รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] - บทที่ 1160 หลี่จิ่วเต้า ‘แค่เท่านี้เอง!’
- Home
- รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]
- บทที่ 1160 หลี่จิ่วเต้า ‘แค่เท่านี้เอง!’
บทที่ 1160 หลี่จิ่วเต้า ‘แค่เท่านี้เอง!’
…………….
บทที่ 1160 หลี่จิ่วเต้า ‘แค่เท่านี้เอง!’
จวินอีมุ่งหน้าตามทิศที่เข็มทิศล่าสมบัติชี้ เงาหมายเลข 1 กำลังรายงานสถานการณ์ของพวกซีให้จ้าวแดนพิสุทธิ์ทั้งหลายอย่างหรูเยวียรู้อย่างรวดเร็ว
มันไม่ได้สะกดรอยตาม หากแต่คอยจับตาดูหลี่จิ่วเต้าอยู่นอกแดนพิสุทธิ์
“ให้ลงมือหรือไม่”
มันรายงานสถานการณ์ต่อจ้าวแดนพิสุทธิ์ทั้งหลายอย่างหรูเยวียแล้วรอคำสั่ง
“รอพวกเราก่อน!”
จ้าวแดนพิสุทธิ์ทั้งหลายอย่างหรูเยวียตอบ บอกให้เงาทั้งหลายอย่าเพิ่งเคลื่อนไหว รอให้พวกเขาถึงแล้วค่อยลงมือ
จากนั้น จ้าวแดนพิสุทธิ์สามตนในหมู่พวกเขารุดหน้าไปสังหารหลี่จิ่วเต้า
ทรีหายไปแล้วอย่างสิ้นเชิง หายไปอย่างไร้ร่องรอย พวกเขาหวังพึ่งซีไม่ได้ และพลังที่หลี่จิ่วเต้าแสดงให้พวกเขาเห็นเมื่อก่อนหน้าชวนให้ผวา พวกเขาไม่กล้าชะล่าใจแม้แต่น้อย
หาไม่แล้ว พวกเขาไม่มีทางส่งจ้าวแดนพิสุทธิ์ไปถึงสามตน เงาหมายเลข 1 มีพลังระดับอัครขั้นแปด ในสถานการณ์ปกติ การปลิดชีพหลี่จิ่วเต้าย่อมไม่เป็นปัญหา
ถึงอย่างไรหลี่จิ่วเต้าก็เป็นเพียงพลังนอกกระดาน ไม่ใช่พลังทั้งหมด แข็งแกร่งเพียงใดก็ยังมีขีดจำกัด แต่กระนั้นพวกเขาก็รู้สึกกลัว กลัวจะเกิดเรื่องไม่คาดคิดอีก เพราะเหตุนี้ พวกเขาถึงให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ส่งจ้าวแดนพิสุทธิ์บุกไปทีเดียวถึงสามตน
จ้าวแดนพิสุทธิ์ทั้งสามต่างมีพลังระดับอัครขั้นเก้า มาถึงแดนพิสุทธิ์ในพริบตาเดียว รวมตัวกับเงาหมายเลข 1!
“ลงมือ!”
พวกเขาออกคำสั่งให้เงาทั้งหลายเคลื่อนไหวพร้อมกัน บุกสังหารพวกซี
ขณะเดียวกัน พวกเขาสั่งให้เงาหมายเลข 1 ออกโรงสังหารหลี่จิ่วเต้า
จ้าวแดนพิสุทธิ์มาเยือนถึงสามตน การฆ่าหลี่จิ่วเต้าเป็นเรื่องที่แน่นอนแล้ว ไม่มีทางมีผลลัพธ์อื่น กระนั้นพวกเขายังให้ความสำคัญเป็นที่สุด ไม่ได้ชะล่าใจแม้แต่น้อย ส่งเงาหมายเลข 1 ออกไปเป็นแนวหน้า
ส่วนพวกซีนั้นใกล้ชิดกับหลี่จิ่วเต้าเกินไป เก็บไว้ไม่ได้เช่นกัน ต้องกำจัดให้สิ้นซากทั้งหมด
“ได้!”
เงาหมายเลข 1 รับคำสั่ง บุกเข้าไปยังแดนพิสุทธิ์ ปรี่ไปหาหลี่จิ่วเต้าเพื่อสังหาร
“เข้าใจแล้ว!”
“ลงมือ!”
เงาอื่น ๆ ที่ลอบติดตามพวกซีต่างลงมือทันที บุกสังหารไปหาพวกซี
ตู้ม!
เสียงระเบิดน่าสะพรึงดังขึ้น คล้ายว่าทั้งแดนพิสุทธิ์กำลังระเบิดออกจากกัน เงาหมายเลข 1 ลงมืออย่างดุดัน สำแดงพลังทั้งหมดทันทีที่เปิดฉาก!
คลื่นพลังน่ากลัวซัดสาด ปกคลุมไปทั้งแดนพิสุทธิ์ ฟ้าดินเปลี่ยนสีฉับพลัน อสนีบาตสยดสยองนับไม่ถ้วนถล่มลงมา
“เกิด…เกิดอันใดขึ้น?!”
“นี่มันเรื่องอะไรกัน!”
สมาชิกแดนพิสุทธิ์ทั้งหมดตกตะลึง วิญญาณแทบสลายด้วยความกลัว ร่างกายสั่นระริก อสนีบาตเหล่านั้นชวนผวายิ่งนัก จนพวกเขาอกสั่นขวัญแขวน
พวกเขาไม่นึกสงสัยเลยว่าหากอสนีบาตเหล่านั้นฟาดผ่าบนตัวพวกเขา พวกเขาจักถูกปลิดชีพไปโดยสมบูรณ์!
“ท่านจ้าวแดนพิสุทธิ์ทั้งหลายกลับมาแล้วหรือ”
เนื้อตัวพวกเขาสั่นเทา นึกถึงจ้าวแดนพิสุทธิ์ทั้งหลายขึ้นมาทันที
ขณะที่พวกเขาตกตะลึงยังรู้สึกสิ้นหวัง ก่อนนี้พวกเขาบังอาจคิดต่อสู้กับเหล่าจ้าวแดนพิสุทธิ์ ช่วงชิงเสรีภาพของตนกลับคืน บัดนี้ดูแล้วช่างน่าขันยิ่งนัก!
ความห่างชั้นนั้นมหาศาล ต่อให้พวกเขาก้าวสู่เส้นทางฝึกตนหลังจากนี้สำเร็จก็ไล่ตามไม่ทัน ที่พวกเขาคิดต่อกรกับเหล่าจ้าวแดนพิสุทธิ์นั้นตลกสิ้นดี
ฟึ่บ! ฟึ่บ! ฟึ่บ!
แสงกระบี่สะท้อนไปทั่วหล้า กระบี่ฉุนจวินบุกออกไปทันที เจตจำนงกระบี่กล้าแกร่งพวยพุ่ง แฝงไว้ด้วยความไร้เทียมทาน ลบล้างอสนีบาตทั้งหมดได้ในเสี้ยวลมหายใจ!
เสียงดังฟิ้ว เงาหมายเลข 1 ดึงคันศร ธนูอาบแสงน่าพรั่นพรึงพุ่งออกไปด้วยความเร็วเหนือแสง ทะลุขีดจำกัด แทงสังหารหลี่จิ่วเต้า
“นี่กลับมากันแล้วหรือ”
สีหน้าหลี่จิ่วเต้าราบเรียบ ตั้งจิตวูบหนึ่ง กระบี่ฉุนจวินสะบั้นธนูอาบแสงดอกนั้นจนแหลกลาญทันที
นอกแดนพิสุทธิ์ สีหน้าจ้าวแดนพิสุทธิ์ทั้งสามต่างเปลี่ยนไปอย่างอดไม่ได้
ก่อนมาพวกเขาประเมินพลังของหลี่จิ่วเต้าไว้สูงลิ่ว ทว่าหลังได้เห็นหลี่จิ่วเต้าลงมือกับตา พวกเขายังอดตะลึงไม่ได้ ที่ประเมินหลี่จิ่วเต้าไปก่อนหน้านี้ยังคงต่ำเกินไป!
เรื่องอื่นไม่ต้องกล่าวถึง ลำพังธนูอาบแสงที่เงาหมายเลข 1 ยิงออกไปก็สยดสยองเพียงพอ กำลังรบระดับอัครขั้นเจ็ดยังไม่อาจหยุดยั้งไว้ได้ง่าย ๆ
ต้องรู้ว่า พวกเขาทุ่มเทกับเงาหมายเลข 1 มากที่สุด เป็นการบ่มเพาะด้วยแรงกายแรงใจทั้งหมดที่มีอย่างแท้จริง กำลังรบของเงาหมายเลข 1 อยู่ในระดับอัครขั้นเจ็ดตอนปลาย ห่างจากอัครขั้นแปดเพียงก้าวเดียว!
บัดนี้ ธนูที่เงาหมายเลข 1 ปล่อยออกไปเต็มกำลังกลับถูกหลี่จิ่วเต้าลบล้างได้ง่ายดาย ไม่ให้พวกเขาตะลึงอย่างไรไหว!
หลี่จิ่วเต้าเป็นเพียงพลังนอกกระดานยังน่าสะพรึงกลัวถึงขั้นนี้ หากได้ผสานเป็นหนึ่งกับพลังในกระดานจริงจะขนาดไหนเชียว?!
สีหน้าพวกเขาอึมครึมย่ำแย่กันถ้วนหน้า เหตุใดหลี่จิ่วเต้านอกกระดานถึงน่าพรั่นพรึงได้ปานนี้ เหนือความคาดหมายพวกเขาอย่างสิ้นเชิง!
“ปล่อยให้ผสานเป็นหนึ่งไม่ได้เด็ดขาด!”
“ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องกำจัดเขาให้ได้!”
อีกด้าน การต่อสู้ของเงาอื่น ๆ ก็เปิดฉากแล้ว
พวกซีถูกโจมตีกันหมด เงาเหล่านี้ติดตามพวกซีมาตลอด หลังได้รับคำสั่งจากจ้าวแดนพิสุทธิ์ทั้งสาม พวกเขาจึงพากันบุกไปหาพวกซี
พลังของเงาเหล่านี้กล้าแกร่งเหลือแสน ในสถานการณ์ปกติ พวกซีย่อมไม่ใช่คู่มือของเงาเหล่านี้
ทว่าพวกซีมียันต์ที่หลี่จิ่วเต้าให้มา
ยันต์เหล่านี้ระเบิดพลังในบัดดล สกัดการโจมตีของเงาเหล่านี้!
“เก่งกาจถึงเพียงนี้เชียว!”
ซีตกตะลึง เงาที่บุกมาหานางทรงพลังเป็นที่สุด อยู่เหนือขอบเขตอัคร เดิมนางยังกังวลว่ายันต์อาจรับมือเงานี้ไม่ไหว สุดท้าย มีพลังพุ่งออกจากยันต์ กำจัดเงานี้ไปในทันที!
“การต่อสู้ระดับนี้จินตนาการไม่ออกเลย!”
นางสะท้อนใจอย่างอดไม่ได้
แต่เพียงไม่นานก็สงบจิตใจ รีบรุดไปรวบรวมตำรับลูกกลอนต่าง ๆ บุรุษตัวน้อยเอ่ยว่าหลังมีตำรับลูกกลอนก็จะสามารถรวบรวมข้อได้เปรียบทั้งหมดไว้ด้วยกัน จนกลั่นสุดยอดลูกกลอนบำรุงออกมาได้
ถึงเมื่อนั้น พลังของพวกเขาย่อมต้องพุ่งทะยานถึงจุดสูงสุด!
‘หวังว่าไปถึงจุดสูงสุดได้จริง ๆ เช่นนี้แล้วต่อให้บรรพจารย์ฝูประสงค์ร้ายต่อบุรุษตัวน้อยก็ต้องประเมินตนเสียก่อน!’
นางคิดในใจ
ขณะเดียวกัน เงาอื่นต่างถูกยันต์กำจัดไปเช่นกัน ด้านหลี่จิ่วเต้าได้รับรายงานสถานการณ์ของพวกซี
“รนหาที่ตาย!”
เขาเอ่ยเสียงเย็น จิตสังหารพลุ่งพล่าน เหล่าจ้าวแดนพิสุทธิ์หวนคืนมาลงมือกับเขายังไม่เท่าไหร่ บังอาจลงมือกับพวกซี สมควรตายนัก!
พรวด! พรวด! พรวด!
เลือดสาดกระเซ็นไปทั่ว กระบี่ฉุนจวินบั่นเงาหมายเลข 1 จนแหลกเหลวด้วยแรงโทสะของหลี่จิ่วเต้า
ก่อนตาย เงาหมายเลข 1 เต็มไปด้วยความเจ็บใจ อย่างไรก็คิดไม่ถึงว่าหลี่จิ่วเต้าจะสยดสยองได้เพียงนี้!
มันมีกำลับรบระดับอัครขั้นเจ็ดเชียวนะ ไฉนเลยจะตายได้ง่าย ๆ ทว่าความเป็นจริงคือมันสู้ไม่ไหว ต้องตายไปง่าย ๆ เช่นนี้จริง ๆ!
มันถูกกระบี่ฉุนจวินสังหารสิ้นซาก ไม่มีแม้แต่โอกาสสร้างร่างใหม่ ระดับอย่างมันแต่กลับตายอย่างง่ายดาย ปิดฉากการต่อสู้อย่างรวดเร็วถือเป็นสถานการณ์ที่หาชมได้ยากยิ่ง!
ตู้ม!
เวลานั้น จ้าวแดนพิสุทธิ์ทั้งสามลงมือ พวกเขาต่างมีสุดยอดศาสตรา บุกไปหาหลี่จิ่วเต้ากันคนละทิศ
“เพราะข้ากวาดล้างรังพวกเจ้า พวกเจ้าถึงอดรนทนไม่ไหวต้องกลับมาหรือ”
หลี่จิ่วเต้าปริปาก “ทว่าเหตุใดถึงกลับมาไม่หมด มีเพียงพวกเจ้าสามคนเล่า”
เขารู้ดีว่าจ้าวแดนพิสุทธิ์ไม่ได้มีกันเพียงสามคน หากแต่มีกันคณานับ ดูท่าจ้าวแดนพิสุทธิ์ทั้งหลายยังสบประมาทเขาอยู่ มองว่ากลับมาเพียงสามคนก็จัดการเขาได้
เช่นนี้สิดี เขาจะได้ฉวยโอกาสประเมินว่าเหล่าจ้าวแดนพิสุทธิ์มีกำลังรบระดับไหน
“หนึ่งจำแลงเป็นสาม”
เขาตวาด กระบี่ฉุนจวินพลันแยกออกเป็นสามเล่ม แยกย้ายไปรับมือจ้าวแดนพิสุทธิ์ทั้งสาม
จ้าวแดนพิสุทธิ์ทั้งสามต่างมีกำลังรบระดับอัครขั้นเก้า มิหนำซ้ำศาสตราวิเศษในมือยังถูกพวกเขาหลอมกลั่นมานานนม เปี่ยมไปด้วยพลานุภาพเกินจินตนาการ
แต่แม้จะเป็นเช่นนั้น หลังพวกเขาได้สู้กับกระบี่ฉุนจวินซึ่งแยกร่างเป็นสามยังลำบากลำบน ไม่มีแต้มต่อสักนิด!
“เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้!”
“นี่มันเป็นไปได้อย่างไร!”
สีหน้าพวกเขาเปลี่ยนไปมหันต์ อย่างไรก็เชื่อผลลัพธ์นี้ไม่ลง
เรื่องนี้เหนือความคาดหมายพวกเขาเกินไป หลี่จิ่วเต้าเป็นเพียงพลังนอกกระดาน นี่พวกเขาสามคนออกโรงพร้อมเพรียงยังสู้ไม่ไหวหรือ
สวรรค์ พลังที่หลี่จิ่วเต้าครอบครองอยู่ในระดับใดกัน?!
หากได้ผสานเป็นหนึ่งกับพลังในกระดาน การจะกวาดล้างพวกเขาทั้งหมดไม่ง่ายเสียยิ่งกว่าง่ายหรือ
พวกเขารู้สึกแย่เป็นหนักหนา เดิมคิดว่าพวกเขาได้เปรียบเบ็ดเสร็จ สุดท้ายเป็นเพียงการทึกทักเอาเองเท่านั้น พวกเขาไม่ใช่ฝ่ายได้เปรียบ ฝ่ายได้เปรียบคือหลี่จิ่วเต้า!
“ไป!”
พวกเขาขบกราม ไม่ต้องการสู้ต่อ นึกอยากถอย
กระบี่ฉุนจวินดุดันเกินไป สร้างแรงกดดันให้พวกเขามหาศาล พวกเขารู้สึกว่าหากพวกเขาสู้ต่อได้ถูกกระบี่ฉุนจวินสังหารหมดแน่
“มาจากที่ใด ย่อมต้องหวนคืนสู่ที่นั่น กลับมาแล้วก็อย่าไปไหนอีกเลย ต้องฝังร่างต่างสถานที่คงไม่ดี ที่นี่เป็นรังพวกเจ้า ใบไม้ร่วงโรยคืนสู่ราก พวกเจ้าฝังร่างไว้ในรังพวกเจ้าเถิด”
หลี่จิ่วเต้าเอ่ยเสียงแผ่ว เรียกต้นวิเศษสัตตะออกมา
ต้นวิเศษสัตตะเปล่งแสงเจ็ดสี ชั่วขณะนั้น พลังในกายจ้าวแดนพิสุทธิ์ทั้งสามถูกลบล้างทั้งหมด!
จ้าวแดนพิสุทธิ์ทั้งสามต่างหวาดผวา ขนลุกขนชัน เหงื่อเย็นไหลโซม
บัดซบ ไม่ใช่กระมัง โบกครั้งเดียวก็ลบล้างพลังพวกเขาไปหมดตัว นี่หลี่จิ่วเต้าอยู่ในขอบเขตอัครขั้นสิบหรือไร?!
สีหน้าพวกเขาซีดเผือด ไม่เหลือเลือดฝาดแม้แต่น้อย ลำพังหลี่จิ่วเต้าซึ่งเป็นเพียงพลังนอกกระดานก็สามารถกวาดล้างพวกเขาได้แล้วหรือ
ใช่แล้ว พลังที่หลี่จิ่วเต้าสำแดงน่าครั่นคร้ามเกินไป พวกเขารู้สึกว่าลำพังหลี่จิ่วเต้าก็สามารถกวาดล้างจ้าวแดนพิสุทธิ์ทั้งหมดโดยไม่ต้องผสานเป็นหนึ่ง!
สายตาพวกเขาล้วนทอประกายสิ้นหวัง เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้ พวกเขาคิดไม่ตกเลย ไม่รู้ว่าหลี่จิ่วเต้าทรงพลังปานนี้ได้อย่างไร!
พรวด! พรวด! พรวด!
กระบี่ฉุนจวินทั้งสามตวัดไปหาพวกเขา บั่นศีรษะพวกเขาลงในบัดดล สังหารอย่างสมบูรณ์ พวกเขาเป็นเฉกเช่นเงาหมายเลข 1 ไม่มีโอกาสแม้แต่จะต่อสู้อีกครั้งก็ถูกกำจัดอย่างสิ้นเชิง!
“แค่เท่านี้เอง…”
หลี่จิ่วเต้าพึมพำเสียงเบา ไม่เหลือความกังวลอีก
เขากลัวว่าเหล่าจ้าวแดนพิสุทธิ์อาจแข็งแกร่งเกินไปจนไม่อยู่ในขอบเขตที่เขารับมือไหว บัดนี้ดูแล้วเขาคิดมากเกินไป เหล่าจ้าวแดนพิสุทธิ์ยังอยู่ในขอบเขตควบคุมได้ ไม่ได้น่าประหวั่นพรั่นพรึงนัก เขาสามารถสังหารได้ง่ายดาย
“บรรพจารย์ฝูต่างหากคือตัวตนสูงส่ง!”
เขาสะท้อนใจอย่างอดไม่ได้ จ้าวแดนพิสุทธิ์อะไร เป็นเพียงเศษสวะ ไม่อาจเทียบกับบรรพจารย์ฝูได้เลย ห่างชั้นไกลโข
ผู้ใดเล่าจะเป็นศัตรูของบรรพจารย์ฝู
เขาคิดว่าไม่มี!
‘พวกบุรุษจบไว อะไรกันนี่ อ่อนหัดเกินไปแล้ว! มีความสามารถเพียงเท่านี้ยังกล้ามา?!’
จั่วเหยียนด่าทอจ้าวแดนพิสุทธิ์ทั้งสามในใจไม่หยุด
เขาย่อมรู้ดีว่าจ้าวแดนพิสุทธิ์ทั้งสามไม่ใช่คู่มือของหลี่จิ่วเต้า ทว่าเขาคิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าจ้าวแดนพิสุทธิ์ทั้งสามจะอ่อนแอเช่นนี้ ประมือได้ไม่ทันไรก็ถูกสังหารอย่างสิ้นเชิงเสียแล้ว
‘อย่างน้อยก็น่าจะยืนหยัดต่อไปอีกระยะหนึ่ง!’
เขาเอ่ยในใจเสียงสะอื้น
จ้าวแดนพิสุทธิ์ทั้งสามยืนหยัดต่อไปได้อีกระยะ เขาก็อู้ได้นานขึ้นอีกหน่อย สวดมนต์น้อยลงอีกหน่อย บัดนี้สิดี เขาอู้ไม่ได้เลย ต้องสวดมนต์กับคุณชายอีกแล้ว
เขาไม่อยากสวดมนต์เลยจริง ๆ ทรมานเกินไป!
“มาเถอะ เรามาต่อกันเลย”
หลี่จิ่วเต้าเดินมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ให้จั่วเหยียนสวดมนต์กับเขาต่อเพื่อขัดเกลาจิตใจ
จั่วเหยียนตอบน้ำตาคลอ สวดมนต์กับหลี่จิ่วเต้าอีกครา
…
“ตาย…หมดเลยหรือ?!”
อีกด้าน จ้าวแดนพิสุทธิ์ที่เหลืออย่างหรูเยวียรับรู้ได้ว่าจ้าวแดนพิสุทธิ์ทั้งสามและเงาทั้งหมดถูกกำจัดจนสิ้น พวกเขาตกตะลึงไปในบัดดล ตัวสั่นไม่หยุด
ไม่ใช่กระมัง จ้าวแดนพิสุทธิ์ทั้งสามตายทันทีที่บุกหรือ
พวกเขาตระหนักได้ทันทีว่าพลังที่หลี่จิ่วเต้ามีเหนือกว่าที่พวกเขาคาดการณ์ไปไกล!
“นี่เป็นเพียงพลังนอกกระดานเท่านั้น!”
หรูเยวียเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน เอ่ยอย่างอย่างอดไม่ได้ “หรือพวกเราถูกเขาปั่นหัวเล่นมาตลอด ทั้งที่เขาสามารถกวาดล้างพวกเราได้ทันทีแท้ ๆ!”
นางรู้สึกสิ้นหวัง ไม่ให้สิ้นหวังได้อย่างไร จ้าวแดนพิสุทธิ์ทั้งสามถูกสังหารทันทีที่ไปถึง ต่อให้จ้าวแดนพิสุทธิ์ทั้งหมดในที่นี้ร่วมมือกันยังทำไม่ได้ หลี่จิ่วเต้ากลับทำได้!
เห็นได้ชัดว่าพลังของหลี่จิ่วเต้าอยู่เหนือพวกเขา กวาดล้างพวกเขาได้ง่ายดาย!
“อ๊ากกก หงุดหงิดใจจริงโว้ย! ที่ผ่านมาพวกเราเป็นเพียงตัวตลกหรือ”
จ้าวแดนพิสุทธิ์ผู้หนึ่งคำรามกราดเกรี้ยว อัปยศจากใจจริง
พวกเขาคือตัวตลกอย่างไม่ต้องสงสัย แม้นพวกเขาไม่รู้ว่าเหตุใดหลี่จิ่วเต้าต้องทำเช่นนี้ แต่พวกเขารู้ดีว่าที่ผ่านมา พวกเขาเป็นเพียงเรื่องน่าขันเท่านั้น
เห็นได้ชัดว่าหลี่จิ่วเต้ามีพลังระดับที่กวาดล้างพวกเขาได้มานาน กระนั้นกลับไม่ได้กวาดล้างพวกเขา ซ้ำยังแสร้งทำเป็นพ่ายแพ้ต่อพวกเขา ปั่นหัวพวกเขาเล่นเหมือนตัวตลกอย่างนั้นหรือ
ขณะที่พวกเขารู้สึกเจ็บใจ ยังเต็มไปด้วยความอดสู รู้สึกถูกหยามเกียรติครั้งใหญ่หลวง!
บอกตามตรง ไม่มีเรื่องใดน่าอับอายกว่านี้อีกแล้ว!
พวกเขาคิดมาตลอดว่ามีความได้เปรียบเบ็ดเสร็จ ที่ผ่านมาพวกเขาวางตัวเสมือนผู้กุมชัยชนะ ผลสุดท้าย พวกเขาเพิ่งเข้าใจว่าตนเป็นเพียงเรื่องน่าขัน หาได้มีน้ำยาไม่ หาได้มีข้อได้เปรียบไม่ หากแต่ถูกหลี่จิ่วเต้าปั่นหัวเล่น
…………….