รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] - บทที่ 1172 หลี่จิ่วเต้า ‘วางใจได้ เขาหนีไม่พ้น!’
- Home
- รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]
- บทที่ 1172 หลี่จิ่วเต้า ‘วางใจได้ เขาหนีไม่พ้น!’
บทที่ 1172 หลี่จิ่วเต้า ‘วางใจได้ เขาหนีไม่พ้น!’
…………….
บทที่ 1172 หลี่จิ่วเต้า ‘วางใจได้ เขาหนีไม่พ้น!’
ตู้ม!
ลำแสงพุ่งตรงออกจากร่างเฒ่าเมามายไปถึงยังด้านนอกจักรวาลดวงดารา เข้าปะทะกับจั่วเหยียน
ภายในลำแสงมีร่างหนึ่งถูกห่อหุ้มเอาไว้ นั่นคือร่างสองของเฒ่าเมามาย ครั้งนี้เฒ่าเมามายโกรธอย่างยิ่ง พยายามอย่างเต็มที่เพื่อสังหารจั่วเหยียน แต่ยังคำนึงถึงฐานะของตนเอง การลงไปต่อสู้กับจั่วเหยียนนับว่าเสียเกียรติ จึงใช้ร่างสองที่ผ่านการหล่อหลอมจากเขามานับไม่ถ้วน
ร่างสองทรงพลังอย่างถึงที่สุด ครอบครองพลังอันไม่อาจจินตนาการได้ เขาคิดสังหารจั่วเหยียนจริง ๆ ไม่เช่นนั้นคงไม่ใช้ร่างสองออกมา
ขณะเดียวกัน ร่างต้นของเขาหันไปทางจวินอี ภายในดวงตามีไฟแปลกประหลาดสั่นไหว ทางด้านจวินอีพลันเกิดเปลวเพลิงลุกไหม้ต้องการแผดเผาจวินอีให้เป็นเถ้าถ่าน
เมื่อครู่จวินอีเองก็สบประมาทเหยียดหยามเขา ทำให้เขาไม่อาจทนรับได้ คิดสังหารอีกฝ่ายเช่นกัน
บ่าวรับใช้ตัวจ้อยกลับกล้าไม่เคารพเขา สมควรถูกสังหาร!
แต่พริบตาต่อมา สีหน้าของเขาพลันแปรเปลี่ยนเป็นไม่น่าดูเป็นอย่างมาก กลายเป็นสีขี้เถ้าดำคล้ำเหมือนก้นหม้อ
กระทั่งจวินอีเขายังสังหารไม่ได้?!
เพลิงแปลกประหลาดลุกโหม น่าสะพรึงกลัวอย่างถึงที่สุด เพลิงแค่เพียงกลุ่มเล็กก็แผดเผาทั้งดินแดนพิสุทธิ์ได้แล้ว ทว่าร่างของจวินอีท่ามกลางเพลิงแปลกประหลาดกลับไม่เกิดเรื่องอันใด เส้นผมสักเส้นยังไม่ไหม้!
เฒ่าเมามายใกล้เป็นบ้าแล้ว นี่มันอะไรกัน กระทั่งบ่าวรับใช้เหตุใดจึงเปลืองแรงมากเพียงนี้?
ก่อนหน้ามีจั่วเหยียน ตอนนี้เพิ่มจวินอีด้วย!
“ตาเฒ่า เจ้าทำสิ่งใดอยู่? ยังคิดสังหารข้าหรือ? อย่าได้ทำให้ข้าขบขัน สู้ประหยัดแรงเอาไว้ มุ่งความสนใจไปต่อสู้กับจั่วเหยียนเสียดีกว่า”
จวินอีหัวเราะ
เขามีเข็มทิศล่าสมบัติกับกระบี่ใบไม้แห้งเหี่ยวอยู่กับตัว เฒ่าเมามายยังคิดเผาเขาอย่างนั้นหรือ?!
อีกด้านหนึ่ง ร่างสองของเฒ่าเมามายเองก็พ่ายแพ้ในการต่อสู้กับจั่วเหยียน!
ร่างสองของเขาครอบครองพลังและผลวิถีอันน่าสะพรึงกลัวอย่างถึงที่สุดเอาไว้ การสังหารศัตรูขั้นสามสิบขอบเขตอัครเป็นเรื่องง่ายดายยิ่ง เพียงยกมือก็ทำได้
แต่ในการต่อสู้กับจั่วเหยียน เขากลับพ่ายแพ้ ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ!
ร่างสองของเขาใช้มหาวิชาน่าสะพรึงกลัวมากมายออกมา กลับใช้การไม่ได้ผลแต่อย่างใด ภายใต้แสงเจิดจ้าของกระบี่ฉุนจวิน ทั้งหมดล้วนถูกทำลายสิ้น!
สีหน้าร่างเดิมของเขาพลันไม่น่าดูยิ่งกว่าเดิม ไม่ใช่แล้ว หรือว่ากระทั่งบ่าวรับใช้ข้างกายหลี่จิ่วเต้าเขายังไม่อาจจัดการได้ ไม่ใช่คู่มือแต่อย่างใด?!
พริบตานั้นภายในใจของเขาสับสนอลม่าน เกิดความรู้สึกไม่ดีทุกประเภท บ่าวรับใช้ข้างกายหลี่จิ่วเต้ายังยากต่อการรับมือเพียงนี้ เขายังจะจัดการหลี่จิ่วเต้าได้อีกหรือ?
เห็นได้ชัดว่า…ไม่น่าเป็นไปได้!
ไม่ต้องสงสัยเลย หลี่จิ่วเต้าจะต้องแข็งแกร่งน่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่านี้!
ไม่ต้องกล่าวเลยว่าตอนนี้เขาเสียใจมากเพียงใด หากรู้ตั้งแต่แรก พูดอย่างไรเขาก็คงไม่มาที่นี่เช่นนี้!
ตอนนี้เป็นอย่างไร เกรงว่าเขาคิดจากไปก็ไม่อาจทำได้!
“อย่าโอหัง ตอนนี้ข้าจะสังหารเจ้า!”
ร่างเดิมของเขาเคลื่อนไหว ปรากฏขึ้นบนจักรวาลดวงดาราภายนอกดินแดนทันที คิดร่วมมือกับร่างสองสังหารจั่วเหยียนให้ได้
แต่พริบตาต่อมา ร่างของเขาพลันอันตรธานไป ร่องรอยทั้งหมดเลือนหาย!
ร่างเดิมของเขา…หนีไปแล้ว!
จั่วเหยียนถือกระบี่ฉุนจวินทรงพลังไร้เทียมทาน ไฉนเขาจะยังกล้าสู้ ไม่หนีก็แปลกแล้ว
อีกทั้ง เจ้าของที่แท้จริงอย่างหลี่จิ่วเต้าก็ยังไม่ได้ลงมือเลยด้วยซ้ำ!
หากไม่หนี รอจนหลี่จิ่วเต้าลงมือ เกรงว่าเขาต้องเผขิญกับเคราะห์ร้าย ทิ้งชีวิตเอาไว้ที่นี่เป็นแน่!
พรึ่บ!
ขณะนั้นเอง จั่วเหยียนถือกระบี่ฉุนจวินฟันออกไป ตัดร่างสองเฒ่าเมามายออกเป็นชิ้น ๆ ทำลายสิ้น
“หนีไปแล้ว?!”
สีหน้าของเขามืดครึ้ม ร่างต้นของเฒ่าเมามายหายไปแล้ว ไร้ซึ่งร่องรอยอันใด
จากนั้นร่างของเขาอันตรธานจากกลางท้องฟ้า กลับไปหาหลี่จิ่วเต้า
“คุณชาย เป็นความผิดของข้าที่ไม่ทันได้ระวัง ปล่อยให้เฒ่าเมามายสมควรตายหนีไปได้!”
เขาก้มศีรษะลงด้วยความละอายใจอย่างยิ่ง คุณชายส่งกระบี่ฉุนจวินให้ ทว่าเขายังคงล้มเหลวในการสังหารเฒ่าเมามาย ปล่อยให้อีกฝ่ายหนีไปได้
“ไม่เป็นไร เขาหนีไม่พ้นหรอก”
หลี่จิ่วเต้าเอ่ยสบาย ๆ “ข้าเตรียมการเอาไว้แล้ว กลัวว่าเขาจะหนีไปตั้งแต่แรก ดังนั้นจึงใช้กระจกวิญญาณโบราณส่องสะท้อนลมหายใจและวิญญาณของเขาเอาไว้ เจ้านำกระจกวิญญาณโบราณไปด้วยย่อมตามหาเขาพบ”
กล่าวจบก็ส่งกระจกวิญญาณโบราณให้จั่วเหยียน “เจ้าไปเถิด นำตัวเขากลับมา”
“คุณชายวางใจได้ ข้าสาบานว่าจะทำงานนี้ให้สำเร็จ!”
จั่วเหยียนรับกระจกวิญญาณโบราณมา จากนั้นก็ตบหน้าอกตนเองอย่างรับคำมั่น
เขาจากไปพร้อมกระจกวิญญาณโบราณ
“คุณชายช่วยข้าด้วยเถิด ข้ายังถูกขังเอาไว้ด้านใน!”
คนบ้าตะโกนร่ำไห้ออกมาจากถ้วยสุรา
เขารู้สึกว่าตนเองถูกมองข้าม จนถึงตอนนี้หลี่จิ่วเต้ายังคงไม่ช่วยเหลือเขาจนต้องติดอยู่ในถ้วยสุรา ไม่อาจออกมาได้
“อ๊ะ ขออภัย ข้าลืมเจ้าไปเลย!”
หลี่จิ่วเต้าบอกให้จวินอีรีบช่วยคนบ้าออกมา
จวินอียกกระบี่ใบไม้แห้งเหี่ยวขึ้นฟัน ทำลายถ้วยสุราลงในพริบตา ปลดปล่อยคนบ้าออกมาด้านนอก
ขณะเดียวกัน เฒ่าเมามายที่หนีไปไม่กล้ารั้งอยู่ต่อที่ใด กลัวหลี่จิ่วเต้าจะไล่ตามสังหาร
อีกทั้งเขายังติดต่อกับจ้าวแดนฝังศพอย่างรวดเร็ว
จ้าวแดนฝังศพเคยทิ้งศาสตราสื่อสารเอาไว้ให้ แต่ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยใช้งานมาก่อน
“จ้าวแดนฝังศพช่วยข้าด้วย!”
เขารีบร้องขอความช่วยเหลือจากจ้าวแดนฝังศพเป็นอย่างแรก
แม้หลบหนีออกมาแล้ว แต่เขากระจ่างแจ้งชัดดี ด้วยระดับอันน่าหวาดเกรงของหลี่จิ่วเต้า เขาไม่อาจหนีพ้นได้ หากหลี่จิ่วเต้าต้องการหาตัวเขา ย่อมสามารถทำได้
ดังนั้นเขาจึงร้องขอความช่วยเหลือจากจ้าวแดนฝังศพ หวังว่าอีกฝ่ายจะช่วยเหลือเขารับมือกับหลี่จิ่วเต้า
“ไม่ต้องกังวล ข้าจะช่วยเหลือเจ้าเอง”
จ้าวแดนฝังศพเอ่ยปาก เห็นได้ชัดเจนว่าเข้าใจเรื่องราวที่เกิดขึ้น
เขาส่งคนมาลอบตั้งมั่นอยู่ในแดนพิสุทธิ์มาตลอด ด้วยเหตุนี้จึงรู้ว่าคนบ้าอยู่ในแดนพิสุทธิ์
เขาไม่อาจช่วงชิงตัวหลี่จิ่วเต้ามาได้
อย่างไรเสียหลี่จิ่วเต้าก็อยู่บนยอดคลื่นลม ถูกมหากองกำลังทั้งห้าจับตาดู
แม้ว่ายามนี้มหากองกำลังทั้งห้าจะไม่มีการเคลื่อนไหวใด แต่หากเขาเชิญหลี่จิ่วเต้าเข้าร่วมแดนฝังศพได้ มหากองกำลังทั้งห้าจะต้องไม่เห็นด้วยและกระโจนออกมาแน่นอน
ดังนั้นเขาจึงล้มเลิกจะดึงตัวหลี่จิ่วเต้าเข้าแดนฝังศพ
ขณะเดียวกัน เขาก็ใช้จุดนี้มาบอกเฒ่าเมามายถึงตำแหน่งของคนบ้า เพื่อจะใช้สิ่งนี้ดึงตัวเฒ่าเมามายมา
เฒ่าเมามายนับเป็นตัวแปรผิดแผกผู้หนึ่ง ไม่ถูกมหากองกำลังทั้งห้ารับรู้การดำรงอยู่ เขาเองได้พานพบเฒ่าเมามายก็นับเป็นเรื่องบังเอิญ ได้ทราบว่าอีกฝ่ายทรงพลังเพียงใด
“ท่านไม่จำเป็นต้องกังวล ข้าจัดเตรียมทุกอย่างเอาไว้แล้ว”
จ้าวแดนฝังศพบอกตำแหน่งให้เฒ่าเมามายทราบ
“ตกลง!”
เฒ่าเมามายไร้ความลังเล พุ่งตรงไปยังตำแหน่งที่จ้าวแดนฝังศพบอกมา
อีกด้านหนึ่ง จั่วเหยียนกำลังรีบไล่ตามมาอย่างรวดเร็วด้วยการนำทางของกระวิญญาณโบราณ ลมหายใจวิญญาณของเฒ่าเมามายที่ทิ้งเอาไว้ในกระจกวิญญาณโบราณทำให้ระบุตำแหน่งของอีกฝ่ายได้
ตู้ม!
ระหว่างการไล่ล่า เขาพลันเผชิญกับการโจมตี ทว่ากระบี่ฉุนจวินตอบสนองทันที ทำลายการโจมตีทั้งหมดทิ้ง
ไม่เช่นนั้นเขาคงต้องถูกโจมตีจนตายลงอย่างสมบูรณ์แน่นอน!
หลังจากนั้นปรากฏหลายร่างออกมาขวางทางเขาเอาไว้
“สหาย ไม่ต้องไล่ตามต่อแล้ว”
มีร่างหนึ่งเอ่ยขึ้น
พวกเขามาจากแดนฝังศพ ถูกจ้าวแดนฝังศพส่งมาที่นี่เพื่อขัดขวางจั่วเหยียน ซื้อเวลาให้เฒ่าเมามายหลบหนี
“พวกข้ามาจากแดนฝังศพ ไม่มีเจตนาร้ายต่อสหายและคุณชายหลี่ผู้อยู่เบื้องหลัง เป้าหมายการดำรงอยู่ของพวกเขาไม่ใช่เพื่อแข่งขันกลายเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุด แต่เพื่อต่อกรกับวิหารโบราณลึกลับ”
ร่างนั้นกล่าวต่อ “เรื่องก่อนหน้านี้ที่เฒ่าเมามายกระทำนับว่าไม่เคารพต่อคุณชายหลี่อยู่บ้าง แต่พวกข้ายังหวังว่าคุณชายหลี่จะปล่อยเฒ่าเมามายไปได้ เขาเองก็มีใจต่อกรกับวิหารโบราณลึกลับด้วย”
จากนั้นเขายังคงเอ่ยต่อ “แน่นอน พวกข้ายังหวังเป็นอย่างยิ่งว่าคุณชายหลี่จะเข้าร่วมแดนฝังศพ ร่วมมือกับพวกข้าเพื่อต่อกรกับวิหารโบราณลึกลับ”
ยามคนบ้าเล่าเรื่องเกี่ยวกับวิหารโบราณลึกลับ จั่วเหยียนเองก็อยู่ด้วย เขารู้ว่าเรื่องวิหารโบราณลึกลับเป็นมาเช่นใด
แต่คุณชายต้องการเข้าร่วมแดนฝังศพหรือไม่ วางแผนต่อกรกับวิหารโบราณลึกลับหรือเปล่า นี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาตัดสินใจด้วยตัวเองได้
ขณะเดียวกัน เรื่องเหล่านี้เขาไม่ควรต้องกังวล
“เรื่องเหล่านั้นพวกเจ้าไปเอ่ยกับคุณชายเองเถิด บอกข้าไปก็ไร้ประโยชน์ ภารกิจของข้าเพียงแค่พาตัวเฒ่าเมามายผู้นั้นกลับไป”
จั่วเหยียนกล่าว “หลีกทางเถิด อย่าได้ขวางทางข้าเลย ไม่เช่นนั้นข้าทำได้เพียงต้องลงมือ”
“จำเป็นต้องทำเช่นนั้นหรือ”
ร่างหนึ่งเอ่ย “ให้โอกาสบ้างเถิด!”
เขากำลังถ่วงเวลา ความจริงแล้วไม่มีความคิดอันใดให้หลี่จิ่วเต้าเข้าร่วมแดนฝังศพ คำเชื้อเชิญก่อนหน้านี้เป็นเพียงแค่ตัวซื้อเวลาเท่านั้น
อย่างไรเสีย หากหลี่จิ่วเต้าต้องการเข้าร่วมแดนฝังศพจริง มหากองกำลังทั้งห้าย่อมไม่มีทางยินยอม
มีหลี่จิ่วเต้าเข้าร่วมนับว่ากองกำลังต้องแข็งแกร่งขึ้นอย่างแน่นอน มหากองกำลังทั้งห้าที่คอยเฝ้าระวังแดนฝังศพมาโดยตลอดจะยอมเช่นนั้นได้อย่างไร?
ไม่มีทางเป็นไปได้!
ฟิ้ว!
จั่วเหยียนไม่ตอบรับอันใด เขาถือกระบี่ฉุนจวินพุ่งตรงไปด้านหน้า รู้ดีว่าสิ่งมีชีวิตเหล่านี้เพียงแค่ต้องการถ่วงเวลา
“ศิลาเผด็จฟ้า!”
มีผู้ตะโกนเรียกศิลาเผด็จฟ้าออกมา นี่เป็นสมบัติล้ำค่าที่จ้าวแดนฝังศพมอบให้กับพวกเขาเพื่อถ่วงเวลาจั่วเหยียน
ศิลาโบราณเปล่งแสง ประหนึ่งปราบปรามผืนนภาเอาไว้ได้ พลังลึกลับบางอย่างแล่นพล่าน ดูแล้วน่ากริ่งเกรงยิ่ง
ศิลาเผด็จฟ้าน่าสะพรึงกลัวอย่างแท้จริง จั่วเหยียนถือกระบี่ฉุนจวินเข้าฟัน กลับถูกพลังพิเศษของศิลาเผด็จฟ้ากวาดล้างพลังกระบี่จนสิ้น
ยิ่งไปกว่านั้นพลังของศิลาเผด็จฟ้ายังหลั่งไหลออกมาเพื่อสยบจั่วเหยียนและกระบี่ฉุนจวิน
“พี่กระบี่ ท่านจัดการได้หรือไม่? หากไม่ได้ ท่านเพียงพูดหนึ่งคำ ข้าจะหนีไปทันที!”
จั่วเหยียนพูดกับกระบี่ฉุนจวินด้วยความหวาดหวั่น
พลังจากศิลาเผด็จฟ้าน่ากลัวเกินไป ทำให้เขารู้สึกสิ้นหวังอย่างถึงที่สุด
ยามนี้กระบี่ฉุนจวินคล้ายถูกสยบ ความแวววาวทั้งหมดก่อนหน้าเลือนลับไป ตัวกระบี่หมองลงไร้แสง
ด้วยเหตุนี้จั่วเหยียนจึงเกิดความไม่มั่นใจและหวาดกลัว
หากกระบี่ฉุนจวินกล่าวว่ารับมือไม่ไหว เขาจะหนีไปอย่างไม่ลังเลแน่นอน!
…………….