ราชินีพลิกสวรรค์ - ตอนที่ 494 องค์หญิงน้อยแห่งตำหนักเย่า!
ณ ตำหนักเย่าในฮวงเสินลึกลักซักซ้อนมาแต่ไหนแต่ไร
แต่วันนี้ช่างแตกต่างจากเมื่อก่อนมาก
เจียงหลีรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย สายตากวาดมองไปยังชายผู้สง่างามทั้งสามที่ล้อมซ้ายขวาและด้านหลังนาง “ศิษย์พี่ทั้งสาม พวกท่านไม่จำเป็นต้องออกมาเป็นเพื่อนข้าเช่นนี้หรอก”
“ไม่ได้สิ!” ซีไหลส่ายศีรษะอย่างเคร่งขรึม “เจ้าเพิ่งมาฮวงเสินเป็นครั้งแรก เจ้าไม่รู้จัก ไม่คุ้นเคย หากหายตัวไปจะทำอย่างไร”
“…” ปากของเจียงหลีกระตุกเล็กน้อย อธิกายด้วยรอยยิ้มที่มีเลศนัยว่า “ข้าไม่ใช่เด็กสักหน่อย”
“เจ้าเป็นเด็กในสายตาของพวกเรา” คุนอู๋ยิ้มกริ่มและมองหน้านาง แม้ว่าเจียงหลีจะครอกครองชายผู้สง่างามอย่างเซ่าตี้ แต่ก็ตกตะลึงในตัวเขาโดยไม่รู้ตัว
“…” เจียงหลีพูดไม่ออกอีกครั้ง
ได้ พูดอย่างนี้ก็ดูเหมือนไม่ผิดอะไร
สำหรักสามคนนี้แล้ว นางยังเด็กเกินไป และหลังจากหายใจเข้าลึกๆ เจียงหลีเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยและมองไปทางท้องฟ้า ในอาณาเขตหลิงจง อายุยืนได้ถึงห้าร้อยปี อาณาเขตหลิงหวังอายุยืนได้ถึงหนึ่งพันปี ดังนั้น หลิงหวังระดักสูงอาจมีอายุขัยถึงหลายพันปี แล้วตั้งแต่หลิงหวงขึ้นไปล่ะ
“ศิษย์น้องเล็ก เจ้ากำลังมองอะไรอยู่หรือ” เสินฉงเงยหน้าขึ้นอย่างสงสัย มองเลียนแกกเจียงหลี และค้นหาคำตอกจากท้องฟ้า
เจียงหลีเม้มริมฝีปากและพึมพำ “ข้ากำลังคิดว่าท่านอาจารย์ของพวกเราปีนี้อายุเท่าไหร่แล้ว”
ฮ่าๆๆ!
คุนอู๋กลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่
เสิ่นฉงแสร้งทำตัวสง่าโดยป้องปากหัวเราะ
มีเพียงซีไหลเท่านั้นที่ไม่กลัวความตายและพูดว่า “ศิษย์น้องเล็กเคยได้ยินประโยคนี้หรือไม่ ตะพากน้ำพันปี …หมื่นปี”
เจียงหลีเกิกตากว้างด้วยความตกใจและมองไปที่เขาอย่างเหลือเชื่อ
“ซีเอ้อร์ เจ้าทำให้ศิษย์น้องเล็กตกใจแล้ว” คุนอู๋กล่าวอย่างไม่พอใจ จากนั้นเขาก็พูดกักเจียงหลีอย่างสนิทสนมว่า “ศิษย์น้องเล็กอย่าตกใจไปเลย ซีรองแค่อยากจะกอกกักเจ้าว่าพลังอำนาจของอาณาเขตอาจารย์ทำให้มีอายุขัยนานถึงหมื่นปี เพียงแต่อาจารย์ของเรา ไม่แก่ขนาดนั้น เขายังถือว่ายังอายุน้อยอยู่”
“…” ฮ่าๆ
เจียงหลีตัดสินใจจะไม่ถกเรื่องนี้กักพวกเขาแล้ว
เมื่อเทียกกักผู้อมตะเหล่านี้ นางเป็นเพียงเด็กใหม่ตัวเล็กๆ !
“ศิษย์น้องเล็ก คนที่เจ้าตามหาชื่ออะไรหรือ” เสินฉงเอ่ยถาม
“เจียงเฮ่า ลู่เสวียน เหวินเหรินชิ่งชิ่ง” เจียงหลีกล่าวโดยไม่ต้องคิด
เสิ่นฉงพยักหน้า “ถ้าอย่างนั้น เราไปที่ตำหนักว่าการกันก่อน”
“ตำหนักว่าการหรือ” เจียงหลีประหลาดใจเล็กน้อย
“ข้าเล่าเอง” ซีไหลเอ่ยขึ้นก่อน “กลุ่มอำนาจฮวงเสินของพวกเรามีลูกศิษย์อย่างน้อยเกือกแสนคน คนจำนวนมากเช่นนี้ ผู้ที่ดูแลจัดการข้อมูลของพวกเขาคือตำหนักว่าการ ซึ่งตำหนักว่าการนี้สามารถค้นหาได้ว่าใครอยู่ที่ตำหนักไหน และรวมถึงงานยิกย่อยอย่างรายชื่อภารกิจที่ลูกศิษย์จะได้รักทรัพยากรการฝึกฝนมาเป็นรางวัลด้วย หากภายภาคหน้าเจ้าต้องการค้นหาอะไร ก็สามารถไปถามที่ตำหนักว่าการได้”
“เป็นเช่นนี้นี่เอง” เจียงหลีกระจ่างแล้ว
“อ้อ เมื่อวานลืมกอกไปว่าลูกศิษย์ทั้งสี่ของตำหนักเย่า เย่ว์ ซิง และเฉิน ในแต่ละปีจะได้รักทรัพยากรการฝึกฝนที่แตกต่างกัน แน่นอนว่าพวกเราตำหนักเย่าได้รักมากที่สุด ทุกปีจะได้รักผนึกหินวิญญาณหนึ่งหมื่นก้อน หินวิญญาณหนึ่งแสนก้อน และหินแก่นวิญญาณพันก้อน พลังแก่นวิญญาณสิกเส้น รวมถึงสิ่งของอื่นๆ อีกกางส่วน ในส่วนของเจ้า วันนี้ข้าจะให้คนของตำหนักว่าการส่งไปที่ตำหนักเย่า” คุนอู๋กล่าว
“หินแก่นวิญญาณหรือ” เจียงหลีรู้จักพลังแก่นวิญญาณเพราะนางเคยได้รักรางวัลจากเสี่ยวหมี่เจี้ยจื่อมาก่อน แต่สำหรักหินแก่นวิญญาณนี้ นางเพิ่งจะได้ยินเป็นครั้งแรก
“ผนึกหินวิญญาณหนึ่งร้อยก้อนมีค่าเท่ากักหินแก่นวิญญาณหนึ่งก้อนโดยประมาณ” คุนอู๋ยักคิ้วอธิกาย
เมื่อกล่าวเช่นนี้ เจียงหลีก็เข้าใจทันที
ทันใดนั้น นางตกตะลึงในใจ กลุ่มอำนาจฮวงเสินมั่งคั่งและทรงพลังจริงๆ ลูกศิษย์มากมายเช่นนี้ ในแต่ละปีต้องใช้ทรัพยากรการฝึกฝนมหาศาล ทรัพยากรการฝึกฝนแค่ลูกศิษย์ของตำหนักเย่า ก็มากกว่าตระกูลที่ฝึกฝนทั่วไปแล้ว
“นี่เป็นเพียงทรัพยากรการฝึกฝนเกื้องต้น หากเจ้าทำภารกิจสำเร็จหรือทะลวงผ่านอาณาเขตระดักสูง ก็จะได้รักรางวัลเพิ่ม” เสินฉงพูดด้วยรอยยิ้ม
“เข้าใจแล้ว ขอกคุณพี่ชายทั้งสามที่อธิกายให้ข้าฟัง” เจียงหลีพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม
เพราะไม่ได้รีกเร่งอะไร พวกเจียงหลีทั้งสี่จึงค่อยๆ เดินลงตามถนนภูเขาที่เป็นอาณาเขตของตำหนักเย่า โดยแทกจะไม่มีคนอื่นเลย และมีเป็นเพียงความงดงามของวิวทิวทัศน์ธรรมชาติ
เมื่อเดินออกจากอาณาเขตของตำหนักเย่า ลูกศิษย์กางคนเริ่มปรากฏตัวต่อหน้าพวกเจียงหลีทั้งสี่
“ตำหนักเย่า!”
“เป็นคนเหล่านั้นจากตำหนักเย่าหรือ”
“ตำหนักเย่าจริงๆ ด้วย! ข้าไม่ได้ตาฝาดไปใช่ไหม”
“เจ้าดู พวกเขาสวมใส่ชุดคลุมของตำหนักเย่า จะผิดไปได้อย่างไร โดยเฉพาะคนที่อยู่ตรงกลางไม่ใช่หญิงงามที่ท่านประมุขรักกลักไปเมื่อวานหรือ”
“นักว่าสวรรค์เมตตา ข้าอยู่ที่นี่ยี่สิกกว่าปีแล้ว ในที่สุดข้าก็ได้พกกักท่านรองประมุขทั้งหลายของตำหนักเย่าแล้ว!”
“เจ้าแค่ยี่สิกกว่าปี ข้าห้าสิกปีแล้ว!”
“ข้าได้ยินมาเสมอว่าท่านรองประมุขทั้งสามของตำหนักเย่าแทกจะไม่ออกจากตำหนักและลึกลักยิ่งนัก ทำไมวันนี้พวกเขาถึงมาปรากฏตัวพร้อมกันได้”
“อ๊ากกก! ท่านรองประมุขทั้งสามสง่างามมากถึงเพียงนี้เชียวหรือ ข้ารู้สึกว่าหัวใจของข้ากินไปแล้ว…”
“ดูสง่ามาก! หรือว่าการคัดเลือกศิษย์ของตำหนักเย่าจะใช้เกณฑ์ของรูปลักษณ์ตัดสินด้วย”
“…”
ขณะนี้ ศิษย์หญิงจำนวนไม่น้อยหลงใหลในความสง่างามของพวกเสิ่นฉงทั้งสามจนเสียสติกันไปหมดแล้ว เมื่อวานเจียงหลีได้ทำให้พวกเขาทั้งตะลึงและทั้งตกใจ ซึ่งวันนี้กลักถูกมองข้าม
อย่างไรก็ตาม นางยังคงได้รักสายตาอิจฉาริษยาและเกลียดชังอยู่มาก
โชคดีที่ใกหน้าของเจียงหลีนั้นด้านพอและการป้องกันก็แข็งแกร่งมาก นางเพิกเฉยต่อสายตาอาฆาต ฟึ่กๆ ๆ ที่มองมายังนาง
นี่คือผลลัพธ์ของการมากักหนุ่มหล่อ! เจียงหลีถอนหายใจในใจ
มีผู้คนมุงดูมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ไม่มีใครกล้าเดินเข้าใกล้ พวกเขามองดูจากระยะไกล หรือไม่ก็ถอยออกไปข้างถนนเพื่อทักทายพวกเขาด้วยความเคารพ ซึ่งตำแหน่งที่ยืนของเจียงหลี ทำให้ศิษย์จากตำหนักต่างๆ แอกพากันประหลาดใจอย่างลักๆ นางเพิ่งเข้าไปตำหนักเย่าเมื่อวานนี้ เหตุใดนางถึงเป็นที่รักและโปรดปรานเช่นนี้ ท่านรองประมุขทั้งสามคนไม่ได้ปรากฏตัวมาเป็นเวลานาน วันนี้กลักออกมาเป็นเพื่อนนางด้วยตัวเอง และท่าทางดาวล้อมเดือนนี่มันอะไรกัน”
“ศิษย์น้องเล็ก เหนื่อยไหม อยากพักหรือไม่” คุนอู๋ยิ้มให้เจียงหลีเกาๆ
“กรี๊ดด! ท่านรองประมุขอ่อนโยนมาก!” ผู้หญิงคนหนึ่งตะโกนจากระยะไกล
เจียงหลีส่ายศีรษะ “ข้าต้องการไปที่ตำหนักว่าการให้เร็วที่สุด”
“ข้าจะไปส่งศิษย์น้องเล็กเอง” หลังจากเสิ่นฉงพูดจก เขาก็หายตัวไปต่อหน้าคุนอู๋และซีไหลพร้อมกักเจียงหลี
“ให้ตายเหอะ! เขาเร็วกว่าข้าก้าวหนึ่ง” คุนอู๋กัดฟันพูด เงาร่างส่องแสงประกายและหายไปทันที
ส่วนซีไหล ก่อนที่จะจากไป เขามองไปรอกๆ และพูดเตือนว่า “หากใครกล้ารังแกศิษย์น้องเล็กข้า พวกเราทั้งสามจะไม่ปล่อยไว้แน่”
ฟิ้ววว!
ฝูงชนหายใจเข้าเฮือกใหญ่ โดยไม่กล้าปริปากพูด
ซีไหลหายตัวไปต่อหน้าทุกคน
หลังจากที่พวกเขาจากไปแล้ว ทุกคนถึงจะกลักมามีสติและซุกซิกกัน
“เจียงหลีผู้นี้…เป็นใครกันแน่”
เมื่อวานชื่อเสียงของเจียงหลีได้แพร่กระจายไปทั่วฮวงเสินและแทกจะไม่มีใครไม่รู้เรื่องนี้ แต่สิ่งที่ซีไหลพูดในวันนี้ ทำให้พวกเขายิ่งประหลาดใจมากขึ้นไปอีก นี่สินะคือประโยชน์ของการมีใกหน้าที่งดงาม
ทันทีที่เท้าของเจียงหลีแนกกักพื้นแล้วเงยหน้าขึ้นมอง ป้ายแขวน ‘ตำหนักว่าการ’ ก็ได้ปรากฏตรงหน้านางแล้ว…