นิยาย รุ่งอรุณแห่งโลกาวินาศ ตอนที่ 80 : หอคอยแห่งบาบิลัน
ลู่หมิงที่กําลังจ้องมองรายการวัสดุต่างๆก็ถึงกับถอนหายใจพร้อมกับหันไปถามคาการ์
“วัสดุพวกนี้มันหายากมากเลยนะ การสร้างอาวุธของดีเวียนต์สักชิ้นมันต้องใช้ของขนาดนี้เลยเหรอ ?”
คาการที่ได้ยินแบบนั้นก็ถึงกับจ้องเขม็งก่อนจะพูดกับลู่หมิงด้วยน้ําเสียงไม่ค่อยพอใจว่า
“การที่เจ้ามาขอให้ข้าสร้างอาวุธให้เจ้าก็แสดงว่าเจ้านั้นมั่นใจในฝีมือของข้า ฉะนั้น ข้าจะไม่ทรยศความเชื่อใจนั้นหรอกนะ และการสร้างอาวุธให้ใครสักคนกับการสร้างอาวุธไว้ขายน่ะมันแตกต่างกัน”
“ต้องการวัสดุที่ดีที่สุดที่สามารถจะหาได้ และจะต้องทุกเททุกอย่างเพื่อสร้างมัน”
ลู่หมิงที่ได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้าก่อนจะพูดขึ้นว่า
“อันนั้นผมเข้าใจของอย่างอื่นน่ะพอจะหาได้อยู่หรอก แต่ไอโอริเรี่ยมกับเอ็นหัวใจ มังกรเนี่ยจะไปหาจากไหนกัน ? จะให้ผมไปสู้กับมังกรงั้นเหรอเป็นไปไม่ได้หรอก”
คาการที่ได้ยินแบบนั้นก็ตอบกลับว่า
“โอริเรียมนั้นเป็นแร่ที่มีความสามารถในการขยายคุณสมบัติของพลังธรรมชาติสูง และเหมาะกับคนที่มีความสามารถด้านการเสริมพลัง”
“ส่วนเอ็นหัวใจมังกรนั้นมีคุณสมบัติในการดึงศักยภาพของผู้ใช้เวทมนต์ออกมาได้ฉะนั้นของสิ่งนี้เป็นสิ่งจําเป็น”
ลู่หมิงพยักหน้าก่อนจะถอนหายใจออกมาพร้อมกับมองไปที่รายการยาวเหยียดของวัสดุที่คาการ์ต้องการ ซึ่งของส่วนใหญ่นั้นเพียงแค่มีเงินก็สามารถหามาได้ง่ายๆ
แต่สําหรับไอเจ้าโอริเรี่ยมกับเอ็นหัวใจมังกรนี้เขาไม่รู้ว่าจะไปหามันมาจากไหน ลู่หมิงเกาหัวก่อนจะคิดอะไรบางอย่างออก
ถ้าเขาของความช่วยเหลือจากราชินีอาเวลเธอจะช่วยเขาไหมนะ ?
ลู่หมิงเก็บความคิดนี้เอาไว้เพื่อจะเอาไปถามเธอในภายหลัง จากนั้นลู่หมิงก็บอกลาคาการ์เพื่อขอเวลาไปหาวัสดุทั้งหมดให้พร้อมและกลับมาอีกครั้ง
แน่นอนว่าลู่หมิงไม่ได้คิดจะหาวัสดุทั้งหมดด้วยตัวคนเดียว เขาขอให้คาการช่วยเขาในการหาวัสดบางส่วนด้วยเนื่องจากตัวของคาการ์นั้นเป็นช่างตีเหล็กที่มีชื่อเสียง เขาน่าจะพอมีเส้นสายในการหาวัสดุบางชนิดให้กับเขาได้ ส่วนเรื่องราคานั้นให้มาเก็บจากเขาในภายหลัง
ก่อนจากลู่หมิงเองก็ซื้อดาบระดับแรร์จากร้านของคาการ์มาเล่มหนึ่งด้วย เขาออกมาจากร้านของคาการ์และเดินไปที่ถนนสายหลักเพื่อตรงไปยังโรงเตี้ยมเพื่อพักผ่อน
ลู่หมิงทิ้งตัวลงนอนบนเตียงภายในห้องของโรงเตี้ยมก่อนจะถอนหายใจออกมา
“วัสดุที่คาการ์ให้หานี้ค่อนข้างยุ่งยากเลยทีเดียว”
เขาบ่นออกมาในขณะนั้นเองลู่หมิงก็นึกถึงสิ่งที่คาการใช้เรียกเขา ดีเวียนต์” นั้น เป็นค่าที่ค่อนข้างจะไม่คุ้นหูเท่าไหร่และมันทําให้เขารู้สึกแปลกๆ
หากมนุษย์ถูกกําหนดให้มีทักษะเพียงแค่สองสายคือ ผู้ใช้เวทมนต์กับผู้เสริมพลัง แล้วทําไมถึงได้มีอาชีพมากมายปรากฏขึ้นมากันล่ะ ? นี่มันหมายความว่ายังไงกันแน่
ลู่หญิงเกาหัว เขาไม่เข้าใจเลยจริงๆว่ามันหมายความว่ายังไงกันแน่ หรือมันเป็นเพียงแค่ชื่อเรียกเอาไว้แบ่งประเภทเท่านั้นกัน ?
เขาถอนหายใจออกมาและคิดถึงมันก่อนจะมองออกไปยังนอกหน้าต่าง พร้อมกับจ้องมองไปยังหอคอยแห่งการทดสอบหรือหอคอยแห่งบาบิลัน
จากความทรงจําของลู่หมิงนั้นหอคอยนี้ถูกเรียกว่าหอคอยแห่งการทดสอบเนื่องจากมันเอาไว้ทดสอบความสามารถของตัวผู้เล่นที่จะนําเข้าปาตี้
ในชีวิตก่อนนั้นมีวิธีมากมายในการที่จะได้รับคริสตัลค่าสถานะมา ไม่ว่าจะเป็นการล่ามอนสเตอร์ การซื้อขาย การผสม หรือแม้แต่การฆ่าผู้เล่นด้วยกันเอง
นั่นทําให้ผู้เล่นสามารถพัฒนาตัวเองได้อย่างก้าวกระโดด โดยที่ไม่จําเป็นจะต้องใช้พลังมากนักขอเพียงแค่คุณมีเงินคุณก็สามารถซื้อคริสตัลค่าสถานะมาได้แล้ว
ด้วยเหตุผลนี้มันทําให้เกิดช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างผู้เล่นที่แข็งแกร่งจริงๆกับผู้เล่นสายสกล
ผู้เล่นสายสกลคือค่าที่เอาไว้ใช้เรียกผู้เล่นที่ขึ้นมาอยู่ในระดับสูงด้วยวิธีลัดต่างๆ ไม่ว่าจะด้วยการซื้อขายคริสตัลหรือการจ้างวานผสมคริสตัลก็ตาม คนเหล่านี้แม้ค่าสถานะจะสูงส่งและกลายเป็นผู้เล่นแถวหน้าแต่ด้วยการที่พวกเขาผ่านขึ้นมาด้วยวิธีลัด ทําให้ฝีมือที่แท้จริงของพวกเขานั้นอ่อนแอจนแทบจะใช้การไม่ได้
ดังนั้นหอคอยแห่งบาบีลันจึงถูกใช้เพื่อเป็นบททดสอบในการคัดเลือกผู้เล่น เพราะตัวระบบของหอคอยบาปิลันนั้นมีความพิเศษบางอย่างอยู่ ไม่เพียงแค่ด้านในนั้นจะมีมอนสเตอร์ที่สามารถดรอปคริสตัลค่าสถานะได้แล้ว คุณยังสามารถบันทึกสถิติการผ่านชั้นสูงสุดของตัวเองเอาไว้ได้อีกด้วย
และตัวสถิตินั้นจะแสดงโชว์ในฟอรั่มกลางของระบบซึ่งมันสร้างความตื่นตระหนกให้กับเหล่าผู้เล่นไม่น้อยเลยทีเดียวมันเหมือนกับการแข่งขันกันระหว่างผู้เล่นด้วยกัน
และได้มีข่าวลือว่าหากใครก็ตามที่สามารถพิชิตหอคอยแห่งบาบิลันได้ก็จะได้รับอาติเฟคระดับลึกลับมาไว้ในครอบครอง เมื่อข่าวได้แพร่กระออกไปได้มีหลายคนเข้ามาท้าทายหอคอยกันอย่างบ้าคลั่ง
แต่ก็ไม่มีใครที่สามารถพิชิตคอหอยแห่งบาบีกันได้เลย แม้แต่ผู้เล่นระดับสูงก็ตาม เพราะไม่มีใครรู้ว่าหอคอยแห่งบาบีลันนั้นมีทั้งหมดกี่ชั้นกันแน่
ในอดีตมีผู้เล่นที่สามารถไปถึงชั้นที่ 132 ได้แต่นั่นก็ไม่ใช่จุดสิ้นสุดของหอคอยอยู่ดี ในตอนนั้นลู่หมิงเองก็สงสัยเช่นกันว่าตัวหอคอยจะสิ้นสุดที่ชั้นที่เท่าไหร่
แต่ในตอนนี้เมื่อลู่หมิงมองมันอีกทีอย่างจริงจังแล้ว บางที่หอคอยแห่งบาบีลันนั้นอาจจะไม่มีจุดสิ้นสุดก็เป็นได้
MANGA DISCUSSION