ตอนที่ 0
ในช่วงชีวิตมัธยมปลายของทุกคนคิดว่าส่วนมากจะต้องมีสิ่งนี้เหมือนกัน นั่นคือการที่มีรุ่นพี่ผู้หญิงสุดสวยที่หุ่นดีอย่างกับนางแบบและมีผลการเรียนและกีฬาที่ยอดเยี่ยม และถ้าหากว่าบ้านรวยด้วยแล้วก็คงเรียกได้นี่คือเทพธิดาลงมาจุติจะมากกว่า แน่นอนโรงเรียนของผมเองก็มีเช่นกัน รุ่นพี่สาวสวยที่เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบทั้งหน้าตา รูปร่าง ผลการเรียนและแน่นอนว่ายังรวมไปถึงนิสัยใจคอที่เป็นที่รักของทุกคนในโรงเรียนไม่เว้นแม้แต่เหล่าอาจารย์
ผม โฮโจ ทาคายูกิ พึ่งเข้าเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายที่โรงเรียนมัธยมปลายทาเคฮายะได้ไม่นานก็ต้องมาพบการที่เหล่าบรรดานักเรียนชั้น ม.ปลาย ปี1 จะต้องเข้าชมรม แน่นอนว่าตัวผมเองก็ไม่มีข้อยกเว้น แต่ถึงอย่างนั้นผมที่ปกติแล้วหลังเลิกเรียนก็จะกลับบัานทันทีทำให้เรียกได้ว่าตอนนี้อยู่ชมรมกลับบ้านก็ได้ แน่นอนว่าเพื่อนที่สนิทกันก็เคยชวนเข้าชมรมเหมือนกันแต่ผมก็ไม่สนใจเลยได้แต่ปฏิเสธกลับไปเท่านั้น
ตั้งแต่เปิดภาคเรียนนี่ก็ผ่านมา 4 เดือนแล้วแน่นอนว่าผ่านการสอบกลางภาคมาแล้วเรียบร้อย แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังไม่ได้เข้าชมรมอะไร วัน ๆ ยังใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายอย่างการที่เรียนเสร็จก็กลับบ้านเพื่อไปเล่นเกม ไม่ก็อ่านนิยายหรือมังงะ แต่เห็นสิ่งที่ผมทำแบบนี้ผมก็ไม่ใช่โอตาคุไร้เพื่อนหรอกนะ เพื่อนน่ะมีแน่นอน ได้คุยได้กินข้าวด้วยกันตินกลางวันอย่างปกติเพียงแต่หลังเลิกเรียนผมจะกลับบ้านโดยทันทีเท่านั้นเอง
ใช่ทุกอย่างก็ปกติดีนั่นแหละนะ จนกระทั่งมาถึงวันนี้…
” นี่นายไม่คิดจะเข้าชมรมอะไรเลยจริง ๆ หรือไงวะเนี่ย ”
เสียงของไอ้เพื่อนยากที่นั่งอยู่ข้างหลังเอ่ยถามขึ้นมาเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ แน่นอนว่าผมไม่ได้เจอคำถามนี้ครั้งแรก ตั้งแต่ที่เปิดเทอมได้ทำความรู้จักกันมานี่ก็เป็นครั้งที่ 5 แล้วที่เพื่อนของผมคนนี้ถามคำถามแบบเดิม ๆ
” ไม่ล่ะ ไม่มีชมรมไหนที่อยากจะเข้าเลยสักนิด ”
” ให้ตายสิแกเนี่ยนะ ไม่มีความสนใจในอะไรเลยหรือไง อย่างน้อยถ้าเข้าชมรมดี ๆ อาจจะเจอสาวสวยในนั้นก็ได้นะเว้ย ”
” โทษทีแล้วกันที่ฉันไม่ใช่คนที่จะเข้าชมรมเพื่อเรื่องแบบนั้น ”
” หา ? นี่แกหลอกด่าฉันหรือเปล่าวะเนี่ย ”
การพูดคุยตอบโต้กับเพื่อนสนิทของผมดำเนินในทำนองนี่มาแล้วหลายครั้ง เจ้าเพื่อนยากที่สนิทกันเพราะตอนปฐมนิเทศดันนั่งติดกันและแถมตอนจัดโต๊ะเรียนก็ได้นั่งติดกันด้วยโดยที่พวกเรานั่งอยู่แถวริมหน้าต่างเพียงแต่ผมอยู่รองสุดท้าย
” เอ่อใช่แล้ว ! การสอบปลายภาคครั้งหน้าช่วยติวให้ฉันทีดิ ปลายภาคที่แล้วฉันตกไปตั้ง 2 วิชาแหนะ ถ้าเกิดยังตกอีกล่ะก็คงได้อดไปเที่ยวปิดเทอมแน่ ”
” หา ? ไม่เอาด้วยหรอกเฟ้ย! ”
” อย่าพูดแบบนั้นดิ นะนะช่วยกันหน่อย สอบกลางภาคครั้งก่อนแกอยู่ในท็อป 15 ของชั้นปีเลยไม่ใช่หรือไงแค่นี้ช่วยฉันหน่อยไม่ได้หรือไงวะ ”
ไอ้เพื่อนยากเจ้าปัญหากำลังขอร้องอย่างเอาเป็นเอาตายกับการเอาตัวรอดจากการเรียนซ่อมให้ได้ ก็ตามที่หมอนี่ว่าผลประกาศสอบกลางภาคที่ผ่านอยู่ท็อป 15 ของชั้นปีโดยผมอยู่ในอันดับที่ 13 ถึงจะไม่ได้อยู่ใน 10 อันดับแรกแต่ก็ถือว่าจัดอยู่ในกลุ่มผลการเรียนดี แต่หากพูดถึงเรื่องกีฬาแล้วต้องบอกว่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยนิดหน่อย
เพราะแต่เดิมแล้วผมไม่ค่อยชอบจะออกกำลังกายเท่าไหร่ แม้แต่วิชาพละก็ทำได้อยู่ในระดับที่เรียกว่าอยู่ในค่าเฉลี่ยแบบพอดิบพอดีนั่นทำให้ทักษะความสามารถของผมจะเน้นไปทางด้านการเรียนก็ไม่แปลก ซึ่งตรงกันข้ามกับไอ้เพื่อนยากของผมอย่างสิ้นเชิง
เจ้าหมอนี่เรียกได้ว่าเกิดมาเพื่อเป็นนักกีฬาอย่างแท้จริงไม่ว่าจะกีฬาประเภทไหนก็มักจะทำได้ดีไปหมด แม้แต่กีฬาที่เจ้าตัวไม่เคยเล่นก็ยังเล่นได้ดีจนได้รับคำชมแต่ถูกชมรมต่าง ๆ ทาบทาม ซึ่งตรงกันข้ามกับตัวผมที่เรียกได้ว่าวิ่งได้รอบสนามรอบเดียวก็เกือบสิ้นอายุขัยแล้ว
” ไว้ถ้าแกเลี้ยงเนื้อย่างชุดใหญ่ฉัน ฉันอาจจะช่วยก็ได้นะ ฉันไปล่ะไว้เจอกันพรุ่งนี้ ”
” ไอ้เวร เรียกร้องแพงไปแล้วเฟ้ย! ”
หลังจากพูดจบผมก็ตามออกจากห้องเรียนเพื่อกลับบ้านตามวิถีชีวิตที่เป็นอยู่ปกติพร้อมกับเสียงบ่นจากไอ้เพื่อนยากไล่หลังมา
ช่วงเวลาหลังเลิกเรียนที่ทุกคนกำลังทยอยกลับบ้านไม่ก็นัดกันไปร้องคาราโอเกะกัน ผมก็ทำตามแบบฉบับของผมนั่นคือตรงกับบ้านเพื่อไปเข้าสู่โลกส่วนตัวอย่างการเล่นเกมหรืออ่านนิยาย
ถึงหลายคนจะบอกว่าการได้ไปเที่ยวกับเพื่อนหลังเลิกเรียนเป็นเรื่องสนุกและควรค่ากับชีวิตมัธยมปลายก็เถอะ แต่สำหรับผมแล้วมันออกจะเปลืองพลังงานไปสักหน่อยถ้าอยากจะเล่นเกมก็นั่งเล่นอยู่บ้านเอาก็สิ้นเรื่อง แถมถ้าอยากกินอะไรก็ลงไปเปิดตู้เย็นได้ทันทีเรียกได้ว่าสะดวกสบายกว่าเป็นไหน ๆ
เพราะฉะนั้นไม่ต้องพูดถึงชมรมหลังเลิกเรียนเลย ผมไม่ยอมเอาเวลาที่มีค่าช่วงหลังเลิกเรียนไปทำเรื่องไร้สาระอย่างการเข้าชมรมอะไรแบบนั้นแน่นอน ใช่ยังไงก็ไม่เด็ดขาด
” นี่โฮโจ ตามครูมาหน่อยสิ ”
ในระหว่างที่เดินอยู่บนชั้นเรียนเพื่อจะลงบันไดก็โดนครูที่คุ้นหน้าคุ้นตาอยู่แล้วเรียกขึ้นมา อะไรละนั่นน่ะ ? หวังว่าคงไม่ใช่เรียกไปช่วยงานหลังเลิกเรียนอะไรแบบนั้นหรอกนะ
” มีอะไรเหรอครับอาจารย์นัสซุ ”
แน่นอนว่านั่นไม่ใช่ชื่อจริง ๆ ของอาจารย์ที่กำลังเรียกผมหรอกชื่อจริง ๆ ของอาจารย์คือ ชินัทซุ แต่นักเรียนส่วนใหญ่จะเรียกเธอว่านัสซุกัน ผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย
” เดี๋ยวเถอะ อย่ามาเรียกนัสซุนะ เรียกชื่อฉันให้มันดีกว่านี้หน่อยสิ ”
อาจารย์กำลังเอามือท้าวสะเอวพร้อมทั้งพูดด้วยสีหน้าเหมือนกำลังงอน เห็นแบบนี้ก็คงไม่รู้สึกกลัวแต่อย่างใด แน่นอนอยู่แล้วเพราะอาจารย์นัสซุเรียกได้เป็นอาจารย์สาวสวยที่ได้รับความนิยมอยู่ไม่ใช่น้อย ผมสั้นประบ่าที่ผ่านมาซอยตัดแต่งมาอย่างชำนาญไม่รู้ว่าอาจารย์แกทำผมที่ร้านไหนแต่เหมือนจะถูกเหล่านักเรียนหญิงมาขอคำปรึกษาเรื่องการแต่งตัวอยู่ไม่ใช่น้อย
ไหนจะเรื่องเสื้อผ้าที่เป็นเสื้อแขนยาวสีขาวที่ดูสวยตามสไตร์ผู้หญิงและกางเกงสแล็กสีดำที่ให้อารมณ์แบบผู้ใหญ่วัยทำงาน ยิ่งทำให้ความสวยของอาจารย์ถูกขับออกมาเป็นอย่างดี แต่ก็นั่นแหละอาจารย์ที่เป็นขวัญใจของนักเรียนมาเรียกผมทำไมในช่วงเวลาหลังเลิกเรียนแบบนี้
” ครับ ๆ เข้าใจแล้วครับ ว่าแต่อาจารย์มีอะไรงั้นเหรอครับ ”
” นี่เธอเข้าใจจริง ๆ หรือเปล่าเนี่ย แต่ช่างเถอะช่วยตามฉันมาหน่อยสิ ”
” ถ้าเรื่องช่วยงานหลังเลิกเรียนต้องขอผ่านนะครับ พอดีผมติดธุระที่บ้านแล้วน่ะครับ ”
แน่นอนว่าผมต้องปฏิเสธอาจารย์นัวซุไปตรง ๆ ถ้ามัวแต่จะอ้อมค้อมรับรองว่าไม่ได้กลับแน่ ๆ
” นี่เธอเห็นฉันเป็นคนยังไงกันแน่นะ ไม่ได้ขอให้ตามไปเพื่อช่วยงานสักหน่อย เอาเป็นว่าตามมาก่อนเถอะ ”
หลังจากที่อาจารย์พูดเสร็จก็หันกลับเดินไปทันที ผมที่ยังไม่ได้ทันได้ตอบกลับอะไรเลยทำได้แต่เดินตามไปอย่างช่วยไม่ได้ ไม่ว่าจะอะไรก็ขอให้ได้กลับบ้านไว ๆ แล้วกัน แต่ถึงจะคิดแบบนั้นก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมอาจารย์นัสซุถึงได้เรียกผมให้ตามไปในเวลาหลังเลิกเรียน แม้ในห้องเรียนปกติแล้วก็แทบจะไม่ได้ช่วยงานหรือคุยกับอาจารย์แบบส่วนตัวเลยสักครั้ง
อาจารย์นัสซุเป็นอาจารย์สอนวิชาประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์ ทำให้ภาพลักษณ์ของอาจารย์มักจะเป็นสาวแกร่งอยู่เสมอ แต่บางครั้งก็จะแสดงด้านบ้า ๆ บอ ๆ ออกมาอยู่เหมือนกัน
” นี่นายน่ะ ไม่ได้คิดอะไรเสียมารยาทอยู่ใช่ไหม ? ”
แล้วทำไมพอเวลาแบบนี้ถึงได้เซนส์แรงกันละแม่คุณ แย่ละสิหรือว่าความคิดของเรามันดังจนอาจารย์แกได้ยินกันแน่นะ
” ไม่ได้คิดอะไรสักหน่อยครับ ผมว่าอาจารย์คิดมากไปเอง ”
” งั้นเหรอ แล้วไป ”
เฮ้อ… ต่อไปคงต้องระวังเวลาคิดอะไรไม่ดีถึงคนอื่นมากกว่านี่สินะ ไม่รู้เพราะความคิดมันดังเกินไปหรือว่าเซนส์ของผู้หญิงมันน่ากลัวกันแน่ แต่ยังไงก็เถอะ นี่ก็เดินตามอาจารย์มาได้สักพักแล้วนะ นี่เกือบจะเรียกว่าอยู่สุดขอบตึกด้วยซ้ำ จะพาเราไปไหนกันแน่นะ
ถ้าเป็นเวลาแบบนี้อาจารย์ก็น่าจะกลับบ้านเหมือนกันไม่ใช่เหรอไงกัน แล้วทำไมถึงต้องเรียกนักเรียนชายที่ยังหนุ่มแน่นแบบผมไปด้วยล่ะ นี่ถ้าหากว่ามีคนปล่อยข่าวลือแปลก ๆ ว่าอาจารย์สาวสวยพาเด็กนักเรียนชายปี 1 ไปที่ลับสองต่อสองคงได้เป็นเรื่องแน่
” ที่นี่แหละ ”
ระหว่างที่คิดอะไรเพลินอาจารย์ที่เดินนำหน้าผมอยู่ก็หยุดที่หน้าประตูห้องห้องหนึ่ง สภาพประตูที่ดูเหมือนกับประตูห้องเรียนทั่วไปแต่ดูเก่ากว่าปกติเหมือนไม่ได้ใช้มานาน แสงอาทิตย์สีส้มที่ส่องผ่านหน้าต่างด้านบนประตูสื่อให้เห็นถึงช่วงเวลาที่ทุกคนควรจะต้องกลับบ้าน แต่ผมเวลานี้กลับมายืนอยู่หน้าประตูปริศนากับอาจารย์สุดสวยซะงั้น
” อาจารย์ครับที่นี่คือ ? ”
” ห้องเรียนเก่าที่ไม่ได้ใช้แล้วน่ะ ”
เดี๋ยวก่อนนะผมว่ามันเริ่มจะแปลก ๆ และ หรือว่าที่ผมคิดเสียมารยาทก่อนหน้านี้จะเป็นความจริงขึ้นมางั้นเหรอ ไม่ไม่ คงต้องปฏิเสธตั้งแต่ตอนนี้เลยสินะ
” เอ่อคือผมรู้สึกขอบคุณสำหรับความรู้สึกของอาจารย์นะครับ แต่ความสัมพันธ์ระหว่างนักเรียนกับอาจารย์แบบนี้มันออกจะ… ”
” หา !? นี่กำลังคิดว่าฉันพานายมาทำอะไรกันแน่ยะ ! บัดสีที่สุด ! ”
อ้าว ? ไม่ได้จะมอบบทเรียนนอกเวลาอันสุดแสนจะเร่าร้อนให้ผมหรอกเหรอ งั้นทำไมถึงได้พามาที่ห้องเรียนเก่าที่ไม่มีคนใช้แบบนี้ล่ะ ? อย่าบอกนะว่าจะให้มาทำความสะอาดอะไรแบบนั้น ขอเถอะครับ ปล่อยผมกลับบ้านเถอะผมมีธุระกับบอสดันเจี้ยนวันนี้นะ
” ให้ตายสิ ! ที่พามาก็เพราะจะให้นายเข้าชมรมกับเธอคนนี้ต่างหาก ”
เมื่ออาจารย์พูดจบก็เปิดประตูห้องเรียนออก เสียงของประตูที่ดูจะมีความฝืดสักหน่อยเปล่งเสียงที่ดูน่ารำคาญเล็กน้อยก่อนจะเผยให้เห็นถึงภายในห้องที่ถูกย้อมไปด้วยแสงแดดสีส้มนวลอันงดงาม
” เอ๊ะ ? ”
ภายในห้องปรากฏร่างของนักเรียนหญิงมัธยมปลายที่สวมชุดโรงเรียนกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่โต๊ะริมหน้าต่างด้วยท่าทางสง่างาม ผมสีดำสนิทยาวสวยราวกับท้องฟ้ายามราตรีและดวงตาสีม่วงที่ดูงดงามลึกลับราวกับดวงตาของแมว ใบหน้าที่ได้รูปทั้งจมูกและปากที่สมบูรณ์แบบจนเรียกได้ว่าราวกับงานศิลปะชั้นเลิศ รูปร่างที่สูงโปร่งและหุ่นดีที่เรียกว่าเป็นนางแบบได้สบาย ๆ และที่เห็นจะเด่นที่สุดคงเป็นหน้าอกที่ใหญ่เป็นพิเศษ
แน่นอนว่าทั้งโรงเรียนคงไม่มีใครที่ไม่รู้จักเธอคนนี้ ฮิเมมิยะ ยูกิ หรืออีกชื่อหนึ่งที่ทุกคนต่างเรียกขาน ‘เจ้าหญิงหิมะ’
ทั้งการเรียนและกีฬาเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบจนไร้ที่ติ และด้วยรูปร่างหน้าตาที่สวยดุจดั่งเจ้าหญิงทำให้เธอกลายเป็นไอดอลของโรงเรียนไปโดยปริยายทั้งยังนิสัยใจคอที่เป็นมิตรและอ่อนโยนทำให้มีเหล่านักเรียนชายมากหน้าหลายตาเข้าไปสารภาพรักกับเธอเยอะมาก แน่นอนว่าทุกคนในโรงเรีนนก็ต่างรู้เรื่องนี้กันอยู่แล้ว จนในที่สุดเหล่าหนุ่ม ๆ ผู้คลั่งรักก็ถอดใจเพราะตัวตนเจ้าหญิงหิมะนั้นมันสูงเกินเอื้อม
” นายคงรู้จักเธอคนนี้ดีอยู่แล้วใช่ไหม ฮิเมมิยะ ยูกิ น่ะ ”
เสียงของอาจารย์ที่ดังขึ้นช่วยปลุกผมที่กำลังตกอยู่ในผวัง แน่นอนว่าผมกำลังตกใจและเคลิบเคลิ้มไปกับภาพตรงหน้า การที่ได้เห็นรุ่นพี่ที่เป็นไอดอลของโรงเรียนกำลังนั่งอ่านหนังสือโดยมีแสงอาทิตย์ยามเย็นเป็นฉากหลังงดงามราวกับว่าผมกำลังนั่งชมผลงานศิลปะชั้นเลิศอยู่นั่นเอง
” อะ-เอ๊ะ !? ก็พอจะรู้จักครับ รุ่นพี่ฮิเมมิยะ สินะครับ ”
ยังตั้งตัวกับสถานการณ์ตรงหน้าเลยไม่ได้แท้ ๆ ในตอนนี้หัวของผมคิดอะไรไม่ออกทั้งนั้น สิ่งที่อยู่ในหัวตอนนี้มีเพียงคำถามและภาพของรุ่นพี่สาวสวยตรงหน้าเพียงเท่านั้น
” งั้นก็ดีแล้ว สนิทกันไว้ล่ะเพราะนายจะต้องเข้าชมรมเดียวกันกับคุณฮิเมมิยะ ”
หา ? อะไรนะ นี่ผมฟังไม่ผิดใช่ไหม เข้าชมรมเนี่ยนะแถมยังกับรุ่นพี่ฮิเมมิยะคนนั้นอีกต่างหาก
ช่างจะเริ่มตามเรื่องราวไม่ทันแล้วสิ จู่ ๆ ก็มีอาจารย์ขวัญใจเด็กนักเรียนมาบอกให้เดินตาม แล้วยังมาให้เข้าชมรมกับไอดอลของโรงเรียนเนี่ยนะ ไปพูดที่ไหนคงถูกหาว่าโม้แน่ ๆ แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้ผมกำลังเผชิญกับความจริงที่ว่านั่นอยู่
” แล้วทำไมต้องเป็นผมด้วยล่ะครับ ? ”
แน่นอนว่าไม่ลืมที่จะถามเหตุผลกับอาจารย์นัสซุผู้เป็นต้นเหตุของเรื่องชวนปวดหัวครั้งนี้
” หืม ? ก็เพราะโฮโจยังไม่มีชมรมไม่ใช่เหรอ ”
” ถ้าเหตุผลแค่นั้นก็ยังมีคนอื่นที่ไม่ได้เข้าชมรมเหมือนกันไม่ใช่เหรอครับ ผมชอบกลับบ้านมากกว่า ”
จะบอกว่าแค่เห็นเราไม่มีชมรมก็เลยลากเข้าเนี่ยนะ เหตุผลงี่เง่าแบบนั้นยอมรับได้ที่ไหนกันฟะ
” ก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลยนี่ ชมรมน่ะสนุกออกจะตายไป นายควรจะเก็บเกี่ยวประสบการณ์ชีวิตมอปลายให้เต็มที่สิ ”
แล้วไหงอยู่ดี ๆ มาเป็นไลฟ์โค้ชกันล่ะครับเนี่ย ! นี่คิดจะเก็บค่าเข้าเรียนด้วยไหมเนี่ย
” หรือว่านายไม่อยากจะเข้าชมรมกับคุณฮิเมมิยะอย่างนั้นเหรอ ? “
” เอ๊ะ ! ”
มันจะเป็นไปได้ยังไงกันเล่า ได้อยู่ชมรมกับไอดอลของโรงเรียนที่เป็นรุ่นพี่สาวสวยหน้าอกใหญ่ที่หนุ่มมอปลายที่ไหนจะไม่อยากอยู่กันบ้างล่ะครับพี่ ! แต่ไม่รู้ทำไมเมื่อกี้เหมือนเห็นรุ่นพี่ฮิเมมิยะตัวสั่นในจังหวะที่อาจารย์พูดก็ไม่รู้ คงจะคิดไปเองมากกว่า
” ไม่ใช่แบบนั้นหรอกครับ แค่ไม่เข้าใจเท่านั้นเอง ”
ดูเหมือนว่าจะอธิบายอะไรไปก็คงจะโดนถามถึงเหตุผลอยู่ดี ยังไงก็ตามตอนนี้คิดว่าผมคงไม่สามารถหลุดพ้นจากความเอาแต่ใจของอาจารย์นัสซุได้แน่ ในระหว่างที่คิดแบบนั้นจู่ ๆ อาจารย์นัสซุก็เอามากอดคอแล้วยื่นหน้าเข้ามากระซิบเพื่อนที่สนิทกัน
” เอาน่า ๆ ได้อยู่ชมรมกับสาวสวยแบบนี้ไม่ดีใจหรือไง รู้ไหมว่าถ้าเกิดคนอื่นรู้เข้ามีหวังขอยื่นใบสมัครเข้ามาเป็นกองแน่ นายเป็นผู้ที่ถูกเลือกเลยนะจงภูมิใจแล้วเข้าชมรมแต่โดยดีเถอะน่า ”
กลิ่นหอมของอาจารย์นัสซุที่ชวนเคลิ้มแบบผู้ใหญ่ลอยเข้ามาในจมูกของผม แถมยังได้รับสัมผัสนุ่มนิ่มจากหน้าอกของอาจารย์อีก มันจะใกล้เกินไปหน่อยไหมเนี่ย ถ้าอาจารย์รู้ว่าตอนนี้ผมกำลังคิดเรื่องอะไรอยู่มีหวังโดนตบกระเด็นแถมตามมาด้วยคำว่าบัดสีแน่นอน
” นี่มันยัดเยียดเกินไปแล้วนะครับ สรุปแล้วนี่กะจะบังคับกันเลยไม่ใช่หรือไงเล่า ”
ให้ตายสิ ทำไมผมต้องมาโดนแย่งเวลาอันแสนสุขอย่างการที่ได้กลับบ้านไปเล่นเกมมาเข้าชมรมด้วยเล่าถึงจะได้เข้าชมรมกับรุ่นพี่สาวสวยไอดอลของโรงเรียนก็เถอะ แต่ไม่มีเหตุผลเอาซะเลย
คิดให้ตายยังไงก็ไม่เข้าใจ ผมที่กำลังถูกอาจารย์นัสซุกล่อมอยู่ในท่ากอดคอโดยมีหน้าอกของอาจารย์แนบแขนอยู่นั้นเองรุ่นพี่ฮิเมมิยะที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ริมหน้าต่างที่มีแสงอาทิตย์สีส้มเป็นฉากหลังก็ได้ลุกขึ้นจากเก้าอี้และเดินตรงมาพวกผม ทั้งผมและอาจารย์พอเห็นดังนั้นก็เลยกลับมาอยู่ในท่าทางปกติ แต่ไม่รู้ทำไมเหมือนรุ่นพี่จะจ้องหน้าอาจารย์เขม็งเลยล่ะ และสุดท้ายรุ่นพี่ก็เลื่อนสายตาหันมามองผม
” ยินดีที่ได้รู้จักนะโฮโจคุง จากนี้ไปขอฝากตัวด้วยนะค่ะ ”
รุ่นพี่ฮิเมมิยะเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าผมแล้วยิ้มให้อย่างอ่อนโยนพร้อมทั้งยื่นมือออกมา แน่นอนว่าหมายถึงการจับมือทักทายกันตามปกติ แต่ทำไมกันนะ วินาทีที่ได้เห็นรอยยิ้มของเธอคนนี้หัวของผมก็พลันขาวโพลนไปหมด หัวใจเต้นแรงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ร่างกายที่จู่ ๆ ก็อุณหภูมิสูงขึ้นรู้สึกร้อนจนอึดอัด ความประหม่าที่จู่ ๆ ก็เกิดขึ้นอย่างที่ผมไม่เคยประสบมาก่อนนี่มันอะไรกัน
” ครับ… ”
รู้ตัวอีกทีผมก็เผลอตอบกลับไปทั้งยังยื่นมือออกไปจับมือของรุ่นพี่ฮิเมมิยะ สัมผัสอันนุ่มนิ่มของมือผู้หญิงพร้อมกลิ่นหอมที่ชวนฝันเข้าถาโถมผมอย่างกระทันหัน ความอบอุ่นจากมือของผู้ที่ได้ชื่อว่าเจ้าหญิงหิมะของโรงเรียนช่วยให้ความเหนื่อยล้าที่สะสมมาทั้งวันหายไปในพริบตา
หรือว่านี่คือความรู้สึกที่เขาเรียกกันว่า ‘ความรัก’ งั้นเหรอ…
MANGA DISCUSSION