รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] - บทที่ 1180 ลานเล็ก ‘ผู้ลอบฟาดอิฐใส่คนอื่นลงท้ายก็เป็นฝ่ายถูกฟาดเสียเอง!’
- Home
- รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]
- บทที่ 1180 ลานเล็ก ‘ผู้ลอบฟาดอิฐใส่คนอื่นลงท้ายก็เป็นฝ่ายถูกฟาดเสียเอง!’
บทที่ 1180 ลานเล็ก ‘ผู้ลอบฟาดอิฐใส่คนอื่นลงท้ายก็เป็นฝ่ายถูกฟาดเสียเอง!’
…………….
บทที่ 1180 ลานเล็ก ‘ผู้ลอบฟาดอิฐใส่คนอื่นลงท้ายก็เป็นฝ่ายถูกฟาดเสียเอง!’
ไม่เพียงแต่ก้อนหินที่มีท่าทีดูแคลน พวกลั่วสุ่ยต่างดูแคลนกันถ้วนหน้า คนฟั่นเฟือนเพิ่งรู้หรือ พวกเขารู้กันนานแล้วว่าทุกการกระทำของคุณชายล้วนไม่ธรรมดา มีนัยยะแฝงไว้ พวกเขาผ่านมามากแล้ว
ถูกดูแคลนถึงเพียงนี้คนฟั่นเฟือนไม่สบอารมณ์อย่างมาก เขานั้นแข็งแกร่งปานใด เคยถูกเล่าขานว่าเป็นผู้ที่มีโอกาสเป็นผู้ชนะสุดท้ายสูงสุด
แม้ว่าบัดนี้ดูแล้วเป็นเพียงเรื่องตลกเท่านั้น
กระนั้นก็สะท้อนให้เห็นถึงความทรงพลังของเขา!
ทว่าเขากลับถูกหินก้อนหนึ่งดูแคลน ให้เขาทนไหวได้อย่างไร มือหนึ่งลากก้อนหินเข้ามาขย้ำ!
“เจ้ายังไม่สมบูรณ์ ข้าจะสร้างร่างหินให้เจ้าใหม่ ให้เจ้าสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ!”
เขาขบกรามแน่นพลางกล่าว เหลาขอบมุมก้อนหินออกไป ท่าทางอยากช่วยสร้างร่างใหม่ให้ก้อนหิน
ก้อนหินเดือดดาล
แต่มันฉลาดขึ้นแล้ว ปิดปากไม่ส่งเสียง ไม่ได้ลองดีกับคนฟั่นเฟือนอีก
ถึงอย่างไรรู้รักษาตัวรอดก็เป็นยอดดี มันในยามนี้ไม่ใช่คู่มือของคนฟั่นเฟือน
‘ไอ้ระยำ เรื่องนี้ไม่จบเท่านี้แน่ รอให้คุณชายกลั่นสุดยอดลูกกลอนบำรุงสำเร็จเมื่อใด ความแข็งแกร่งของข้าติดอันดับแล้วจะเล่นงานเจ้าเป็นคนแรก!’
มันก่นด่าในใจ
รอให้มันแข็งแกร่งขึ้นเมื่อใด มันก็จะช่วยสร้างร่างใหม่ให้คนฟั่นเฟือนเช่นกัน ช่วยจัดแต่ง ‘ขอบมุม’ อย่างเช่นตัดขาที่สามของคนฟั่นเฟือน ถึงอย่างไรชีวิตที่ไร้ซึ่งตัณหาถึงจะเป็นชีวิตที่สมบูรณ์แบบ!
อีกด้าน ฉินอี๋อิน ธนูเซวียนหยวน พู่กันต่างรับรู้ถึงความผิดปกติของ ‘จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลง’
“เจ้านี่เป็นตัวปลอม!”
ฉินอี๋อินสื่อสารกับธนูเซวียนหยวนและพู่กันอย่างรวดเร็ว มองการปลอมตัวของหานว่านเชียนออกทะลุปรุโปร่ง
พวกมันในยามนี้แข็งแกร่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หากเป็นในอดีต พวกมันไม่มีทางมองร่างแยกของหานว่านเชียนออก
“นี่หรือศึกใหญ่อันแท้จริง”
พู่กันสะท้อนใจ “พวกเราเคยคิดว่าศึกใหญ่ระหว่างเหล่าจ้าวแดนพิสุทธิ์เป็นศึกสุดท้าย แท้จริงแล้วหาใช่ไม่ ทั้งหมดเป็นเพียงการวางหมากของคุณชาย! ผู้ที่คุณชายตั้งใจต่อกรด้วยจริง ๆ คือวิหารโบราณลึกลับ!”
หวนนึกถึงเมื่อก่อน ภาพที่พวกมันรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับหลี่จิ่วเต้ายังชัดเจนแจ่มแจ้ง นั่นเป็นศึกอันน่าเวทนาเหลือแสน พวกมันร่วมต่อสู้ข้างกายหลี่จิ่วเต้ากับเหล่าจ้าวแดนพิสุทธิ์ถึงที่สุด ลงท้ายก็พ่ายแพ้ หายไปพร้อมหลี่จิ่วเต้า
ต่อมา พวกมันคืนสภาพในเมืองชิงซาน ติดตามหลี่จิ่วเต้ามาจวบจนบัดนี้
ถึงตอนนี้พวกมันถึงเข้าใจอย่างแท้จริงว่าเหล่าจ้าวแดนพิสุทธิ์หาได้สลักสำคัญ มิใช่ศัตรูตัวจริงของหลี่จิ่วเต้า ผู้ที่หลี่จิ่วเต้าตั้งใจต่อกรด้วยจริง ๆ คือวิหารโบราณลึกลับ!
“ปิตาจารย์หลี่ที่ว่าเป็นเพียงจิตเสี้ยวหนึ่งของคุณชาย ร่างแยกร่างหนึ่ง…”
พู่กันเอ่ย บัดนี้เพิ่งได้ประจักษ์ถึงความกล้าแกร่งน่าพรั่นพรึงของหลี่จิ่วเต้าจริง ๆ ปิตาจารย์หลี่หาใช่ร่างต้น ร่างต้นคือหลี่จิ่วเต้า
“เวลานั้น คุณชายคงทราบถึงสถานการณ์ของพวก ‘ตัวแปรผิดแผก’ แล้ว ถึงได้แกล้งพ่ายแพ้ให้กับเหล่าจ้าวแดนพิสุทธิ์ และเพื่อให้เหล่าจ้าวแดนพิสุทธิ์ ‘ด้านชา’ ถึงอย่างไรหากคุณชายแสดงความไร้เทียมทานยิ่งใหญ่แต่แรกต้องถูกบรรดา ‘ตัวแปรผิดแผก’ หมายหัวแน่!”
พู่กันกล่าวต่อ “ในช่วงเวลาที่พ่ายแพ้ คุณชายแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ไร้เทียมทานในใต้หล้าอย่างแท้จริง เพราะเหตุนี้คุณชายถึงก้าวออกมา ไม่ได้ปิดบังอันใดอีก ไม่ต้องกลัวเกรงศัตรูคนใด! อนิจจา ‘ตัวแปรผิดแผก’ ไม่ได้ตระหนักถึงเรื่องนี้ ยังหมายหัวคุณชายอยู่!”
“หมอนี่มาคลุกคลีอยู่ข้างกายคุณชายเพื่ออันใด”
ธนูเซวียนหยวนเอ่ย “แต่ไม่ว่าอย่างไรที่หมอนี่มาอยู่ข้างกายคุณชายต้องไม่ประสงค์ดีแน่ พวกเราควรต้องรอบคอบให้มาก อย่าปล่อยให้เขาได้โอกาส!”
“เรื่องนั้นแน่นอน!”
ฉินอี๋อินตอบ
…
อีกด้าน เยว่อู๋หมิงมาหาสือเฟิง ตัดสินใจกำราบสือเฟิงแล้วปลอมตัวเป็นเขา
“ท่านพี่ มาดื่มแกงได้แล้ว”
ภายในนิกายอวี้ซวี ฉินซินยกแกงร้อนกรุ่นถ้วยหนึ่งมาและเอ่ยกับสือเฟิงยิ้ม ๆ
“น้องหญิง จำเป็นด้วยหรือ?!”
สือเฟิงไม่รู้สึกดีใจสักนิด หลังได้เห็นแกงถ้วยนี้ใบหน้าพลันห่อเหี่ยวลง
นี่ไม่ใช่แกงชั้นดีอะไร เขารู้ดีว่านี่คือแกงอันใด เป็นแกง…บำรุงสุดยอดบางอย่าง ช่วงนี้ฉินซินมีความต้องการด้านนั้นสูงจนชวนงง หยุดไม่ได้เลย!
“แน่นอนว่าจำเป็น!”
ฉินซินกล่าว “ไม่ใช่ข้าอยากว่าท่าน แต่ช่วงนี้ท่านทำได้แย่ลงเรื่อย ๆ!”
ไม่ให้แย่อย่างไรไหว?!
สือเฟิงอยากร้องไห้ หนึ่งเดือนเต็มแล้วที่เขาไม่ได้ลงจากเตียง ถูกฉินซินย่ำยีทั้งเช้าทั้งเย็น เป็นใครก็ทนไม่ไหว ยามนี้ขาสองข้างของเขาอ่อนยวบ เดินไม่คล่องด้วยซ้ำ
“ท่านพี่ รีบดื่มเข้าเถิด ดื่มแกงนี้แล้วจะดีเอง นี่เป็นแกงบำรุงสุดยอดที่ข้าขอมาจากต้าเต๋อ บำรุงได้ดียิ่ง!”
ฉินซินเอ่ยยิ้ม ๆ “ดื่มแล้วท่านพี่จักผงาดอีกครา องอาจดังวันวาน!”
ผงาดอีกครา องอาจดังวันวานหมายความว่าอย่างไร?
พูดราวกับว่าเขาแก่จนทำอะไรไม่ไหว!
เขากำลังอยู่ในวัยกำหนัดรู้หรือไม่!
แต่ต้องยอมรับว่าเขาในยามนี้อ่อนล้าจนแทบไม่ไหว ไม่อาจเทียบได้กับเมื่อก่อน
“ไม่ดื่มได้หรือไม่”
สือเฟิงถามหน้าขมขื่น
เขาไม่อยาก ‘ขุดหัวไชเท้า’ อีกแล้ว อยากพักผ่อนบ้าง
“ท่านคิดว่าอย่างไร!”
ฉินซินถลึงตาใส่สือเฟิง เอ่ยเสียงเหี้ยมเกรียม “แน่นอนว่าไม่ได้!”
จากนั้นนางกรอกแกงใส่ปากสือเฟิง
“น่าสงสารจริง!”
ในมุมลับ เยว่อู๋หมิงยังทนดูไม่ไหว ว่ากันว่าเมื่อถึงอายุหนึ่ง สตรีจะดุดันราวหมาป่าดุจพยัคฆ์ วาจานี้หาได้เกินจริงไม่ ฉินซินในยามนี้อยู่ในขั้นดุดันราวหมาป่าดุจพยัคฆ์แล้วอย่างเห็นได้ชัด!
“พอเถิด ข้าจะช่วยให้เจ้าหลุดพ้น ให้เจ้าได้พักสักระยะเอง!”
เขาถือก้อนอิฐในมือเตรียมลงมือ
ทว่าเขาไม่ทันได้ลงมือก็ถูกฟาดเสียก่อน!
เสียงดังตึง ท้ายทอยเขาถูกฟาดอย่างแรง เจ็บจนใบหน้าเหยเก ร้องครวญครางไม่หยุด ร่วงออกจากห้วงมิติ!
“เกิดอะไรขึ้น!”
ท้ายทอยของเขาร้าวออก มันสมองสีขาวหกรดเต็มพื้น เจ็บจนหน้าตารวดร้าว
ทว่าเทียบกับบาดแผลที่ท้ายทอย บาดแผลในใจเขารุนแรงยิ่งกว่า!
นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านตลบหลังลอบฟาดผู้อื่นบ่อย ๆ วันนี้เขากลับถูกตลบหลังลอบฟาดเสียเอง?!
อย่าให้เอ่ยเลยว่าความรู้สึกนั้นชอกช้ำปานใด!
“เจ้าเป็นใคร!”
สือเฟิงและฉินซินตกใจกับเยว่อู๋หมิงที่จู่ ๆ ก็ร่วงออกมา ตั้งท่าระแวงขึ้นมาทันที
ในตัวพวกเขามีประกายเพชรสาดส่อง ของขวัญวันแต่งงานที่หลี่จิ่วเต้ามอบให้พวกเขาถูกพวกเขาปลุกพลังขึ้นมาเต็มที่
“ปล่อยเขาไปเถิด ให้โอกาสบุรุษผู้นี้ได้พักหายใจบ้าง เจ้าควรรู้ไว้ว่าบุรุษที่ได้พักเอาแรงแล้วจะดุดันยิ่งขึ้น!”
เยว่อู๋หมิงมองฉินซินพลางเอ่ย
จากนั้นร่างของเขาหายไปจากที่นี่ ไม่ได้หยุดยั้งแต่อย่างใด
เขากล้าหยุดยั้งที่ไหน มีผู้ที่โหดเหี้ยมยิ่งกว่าหมายหัวเขาในมุมมืด ขืนยังไม่ไปคงไปไม่ได้แล้ว!
“ใช่แล้ว ที่เขาว่ามาไม่ผิด บุรุษนั้นต้องพักเอาแรงบ้าง ให้ทำต่อไปเรื่อย ๆ ไม่ไหว หาไม่แล้วไม่ว่าจะเป็นยาบำรุงชั้นดีเพียงใดก็ไร้ประโยชน์ ภายหน้าต้องใช้งานไม่ได้อีกแน่”
เสียงของลานเล็กดังขึ้นเอ่ยกับฉินซิน ก่อนจะไล่ตามเยว่อู๋หมิงไปอย่างรวดเร็ว
“หา!”
ฉินซินแดงก่ำไปทั้งตัว อะไรกัน ก่อนนี้มีเยว่อู๋หมิง ต่อมามีลานเล็ก ซ้ำยังพูดเหมือนกันทั้งคู่ นี่เรื่องระหว่างนางกับสือเฟิงถูกผู้อื่นได้ยินหมดแล้วหรือ?!
“อะไรกัน! พวกเราอยู่กันในห้องดี ๆ พวกเจ้าโผล่มากะทันหันแล้วยังลอบฟังบทสนทนาของเราอีก!”
นางโกรธเกรี้ยว นี่มันอะไรกัน อยู่ในห้องตัวเองยังไม่ปลอดภัยอีกหรือ!
สือเฟิงลอบยินดีในใจ เรื่องอื่นไม่เท่าไหร่ แต่เขาน่าจะหนีแกงบำรุงที่ฉินซินต้มให้เขาพ้นแล้ว
ทว่าเขาดีใจเกินไปจนความยินดีนั้นระบายอยู่บนใบหน้า รอยยิ้มที่เผยอออกมาโดยไม่รู้ตัวถูกฉินซินเห็นเข้า
“ท่านยิ้มอะไร!”
ฉินซินบิดหูสือเฟิงขึ้นมาทันที เอ่ยด้วยน้ำเสียงดุดัน “ไป ไปต้มแกงบำรุงสุดยอดกับข้า! ข้าเตรียมสมุนไพรไว้อีกหลายขนาน!”
“หา ต้องทำอีกหรือ” สือเฟิงแทบร่ำไห้ออกมา
“แน่นอน!”
ฉินซินเอ่ย “พวกเขาล่วงรู้เรื่องนี้แล้ว ชื่อเสียงของข้าป่นปี้ ขืนไม่ทำต่อข้าไม่ขาดทุนแย่หรือ!”
นางลากสือเฟิงไปต้มแกงบำรุงด้วยกัน
อีกด้าน เยว่อู๋หมิงไม่กล้าหยุดยั้งแม้เสี้ยวลมหายใจ ระเบิดพลังในกายเต็มที่ หนีสุดความสามารถ
ทักษะการอำพรางตนของเขาเก่งกล้าปานใด รังแกร่างแยกหานว่านเชียนจนไม่อาจพลิกสถานการณ์ได้อีก อย่างไรก็หาร่องรอยเขาไม่เจอ สุดท้ายเขากลับถูกตลบหลังทันทีทันใด เห็นได้ชัดว่าผู้ที่ลอบฟาดเขาทรงพลังน่าพรั่นพรึงยิ่งกว่า!
อนิจจา เขาหนีไม่พ้น ถูกฟาดอีกครั้งระหว่างทาง!
เสียงดังตึง ศีรษะของเขาแทบเละ เลือดสาดกระเซ็น ร่วงลงไปจากห้วงมิติอีกครา!
“ใครกัน!”
เขาบันดาลโทสะ ดวงตาเต็มไปด้วยโทสะ
ตอนนี้ ในที่สุดเขาก็รู้ซึ้งแล้วว่าการถูกลอบฟาดเป็นเรื่องเจ็บปวดเพียงใด เขาอยากลากคอผู้ที่ตลบหลังเขาออกมาเฉือดสักพันทีหมื่นที ถลกหลังขอดเอ็น แล้วนำไปทอดกระทะนัก!
ตึง!
ลานเล็กมีปฏิกิริยาตอบกลับ ฟาดศีรษะเยว่อู๋หมิงหลายคราจนท้ายที่สุดศีรษะก็แหลกเหลว!
“นี่เจ้า…ใช้กระโถนหรือ?!”
เยว่อู๋หมิงยังไม่ตาย สร้างศีรษะใหม่ออกมา โกรธจนตัวสั่นไปหมด
เขาแทบเสียสติแล้วจริง ๆ อีกฝ่ายไม่ได้ใช้อิฐฟาดเขา หากแต่ใช้กระโถน ในที่สุดเขาก็มองเห็นแล้ว!
มิน่าเขาถึงได้กลิ่นแปลก ๆ เป็นระลอก!
บัดนี้คิดแล้วใช่กลิ่นแปลก ๆ ที่ไหน กลิ่นคาวปัสสาวะชัด ๆ!
เขาพะอืดพะอมอยากอ้วกนัก นี่เขาถูกกระโถนฟาดตั้งหลายทีเชียวหรือ แค่คิดก็แทบทนไม่ไหว!
“ผู้ลอบฟาดอิฐใส่คนอื่นลงท้ายก็เป็นฝ่ายถูกฟาดเสียเอง!”
เสียงของลานเล็กดังขึ้น “เจ้าควรสำนึกไว้แต่แรกแล้ว!”
“ไป!”
เยว่อู๋หมิงไม่ได้รีรอ ไม่ได้ต่อสู้ การปะทะซึ่งหน้าไม่ได้จุดแข็งของเขา จุดแข็งของเขาคือตลบหลังลอบฟาด!
ทว่าฝีมืออำพรางตนของเขาไม่ได้การแล้วอย่างเห็นได้ชัด ไม่เหลือที่ซ่อนเมื่ออยู่ต่อหน้าลานเล็ก เป็นผลให้เขาหมดความมั่นใจ ต้องการเพียงรีบหนีไปจากที่นี่
“มาแล้วก็อย่าไปไหนอีกเลย!”
ลานเล็กยิ้มเย็น เยว่อู๋หมิงมายังอาณาจักรนี้แล้วยังลงมือกับสือเฟิง เห็นได้ชัดว่าพุ่งเป้าไปที่คุณชาย มันไม่ยอมปล่อยเยว่อู๋หมิงไปแน่ ต้องสกัดเยว่อู๋หมิงไว้ที่นี่!
ตู้ม!
ห้วงมิติแหลกลาญ พลังมหาศาลโถมทับไปทั่วฟ้าดิน ลานเล็กปิดผนึกปฐพีผืนนี้ไว้ไม่ให้เยว่อู๋หมิงหนี
เสียงดังตึง เยว่อู๋หมิงชนเข้ากับพลังผนึก สมองแตกร้าว ดาวเต็มหัว
ทว่าเพียงไม่นานเขาก็ฟื้นสภาพ มุดเข้าไปในอิฐที่มือ แล้วพุ่งออกไปข้างนอก!
อิฐก้อนนี้ไม่ธรรดาอย่างแท้จริง ถือเป็นยอดศาสตราในยอดศาสตรา ด้วยแรงกระแทกจากมัน พลังที่ลานเล็กใช้ผนึกปฐพีแยกออก!
มิหนำซ้ำมันยังอำพรางตนได้ในเสี้ยวลมหายใจ กลบเกลื่อนร่องรอยทุกอย่าง แม้แต่ลานเล็กยังเสียแรงสัมผัสจากอิฐก้อนนี้ไปชั่วขณะ!
“เก่งกาจถึงเพียงนี้เชียว!?”
ลานเล็กตะลึง คาดไม่ถึงจริง ๆ อิฐอันไม่สะดุดตาในมือเยว่อู๋หมิงทรงพลังปานนี้เชียวหรือ!
“ทว่าเปล่าประโยชน์!”
ลานเล็กแค่นยิ้ม บัดนี้มันเก่งกล้าสามารถถึงขีดสุด มันเอ่ยร่างออกมา หลอมรวมเป็นร่างมนุษย์ ผมสีเงินสยาย หล่อเหลาสะกดใจ
นับแต่เกิดเรื่องคราวก่อน มันก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างพลิกผัน พลังมหาศาลบางอย่างจุติลงตัวมัน ช่วยให้มันได้ครอบครองกำลังรบเกินจินตนาการ!
มันย่อมรู้ดีว่าพลังที่ว่านั้นแท้จริงแล้วมาจากคุณชาย ถึงแม้มันไม่เข้าใจว่าเกิดอันใดขึ้น แต่หลังคุณชายกล่าวว่าไม่อยากให้เกิดเรื่องกับลานเล็กอีก มันก็แข็งแกร่งขึ้นทันตา พลังไร้ที่สิ้นสุดหลั่งไหลเข้ามาในตัวมัน!
“เจอตัวแล้ว!”
มันคลี่แผ่จิตสัมผัส เล็งเป้าไปที่อิฐก้อนนั้นได้ในบัดดล
อิฐก้อนนั้นไม่ธรรมดาอย่างแท้จริง เพียงครู่เดียวก็ข้ามไปแล้วหลายระบบดวงดาว
ทว่ามันก็ยังหนีไม่พ้น ถูกลานเล็กเล็งเป้า จากนั้นลานเล็กจุติไปในชั่วพริบตา พลังน่าสะพรึงถักทอเป็นตาข่ายเข้าครอบอิฐก้อนนั้น
“อะไรกัน!”
ภายในอิฐก้อนนั้น เยว่อู๋หมิงอุทานเสียงหลง ไม่อยากเชื่อเลยว่าทั้งหมดนี้คือเรื่องจริง!
วิชาอำพรางของตัวเขาเองนับว่ากล้าแกร่งพอแล้ว แต่เมื่อเทียบกับก้อนอิฐก็ยังห่างชั้นไกลโข
เพราะอย่างนั้นเขาถึงมุดเข้าไปในก้อนอิฐ หมายจะยืมฝีมืออำพรางของก้อนอิฐในการหนี
แต่แล้วกลับถูกจับได้และไล่ตามมาทัน ให้เขาเชื่อได้อย่างไร?!
“หลี่จิ่วเต้าทรงพลังถึงเพียงนี้เชียวหรือ”
ดวงวิญญาณของเขาสั่นสะท้าน ชาวาบไปทั้งศีรษะ รู้สึกว่าผู้ที่ลอบลงมือกับเขาเป็นคนของฝ่ายหลี่จิ่วเต้า ถึงอย่างไรหมอนี่ก็มาจากอาณาจักรที่หลี่จิ่วเต้าอยู่
“ไม่สิ อาจเป็น ‘ตัวแปรผิดแผก’ อื่น ๆ ที่จับข้าได้ยามจับตามองหลี่จิ่วเต้า!”
เขาคิดต่อ
ทว่าไม่ว่าแบบไหนก็เป็นสถานการณ์ที่ไม่ดีต่อเขาอย่างมาก ผู้ที่ลงมือกับเขาน่าพรั่นพรึงเกินไป หนนี้เขาอาจต้องเสียท่าอยู่ที่นี่!
ทว่าเรื่องที่เหนือความคาดหมายคือพลังสยดสยองมวลหนึ่งพุ่งออกจากก้อนอิฐ บดขยี้พลังที่ถักทอเป็นตาข่ายและบุกออกมา!
“พลังอะไรกัน?!”
ตัวเขาเองยังตะลึง คิดไม่ถึงว่าในก้อนอิฐมีพลังเช่นนี้อยู่ด้วย!
นี่มันเป็นไปได้อย่างไร
เขาศึกษาก้อนอิฐมาเนิ่นนาน ก่อนนี้กลับไม่รู้เลยว่ามีพลังเช่นนี้อยู่ในก้อนอิฐ?!
ตู้ม!
พลังมวลนี้ดุดันเหลือคณา ไม่ได้อาศัยโอกาสนี้หนี หากแต่ฟาดอิฐใส่ลานเล็ก!
ลานเล็กผมเงินคิดไม่ถึงเช่นกัน แต่เพียงไม่นานมันก็ตั้งสติได้ รีดเร้นพลังกล้าแกร่งปะทะดุเดือดกับก้อนอิฐ!
ภาพการณ์น่าพรั่นพรึงปรากฏออกมาไม่หยุด เอกภพนอกอาณาจักรระเบิดแหลกลาญราบคาบ คิ้วของลานเล็กผมเงินขมวดหากันมากขึ้นเรื่อย ๆ พลังที่ปะทุออกจากก้อนอิฐในคราวนี้ดุดันอย่างแท้จริง แม้แต่มันยังเริ่มสู้ไม่ไหว ค่อย ๆ เป็นฝ่ายเสียเปรียบ!
เรื่องนี้ผิดคาดมันอย่างยิ่ง!
…………….