รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] - บทที่ 1168 ข้าหลี่จิ่วเต้าผดุงคุณธรรม ไม่ชอบความอยุติธรรมที่สุด!
- Home
- รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]
- บทที่ 1168 ข้าหลี่จิ่วเต้าผดุงคุณธรรม ไม่ชอบความอยุติธรรมที่สุด!
บทที่ 1168 ข้าหลี่จิ่วเต้าผดุงคุณธรรม ไม่ชอบความอยุติธรรมที่สุด!
…………….
บทที่ 1168 ข้าหลี่จิ่วเต้าผดุงคุณธรรม ไม่ชอบความอยุติธรรมที่สุด!
สำหรับวิหารโบราณลึกลับ ตำรับลูกกลอนย่อมไม่ใช่ของสำคัญอันใด คนบ้ารำลึกความหลังเมื่อครั้งอดีตที่ถูกชักนำเข้าวิหารโบราณลึกลับ ยามรอคอยถูกส่งตัวออกไป เขาไม่ได้สัตย์ซื่อ ไม่เคยอยู่รอเงียบ ๆ เฉกเช่นสิ่งมีชีวิตตนอื่น ตัวเขาลอบหนีออกไป
เวลานั้น สิ่งมีชีวิตอย่างพวกเขาไร้ซึ่งฤทธิ์เดช ยังไม่ได้ก้าวสู่เส้นทางฝึกตนด้วยซ้ำ วิหารโบราณลึกลับจึงไม่ได้สนใจพวกเขามากนัก ไม่เคยส่งผู้ใดมาดูแล หาไม่แล้วเขาไม่มีทางหนีออกมาได้
แน่นอนว่าเขาไม่ได้เพ่นพ่านไปที่ไหนไกล เพียงไม่นานก็ถูกจับตัวกลับไป
เวลานั้นได้ยินว่าผู้ที่จับเขากลับไปตั้งใจลบความทรงจำเกี่ยวกับตำรับลูกกลอนในหัวเขา ทว่าอีกคนห้ามไว้
อีกคนเอ่ยว่า ไม่ต้องลบ เก็บไว้ดีกว่า ถือเป็นเรื่องสนุกใน ‘การเลี้ยงกู่’ ครานี้ เอาไว้ถึงท้ายที่สุดค่อยให้แมลงกู่อันทรงพลังที่สุดออกสังหาร
เวลานั้นเขายังไม่เข้าใจความหมาย ภายหลังถึงกระจ่าง
นี่เขาถูกทอดทิ้งให้กลายเป็นการขัดเกลาด่านสุดท้าย หลังแมลงกู่อันทรงพลังที่สุดสังหารเขาลงจักถือเป็นสมบูรณ์
อนิจจา เขาเข้าใจไปก็ไร้ความหมาย เพราะถูกทำให้เสียสติกลายเป็นคนบ้าวิกลจริต
เขาจำได้แม่นยำว่าบนกำแพงที่มีตำรับลูกกลอนนี้บันทึกยังมีตำรับลูกกลอนอื่นอีกคณานับ ทว่าตำรับเหล่านั้นอัศจรรย์เกินไป เขาพยายามจดจำสุดชีวิตก็จำได้ไม่สมบูรณ์สักตำรับ จำได้เพียงบางส่วนเท่านั้น
ตำรับลูกกลอนวิเศษเพียงนั้นถูกสลักบนกำแพงอย่างไม่ใส่ใจ ซ้ำยังเป็นกำแพงชั้นนอก วิหารโบราณลึกลับมีรากฐานเช่นไรกันแน่ น่าตกใจยิ่งนัก!
ก่อนเสียสติ เขาใคร่ครวญเรื่องนี้อยู่ตลอด น่าเสียดาย เขาไม่ได้คำตอบ เพราะยังรู้น้อยไป
นอกจากนี้ เมื่อคราวเขายังอยู่ที่วิหารโบราณลึกลับเคยได้ยินบทสนทนาที่ยิ่งสะท้อนถึงความน่าพรั่นพรึงของวิหารโบราณลึกลับ
เขาได้ยินว่าสถานที่เลี้ยงกู่นั้นไม่ได้มีเพียงที่เดียว ยังมีอีกหลายที่ซึ่งเต็มไปด้วย ‘แมลงกู่’
เหตุใดถึงต้องเลี้ยงกู่
หลังเพาะเลี้ยงแมงกู่อันทรงพลังที่สุดออกมาได้แล้ว วิหารโบราณลึกลับตั้งใจทำสิ่งใดต่อ
ทั้งหมดทั้งมวลล้วนเต็มไปด้วยปริศนา ทั้งยังชวนให้หวาดหวั่น วิหารโบราณลึกลับสยดสยองจนจินตนาการไม่ออก!
บัดนี้ หลี่จิ่วเต้าต้องการตำรับลูกกลอน เขาย่อมต้องปฏิเสธ
หลี่จิ่วเต้าช่วยเขาไว้ เขาไม่ต้องการให้เกิดเรื่องกับหลี่จิ่วเต้า ถูกเล่นงานจนเสียสติซ้ำรอยเขา กลายเป็นเป้าหมายที่ผู้ทรงพลังที่สุดต้องล่าในภายหลัง
“หืม?”
อีกด้าน หลี่จิ่วเต้าได้ยินคำกล่าวของคนบ้าแล้วนึกสนใจ ไต่ถามออกไป “จะเกิดปัญหาเช่นไรหรือ”
“เฉกเช่นข้า กลายเป็นคนบ้า ฟั่นเฟือนไม่ได้สติ วิกลจริต กลายเป็นเป้าหมายให้ผู้แข็งแกร่งที่สุดล่าในตอนท้ายสุด”
คนบ้ามีสีหน้าขึงขังขณะอธิบาย ทั้งกล่าวว่าหากเขาบอกตำรับลูกกลอนแก่หลี่จิ่วเต้า หลี่จิ่วเต้าต้องถูกพลังของวิหารโบราณลึกลับหมายหัวเช่นกัน เป็นผลให้เสียสิทธิ์ชิงตำแหน่ง และถูกเปลี่ยนให้เป็นคนเสียสติ
“วิหารโบราณลึกลับ?”
หลี่จิ่วเต้าขมวดคิ้ว คิดในใจไปว่านี่คืออะไร ต้นกำเนิดของพลังชั่วร้ายนั้นหรือ
เขาเอ่ยถาม “เจ้าช่วยเล่าเรื่องของวิหารโบราณลึกลับให้ข้าฟังอย่างละเอียดที”
“ท่านไม่รู้จักวิหารโบราณลึกลับหรือ”
คนบ้ามีสีหน้าอึ้งงัน เอ่ยขึ้นอย่างอดไม่ได้ “ท่านไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่วิหารโบราณลึกลับส่งมาหรือ”
คุณชาย ‘ตกปลา’ อีกแล้ว
อีกด้าน จวินอีคิดในใจอย่างอดไม่ได้
คุณชายมีหรือจะไม่รู้จักวิหารโบราณลึกลับ เห็นได้ชัดว่าจงใจ ‘ตกปลา’ เหมือนกับเมื่อคราวจงใจตกเขา ทั้งที่รู้เรื่องตำรับลูกกลอน แต่กลับแสร้งทำไม่รู้ ทั้งที่เตรียมการทุกอย่างไว้เรียบร้อย มอบเข็มทิศล่าสมบัติและกระบี่ใบไม้แห้งเหี่ยวให้เขา
“ไม่ใช่”
หลี่จิ่วต้าตอบยิ้ม ๆ “ข้าเป็นเพียงปุถุชน อืม พูดให้ถูกคือเป็นปุถุชนที่มีบางอย่างแตกต่างเท่านั้น”
เขาใช่ผู้ที่วิหารโบราณลึกลับส่งมาที่ไหน ก่อนนี้ไม่เคยรู้จักด้วยซ้ำ นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ยิน
ปุถุชน?!
คนบ้ามีหน้าตาประหลาดใจ หลี่จิ่วเต้ากล้าเอ่ยประโยคนี้ออกมาได้อย่างไร ปุถุชนหรือจะรักษาอาการวิกลจริตของเขา คืนสติให้เขาได้
เขาอยากบอกเหลือเกินว่านี่ท่านยังไม่ได้ตำรับลูกกลอนไปก็เริ่มเสียสติ พูดจาเพี้ยน ๆ แล้ว!
ทว่าเขายังเล่าทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับวิหารโบราณลึกลับให้หลี่จิ่วเต้าฟัง แถลงไขเรื่องเลี้ยงกู่ เอ่ยว่าสิ่งมีชีวิตที่ถูกส่งมาคือแมลงกู่ทั้งนั้น!
“วิหารโบราณน่าขยะแขยงปานนี้เชียวหรือ”
หลี่จิ่วเต้าขมวดคิ้ว เห็นสิ่งมีชีวิตเป็นแมลงกู่ วิหารโบราณเช่นนี้ชวนคลื่นเหียนนัก
“โค่นอำนาจมัน!”
จากนั้น เขาเอ่ยโดยไม่ต้องคิด “แม้ข้าเป็นปุถุชน แต่ก็ไม่อาจทนเห็นเรื่องหยาบช้าเช่นนี้ได้ ข้าหลี่จิ่วเต้าผดุงคุณธรรม รู้ดีว่ายิ่งทรงพลังยิ่งมีภาระหน้าที่ใหญ่หลวง วิหารโบราณชั่วช้าเช่นนี้จำต้องถูกกำจัด!”
นี่เป็นการแสดงจุดยืนโดยไม่ปกปิดแล้ว!
จวินอีคิดในใจ ที่เขาคาดเดาไว้ก่อนหน้านี้นั้นไม่ผิด เป้าหมายของคุณชายก็คือวิหารโบราณลึกลับ หมายจะโค่นล้มอำนาจให้สิ้นซาก
สายตาคนบ้าแปลกไป เรียบเรียงสถานการณ์ไม่ถูก
หลี่จิ่วเต้าไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่วิหารโบราณลึกลับส่งมา หรือก็คือหลี่จิ่วเต้าไม่ได้อยู่ในขอบข่ายที่วิหารโบราณลึกลับต้องจับตามอง ทั้งหมดนี้ล้วนไม่เกี่ยวกับหลี่จิ่วเต้า แล้วเหตุใดหลี่จิ่วเต้าต้องต่อกรกับวิหารโบราณลึกลับด้วย
หรือเป็นอย่างที่หลี่จิ่วเต้าว่า เพียงเพราะเขานั้นมีใจรักความยุติธรรม เห็นเรื่องอยุติธรรมเช่นนี้ไม่ได้
‘ผิดแล้ว! นี่เป็นการเตรียมการไว้ก่อน!’
เขาคิดในใจ ‘ที่วิหารโบราณลึกลับเลี้ยงกู่ก็เพื่อบ่มเพาะผู้ทรงพลังที่สุดออกมา เขาแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ ต่อให้ไม่ได้ถูกวิหารโบราณลึกลับส่งมา ไม่อยู่ในขอบข่ายที่วิหารโบราณลึกลับจับตา สุดท้ายก็ต้องถูกวิหารโบราณลึกลับมองเห็นอยู่ดี!’
“เพราะอย่างนั้น เขาถึงคิดโค่นอำนาจวิหารโบราณลึกลับ ไม่ต้องการกลายเป็นทาสของวิหารโบราณลึกลับ!”
คิดมาถึงนี่ เขาถึงบางอ้อ เช่นนี้ถือเป็นคำอธิบายที่สมเหตุสมผลที่สุด
“วิหารโบราณลึกลับนั้นน่าประหวั่นพรั่นพรึงเหลือแสน คุณชายหลี่อย่าได้ชะล่าใจเด็ดขาด พวกเขาไม่ได้เลี้ยงกู่ในพื้นที่เดียว หากแต่ยังมีอีกหลายพื้นที่!”
เขาบอกกับหลี่จิ่วเต้า เตือนหลี่จิ่วเต้าว่าอย่าประมาท วิหารโบราณลึกลับสยดสยองเกินจินตนาการ
“น่าพรั่นพรึงเพียงใดก็คงไม่สู้บรรพจารย์ฝู”
หลี่จิ่วเต้าเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
…
อาณาจักรหนึ่งในอวกาศ
ตู้ม!
เสียงระเบิดดังอยู่ในนภาไม่หยุด พลังบ่วงกรรมกำเนิดรูปร่างจุติบนตัวบรรพจารย์ฝูอีกครั้ง จนบรรพจารย์ฝูสะดุ้งโหยง
“อะไรกัน ข้าไม่ได้ทำอันใด บ่วงกรรมยังเพิ่มขึ้นอีกหรือ!”
บรรพจารย์ฝูอยากร่ำไหันัก นั่งอยู่ดี ๆ บ่วงกรรมก็ถล่มลงมา!
เขาอยากถามเหลือเกินว่าเขาทำอันใดลงไปกันแน่ ต้องให้ผู้ยิ่งใหญ่น่าพรั่นพรึงระดับนั้นบ่นถึงเช่นนี้! เขายอมเปลี่ยนตัวเองยังไม่พอหรือ?!
ความรู้สึกที่บ่วงกรรมสยดสยองจุติลงตัวเป็นครั้งคราวน่ากลัวเหลือเกิน!
…
“บรรพจารย์ฝู?”
อีกด้าน คนบ้าขมวดคิ้ว ผู้นี้คือใครกัน ฟังจากน้ำเสียงหลี่จิ่วเต้าดูเหมือนคนผู้นี้ทรงพลังมาก
“เป็นตัวตนสูงส่งอย่างแท้จริง!”
หลี่จิ่วเต้าคลี่ยิ้ม “ก้านหลิวชะล้างที่ขับไล่พลังชั่วร้ายจากตัวเจ้ามาจากบรรพจารย์ฝู ข้ายังบอกเจ้าได้อีกว่านี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ยังไม่ใช่พลังทั้งหมดของก้านหลิวชะล้าง”
น่ากลัวถึงเพียงนี้เชียว?!
คนบ้าตกตะลึงรุนแรง แข็งแกร่งระดับเขายังจนปัญญากับพลังจากตำรับลูกกลอน ถูกเล่นงานจนเสียสติ สุดท้ายแล้วก้านหลิวชะล้างที่ช่วยกำจัดพลังตำรับลูกกลอนยังไม่ได้สำแดงพลังทั้งหมดออกมาอย่างนั้นหรือ
สวรรค์ บรรพจารย์ฝูผู้นี้ต้องน่าสะพรึงกลัวเพียงใดกัน?!
เขาไม่กล้าคิดเลย!
‘นี่หรือคือภูมิหลังของคุณชาย’
จวินอีครุ่นคิดในใจ นี่หรือคือการสืบสานของคุณชาย
ที่คุณชายแข็งแกร่งปานนี้ ล้วนเป็นเพราะบรรพจารย์ฝูผู้นี้หรือ
แล้วบรรพจารย์ฝูเป็นใคร
ผู้ที่วิหารโบราณลึกลับส่งมาเช่นกันหรือ
‘เข้าใจแล้ว ไม่ใช่การเตรียมการล่วงหน้า หากแต่เป็นแผนที่วางไว้แต่เนิ่น ๆ เขาไม่ใช่ผู้ที่วิหารโบราณลึกลับส่งมา แต่บรรพจารย์ฝูใช่แน่! เป็นบรรพจารย์ฝูผู้นี้ที่ต้องการต่อกรกับวิหารโบราณลึกลับให้ถึงที่สุด!’
คนบ้าคิดในใจ รู้สึกว่านี่คงเป็นความจริง
‘ได้แน่!’
เขาหัวเราะในใจ ราวกับเห็นความหวังในการเอาชนะวิหารโบราณลึกลับ
ไม่ว่าวิหารโบราณลึกลับคิดการใดอยู่ กระนั้นก็ไม่ใช่เรื่องดีสำหรับพวกเขาแน่นอน วิหารโบราณลึกลับเห็นพวกเขาเป็นแมลงกู่ ควบคุมตามอำเภอใจ แล้วจะเป็นประโยชน์ต่อพวกเขาได้อย่างไร
หลังผู้ทรงพลังที่สุดคว้าชัยชนะ คงกลายเป็นทาสของวิหารโบราณลึกลับอยู่ดี
คิดมาถึงนี่ เขาเลิกละล้าละลัง บอกกล่าวตำรับลูกกลอนที่เขารู้ออกมาอย่างละเอียด
“ห๊า เจ้าบอกมาโต้ง ๆ เช่นนี้เลยหรือ”
จวินอีร้องเสียงหลงด้วยความหวาดกลัว เขายังไม่ได้ป้องกันตัวคนบ้าก็บอกเกี่ยวกับตำรับลูกกลอนให้ฟัง เขาจึงได้ยินเนื้อหาตำรับลูกกลอนทั้งหมด
‘จงลืม จงลืม!’
เขาเฝ้าบอกตนเองในใจ หมายให้ตัวเองหลงลืมเนื้อหาตำรับลูกกลอน
ทว่ายิ่งเขาต้องการหลงลืมเนื้อหาตำรับลูกกลอนเพียงใดกลับยิ่งจำได้แม่น ลงท้าย ตำรับลูกกลอนนั้นราวกับประทับอยู่ในหัวของเขา ชัดเจนแจ่มแจ้ง!
‘ซวยแล้ว ข้าจะกลายเป็นคนบ้าหรือไม่’
เขาอยากร่ำไห้นัก
บอกตามตรง เขาไม่อยากรู้เนื้อหาของตำรับลูกกลอนเลย เพราะกลัวจะเป็นเหมือนคนบ้า ถูกพลังของวิหารโบราณลึกลับหมายหัว จนถูกทำให้เสียสติ
ทว่ายามคนบ้าบอกเนื้อหาตำรับลูกกลอนกลับไม่ยอมบอกกล่าวล่วงหน้า โพล่งออกมาตรง ๆ จนเขาต้อง ‘จำยอม’ ได้ยิน ซ้ำยังจำได้แม่นยำ
“เจ้ากลัวถูกพลังชั่วร้ายนั้นเข้ามาพัวพันหรือ”
หลี่จิ่วเต้าคลี่ยิ้ม ดูออกว่าจวินอีกลัวสิ่งใด
“เปล่า มีคุณชายอยู่ ข้าไม่กลัว!”
จวินอีหวาดกลัวในใจเหลือแสน กระนั้นยังปากแข็งบอกไป ทั้งยังประจบเอาใจหลี่จิ่วเต้าอีกด้วย
“วางใจเถิด ไม่เป็นไรแน่”
หลี่จิ่วเต้าปลอบจวินอี “หากพลังชั่วร้ายกล้ามาพัวพัน กำจัดให้สิ้นซากเป็นพอ”
เขามั่นใจว่าทำได้ ก่อนนี้ที่บอกคนบ้าว่าก้านหลิวชะล้างยังเปล่งพลังออกมาไม่เต็มที่นั้นไม่ใช่การคุยโว หากแต่เป็นความจริง ครานั้น ก้านหลิวชะล้างใช้พลังไปเพียงเสี้ยวเดียวเท่านั้น
“ข้าไม่ได้ไม่วางใจ!”
จวินอีปากแข็งอย่างยิ่งยวด “เมื่อครู่ข้าเพียงแต่รู้สึกว่าข้าไม่คู่ควรรับรู้ตำรับลูกกลอนวิเศษเพียงนี้ หาได้กลัวไม่ ข้าเชื่อใจคุณชายเป็นที่สุด ไม่เคยกังขาในพลังของคุณชาย!”
หลังเขาพูดจบ จู่ ๆ ก็หยุดยั้งทุกอย่างที่ทำอยู่ สายตาเลื่อนลอย คนบ้าม่านตาหรี่ลงฉับพลัน เขารู้สึกถึงพลังอันคุ้นเคย พลังของตำรับลูกกลอนมาแล้ว ปรากฏอยู่ในกายจวินอี!
ขณะเดียวกัน ด้านหลี่จิ่วเต้าก็อยู่ในสถานการณ์เดียวกัน มีหมอกดำพิศวงปรากฏ คล้ายว่าต้องการพุ่งเข้าไปในร่างหลี่จิ่วเต้า สุดท้ายกลับสกัดเอาไว้!
“กล้ามาจริงหรือนี่!”
หลี่จิ่วเต้ายิ้มเย็น ตั้งจิตครั้งเดียว ก้านหลิวชะล้างชำระหมอกดำจนเกลี้ยงในบัดดล
นอกจากนี้ ก้านหลิวชะล้างยังสาดม่านแสงไปทางจวินอี ลบล้างพลังตำรับลูกกลอนในตัวจวินอี
คนบ้าเห็นแล้วสะท้าน หลี่จิ่วเต้าไม่ได้คุยโว ความมหัศจรรย์ของก้านหลิวชะล้างจัดการพลังตำรับลูกกลอนที่บุกเข้ามาได้ง่ายดาย
จวินอีได้สติ ยังกลัวไม่หาย เขาไม่รู้ว่าก่อนนี้เกิดอันใดขึ้นก็ตกอยู่ในสภาวะไม่ได้สติ ยังดีที่คุณชายออกโรง มิฉะนั้นเขาต้องเจริญรอยตามคนบ้า กลายเป็นคนเสียสติแน่นอน
“ใจลอยถือเป็นวาสนาอย่างหนึ่งเหมือนกัน!”
อีกด้าน จั่วเหยียนตาโต เมื่อครู่เขาใจลอยอยู่ตลอด เพราะฟังไม่เข้าใจสักประโยค เขานั้นระดับต่ำเกินไป ความรู้ที่มีน้อยเกินไป
เขาจึงรอดจากเคราะห์กรรมหนนี้ไป ใจลอยไม่ได้ยินเนื้อหาตำรับลูกกลอน ไม่เคยถูกพลังตำรับลูกกลอนรุกราน
“ตำรับลูกกลอนไม่สมบูรณ์หรือ ไม่ต้องร้อนใจ ข้าจะเสริมตำรับลูกกลอนนี้ให้สมบูรณ์เอง”
หลี่จิ่วเต้าคลี่ยิ้ม คนบ้ากล่าวว่ารู้เพียงส่วนหนึ่ง ยังไม่ใช่ตำรับลูกกลอนอันสมบูรณ์
กับเรื่องนี้ หลี่จิ่วเต้าไม่เห็นเป็นปัญหา
พวกซีตามหาตำรับลูกกลอนไปทั่วใต้หล้า รอจนพวกนางนำตำรับลูกกลอนกลับมา เขาได้อ่านทั้งหมดแล้ว ด้วยความปราดเปรื่องของเขาย่อมเสริมตำรับลูกกลอนให้สมบูรณ์ได้แน่
หลังคนบ้าได้ยินคำกล่าวของหลี่จิ่วเต้าพลันรู้สึกชะงัก
เสริมตำรับลูกกลอนให้สมบูรณ์หรือ
หลี่จิ่วเต้าเก่งกล้าสามารถปานนั้นจริงหรือ
หวนนึกถึงอดีต เขาไฉนเลยไม่อยากเสริมตำรับลูกกลอนให้สมบูรณ์ เพื่อกลั่นลูกกลอนชั้นเลิศที่สุดออกมาเล่า แต่ทว่าไม่ว่าเขาพยายามเพียงใดก็ทำไม่ได้!
มิหนำซ้ำ อย่าว่าแต่เสริมตำรับลูกกลอนให้สมบูรณ์เลย ตำรับลูกกลอนไม่สมบูรณนี้เขายังไม่แตกฉานด้วยซ้ำ มีอีกหลายจุดที่ไม่เข้าใจ!
“มาดื่มชากันเถิด”
หลี่จิ่วเต้ายิ้ม เชิญคนฟั่นเฟือนมาดื่มชาด้วยกัน รอการกลับมาของพวกซี
…
สถานที่หนึ่งในอวกาศ
มีหุบเหวลึกมโหฬารตั้งอยู่ ตัดขาดอวกาศออกจากกัน ภายในนั้นลึกจนมองไม่เห็นที่สิ้นสุด ลึกลับเหลือคณา ที่นี่คือฐานทัพใหญ่ของไท่เยวียนซึ่งเป็นหนึ่งในห้ากองกำลัง
“ล้มเหลวหรือ”
เสียงทุ้มต่ำดังออกมา เป็นเสียงของจ้าวแห่งไท่เยวียนหลังรู้ว่าฉิงคงถูกจวินอีฆ่า คนบ้าถูกจวินอีพาตัวไป
เรื่องนี้ผิดจากที่เขาคาดหมาย
ก่อนนี้ ในการคาดการณ์ของเขาจวินอีไม่ได้เป็นภัย ไม่อยู่ในขอบเขตที่เขาต้องพิจารณา หลังฉินอีไปถึงสามารถสังหารจวินอีได้ง่ายดาย
การช่วงชิงของอีกสี่กองกำลังใหญ่ถึงเป็นเรื่องสำคัญ
สุดท้าย เรื่องที่เขาคิดไม่ถึงคือจวินอีผู้ไม่อยู่ในขอบเขตพิจารณากลับเก่งกาจที่สุด ไม่เพียงแต่ปลิดชีพฉิงคง ซ้ำยังปลิดชีพสมาชิกอีกสี่กองกำลังใหญ่ที่เหลือด้วย
“เจ้าไปถึงขั้นไหนแล้ว”
เขาส่งเสียงหัวเราะเย็น ๆ ให้ความสำคัญกับหลี่จิ่วเต้ามากยิ่งขึ้น
จวินอีเก่งกาจเพียงนี้ ล้วนเป็นเพราะกระบี่ใบไม้แห้งเหี่ยวที่หลี่จิ่วเต้าประทาน หลี่จิ่วเต้านั้นลึกล้ำเกินหยั่งอย่างแท้จริง ทรงพลังจนไม่อาจวัด
มิน่าเขาถึงมองหลี่จิ่วเต้าไม่ออกสักนิด!
“จับคนข้างกายเขามา ข้าต้องรู้เรื่องเขาให้มากกว่านี้!”
เขาออกคำสั่ง
ก่อนนี้เขาก็สนอกสนใจในตัวหลี่จิ่วเต้าเป็นพิเศษ ไม่เพียงแต่ส่งคนสะกดรอยตามจวินอี ทั้งยังส่งคนสะกดรอยตามพวกซีด้วย หลี่จิ่วเต้าลึกล้ำเกินหยั่งเกินไป ยิ่งเป็นผลให้เขาไม่กล้าลงมือกับหลี่จิ่วเต้าตรง ๆ เขาต้องการจับพวกซี และรู้เรื่องพวกซีให้มากกว่านี้ผ่านพวกซี
บัดนี้ พวกซียังไม่ได้กลับไปอยู่ข้างกายหลี่จิ่วเต้า ถือเป็นโอกาสอย่างไม่ต้องสงสัย
ขณะเดียวกัน สี่กองกำลังใหญ่ต่างออกคำสั่งนี้ในเวลาเดียวกัน
หลี่จิ่วเต้าเป็นภัยคุกคามต่อเขาอย่างมาก อาจเป็นศัตรูตัวฉกาจของพวกเขา ก่อนเปิดศึกอย่างเป็นทางการ พวกเขาต้องการรู้เรื่องหลี่จิ่วเต้าให้มากกว่านี้
“ได้!”
“รับทราบ!”
สมาชิกห้ากองกำลังใหญ่ที่ติดตามพวกซีต่างได้รับคำสั่ง
จากนั้น พวกเขาลงมือกันถ้วนหน้า!
…………….