รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] - บทที่ 501 พลิกฝาโลงขึ้นมา ขอดูหน่อยว่าเจ้าเป็นตัวอะไร! -บทที่ 502 ฝาโลงร่วงหล่น ได้เห็นสิ่งที่อยู่ภายใน!
- Home
- รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]
- บทที่ 501 พลิกฝาโลงขึ้นมา ขอดูหน่อยว่าเจ้าเป็นตัวอะไร! -บทที่ 502 ฝาโลงร่วงหล่น ได้เห็นสิ่งที่อยู่ภายใน!
บทที่ 501 พลิกฝาโลงขึ้นมา ขอดูหน่อยว่าเจ้าเป็นตัวอะไร!
‘เกรงว่าที่คุณชายเก็บข้าไว้ข้างกาย ก็เพื่อให้ข้าได้เป็นกำลังในการต่อกรกับสิ่งมีชีวิตนอกอาณาจักร!’
ตงฟางเวิ่นนึกย้อนกลับไปอีกครั้ง ถึงเหตุผลที่คุณชายเก็บเขาไว้ข้างกาย
ก่อนนี้เขาคิดไม่ตกมาโดยตลอด บัดนี้ถึงเริ่มมีเค้ามีโครง
นี่อย่างไร ยามนี้คุณชายเตรียมหน้าที่ไว้สำหรับเขาแล้ว!
น่ากลัวว่าคุณชายวางแผนทั้งหมดไว้แต่แรก!
“ฮ่า ๆ เข้าใจแล้ว เข้าใจแล้ว ข้าจะไปช่วยเดี๋ยวนี้!”
ตงฟางเวิ่นเอ่ยยิ้ม ๆ
“มีผู้เฒ่าเวิ่นคอยช่วย ปัญหาทั้งหมดย่อมคลี่คลายลงได้แน่!”
เซี่ยเหยียนยิ้ม มั่นใจในตัวตงฟางเวิ่นมาก
ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นผู้ที่คุณชายเลือก และวางแผนไว้แต่แรก คงมิมีสิ่งใดผิดพลาด
“ใช่แล้ว! ปัญหาเหล่านี้ล้วนมิใช่ปัญหา!”
ตงฟางเวิ่นกล่าว “กองกำลังฮวงเฉวียนสืบเสาะข้อมูลของกองกำลังภายนอกเหล่านี้มานาน รู้เรื่องของกองกำลังภายนอกลึกทีเดียว เพียงแค่พวกเราไปที่กองกำลังฮวงเฉวียน พวกเราก็จะได้ทราบสถานการณ์และตำแหน่งที่ตั้งของกองกำลังภายนอก”
เบื้องหลังของกองกำลังฮวงเฉวียนคืออาณาจักรฮวงเฉวียน
และอาณาจักรฮวงเฉวียนเป็นเหมือนกับที่กองกำลังภายนอกเข้าใจ ทำไปเพื่อดินแดนนั้นทั้งสิ้น
สำหรับอาณาจักรฮวงเฉวียน กองกำลังภายนอกเหล่านี้ถือเป็นคู่แข่งพวกมัน ด้วยเหตุนี้ อาณาจักรฮวงเฉวียนจึงลงมือล้วงข้อมูลของกองกำลังภายนอกเหล่านี้ตั้งแต่เมื่อครั้งอดีต จวบจนมีข้อมูลของกองกำลังภายนอกอยู่ในมือ
เขามิใช่สิ่งมีชีวิตจากอาณาจักรฮวงเฉวียน หากแต่เป็นสิ่งมีชีวิตในท้องที่ของอาณาจักรนี้ ถูกกองกำลังฮวงเฉวียนรับไปในภายหลัง เขามิใช่สมาชิกชั้นสูงของกองกำลังฮวงเฉวียน ไม่เคยมีข่าวสารของกองกำลังภายนอกในมือ
ข้อมูลซึ่งเกี่ยวข้องกับกองกำลังภายนอกล้วนอยู่ในมือสมาชิกระดับสูงของกองกำลังฮวงเฉวียน
“กองกำลังฮวงเฉวียนมีลู่ทางติดต่อกับภายนอกเช่นกัน พอดี เราไปผนึกเส้นทางเชื่อมต่อภายนอกในกองกำลังฮวงเฉวียนก่อน แล้วค่อยสืบเสาะสถานการณ์ของกองกำลังภายนอกจากภายในกองกำลังฮวงเฉวียน
ตงฟางเวิ่นคลี่ยิ้ม ก่อนจะเอ่ยขึ้น “ถึงแม้ข้าไม่รู้ว่าฐานหลักของกองกำลังฮวงเฉวียนอยู่ที่ใด แต่ข้ารู้ตำแหน่งตำหนักย่อยแห่งหนึ่ง พวกเราบุกเข้าไปที่ตำหนักย่อยนี้ก่อนก็ได้”
ตำแหน่งที่ตั้งของฐานหลักกองกำลังฮวงเฉวียนลึกลับเป็นที่สุด มีเพียงระดับสูงในกองกำลังฮวงเฉวียนเท่านั้นที่รู้
แม้นเขาเป็นถึงสมาชิกเครือข่ายข่าวสารขั้นห้า กระนั้นยังไม่ทราบว่าฐานหลักกองกำลังฮวงเฉวียนอยู่ที่ใด
ทว่า เป็นดั่งที่เขาว่า เขาบุกไปยังตำหนักย่อยแห่งนั้นก่อนก็ได้
นายตำหนักย่อยผู้นั้นมาจากอาณาจักรฮวงเฉวียน ถือเป็นสมาชิกระดับสูงในกองกำลังฮวงเฉวียน รู้ว่าฐานหลักของกองกำลังฮวงเฉวียนอยู่ที่ใด
“ได้!”
หลังเซี่ยเหยียนได้ฟังคำกล่าวของตงฟางเวิ่น ก็ยิ่งสบายใจขึ้นไปใหญ่
จากนั้น เซี่ยเหยียนบอกลาตงฟางเวิ่น ส่วนตงฟางเวิ่นก็เริ่มลงมือ มุ่งหน้าไปรวมตัวกับพวกผู้เฒ่าเมิ่งจี
…
ณ ตำหนักย่อยฮวงเฉวียนบนยอดเขาที่ตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยว
“ฮัดชิ้ว!”
แต่เดิมนายตำหนักย่อยสุขสบายดี แต่ทันใดนั้นกลับจามออกมา
“บัดซบ ไยข้าจึงสังหรณ์ใจไม่ดีนัก!?”
เขาเอ่ยเสียงเบา นับแต่จามครั้งนี้ อารมณ์ของเขาพลันหนักอึ้ง รู้สึกคล้ายถูกใครบางคนหมายหัว กำลังจะมีเรื่องร้ายเกิดขึ้นกับเขา!
“คงมิใช่หลี่จิ่วเต้าผู้นั้นกระมัง!?”
ใบหน้าชราของเขาคร่ำเครียด นึกถึงหลี่จิ่วเต้าขึ้นมา
“ข้าส่งตระกูลหานออกไปหมดแล้ว คงมิใช่ว่าหลี่จิ่วเต้ายังคิดบุกมาที่นี่อีกกระมัง”
เขาสบถก่นด่า ยามนี้เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับหลี่จิ่วเต้า หัวใจยังคงร้าวราน!
เริ่มจากสมาชิกเก่งกาจที่สุดแห่งเครือข่ายข่าวสารขั้นสามขั้นสี่ หนานเจี๋ยและอู๋ฉีถูกหลี่จิ่วเต้าสังหาร ต่อมา สมาชิกเครือข่ายข่าวสารขั้นห้า ตงฟางเวิ่นถูกหลี่จิ่วเต้าจับกุมตัวไว้
สุดท้าย เพื่อดับโทสะของหลี่จิ่วเต้า เขาส่งตระกูลหานซึ่งแต่เดิมต้องเป็นทาสรับใช้ให้พวกเขาไปชั่วกัปชั่วกัลป์ไปให้ ซ้ำยังตัดขาดการติดต่อทั้งหมด เช่นนี้เพราะตั้งใจยกให้หลี่จิ่วเต้า ให้เขาหายโกรธ!
กองกำลังฮวงเฉวียนของพวกเขาเสียหายอย่างหนักกับหลี่จิ่วเต้า!
“หากมิใช่เพราะแดนบรรพโกลาหล ข้าไฉนเลยต้องอดสูเยี่ยงนี้!”
สายตาเขาทอประกายดุดัน ไม่กลัวหลี่จิ่วเต้าอะไรนั่นสักนิด
แม้ว่าผู้ที่เขาส่งไปจัดการหลี่จิ่วเต้าต่างลงเอยด้วยความพ่ายแพ้ จนบัดนี้เขายังไม่ทราบตื้นลึกหนาบางของหลี่จิ่วเต้า
ทว่าหลี่จิ่วเต้าจะแข็งแกร่งได้สักปานใด?
จะต่อกรกับทั้งอาณาจักรฮวงเฉวียนของพวกเขาไหวเชียวหรือ?
เป็นไปได้อย่างไรกัน!
อย่าว่าแต่ต่อกรกับทั้งอาณาจักรฮวงเฉวียนของพวกเขาเลย ลำพังตำหนักย่อยเพียงแห่งเดียวของเขา ก็มิใช่สิ่งที่หลี่จิ่วเต้าต่อกรด้วยได้!
ตำหนักย่อยของเขามิได้มีกำลังต่ำต้อย เป็นรองเพียงฐานหลักเท่านั้น ที่นี่มียอดฝีมือมากมาย หากมิใช่ว่าฐานหลักต้องคำนึงถึงการใหญ่ ไม่ต้องการให้เขามีปัญหาไปมากกว่านี้ เขาไม่อยากรามือง่าย ๆ เช่นนี้สักนิด และไม่อยากปล่อยทั้งตระกูลหานไปง่าย ๆ ด้วย
“ถ้าหากหลี่จิ่วเต้ามาจริง พอดีเลย! มาคิดบัญชีทั้งหนี้แค้นเก่าและหนี้แค้นใหม่ในคราเดียว!”
นายตำหนักย่อยเอ่ยเสียงเย็น
ฐานหลักไม่ต้องการให้เขาสร้างปัญหา แต่ถ้าหลี่จิ่วเต้าเป็นฝ่ายมาหาเอง เช่นนั้นคงมิใช่เขาที่สร้างปัญหา
เขาเริ่มตั้งตารอให้หลี่จิ่วเต้ามาที่นี่แล้ว
ตำแหน่งตำหนักย่อยของเขาลึกลับอย่างยิ่ง สิ่งมีชีวิตที่รู้มีเพียงน้อยนิด ทว่าตงฟางเวิ่นถูกหลี่จิ่วเต้าจับกุมไว้ และหลี่จิ่วเต้ายังคลายผนึกในตัวตงฟางเวิ่นให้ด้วย คิดแล้วป่านนี้ตงฟางเวิ่นคงกลายเป็นคนของฝ่ายหลี่จิ่วเต้าไปแล้ว
และตงฟางเวิ่นรู้ตำแหน่งที่ตั้งของตำหนักย่อยนี้
“มาเถิด ให้ตงฟางเวิ่นพาเจ้ามา กล้ามา ข้าไม่มีทางปล่อยให้รอดกลับไปได้แน่!”
นายตำหนักย่อยหัวเราะเสียงเย็น ตำหนักย่อยนี้ไม่เพียงแต่มียอดฝีมืออยู่คณานับ อีกทั้งยังมีผนึกและมหาค่ายกลสถิตอยู่มากมาย แม้แต่ระดับเทียนตี้หากบุกรุกเข้ามาที่ตำหนักย่อยนี้โดยพลการ ย่อมต้องตายไม่มีที่ฝัง!
หากเป็นที่อื่น บางทีเขาอาจกังวลอยู่บ้าง ถึงอย่างไรหลี่จิ่วเต้าผู้นี้ก็ดูน่าพิศวง เดาตื้นลึกหนาบางไม่ถูก
ลำพังเรื่องที่หลี่จิ่วเต้ามีวิธีคลายผนึกในตัวตงฟางเวิ่นก็เป็นเรื่องที่พิกลอย่างยิ่ง ผนึกนั้นใช่ว่าอยากคลายก็คลายได้
เป็นไปได้สูงว่าหลี่จิ่วเต้าคือเทียนตี้ตนหนึ่ง!
ทว่าที่แห่งนี้ ในถิ่นของเขา ต่อให้หลี่จิ่วเต้าเป็นถึงเทียนตี้ก็เท่านั้น กล้ามาก็ต้องตายอยู่ที่นี่!
“แน่จริงเจ้าก็มาเลย!”
เขาหัวเราะ ไม่มีผู้ใดสามารถทำตามอำเภอใจในถิ่นของเขาได้ เพราะอย่างนั้นหลี่จิ่วเต้าก็ไม่มีทางได้กำแหง!
…
ขณะเดียวกัน หยวนอีมาอยู่บนเกาะอันเป็นที่ตั้งของโพรงมังกร
มีสี่กระบี่ประหารเซียนในมือ ครั้งนี้ไม่ว่าในโลงศพสีชาดนั้นมีสิ่งใดอยู่ นางก็ไม่หวั่น!
“พลิกฝาโลงของเจ้าออกมา ให้ข้าได้ดูหน่อยว่าเจ้าเป็นตัวอะไร!”
หยวนอีย่างกรายเข้าไปยังส่วนลึกของเกาะทีละก้าว
ระหว่างนี้ นางสั่งให้สิ่งมีชีวิตบนเกาะแห่งนี้ไปให้หมด
บนเกาะนี้มีสิ่งมีชีวิตดำรงอยู่มากมาย หลังจากนางพลิกฝาโลงสีชาดนั้นขึ้น ต้องมีสงครามใหญ่ปะทุขึ้นที่นี่แน่นอน ขืนสิ่งมีชีวิตบนเกาะนี้ไม่รีบไป เกรงว่าต้องพบเจออันตราย
“พวกเจ้าจงไปเสีย ไปยังสถานศึกษาเทียนตี้ที่จวินโจว ไปถึงแล้วเห็นว่าช่วยอะไรได้จงช่วย”
หยวนอีบอกให้สิ่งมีชีวิตเหล่านี้รุดหน้าไปที่สถานศึกษาเทียนตี้ในจวินโจว
สิ่งมีชีวิตเหล่านี้ล้วนมีความสามารถไม่ธรรมดา มีกำลังรบเหนือนักบุญขึ้นไปไม่น้อยทีเดียว ด้านสถานศึกษาเทียนตี้สามารถยืมกำลังจากสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ได้แน่
เดิมนางให้สิ่งมีชีวิตเหล่านี้อยู่ที่นี่ต่อก็เพื่อคอยเฝ้าโพรงมังกร ป้องกันมิให้คนนอกเข้าไป
ทว่าบัดนี้ไม่จำเป็นอีกต่อไป
ทุกสิ่งทุกอย่างในที่แห่งนี้จะต้องจบลง
จากนั้น นางก็พุ่งเข้าไปในโพรงมังกร!
_____________________________________________________________________________________________________________________________________________________________
บทที่ 502 ฝาโลงร่วงหล่น ได้เห็นสิ่งที่อยู่ภายใน!
“คลื่นพลังที่กระเพื่อมในนี้น่ากลัวไปหน่อย…”
หลังเข้ามาในโพรงมังกร หยวนอีรู้สึกถึงคลื่นพลังน่ากลัวซัดสาดออกจากส่วนลึกของโพรงมังกรกระแสแล้วกระแสเล่า
นี่ก็ได้เครื่องประดับกระบี่หยกบนคอนางช่วยขวางกั้นคลื่นพลังอันน่าสะพรึงนี้ไว้ ไม่อย่างนั้น ลำพังขอบเขตพลังของนาง อย่าว่าแต่ก้าวเดินต่อไปเลย บัดนี้นางคงได้ตายด้วยกระแสคลื่นพลังที่ซัดสาดเข้ามาแล้ว!
“ดูท่าคงใกล้ออกมาแล้วจริง ๆ!”
นางรู้ดีว่าคลื่นพลังน่ากลัวเหล่านี้มาจากที่ใด นี่คือคลื่นพลังที่โถมทับออกจากโลงศพสีชาด
คลื่นพลังน่าประหวั่นพรั่นพรึงเยี่ยงนี้ ดูท่าสิ่งที่อยู่ในโลงศพสีชาดใกล้ออกมาแล้วจริง ๆ!
“ยังดีที่ข้าตระหนักได้ในตอนท้ายสุด มิฉะนั้นคงสายเกินแก้…”
นางเอ่ยในใจอย่างนึกโชคดี
ตอนนี้ยังไม่ถือว่าสาย สิ่งที่อยู่ในโลงศพสีชาดยังไม่ออกมา การฆ่าล้างยังไม่เริ่มต้น
แต่หากว่าครานั้นนางตระหนักไม่ได้ จนเวลาเลยผ่านไปอีกหน่อย คงเป็นการสายจริง ๆ สิ่งที่อยู่ในโลงศพสีชาดจักออกมา การฆ่าล้างคงกลายเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงมิได้
ครืนคราน!
เวลานั้นเอง จู่ ๆ ก็มีคลื่นพลังอันสยดสยองยิ่งกว่าแผ่พุ่งออกจากส่วนลึกของโพรงมังกร โพรงมังกรถล่มในบัดดล แม้กระทั่งเกาะแห่งนี้ก็กำลังจะถล่มตามไปด้วย!
น้ำทะเลกระเพื่อมขึ้นลงราวกับถึงจุดเดือด คลื่นยักษ์ซัดสาดไม่หยุด กลืนกินท่วมท้นทุกสิ่ง!
แคร่ก!
ธรณีที่เคยสว่างไสว มืดมิดในบัดดล เมฆครึ้มปกคลุมบนฟ้า บดบังสุริยัน อสนีบาตมโหฬารอันน่าประหวั่นพรั่นพรึงมากมายฟาดลงมา เกิดเป็นภาพการณ์น่าหวาดหวั่นอย่างยิ่ง!
กระบี่หยกที่คอของหยวนอีเปล่งแสง คุ้มกันนางไว้ ป้องกันคลื่นพลังทั้งปวงจากนาง มิฉะนั้น นางคงแหลกสลายไปในพริบตา
ยังดีที่หยวนอีบอกให้สิ่งมีชีวิตบนเกาะไปจากที่นี่แล้ว มิฉะนั้นสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นไม่มีทางรอดสักตน แม้กระทั่งสิ่งมีชีวิตระดับนักบุญขึ้นไปก็เช่นกัน!
คลื่นพลังในยามนี้ อย่าว่าแต่ขอบเขตนักบุญเลย ต่อให้เป็นจ้าวสูงสุด หรือแม้แต่มหาจักรพรรดิ ก็ต้องถูกสังหารในพริบตา!
โฮก!
เสียงมังกรคำรามดังขึ้น มังกรดำมหึมาตัวหนึ่งพุ่งออกจากโพรงมังกรที่ถล่มไปแล้ว มันว่ายวนไปอย่างไร้ทิศทางในชั้นเมฆ เกล็ดสีดำเปล่งประกายเย็นเยียบชวนผวา ลมหายใจมังกรที่พ่นออกมาตามจมูกและปากนั้นแม้กระทั่งมิติผืนนี้ยังรับไม่ไหว ระเบิดแหลกเหลวเป็นแถบ ๆ
นายท่านตื่นขึ้น ในที่สุดมันก็ไม่ต้องขลุกอยู่แต่ในโพรงมังกร มันกลับมามีอิสระอีกครั้ง ซ้ำขอบเขตพลังของมันก็ฟื้นคืนกลับมาแล้วทั้งสิ้น!
ก่อนนี้ในตัวมันมีผนึก ไม่เพียงแต่ไปจากโพรงมังกรมิได้ ขอบเขตพลังในตัวพลอยได้รับผลกระทบไปด้วย มิได้อยู่ในจุดสูงสุดที่เคยอยู่
จากนั้น โลงศพสีชาดโลงหนึ่งเหินออกมา ตั้งตระหง่านอยู่บนท้องฟ้า อักขระซับซ้อนยากจะเข้าใจมากมายสลักอยู่บนนั้น อีกทั้งยังมีเปลวเพลิงสีม่วงแสนพิศวงลุกโชติอยู่รอบ ๆ น่าสะพรึงเหลือคณา!
“เจ้ายังกล้ามาอีกรึ! ฮ่า ๆ เจ้ามาได้พอดี! ข้ากับนายท่านจะได้ไม่ต้องไปหาเจ้า!”
ท่ามกลางชั้นเมฆา เนตรมังกรดำมีขนาดใหญ่กว่าแท่นบดเสียอีก มันเอ่ยขณะจ้องมองหยวนอีอย่างเย็นชา
“อย่างนั้นหรือ”
หยวนอีมีสีหน้าสงบ ปราศจากความเกรงกลัว มีสี่กระบี่ประหารเซียนในมือ ซ้ำภายในยังมีค่ายกลประหารเซียนแฝงอยู่ ไม่ว่าสิ่งที่อยู่ในโลงศพคือตัวอะไร นางก็ไม่กลัว!
“เจ้ามนุษย์เดนตาย ข้าจะกินเจ้าเข้าไปบัดเดี๋ยวนี้!”
มังกรดำเห็นใบหน้าเรียบเฉยเยี่ยงนี้ของหยวนอี โกรธเกรี้ยวเหลือแสน ปรี่เข้าไปทำร้ายหยวนอี!
ก่อนนี้มันมิใช่คู่ต่อสู้ของหยวนอี เพราะขอบเขตพลังของมันมิได้อยู่ในระดับสูงสุดของตน
ทว่าตอนนี้ไม่เหมือนกัน!
พลังของมันฟื้นคืนจนถึงระดับสูงสุดแล้ว!
หยวนอีไม่มีทางขู่มันได้อีก!
“ขออภัย ฟันเจ้ามิได้สุขภาพดีขนาดนั้น เจ้ากินข้าไม่ได้”
หยวนอีเรียกเครื่องประดับกระบี่หยกที่คอออกมา จากนั้น กระบี่หยกขยายใหญ่ตามลม กลายเป็นเล่มมหึมาในเวลาไม่นาน ราวกับเป็นกระบี่ที่ทำด้วยผืนฟ้า!
นางมิได้ใช้สี่กระบี่ประหารเซียน เพราะแค่จัดการมังกรดำยังไม่จำเป็นต้องใช้
กระบี่ประหารเซียนมีไว้จัดการกับสิ่งที่อยู่ในโลงศพสีชาด!
“ยังคิดสู้กับข้าด้วยกระบี่เส็งเคร็งเล่มนี้อีกหรือ!?”
มังกรดำขำพรืด “บัดนี้พลังของข้าฟื้นคืนระดับสูงสุดแล้ว ข้าเป็นถึงเทียนตี้ชั้นยอด เจ้าไม่มีทางกำราบข้าได้ด้วยกระบี่เส็งเคร็งเล่มนั้น!”
มันกล่าวต่อ “บัดซบ บังอาจหาว่าสุขภาพฟันข้าไม่ดี ข้าจะกัดกระบี่เส็งเคร็งของเจ้าให้พังย่อยยับเลยคอยดู!”
กระบี่หยกจู่โจม แสงกระบี่ส่องทาบทับไปทั้งปฐพี ทว่ามังกรดำหาได้หวาดหวั่นไม่ มันอ้าปากกัดเข้าไป!
พลังของมันฟื้นคืนสู่ระดับสูงสุดแล้ว ยังต้องหวาดหวั่นอันใดอีก ไม่จำเป็นต้องรู้สึกกลัวเลยสักนิด!
แคร่ก!
ทว่า หลังมันกัดลงไป ก็นิ่งค้างไปในบัดดล น้ำตามังกรพรั่งพรูลงมา!
เวรเอ๊ย!
กระบี่กระไรนี่!
มันกัดไปคำเดียว ฟันมังกรแหลกทั้งปาก!
“ข้าบอกแล้วแท้ ๆ ว่าสุขภาพฟันเจ้าไม่ดี”
หยวนอีหัวเราะเบา ๆ หากต้องต่อกรกับสิ่งที่อยู่ในโลงศพสีชาดด้วยกระบี่หยก นางไม่มีความมั่นใจเท่าใด แต่ถ้าต่อกรกับมังกรดำ นางมั่นใจเป็นอย่างยิ่ง
ต่อให้มังกรดำฟื้นพลังกลับมาถึงระดับสูงสุด เป็นกำลังรบขั้นเทียนตี้ก็ตาม
โฮก โฮก โฮก!
มังกรดำคำรามกราดเกรี้ยว มันไม่เชื่อว่าพลังของมันฟื้นคืนสู่ระดับสูงสุดแล้วยังต่อกรกับกระบี่หยกเล่มนี้ไม่ไหว!
มันเปล่งพลังเต็มสูบ ปล่อยมหาวิชาออกไปวิชาแล้ววิชาเล่า ทว่า เมื่อเผชิญกับกระบี่หยกเล่มนี้ ก็ไม่อาจแผลงฤทธิ์ใด ๆ!
กระบี่หยกกวาดล้างออกไป ประดุจสายลมสารทฤดูที่กวาดล้างใบไม้ร่วง มหาวิชาทั้งหลายแหลกเหลวในพริบตา!
ฟึ่บ!
กระบี่หยกเหินขึ้นจนอยู่เหนือมังกรดำ ตวัดออกไปใส่มังกรดำ!
ปราณกระบี่เล็งศีรษะมังกรดำ ไม่ว่ามังกรดำหนีไปที่ใดก็เปล่าประโยชน์ กระบี่เล่มนี้ต้องฟันลงไปบนศีรษะมังกรดำอย่างแน่นอน!
“นายท่านช่วยข้าด้วย!”
มังกรดำตะโกนขอความช่วยเหลือจากเจ้านายของมัน
กระบี่มังกรน่าพรั่นพรึงเกินไป ขืนฟันลงมาจริง ๆ ต่อให้มันเป็นถึงเทียนตี้ชั้นเลิศก็เท่านั้น ต้องถูกสังหารอย่างแน่นอน
มันสะท้านใจเหลือแสน นี่คือกระบี่หยกระดับใดกันแน่ เหตุไฉนถึงสยดสยองเยี่ยงนี้ ขนาดมันที่ฟื้นกำลังรบถึงขั้นเทียนตี้แล้วยังสู้มิได้ ห่างชั้นไกลโข!
ตึง!
เวลานั้น ฝาโลงสีชาดร่วงหล่น เหินมาอยู่ข้างกายมังกรดำ กีดขวางกระบี่หยกที่ฟาดฟันเข้ามา
กระบี่หยกปะทะกับฝาโลง ภาพการณ์นั้นน่ากลัวถึงขีดสุด คลื่นพลังน่าประหวั่นพรั่นพรึงมากมายระเบิดติดต่อกัน ทว่าเพียงเสี้ยววินาที ทุกสิ่งทุกอย่างในน่านน้ำทะเลแห่งนี้ถูกล้างบางไปทั้งสิ้น!
น้ำทะเลเหือดหาย ระเหยจนเกลี้ยง ก้นทะเลกลายเป็นเหวลึก ราวกับเชื่อมต่อลงไปถึงธรณี มีกองเพลิงพสุธาลุกโชนออกมา!
ฝาโลงสยดสยองเป็นที่สุด หลังปะทะกับกระบี่หยกก็ไม่ทิ้งร่องรอยแม้แต่น้อย!
จากนั้น กระบี่หยกแยกจากฝาโลง
“นายท่านตื่นขึ้นมาแล้ว หนนี้เจ้าต้องตายอย่างแน่นอน รอดูได้เลย!!!”
มังกรดำจ้องมองหยวนอีด้วยความขุ่นเคือง เอ่ยด้วยน้ำเสียงเคียดแค้น
ทว่าเสียงของมันแปร่งไป แตกต่างจากเสียงปกติของมันอย่างยิ่ง
“เลิกส่งเสียงได้แล้ว ลมออกปาก อ้อ ไม่ใช่สิ อย่างเจ้ามิใช่ลมออกปากแล้ว อย่างเจ้าเรียกว่าพายุออกปากแล้ว!” หยวนอีเอ่ย
“เจ้า!”
มังกรดำพิโรธ หยวนอีล้อเลียนที่ฟันมังกรของมันร่วงหมดปาก
อีกด้าน หยวนอีมิได้สนใจมังกรดำอีกต่อไป
นางเบนสายตาไปที่โลงศพสีชาดช้า ๆ
ฝาโลงร่วงหล่น นางมองเห็นสิ่งที่อยู่ภายในโลงศพสีชาดแล้ว!
“หืม!?”
หลังได้เห็นสิ่งที่อยู่ในโลงศพสีชาดอย่างแจ่มแจ้งแล้ว สีหน้านางเปลี่ยนไป เจือแววคาดไม่ถึง!
สิ่งที่อยู่ในโลงศพสีชาดเหนือความคาดหมายของนาง!