ตอนที่ 81 : จิตวิญญาณแห่งดวงดาว
ลู่หมิงถอนหายใจออกมาก่อนจะนึกอะไรขึ้นได้ เขาหยิบกล่องไม้ใบใหญ่ที่ได้รับจากราชินีอาเวลออกมา เพื่อตรวจดูว่าเธอนั้นได้มอบอะไรให้กับเขา
เมื่อเปิดดูก็พบว่าด้านในนั้นเต็มไปด้วยของสิ่งมากมาย มีก้อนแร่มิธริลอยู่สามก้อน ขวดอีลิกเซอร์อีกห้าขวด และยังมีมีดสั้นกับของใช้จําเป็นอยู่ด้านในอีกด้วย แต่สิ่งที่ดึงดูดลู่หมิงที่สุดก็คือถุงผ้าใบเล็กๆนั่น
เมื่อลู่หมิงหยิบขึ้นมาดูก็พบว่าด้านในได้ใส่เหรียญอะไรบางอย่างเอาไว้ ลู่หมิงจึงเทมันออกมาปรากฏว่าเป็นเหรียญสีขาวแวววาวขนาดไม่ใหญ่มากนัก ตรงกลางของเหรียญมีรูปปีกนางฟ้าหกปีกประทับอยู่ซึ่งนั่นหมายถึงมันเป็นเหรียญที่ถูกยอมรับให้สามารถใช้ในการแลกเปลี่ยนได้
“นี่มันเหรียญทองคําขาว !?”
ลู่หมิงตกใจเพราะไม่คิดว่าเขาจะได้รับเหรียญทองคําขาวมาจากราชินีอาเวล ต้องบอกก่อนว่าค่าเงินส่วนใหญ่ที่ชาวเอเดนยอมรับนั้นเป็นเหรียญทอง แต่สําหรับเหรียญทองคําขาวนั้นจะถูกใช้ก็ต่อเมื่อมีความจําเป็นจะต้องจ่ายเหรียญทองเป็นจํานวนมาก
ซึ่งหากลู่หมิงว่าไม่ผิดหนึ่งเหรียญทองคําขาวสามารถเทียบได้กับหนึ่งร้อยล้านเหรียญทอง และภายในถุงนั้นมีเหรียญทองค่าขาวอยู่สี่เหรียญ ซึ่งเท่ากับว่าตอนนี้ลู่หมิงมีเงินติดตัวอยู่กว่าสี่ร้อยล้านเหรียญทอง
“มันจะพอสาหรับการซื้อวัสดุทําอาวุธไหมนะ ?”
ลู่หมิงคิดแม้สี่ร้อยล้านเหรียญทองนั้นอาจจะดูมากแต่หากเทียบกับวัสดุที่คาการ์ต้องการนั้น มันก็ดูเหมือนจะน้อยไปหน่อยโดยเฉพาะเจ้าเอ็นหัวใจมังกร กับโอริเรียมนั่นเป็นสิ่งที่ค่อนข้างจะหายากเลยทีเดียวราคามันอาจจะสูงมากก็เป็นได้
ลู่หมิงคิดอยู่นานก่อนจะตัดสินใจหยิบลูกแก้วสื่อสารของตัวเองออกมาและขอความช่วยเหลือจากราชินีอาเวล แน่นอนว่าทางราชินีอาเวลนั้นให้ความช่วยเหลืออย่างดีโดยที่ไม่ถามอะไรเลยสักนิดเดียว ลู่หมิงจึงได้วัสดุทุกอย่างมาอย่างง่ายดาย
ต้องขอบคุณความช่วยเหลือของราชินีอาเวลทําให้ลู่หญิงสามารถรวบรวมวัสดุทุกอย่างมากได้อย่างรวดเร็ว แน่นอนว่าหลายอย่างนั้นไม่ฟรีเขาเสียเงินไปกว่าสองร้อยล้านเหรียญทอง แต่มันก็คุ้มหากท่าให้เขาสามารถได้รับอาวุธดีๆมาสักชิ้น
ลู่หมิงนําวัสดุทุกอย่างที่หามาได้น่าไปให้คาการ์ ในตอนแรกคาการ์ตกใจมากที่เขาสามารถรวบรวมพวกมันได้ในเวลาอันสั้นขนาดนี้จึงถึงขั้นคิดว่าเขานั้นไปปล้นโรงประมูลมา
แต่เมื่อลู่หมิงมั่นใจแล้วว่าทุกอย่างได้มาอย่างถูกต้องคาการ์ก็รีบนําพวกมันเข้าไปในห้องตีเหล็กทันที่และจัดการทุกสร้างอาวุธให้กับเขา
แน่นอนว่าอาวุธดีๆสักชิ้นต้องใช้เวลาและคาการ์ก็บอกว่ากว่าอาวุธชิ้นนี้จะเสร็จก็คงใช้เวลากว่าหนึ่งสัปดาห์ ให้ลูหมิงไปทําอะไรอย่างอื่นรอไปก่อนและค่อยกลับมาใหม่
ลู่หมิงกลับมาที่ห้องพักของเขาก่อนจะเริ่มคิดถึงอะไรบางอย่าง หลังจากคิดอยู่นานในที่สุดลู่หมิงก็ตัดสินใจจะเริ่มทดลองเกี่ยวกับสิ่งที่เขาคิดเอาไว้ นั่นคือการหลอมรวมเวทมนต์และรวมปราณ
เพราะจากที่ได้คุยกับราชินีอาเวลก่อนหน้านี้เกี่ยวกับสิ่งที่เรียกว่า ดีเวียนต์ ทําให้หมิงรู้ว่าค่าว่าดีเวียนต์นั้นเป็นเพียงคําเอาไว้ใช้แบ่งแยกประเภทเท่านั้น ไม่มีผลเกี่ยวกับอาชีพหรือทักษะที่ใช้แต่อย่างใด
แต่ถึงอย่างงั้นลู่หมิงก็สงสัยว่าปราณนั้นอาจมีอะไรบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับเวทมนต์ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เนื่องจากต้นกําเนิดของมันมาจากพลังธรรมชาติเช่นเดียวกัน
และด้วยการที่ร่างกายของลู่หมิงเปลี่ยนแปลงไปจากการถือครองคุณสมบัติทั้งสอง จึงทําให้เขาสามารถใช้ได้ทั้งเวทมนต์และลมปราณ แต่ถึงอย่างงั้นมันก็ยังถูกแบ่งแยกกันอยู่ดี
และสิ่งที่ถูกเรียกว่า จิตวิญญาณแห่งดวงดาวที่อยู่ในหน้าต่างสถานะของเขานั้นคืออะไรกันแน่ แม้ระบบจะบอกว่ามันเป็นตัวบ่งบอกถึงระดับการฝึกฝนของเขาก็ตามที่แต่ ระดับของมันก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกันแม้เขาจะฝึกฝนแต่เวทมนต์เพียงอย่างเดียวก็ตาม
แม่ในตอนนี้จะไม่มีปัญหาอะไร แต่หากปล่อยเอาไว้โดยที่ไม่แม้แต่จะเข้าใจมันในอนาคตอาจเกิดปัญหาขึ้นกับตัวเขาก็ได้ เพื่อให้แน่ใจลู่หมิงจึงคิดจะศึกษาเกี่ยวกับมัน
ลู่หมิงนั่งสมาธิอยู่บนเตียงพร้อมกับเรียกลูกไฟออกมาตรงหน้าเขาทันที จิตสํานึกของลู่หมิงดาดิ่งลงสู่เข้าไปภายในทะเลแห่งดวงดาว
ดวงดาวทั้งสามหมุนวนโคจรอยู่ภายในทะเลแห่งดวงดาว ลู่หมิงเข้าไปหามันอย่างใจเย็นก่อนจะลองควบคุมพวกมัน และเพียงแค่ลู่หมิงคิดดวงดาวทั้งสามก็ต่างเข้ามาหมุนวนและโคจรรอบตัวของลู่หมิงทันที
ลู่หมิงสับสนเล็กน้อยและจ้องมองดวงดาวเหล่านั้นอยู่สักพักโดยที่ไม่รู้สึกเลยว่าลูกไฟที่อยู่ตรงหน้าของเขานั้นค่อยๆขยายใหญ่ขึ้นและเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงไป
MANGA DISCUSSION