รุ่นพี่สาวเปิ่นสุดน่ารัก มามิยะซัง (LN) - ตอนที่ 2.3 หลักการทำงานข้อที่ 2: ระวังลูกน้องที่ไม่รักษาระยะห่าง!
- Home
- รุ่นพี่สาวเปิ่นสุดน่ารัก มามิยะซัง (LN)
- ตอนที่ 2.3 หลักการทำงานข้อที่ 2: ระวังลูกน้องที่ไม่รักษาระยะห่าง!
ผมมัวแต่วุ่นวายกับการดูแลฮินะจัง จนงานเอกสารที่ต้องสอนมามิยะซัง และงานของตัวเอง ก็ยังไม่เสร็จ เลยต้องอยู่ทำงานล่วงเวลา
ในออฟฟิศเหลือคนไม่มาก ผมเหนื่อยจนแทบจะหาวแล้ว
[มามิยะซัง กลับบ้านเถอะครับ ไม่ไหวแล้ว]
[ไม่ได้หรอกค่ะ ฉันจะทำแผนงานที่คุณสอน ให้เสร็จก่อน]
[แต่นี่มันดึกแล้วนะครับ]
[อีกนิดเดียว…]
ผมให้มามิยะซัง [ทำแผนงานเพื่อเพิ่มยอดผู้ติดตามในอินสตาแกรม] ถึงผมจะเป็นคนตัดสินใจขั้นสุดท้าย แต่ก็ต้องให้พนักงานคนอื่นๆ ช่วยด้วย เลยต้องทำเป็นแผนงานขึ้นมา
[ผม ไปชงกาแฟมาให้มั้ยครับ?]
ผมถาม เมื่อเห็นว่ามามิยะซังดูง่วงนอน
[ค่ะ! เดี๋ยวฉันทำให้!]
มามิยะซังพูด พร้อมกับลุกขึ้นยืน
[เครื่องชงกาแฟใหม่ของบริษัท ทำคาปูชิโนได้ด้วยนะครับ… มามิยะซัง อยากดื่มมั้ยครับ?]
[ทำคาปูชิโนได้ด้วยเหรอคะ? ไม่เคยรู้มาก่อนเลย ช่วยสอนวิธีใช้หน่อยสิคะ]
ในบริษัทมีมุมพักผ่อน มีเครื่องชงกาแฟ และขนมฟรี เครื่องชงกาแฟที่เพิ่งเปลี่ยนใหม่ ใช้งานได้หลากหลายมาก แต่ไม่มีคู่มือ เลยดูยากนิดหน่อย
ไม่ใช่แค่เอสเพรสโซ่ กับคาปูชิโน แต่ยังทำกาแฟรสหวาน เช่น คาราเมล ได้ด้วย แค่เปลี่ยนชิป
ปกติ ผมไม่กล้าเข้าไปยุ่ง เพราะมีคนจากแผนกอื่นอยู่เยอะ แต่ตอนนี้คนน้อยลงแล้ว ผมเลยอยากลองใช้ดู
[มามิยะซัง จะดื่มอะไรครับ?]
[อืม… ฉันอยากลองทำเองค่ะ]
เธอทำหน้าเหมือนงอนๆ มามิยะซังเป็นถึงสาวสวย คงถูกเลี้ยงดูมาแบบไข่ในหิน เลยไม่รู้สึกดีใจ เวลาที่มีคนทำให้?
หรือว่า…เธอไม่อยากให้คนอย่างผมทำให้?
[งั้น เชิญเลยครับ]
ผมหลีกทางให้ แล้วผายมือเชิญมามิยะซัง เธอยิ้มกว้าง
ถึงจะเพิ่งรู้จักกันแค่ อาทิตย์เดียว แต่มามิยะซังเป็นคนที่ แสดงสีหน้าชัดเจนมาก ผู้หญิงทุกคนเป็นแบบนี้รึเปล่านะ?
[ขอบคุณค่ะ! ฉันอยากดื่มคาปูชิโน… กดปุ่มนี้ใช่มั้ยคะ?]
มามิยะซังมองเครื่องชงกาแฟกับผมสลับไปมา ด้วยสีหน้าลังเล ผมเลยบอกวิธีใช้ และลำดับการกดปุ่มให้เธอ
[ฮิๆ เวลาที่เหนื่อยๆ ต้องคาปูชิโนเลยนะคะ ฟุจิชิโระซังล่ะคะ?]
[ผม เอากาแฟธรรมดาก็ได้ครับ]
[หา ไม่เอาแบบเดียวกันเหรอคะ?]
[อ๊ะ เอาแบบเดียวกันก็ได้ครับ]
[งั้น เดี๋ยวฉันทำให้คุณด้วยนะคะ]
มามิยะซังยิ้ม แล้วยื่นคาปูชิโนแก้วแรกที่เธอทำ ให้ผม อ๋อ เธออยากทำให้ผมเหรอเนี่ย รู้สึกดีจัง
[มานั่งตรงนี้กันเถอะค่ะ! ฟุจิชิโระซัง วิวสวยจังเลยนะคะ]
เราไม่ได้กลับไปที่โต๊ะทำงาน แต่เดินมานั่งที่มุมพักผ่อน ที่ปกติพนักงานจะมานั่งกินข้าว หรือพักผ่อน ตรงนี้มีหน้าต่างบานใหญ่ มองเห็นวิวเมืองยามค่ำคืน
[จริงสิ ฟุจิชิโระซัง แผนงานที่ฉันให้ไป เป็นยังไงบ้างคะ?]
[ครับ แผนงานที่ผมได้วันนี้ ก็น่าสนใจดีนะครับ]
ถึงมามิยะซังจะดูซุ่มซ่าม แต่ไอเดียของเธอก็เจ๋งมาก ผมมัวแต่เขิน ที่เธอทำตัวน่ารักใส่ แต่…ผมต้องจริงจังกับงานมากกว่านี้ และให้ความสำคัญกับเธอในฐานะเพื่อนร่วมงาน
[ดีใจจัง เมื่อคืนฉันหาข้อมูลเยอะเลย ตอนแช่น้ำ อยากให้คุณชมบ้างจัง]
มามิยะซังยิ้มแห้งๆ แล้วจิบคาปูชิโน ผมไม่รู้จะตอบยังไง เลยจิบคาปูชิโนบ้าง รสชาติหวานละมุน กำลังดี อุณหภูมิก็พอเหมาะ เหมาะกับการดื่มตอนทำงานล่วงเวลาที่สุด
[ฟุจิชิโระซัง ฉัน… อยากพัฒนาตัวเองค่ะ!]
ผมรู้สึกว่ามามิยะซังขยับเข้ามาใกล้ เลยหันไปมอง เธอกำลังมองผมจากด้านล่าง แถมยังมีฟองนมติดอยู่บนริมฝีปาก มือทั้งสองข้าง จับแก้วคาปูชิโนไว้ น่ารักมาก เหมือนหลุดออกมาจากนิยายเลย! ถ้าถ่ายรูปลงอินสตาแกรม ต้องดังระเบิด มีงานติดต่อเข้ามาเพียบแน่ๆ
[คะ ครับ]
ถึงจะคิดแบบนั้น แต่มามิยะซังก็กำลังพูดเรื่องงานอย่างจริงจัง ผมเลยหลบสายตา แล้วตอบกลับไป
[อุ๊ย! ร้อน!]
มามิยะซังวางแก้วลงบนโต๊ะ
[ไม่เป็นไรนะครับ?]
[คะ ค่ะ เอ่อ ฟุจิชิโระซัง]
มามิยะซังจ้องมองผม ฟองนมยังคงติดอยู่ที่ริมฝีปาก
[เอ่อ มีอะไรเหรอครับ?]
[แก้วมัค…]
มามิยะซังพูดว่า [แก้วมัค…]
แก้วมัค?
[ถ้าไม่รังเกียจ คราวหน้าไปซื้อด้วยกันมั้ยคะ?]
[กับผมเหรอครับ?]
[ค่ะ คือว่า…ที่บ้านฉัน…ไม่มีแก้วมัคเลยน่ะค่ะ]
(แบบนั้นก็มีด้วยเหรอ?)
[ฉันคิดว่า ถ้ามีแก้วเก็บไว้ที่บริษัท ก็จะใช้เครื่องชงกาแฟ ชงเครื่องดื่มอุ่นๆ ดื่มได้ตลอดเลย]
[ก็จริงนะครับ มีแก้วมัคเป็นของตัวเองก็ดีเหมือนกัน]
แต่…ทำไมต้องชวนผมไปด้วย?
[จริงสิ! คราวหน้า ฉันจะถ่ายรูปลงอินสตาแกรม ไปด้วยกันนะคะ… เอ่อ…]
[แถวๆ สถานี มีร้านขายของกระจุกกระจิกอยู่นะครับ… จะไปซื้อที่นั่นก็ได้ ฮินะจังน่าจะรู้จักร้านดีนะครับ…]
[งื้อออ… ฟุจิชิโระซัง ไม่ไปกับฉันเหรอคะ?]
มามิยะซัง ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้
[งั้น… ไปด้วยกันนะครับ…]
มามิยะซังยิ้มกว้าง แล้วพูดว่า
[จริงสิ! รูปของฮินะจังที่ถ่ายไปวันนี้ มียอดไลก์เยอะเลยนะคะ]
ตอนนี้มียอดผู้ติดตามประมาณ 100 คน ถ้ามีคนไลค์ 30% ก็ถือว่าดีแล้ว
[ยอดไลก์ตั้ง 200! ชุดนักเรียนของฮินะจัง… หรือว่า… ยอดผู้ติดตามก็เพิ่มขึ้นเป็น 500 คนแล้วค่ะ!]
มามิยะซัง! ทำไมไม่รีบบอกเรื่องสำคัญแบบนี้!
ผมอยากจะพูดแบบนั้น แต่ก็กลั้นไว้ แล้วพูดว่า
[โห คงเป็นเพราะแคปชั่นที่มามิยะซังเขียนด้วยนะครับ]
ผมชมเธอ เพื่อให้เธอมีกำลังใจ
มามิยะซัง ที่ยังมีฟองนมติดอยู่บนริมฝีปาก จับมือผม แล้วโน้มตัวเข้ามาใกล้ จนหน้าอกของเธอแทบจะชนกับผม เธอจ้องมองผม ด้วยแววตาออดอ้อน
ในออฟฟิศที่ไม่มีใคร มีแค่เราสองคน
[มะ มามิยะซัง?]
อย่าเข้าใจผิดนะ มามิยะซังแค่ดีใจที่โดนชม ไม่ได้ชอบผม หรืออะไรแบบนั้น…
[ฉันจะพยายามค่ะ! ฉะ ฉันอยากให้ฟุจิชิโระซัง ดีใจค่ะ]
[เอ่อ… งั้น ที่เหลือ ไว้ทำพรุ่งนี้เถอะครับ วันนี้กลับบ้านไปพักผ่อนก่อน ผมก็ ตั้งตารออ่านนะครับ]
ผมคิดว่ามามิยะซังคงเหนื่อย เลยพูดแบบนั้นออกไป
ไม่มีทางที่มามิยะซังจะพยายามเพื่อผมหรอก… เธอคงเหนื่อยมาก ที่ต้องเรียนรู้อะไรใหม่ๆ ตลอดหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา
มามิยะซังปล่อยมือผม แล้วขยี้ตา
[ถึงจะดื่มกาแฟแล้ว แต่ฉันก็ยังง่วง… วันนี้ฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ อ๊ะ จริงสิ พรุ่งนี้ฉันจะมาเร็วหน่อย แล้วตั้งใจทำงาน รอติดตามด้วยนะคะ!]
ยอดผู้ติดตาม 500 คน…
หลังจากมามิยะซังกลับไปแล้ว ผมก็เคลียร์งานของตัวเองต่อ เอาจริงๆ มามิยะซังเป็นคนขยัน ส่วนฮินะจัง ผมก็ต้องดูแลเธอให้ดี
ไม่คิดเลยว่า พนักงานธรรมดาๆ อย่างผม จะต้องมารับผิดชอบอะไรมากมายขนาดนี้
[ออฟฟิศที่ไม่มีใคร แบบนี้ก็ครั้งแรกเลยแฮะ ต้องปิดยังไงนะ?]
กุญแจต้องใส่ไว้ในตู้ หรือว่า เอาติดตัวกลับไปนะ?
[อ่า ต้องล็อกประตู แล้วก็เช็คไฟด้วย]
ผมเปิดคู่มือ แล้วเริ่มตรวจเช็คไฟ
ห้องครัว ห้องน้ำ ห้องประชุม ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าผู้ชาย เรียบร้อย ปิดไฟหมดแล้ว
[เอ๊ะ?]
ไฟในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าผู้หญิงยังเปิดอยู่ มามิยะซังน่าจะเป็นคนสุดท้ายที่ใช้ห้องนี้ มามิยะซัง…ลืมปิดไฟสินะ
เธอก็เป็นคนขี้ลืม แถมยังดูเหนื่อยๆ คงจะลืมจริงๆ หรือว่า…ผมน่าจะไปส่งเธอที่สถานีนะ? ไม่สิ เธอคงไม่อยากกลับบ้านพร้อมกับคนอย่างผมหรอก
ผมเดินเข้าไปในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าผู้หญิง มุ่งหน้าไปที่สวิตช์ไฟ
[ฮึก…]
เสียงนี้…
ผมหันหลังกลับไป ด้วยสัญชาตญาณ
[กรี๊ดดด!]
ภาพที่ปรากฏตรงหน้า คือ ผู้หญิงในชุดชั้นในสีชมพู ผมยาวสีดำ หน้าอกที่ดูอวบอิ่ม รูปร่างแบบสาวตะวันตก
เธอหน้าแดงก่ำ ยกมือขึ้นมาปิดหน้าอก
[คราวหน้า…เดี๋ยวฉันแนะนำร้านให้ค่ะ]
ผมนึกถึงตอนที่คิอุจิซังแอบบอกมามิยะซัง ที่หาเสื้อเชิ้ตไซส์ตัวเองไม่เจอ เพราะหน้าอกใหญ่
ตอนนั้นผมยังสงสัยว่า [ทำไมคิอุจิซังถึง…] แต่พอเห็นคิอุจิซังแบบนี้ ผมก็เข้าใจแล้ว
แบบนี้นี่เอง!
แต่…ผมคิดอะไรอยู่เนี่ย!
[ขะ ขอโทษครับ!]
ผมหน้าแดงก่ำ รีบหันหน้าหนี แล้ววิ่งออกจากห้อง แย่แล้ว แย่แน่ๆ!
ผมกลับไปที่โต๊ะ คว้ากระเป๋า แล้ววิ่งลงบันไดไปที่ประตูทางเข้า ผมจะโดนไล่ออก ข้อหาคุกคามทางเพศมั้ยเนี่ย?
หรือว่าจะโดนจับ ข้อหาบุกรุก?
งานกับมามิยะซัง สาวประชาสัมพันธ์สุดสวย ก็กำลังจะไปได้สวย แต่ผม…อาจจะตกงาน…
ทันใดนั้น เสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ผมหยิบขึ้นมาดู ขณะที่นั่งอยู่บนม้านั่งในสถานี
เป็นข้อความจากแชทภายในบริษัท
แถมผู้ส่ง คือ คิอุจิ มิโกะ ซะด้วย
[ฟุจิชิโระซัง เหนื่อยหน่อยนะคะ ขออภัยในความเสียมารยาทเมื่อครู่ค่ะ คุณทำของหล่นไว้ เลยจะติดต่อ… ตอนนี้ยังอยู่แถวนี้มั้ยคะ?]
รูปภาพที่แนบมาด้วย คือ กุญแจบ้านของผม ผมคงทำหล่นตอนที่ตกใจ ที่เห็นคิอุจิซังในชุดชั้นใน
แต่ดูเหมือนคิอุจิซังจะไม่ได้โกรธมาก… ผมรีบขอโทษดีกว่า
[คิอุจิซัง ขอโทษครับ ผมไม่น่าเข้าไปในห้องแต่งตัวโดยไม่เคาะประตู… ผมเสียใจจริงๆ ตอนนี้ผมอยู่ที่สถานี จะรีบกลับไปที่ออฟฟิศเดี๋ยวนี้ครับ]
ผมพิมพ์ตอบกลับไป ไม่นาน ก็มีข้อความตอบกลับมา
[ค่ะ ฉันมีเรื่องอยากคุยด้วย รบกวนเวลาสักครู่ได้มั้ยคะ?]
เฮ้อ… โดนประหารแน่ๆ
ผมคงต้องคุกเข่า แล้วขอโทษเธอ ถึงจะไม่โดนไล่ออก แต่ก็คงโดนตำรวจเรียกตัวแน่ๆ
[ผมกำลังรีบไปครับ]
คิอุจิซังตอบกลับมาด้วยสติกเกอร์น่ารักๆ ผมตัดสินใจ ลุกขึ้นจากม้านั่ง แล้วเดินกลับไปที่ออฟฟิศ
เพจผู้เเปล Suraの夜 -เร็วๆนี้จะเปิดโหวตเรื่องใหม่อีก1 ทางเพจผู้เเปลเข้าไปติดตามรอร่วมโหวตกันได้นะครับ –