ้มเย็น “มีสมองให้มากกว่านี้หน่อย อย่าได้ทะเล่อทะล่าเอาชีวิตไปเสี่ยงเพื่อผู้อื่น เจ้าหรือจะต่อกรกับข้าได้ โง่เขลาจนน่าขัน!”
สี่กระบี่ประหารเซียนถูกกลืนกิน ไร้ซึ่งแสงกระบี่ส่องประกายออกมาอีก ราวกับถูกทะเลเพลิงกำราบไปแล้ว
“นายท่านเกรียงไกรทรงพลัง!”
มังกรดำตะโกนเสริมบารมีอยู่ข้าง ๆ ประจบประแจงเด็กหญิง
จากนั้น มันหันไปมองหยวนอี เนตรมังกรสองข้างเปี่ยมไปด้วยความดูแคลน “สี่กระบี่ประหารเซียนอันใดกัน เมื่ออยู่ต่อหน้านายท่าน ก็เป็นเพียงเศษเหล็กสี่ชิ้นเท่านั้น มิได้ยิ่งใหญ่เลยสักนิด!”
“อย่าเพิ่งใจร้อนไป”
หยวนอีมีสีหน้าสงบ มั่นใจในสี่กระบี่ประหารเซียนอย่างยิ่งยวด ไม่มีทางที่สี่กระบี่ประหารเซียนจะพ่ายแพ้ทั้งอย่างนี้
“ยังจะเสแสร้งแกล้งอยู่อีกหรือ อย่างไร ยังหวังให้เศษเหล็กสี่ชิ้นของเจ้าเปล่งแสงออกมาอีกครั้งหรืออย่างไร คิดอะไรอยู่!”
มังกรดำขำพรืด
ทว่า ทันทีที่สิ้นเสียงของมัน แสงกระบี่เจิดจรัสพวยพุ่งออกจากทะเลเพลิง ทะยานสู่นภา!
สีหน้ามังกรดำเปลี่ยนไป นี่มันเรื่องอันใดกัน ตบหน้ากันหรือ
เมื่อครู่มันเพิ่งกล่าวว่าสี่กระบี่ประหารเซียนไม่มีทางเปล่งแสงได้อีก ผลปรากฏว่าสี่กระบี่ประหารเซียนเปล่งแสงในพริบตาต่อมา!
“เปล่าประโยชน์ ลำพังเศษเหล็กสี่ชิ้นของเจ้า คิดว่าจะทลายวิชาเซียนของนายท่านได้หรืออย่างไร เจ้าเพ้อเจ้อเกินไปแล้ว!”
มันเอ่ยต่อ ไม่เชื่อว่าสี่กระบี่ประหารเซียนสามารถทลายวิชาเซียนของนายท่านได้
แต่พริบตาต่อมามันก็ต้องนิ่งอึ้ง ค้างอยู่ที่เดิมราวกับกลายเป็นหินไปแล้ว
ไฉนเอ่ยถึงสิ่งใดก็ได้สิ่งนั้นเล่า!
แสงกระบี่เจิดจ้า สี่กระบี่ประหารเซียนพุ่งออกจากทะเลเพลิง เชื่อมต่อเข้าด้วยกัน กวาดตวัดหนึ่งครั้ง ลบล้างทะเลเพลิงได้ในพริบตา ไม่เหลือแม้แต่ประกายไฟเล็ก ๆ!
“นะ นายท่าน คือว่า…ทั้งหมดนี้ไม่เกี่ยวกับข้า!”
มังกรดำตกใจแทบแย่ เมื่อเห็นสายตาเขียวปั๊ดของเด็กหญิงมองมาทางมัน
มันร้องไห้ มันก็คิดไม่ถึงเช่นกันว่าจะเป็นเช่นนี้ หากรู้อย่างนี้ อย่างไรมันก็ไม่ขอกล่าววาจาเยี่ยงนั้น!
“หุบปาก!”
เด็กหญิงแค่นเสียงเย็น ฟาดฝ่ามือใส่มังกรดำ เจ้าปากอีกาเดนตาย พูดอะไรเป็นอย่างนั้น พ่นน้ำลายให้น้อย ๆ หน่อยไม่ได้หรือไร
มังกรดำถูกฟาดกระเด็น เสียงกระดูกในกายหักดัง ‘เปรี๊ยะปร๊ะ’ ไม่หยุด เลือดเนื้อในร่างกายมังกรเละรวมกันเป็นหนึ่ง อย่าให้พูดเลยว่าอนาถาปานใด
ยังดีที่เด็กหญิงมิได้ต้องการปลิดชีพ มิฉะนั้นด้วยฝ่ามือนี้ มังกรดำต้องตายลงอย่างแน่นอน!
“มิใช่กระบี่เซียนธรรมดาจริงด้วย…”
เด็กหญิงพึมพำเสียงเบา เหนือความคาดหมายไปจริง ๆ สี่กระบี่ประหารเซียนสำแดงพลานุภาพได้ยิ่งใหญ่เพียงนี้ ทั้งที่อยู่ในมือผู้ฝึกตนกระจอกขอบเขตต้อยต่ำเป็นหนักหนาอย่างหยวนอี ช่างน่าทึ่งจริง ๆ
ทว่าทั้งหมดนี้ไม่ถือเป็นเรื่องใหญ่
นางยกมือเรียกธงกระดูกออกมาด้ามหนึ่ง ตัวธงนั้นยึดด้วยกระดูกยาวท่อนหนึ่ง หน้าธงสร้างจากหนังของอสูรร้ายไม่ทราบเผ่าพันธุ์ มีอักขระแปลกประหลาดถูกวาดไว้ด้วยโลหิตแดงฉาน หากพินิจอย่างละเอียด คล้ายว่าเพิ่งถูกวาดด้วยโลหิตเมื่อครู่ เลือดนั้นยังไหลรินได้อยู่!
“นี่คือธงกระดูกเซียน สร้างจากกระดูกของเซียน หนังของอสูรเซียน! วิญญาณของยอดฝีมือผู้ตายด้วยธงกระดูกเซียนถูกผนึกไว้ภายในทั้งหมด! วันนี้ให้พวกมันได้เล่นกับกระบี่สี่เล่มนี้ของเจ้าหน่อยแล้วกัน!”
นางสะบัดธงกระดูกเซียน ฟ้าดินพลันมืดมัว สายลมแห่งผีสางพัดพา เสียงครวญครางของผีดังขึ้น
นี่คือของศาสตราเซียนโบราณชิ้นหนึ่ง เลื่องชื่อในภพเซียนอย่างยิ่ง สิ่งมีชีวิตที่ตายด้วยธงกระดูกเซียนล้วนมิใช่คนไร้นาม ทั้งหมดต่างเป็นคนเก่งกาจ นางเองได้มาด้วยโอกาสบังเอิญ และเข่นฆ่าศัตรูทรงพลังไปมากด้วยธงกระดูกเซียนนี้!
ท่ามกลางธงกระดูกที่ปลิวสะบัด วิญญาณร้ายตนแล้วตนเล่าพุ่งออกมา มีทั้งวิญญาณของอสูรร้าย ทั้งวิญญาณรูปร่างมนุษย์
ทว่าวิญญาณร้ายทุกตนต่างสยดสยองเป็นที่สุด ไม่มีตนใดแตกต่างออกไป พลังที่ปะทุออกมาแกร่งกล้ากว่าวิชาเซียนที่เด็กหญิงใช้เมื่อครู่มาก!
เรียกได้ว่าเทียบไม่ได้เลย มิได้อยู่ในระดับเดียวกัน!
วิญญาณยั้วเยี้ยเต็มท้องฟ้าไปหมด ลำพังวิญญาณตนน้อย ๆ มังกรดำยังรู้สึกว่ากำจัดตนได้ง่ายดาย น่ากลัวว่าเหล่านี้คงเป็นวิญญาณเซียน และอสูรเซียนทั้งหมด!
วิญญาณร้ายมากมายตะครุบเข้ามา สี่กระบี่ประหารเซียนยังเริ่มต้านทานไม่ไหว แสงกระบี่ที่ตวัดออกไปถูกวิญญาณร้ายเหล่านี้กลืนกินในพริบตา!
ในไม่ช้า สี่กระบี่ประหารเซียนจมไปในกองวิญญาณร้าย ประกายทั้งหมดหม่นหมอง!
‘คราวนี้คงไม่มีปัญหาแล้วกระมัง’
มังกรดำพึมพำในใจ
การโจมตีของธงกระดูกเซียนในครานี้รุนแรงกว่าวิชาเซียนตั้งไม่รู้กี่เท่า สี่กระบี่ประหารเซียนทรงพลังเพียงใดก็ไม่มีทางต้านทานได้ไหว เป็นไปไม่ได้ที่สถานการณ์จะเปลี่ยนแปลง
“พี่ใหญ่เกรียงไกรทรงพลัง!”
มันตะโกนเสียงดังอีกครั้ง เอาอกเอาใจเด็กหญิง หวังจะชดเชยความผิดทั้งหลายที่มันได้ก่อก่อนหน้านี้
“เห็นหรือยัง! เมื่อศาสตราเซียนอันแท้จริงออกโรง เศษเหล็กของเจ้าก็สิ้นฤทธิ์ในบัดดล!”
มังกรดำมองหยวนอีด้วยความดูถูก “เมื่อครู่นายท่านเพียงแต่หยอกเจ้าเล่นเท่านั้น หาได้สู้เต็มกำลังไม่ ก่อนหน้านี้มดปลวกอย่างเจ้ายังมีหน้ายินดีกับตัวเอง ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงเลยจริง ๆ!”
จากนั้น มันคลี่ยิ้มกว้าง เอ่ยกับเด็กหญิงอย่างพะเน้าพะนอ “นายท่านว่าจริงหรือไม่!”
ยอดฝีมือต้องการคำชื่นชม ต้องการเสียงยินดี ตอนนี้มันกำลังทำเรื่องนั้นอยู่
‘เลียแข้งเลียขารอบนี้คงไม่มีปัญหาแล้ว ต้องเป็นที่ชอบใจของนายท่านแน่!’
มันคิดในใจอย่างเบิกบาน