นิยาย รุ่งอรุณแห่งโลกาวินาศ ตอนที่ 70 : ตัวตนระดับหายนะ
หนึ่งเดือนผ่านมาหลังจากลู่หมิงเลื่อนขึ้นสู่ระดับสีฟ้าในตอนนี้ลู่หมิงสามารถควบคุมเวทมนต์ได้ดีมากกว่าแต่ก่อนมากแต่ถึงขั้นได้ดั่งใจนึกเหมือนกับราชินีอาเวล
ในตอนนี้ลู่หมิงกําลังนั่งสมาธิอยู่ในสวนด้านหลังปราสาทพร้อมกับมีลูกบอลธาตุของแต่ละธาตุลอยวนอยู่รอบตัวของเขา
ตลอดช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมาลู่หมิงได้เรียนรู้พื้นฐานเกี่ยวกับเวทมนต์ทั้งแปดธาตุเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ลู่หมิงพยายามจะควบคุมลูกบอลธาตุทั้งแปดให้เคลื่อนไหวตามความคิดของ เขาแต่การทําแบบนั้นค่อนข้างที่จะยากนิดหน่อยเนื่องจากมันต้องทําการแบ่งสมาธิในการควบคุมลูกบอลแต่ละลูก
ฟื้ว นิ้ว
ลูกบอลธาตุลอยวนไปมารอบตัวของเขาในขณะนั้นเองกําไลข้อมือลู่หมิงก็มีเสียงแจ้งเตือนดังขึ้นเมื่อลู่หมิงเปิดดูก็พบว่าเป็นจางเหว่ยที่ติดต่อเข้ามา
ลู่หมิงรับสายก่อนจะมีหน้าของจางเหว่ยเด้งขึ้นมา
[ ว่าไงเพื่อน สบายดีไหม ?]
“สบายดี ว่าแต่นายติดต่อมามีอะไรงั้น
เหรอ ?”
[ อ้อใช่ ตอนนี้ฉันเลื่อขั้นเป็นระดับสีเขียวแล้วนะแล้วฉันก็สามารถเปลี่ยนคลาสได้แล้วด้วยให้ทายว่าคลาสที่ฉันเลือกคืออะไร ?]
จางเหว่ยถามออกมาด้วยท่าที่หยอกล้อลู่หมิงที่ได้ยินแบบนั้นก็หัวเราะออกมาก่อนจะตอบกลับ
“นักดาบล่ะมั้ง เพราะเมื่อตอนนายเด็กๆเห็นบอกว่าชอบพวกดาบนี่”
จางเหว่ยที่ได้ยินแบบนั้นก็แสดงสีหน้าแปลกใจเล็กน้อยก่อนจะตอบกลับมาว่า
[ ไม่ใช่ แต่ก็ใกล้เคียงอยู่นะ ฉันได้เป็นอัศวินวะเพื่อน !! ]
“โอ้ – ดูดีเลยนี้หน่า”
ลู่หมิงแสดงท่าที่สนใจออกไปแต่แท้จริงแล้วเขารู้อยู่แล้วว่าจางเหว่ยนั้นได้ คลาสอะไร หากดูจากนิสัยที่เป็นผู้นําและคอยปกป้องคนอื่นๆเสมอของเขานั้นก็พอจะเดาได้ว่าเขานั้นจะได้คลาสอะ
ไร
หลังจากนั้นลู่หมิงก็ได้คุยกับจางเหว่ยอีกนิดหน่อยและได้รู้ว่า อันหยากับซูรั่วหลินก็สามารถเปลี่ยนคลาสได้แล้วเหมือนกันโดยที่อันหยานั้นได้รับคลาสนักธนูซึ่งก็พอจะเดาได้อยู่เนื่องจากเธออยู่ชมรมยิงธนูของมหาลัย
แต่ที่แปลกใจเลยก็คือซูรั่วหลินนั้นได้รับคลาสนักเวทย์ซึ่งเป็นที่น่าสงสัยว่าทําไมเธอถึงได้รับคลาสนั้นอันที่จริงซูรั่วหลินควรน่าจะได้คลาสที่เกี่ยวข้องกับนักธนูหรือนักแม่นปืนเสียมากกว่าเนื่องจาก เธอนั้นถือว่าเป็นอันดันหนึ่งในชมรมยิงธนูของมหาลัย
เอาเป็นว่าถือว่าเป็นเรื่องดีที่ซู รั่วหลินนั้นได้คลาสนักเวทย์เพราะเขานั้นสามารถช่วยเหลือและแนะนําเธอได้เขาจึงขอช่องทางติดต่อซูรั่วหลินกับจางเหว่ย
[ ว้าว ๒ นี่แกจะจีบเธองั้นเหรอ ?]
จางเหว่ยถามแหย่ ลู่หมิงหัวเราะออกมาก่อนจะตอบกลับไปว่า
“อย่ามั่วน่า พอดีฉันได้รับคลาสเป็นนักเวทย์เหมือนกันฉันจึงสามารถแนะนําเส้นทางของนักเวทย์ให้กับเธอได้
[ โอ้ – งั้นเหรอ ?]
จางเหว่ยถามพร้อมกับเหล่ตาลู่หมิงถ อนหายใจออกมาพร้อมกับพูดขึ้นว่า
“เอาเถอะ แล้วแต่นายจะคิดก็แล้วกัน”
[ ก็ได้ ๆ แล้วนายไม่มีคําแนะนําอะไรให้ฉันงั้นเหรอ ?]
“คําแนะนําเกี่ยวกับคลาสอัศวินงั้นเหรอ ?”
ลู่หมิงคิดสักพักก่อนจะแนะนําวิธีการใช้ออร่าให้กับจางเหว่ย แม้ตัวเขาจะไม่เคยใช้ออร่ามาก่อนแต่ถ้าทฤษฎีพื้นฐานแล้วล่ะก็เขาสามารถแนะนําได้
“นี่เป็นเพียงทฤษฎีพื้นฐานเกี่ยวกับออร่าเท่านั้นอะนะเพราะฉันเองก็ไม่รู้ละเอียดมากนัก”
[ โอ้ ม นี้เป็นวิธีใช้ออร่าของพวกชาวเอเดนใช้กันงั้นเหรอ ?]
“เท่าที่ฉันรู้อะนะ”
[ โอเค ขอบใจมากเพื่อน ]
ขอลู่หมิงพยักหน้าก่อนจะวางสายไปในขณะนั้นเองราชินีอาเวลก็ได้เดินออกมาพร้อมกับถามลู่หมิงด้วยความสงสัยมา
“นี้เป็นวิธีสื่อสารระยะไกลของคนจากทวีปกลางอย่างงั้นเหรอ ?”
ลู่หมิงหันกลับไปก่อนจะพยักหน้าพร้อมกับยิ้มให้ราชินีอาเวลเองก็ยิ้มพร้อมกับพูดขึ้นว่า
“น่าสนใจ น่าสนใจ ดูเหมือนว่าวิทยาการของชาวทวีปกลางจะก้าวหน้ามากเลยสินะถึงได้สื่อสารกันในระยะไกลได้โดยที่ไม่ต้องใช้เวทมนต์”
“คุณสนใจงั้นเหรอ ?”
ลู่หมิงเอ่ยถาม
“แน่นอนสิ”
ราชินีอาเวลยิ้มออกมา ลู่หมิงจึงพูดขึ้นว่า
“ถ้างั้นผมอาจจะเล่าเกี่ยวกับมันสั้นๆให้ฟังก็แล้วกันแต่มันอาจจะไม่แม่นยํานักนะเพราะผมก็ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ”
ราชินีอาเวลยิ้มพร้อมกับนั่งลงตรงโต๊ะชาใกล้ๆเพื่อฟังเรื่องเล่าเกี่ยวกับการติดต่อสื่อสารกันผ่านดาวเทียมของลู่หมิงแน่นอนว่าข้อมูลบางอย่างก็ไม่ถูกต้องแม่นยํานักเพราะหากไม่นับเรื่องต่อสู้ แล้วเขาก็เป็นเพียงนักศึกษามหาลัยธรรมดาๆเท่านั้น
ในขณะที่ลู่หมิงกําลังเล่าเรื่องอยู่นั้นก็ได้มีทหารเอลฟ์คนหนึ่งเดินเข้ามาที่สวน
“องค์ราชินีครับ การประชุมจะเริ่มแล้ว”
ราชินีอาเวลที่ได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้าก่อนจะลุกขึ้น
“เอาล่ะ ฉันคงต้องไปเข้าประชุมแล้ว…มีเรื่องสําคัญกําลังจะเกิดขึ้น”
“ฉันล่ะสนใจเรื่องเล่าของเธอมากเลยไว้มาเล่าให้ฉันฟังอีกล่ะ”
“แน่นอนครับ”
ลู่หมิงยิ้มส่งราชินีอาเวลในขณะเดียวกันภายในหัวของเขาก็เริ่มที่จะสงสัยว่าตอนนี้กําลังเกิดอะไรขึ้นกันแน่แต่เดิม แล้วการดูแลอาณาจักรเอลฟ์ตัวของราชินีอาเวลจะไม่ค่อยได้เข้าร่วมประชุมบ่อยนักหากไม่ใช่เรื่องสําคัญ
นั่นจึงทําให้ราชินีอาเวลมีเวลาว่างมาสอนเวทมนต์ลู่หมิงอยู่บ่อยๆ แต่ในช่วงหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมามีการประชุมใหญ่เกิดขึ้นแทบจะทุกวันทําเอาลู่หมิงอดสงสัยไม่ได้ว่ามันมีอะไรกันแน่
เพราะปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของอาณาจักรอย่างต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์มิสเทลเรียร์ได้รับการฟื้นฟูแล้วฉะนั้นเรื่องราวใหญ่ๆในอาณาจักรคงจะไม่มี
หรือจะมีกองทัพมาบุกอาณาจักรเอลฟ์ ? เป็นไปไม่ได้หรอกหากพูดกันตามจริงแล้วคงไม่มีใครโง่พอที่จะกล้าบุกรุกที่นี่แม้แต่อาณาจักรแห่งแสงอันยิ่งใหญ่ก็ตามก็ยังต้องคิดหนักหากคิดจะทําอะไรกับอาณาจักรเอลฟ์
หากถามถึงเหตุผลแล้วล่ะก็ก็คงจะเป็นเพราะตัวตนของราชินีอาเวลนั่นแหละ
หากคุณมีปฏิสัมพันธ์กับเหล่าชาวเอเดนมากพอคุณก็จะสามารถเห็นข้อมูล ส่วนหนึ่งของพวกเขาได้คล้ายคลึงกับระบบ NPC ภายในเกมส์และตัวตนของราชินีอาเวลก็ไม่ใช่อะไรที่คนทั่วไปจะสามารถรับรู้ได้
แต่สําหรับลู่หมิงที่ถือว่าเป็นลูกศิษย์ของเธอแล้วเขาสามารถเห็นมันได้อย่างชัดเจนเลยเชียวล่ะ
[ พระราชินีอาเวลลอรีนระดับ : Calamity ]
MANGA DISCUSSION