นิยาย รุ่งอรุณแห่งโลกาวินาศ ตอนที่ 76 : ชัยชนะที่สูญเปล่า
แม้จะรู้ว่าดรูอิดเซนต์ได้รับการอวยพรจากเทพแห่งชีวิตและต้นไม่โลกก็เถอะ แต่ถึงอย่างงั้นการแปลงร่างกลายเป็นมังกรได้แบบนี้เนี้ยมันไม่เกินไปหน่อยเหรอ ?
ต้องบอกก่อนว่า แม้แต่ในหมู่เผ่าพันธุ์ชั้นสูงด้วยกันเองมังกรก็ถูกว่าจัดอยู่ในระดับสูงสุดเทียบเท่ากับเหล่าไฮเอลฟ์ที่เป็นดั่งลูกรักของเหล่าเทพเลยทีเดียว
มังกรนั้นมีสติปัญญาที่สูงส่งมีอายุขัยที่ยืนยาวและมีร่างกายที่แข็งแกร่งเต็มไปด้วย พลังอันมหาศาล เพียงแค่นี้ก็คงพอจะอธิบายเกี่ยวกับมังกรอย่างคร่าวๆให้พอเข้าใจ ได้
แต่แล้วจู่ๆก็ได้มีเอลฟ์คนหนึ่งสามารถแปลงร่างเป็นมังกรที่ถือว่าเป็นจุดสูงสุดของ เผ่าพันธุ์ทั้งปวงได้แบบนี้ มันจะไม่ทําให้ลู่หมิงตกตะลึงได้ยังไง
ลู่หมิงสับสนเล็กน้อยพร้อมกับจ้องมองมังกรเพลิงขนาดยักษ์ตรงหน้า มันอ้าปากของออกก่อนจะพ่นไฟออกมาทําลายกองทัพของแดแซม
การปรากฏตัวของมังกรทําให้สถานะการณ์ของทางฝั่งของอาณาจักรแดแซมที่แต่เดิมก็ลําบากมากพออยู่แล้ว ให้กลายเป็นการถูกสังหารหมู่ฝ่ายเดี๋ยวไปไหนทันที
ลู่หมิงเองที่เห็นว่าสถานะการณ์เปลี่ยนไปเขาก็ถอยกลับมายังแนวหลังและคอยดูการล่มสลายของกองทัพแดแซมอีกเหตุผลหนึ่งที่ทําให้ลู่หมิงถอยมาก็คือมังกรนั้น
หลังจากที่สังเกตุดูอยู่สักพัก ลู่หมิงก็พบว่าแม้ภายนอกจะดูเหมือนมังกรโตเต็มวัย แต่แท้จริงแล้วก็เป็นเพียงมังกรวัยเยาว์เท่านั้น ซึ่งไม่ได้แข็งแกร่งมากนักหากเทียบกับเหล่ามังกรโตเต็มวัยและมังกรที่แท้จริง
(อาจจะงง ขออธิบายก่อนในหมู่มังกรก็จะมีการแบ่งชนชั้นด้วยเหมือนกันนะครับ เหมือนขุนนางแม้จะเป็นขุนนางเหมือนกันแต่ยศหรือระดับชั้นก็จะแตกต่างกัน)
แต่ถึงจะเป็นเพียงมังกรวัยเยาว์ก็เพียงพอแล้วที่จะทําลายกองทัพของแดแซมให้หายไป ตัวของลี่หมิงเองก็รู้จักมังกรเพียงแค่ผิวเผินเท่านั้น พลังที่แท้จริงของมังกร นั้นยากจะหยั่งถึงเช่นเดียวกับเหล่าไฮเอลฟ์ที่ลึกลับ
หลังจากมังกรโผล่มาได้ไม่นานกองทัพนับแสนของ
อาณาจักรแดแซมก็กลายเป็น เพียงเถ้าถ่าน ก่อนจะถอยทัพกลับไปด้วยจํานวนทหารที่เหลือไม่ถึงหนึ่งในสามของตอนแรกด้วยซ้ํา
ทางด้านกองทัพเอลฟ์เองแม้จะมีคนตายอยู่บ้างแต่ก็น้อยจนแทบจะเทียบไม่ได้กับความสูญเสียของอีกฝ่าย เพราะการปรากฏตัวของดรูอิดเซนต์คนนั้นทําให้สงครามจบ ลงอย่างรวดเร็วและลดการสูญเสียที่ไม่จําเป็นไปได้อย่างมหาศาล
ลู่หมิงมองสนามรบที่เต็มไปด้วยซากศพอย่างว่างเปล่า ศพของทหารแดแซ์มนับแสนๆคนกองเกลื่อนเต็มทุ่งหญ้า ราวกับว่าพวกเขามารวมตัวกันฆ่าตัวตายหม่อย่างงั้น
แหละ
นายพลเอลฟ์ที่เห็นลู่หมิงยืนอยู่ก็อดไม่ได้ที่จะเดินมาอยู่ข้างๆพร้อมกับถามเขาว่า
“ท่านกําลังมองอะไรอยู่งั้นเหรอ ?”
ล่หมิงได้ยินคําาถามเขาก็ตอบกลับด้วยน้ําเสียงอ่อนๆว่า
“พวกเขารวมกองทัพนับแสน เดินทางข้ามทุ่งหญ้าและภูเขามาเพื่อตายอย่างไร ความหมายเหตุผลเพียงเพราะความโลภของราชาไร้สมองและมีไอโง่คนนึงที่บ้าคลั่ง จากการสูญเสียลูกชาย…”
นายพลเอลฟ์ที่ได้ยินแบบนั้นก็อดไม่ได้จะถอนหายใจออกมาก่อนจะพูดขึ้นว่า
“สิ่งมีชีวิตนั้นเต็มไปด้วยอารมณ์และความอยาก หากควบคุมมันไม่ได้ผลที่ตามมาก็ยากเกินกว่าจะแก้ไข
ลู่หมิงที่ได้ยินค่ากล่าวของนายพลเอลฟ์เขาก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงอะไรบางอย่าง นายพลเอลฟ์มองลู่หมิงอยู่สักพักก่อนจะตบไหล่เขาเบาๆพร้อมกับพูดว่า
“ท่านอย่าได้คิดมากไปเลย”
ลู่หมิงส่ายหน้าก่อนจะหันหลังพร้อมกับตอบกลับไปว่า
“พวกเขานั้นโง่เขลาเองและนี้ก็คือผลลัพธ์ที่พวกเขาต้องยอมรับมันเอาไว้”
เมื่อพูดจบล่หมิงก็เดินกลับเข้าไปในป่า นายพลเอลฟ์จ้องมองแผ่นหลังของลู่หมิงอยู่สักพักก่อนจะยักไหล่และกลับไปสั่งการ
กองทัพให้จัดการสนามรบต่อ
เมื่อล่หมิงกลับมาถึงปราสาทเขาก็เห็นราชินีอาเวลก่าลังนั่งทานผลไม้อยู่ที่ห้องนั่ง เล่น เธอเอ่ยถามเขาด้วยน้ําเสียงสบายๆว่า
“สงครามจบแล้วงั้นเหรอ ?”
ลู่หมิงที่ได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มออกมาก่อนจะตอบกลับ
“คุณเองน่าจะรู้ดีที่สุดนี้หน่า”
ราชินีอาเวลที่ได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มก่อนจะถามลู่หมิงอีกว่า
“เหนื่อยหรือเปล่ากับสงครามครั้งแรก ?”
ลู่หญิงส่ายหัวก่อนจะตอบกลับ
“ไม่หรอกครับ แค่นี้เล็กน้อย”
ราชินีอาเวลพยักหน้าก่อนจะบอกให้ลู่หมิงกลับไปพักผ่อนและเดียวอีกสองวันจะมีงานฉลองเกิดขึ้น ให้เขาเตรียมตัวให้พร้อมทางด้านลู่หมิงเองก็ได้แต่ตอบรับอย่างว่าง่ายก่อนจะเดินกลับเข้าห้องไป
เขาทิ้งตัวลงบนเตียงก่อนจะถอนหายใจออกมา
“ดรูอิดเซนต์…มังกร.. มังกรงั้นเหรอ ?”
ลู่หมิงเหมือนจะนึกอะไรออกเขายิ้มออกมาทันที่ด้วยความตื่นเต้น ดูเหมือนว่าลู่หมิงจะกําหนดเป้าหมายต่อไปของเขาได้แล้ว
MANGA DISCUSSION