ราชาโลกเบื้องหลัง - ตอนที่ 8: อาวุธโบราณมาซาโกะ(2)
ฉันพลาดเองที่ไม่คิดว่าไอแก่เศษสวะนั่นจะหน้าด้านกลับมาพบกับคุณพ่ออีกครั้งและพอฟังจากน้ำเสียงแล้วมันคงจะยังเมาอยู่ด้วย เสมอต้นเสมอปลายเลยสินะ…
“ ฮัลโหล…ฮัลโหลพี่คะ…ยังได้ยินหนูอยู่ไหมคะ? มียูเอฟโอบุกมาแล้วน้า~ฮัลโหลลลล ”
“ อา? ยังฟังอยู่สิ ”
แต่แค่จำอะไรที่ฟ้าพูดไม่ได้เลย…
“ โกหก~หนูเรียกพี่หลายรอบแล้วไม่เห็นตอบกลับมาเลย หนูเคยบอกแล้วไงว่าให้กินผลไม้เยอะๆ ดูสิ…ไม่ทันแก่ก็หูอื้อซะแล้ว ”
“ พี่พูดจริงนะ ลองมองมาที่สายตาสุดแสนจริงจังของพี่สิ จะหาคนที่มีความจริงจังเท่าพี่ได้จากที่ไหนอีกล่ะ ”
“ เฮ้อ~ หนูจะยอมเชื่อก็ได้ค่ะ แต่เมื่อไรจะถึงสถานที่ลับที่พี่ว่าสักทีล่ะคะ? พวกเราเดินมาเป็นชั่วโมงแล้วนะ ”
“ เอ๊ะ? ”
ซวยล่ะ…ฉันดันพาฟ้าเดินเหม่อมาเป็นชั่วโมงเลยเหรอเนี่ย ท้องฟ้าก็มืดแล้วด้วย แล้วไอ้สถานที่ลับนั่นก็ไม่ได้มีอยู่จริงสักหน่อย นอกจากเสียแรงแล้วยังเสียเวลาอีก…
“ ขอโทษนะฟ้า เป็นความผิดของพี่เองแหละ พี่พามาผิดทางน่ะสิ ทางไปจริงๆมันอยู่อีกทางแต่ใกล้มาก…เพราะงั้นวันนี้กลับกันก่อนไหม เดี๋ยวแม่เป็นห่วงเอานะ ”
“ โธ่ พี่คะ พี่เป็นคนชวนหนูมาเองเเท้ๆ หนูปวดขาจนเดินกลับไม่ไหวเเล้ว ”
“ อา ขอโทษด้วยละกัน เพื่อเป็นการไถ่โทษเดี๋ยวพี่ให้ขี่หลังเอาไหม ”
“ จริงเหรอคะ!? ”
ในตอนนี้ไอ้แก่นั่นน่าจะกลับไปเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่แน่ว่าในอนาคตมันอาจจะกลับมาอีกก็ได้…อา น่ารำคาญซะจริง
เมื่อฟ้าขึ้นมาบนหลังฉันแล้วและฉันก็กำลังจะลุกขึ้นยืน แต่เพราะฉันเดินมานานพอๆกับฟ้าขามันเลยล้าสุดๆเหมือนกัน ทำเอาเกือบเสียหลักล้มลงกับพื้นเลย แต่ยังโชคดีที่ประคองตัวได้ทัน
ฉันไม่ใช่เเก้วซะหน่อยที่จะถึกทนจนเหมือนสัตว์ประหลาด ขนาดก้อนหินยังไม่สู้ยัยนั่นเลย เเค่คิดขนก็ลุกแล้วแฮะ…
“ นี่พี่คะ…หนูขอถามอะไรหน่อยได้ไหม ”
“ หืม? ”
“ มันอาจจะฟังดูงี่เง่าสักนิดนะคะ แต่… ”
ในขณะที่พวกเรากำลังเดินกลับบ้านอยู่นั้น จู่ๆฟ้าก็พลันกล่าวบทพูดชวนสงสัยออกมา น้ำเสียงของเธอมีการสั่นเครือเล็กหน่อย มือของเธอที่โอบกอดฉันจากด้านหลังกำแน่น
“ พี่เบื่อไหมที่เล่นกับหนูอยู่ตลอด ไม่ได้ไปเที่ยวกับเพื่อนเลย เวลาส่วนตัวของพี่หนูก็แย่งเอามาหมด หนูเอาเเต่ใจเกินไปไหมคะ… ”
และบทพูดต่อมาของเธอก็ทำให้ฉันตกใจไปชั่วครู่นึงเลยก่อนที่ฉันจะสูดหายใจเข้าจนเต็มปอด
“ ใช่เเล้ว! น้องเอาเเต่ใจมาก! พี่ไม่เคยเจอใครเอาเเต่ใจเท่านี้มาก่อนเลย! เรื่องมากน่ารำคาญที่สุด! ชีวิตวัยรุ่นของพี่ต้องเละไม่เป็นท่าก็เพราะฟ้าคนเดียวเลย!….คาดหวังให้พี่จะพูดเเบบนี้หรอ? ”
“ เปล่าค่ะ หนูเเค่คิดว่าพี่อาจจะไม่มีความสุขเลยเวลาเล่นกับหนู ทั้งๆที่อีกไม่นานก็จะเปิดเทอมเเล้วเเต่หนูกลับรั้งตัวพี่ไว้คนเดียว…ขอโทษนะคะ… ”
ถึงฉันจะไม่สามารถเห็นใบหน้าของฟ้าได้เนื่องจากเธอขี่หลังฉันอยู่ เเต่ความชื้นที่ทะลุแผ่นหลังเสื้อนั้นทำให้ฉันรู้สึกถึงความโศกเศร้าของเธอได้
ฉันไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากใช้คำปลอบโยนช่วยบรรเทาให้เธอดีขึ้นมานิดหน่อย
เอาตามจริงเเล้วฉันก็ไม่ได้อยากจะไปไหนในช่วงนี้หรอก เพื่อนก็มีแค่ไหมกี่คนเองและแต่ละคนก็ชวนให้ปวดหัวทั้งนั้น การเล่นอยู่กับน้องสาวที่น่ารักยังรู้สึกสนุกกว่าเยอะเลย…
“ หนูรักพี่นะคะ ”
“ ฮุ๊ย~นี่น้องของพี่กล้าสารภาพรักกับผู้ชายแล้วเหรอเนี่ย เด็กประถมสมัยนี้นี่สุดยอดเกินไปแล้ว ”
“ โธ่ พี่คะ…ฮะฮ่าๆ ”
ภายใต้ท้องฟ้าที่มืดครึ้ม สายลมที่เย็นสบายพัดสวนกับใบหน้าของเด็กผู้หญิงที่กำลังขี่หลังพี่ชาย เเผ่นหลังที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นเเละเป็นที่ปลอดภัยสำหรับเธอ
ตอนนี้บนเเผ่นหลังของฉันมีร่างของฟ้าที่ผล็อยหลับพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้านั้น ฉันไม่อาจรู้ได้เลยว่ารอยยิ้มนี้จะอยู่ไปได้อีกนานเเค่ไหน ฉันเเค่ต้องทำในสิ่งที่ทำได้ตอนนี้เพื่อปกป้องรอยยิ้มนี้ไว้ให้นานที่สุด ต่อให้ฉันจะต้องถูกมนุษย์ทั้งโลกสาปแช่งอีกครั้งก็ตาม…
ถึงฉันกับฟ้าจะเป็นพี่น้องแท้ๆกัน แต่เมื่อก่อนพวกเราแทบจะไม่ได้คุยกันเลยด้วยซ้ำ จำนวนครั้งที่พบหน้ากันในแต่ละปีก็ยังน้อยกว่าตัวเลขในนาฬิกาซะอีก เป็นความสัมพันธ์ที่เหมือนเป็นคนแปลกหน้ากันมากกว่าเป็นพี่น้องกัน…
( กลับไปจริงๆแล้วใช่ไหมนะ? )
เมื่อกลับมาถึงหน้าประตู ฉันชะเง้อหัวมองเข้าไปภายในบ้าน…หันซ้าย หันขวา…แต่ก็ไม่เห็นวี่เเววของคุณลุงเลย
ภายในบ้านฉันพบแค่คุณพ่อคุณเเม่ที่นั่งอยู่ในห้องกินข้าว ใบหน้าของทั้งคู่ไม่มีท่าทางตรึงเครียดเเต่อย่างใด มันทำให้ฉันโล่งใจหายห่วงไปชั่วครู่นึง…
“ กลับมากันแล้วเหรอ? ”
“ อื้ม พอดีพาฟ้าไปเดินเล่นนิดหน่อยเลยกลับมาช้าน่ะครับ ”
“ ไม่เป็นไร แต่นั่นฟ้าหลับเเล้วเหรอ? คงจะเดินกันไกลเลยสินะ ”
“ ครับ งั้นผมเอาน้องขึ้นไปส่งบนห้องก่อนนะ ”
“ อ้า ระวังตกบรรไดล่ะ ”
ในระหว่างที่ฉันขึ้นบรรได เสียงถอนหายใจของพ่อพลันดังออกมา คุณพ่อที่พึ่งรู้สึกตัวว่าถอนหายใจดังเกินไปจึงรีบหันมามองทางบรรไดแต่ก็ไม่เห็นใครแล้ว
หัวใจของฉันถูกปกคลุมไปด้วยความเย็นยะเยือก ก่อนหน้านี้ก็ลังเลใจนิดหน่อยเพราะสัญญา แต่ตอนนี้ตัดสินใจได้แล้ว…
เมื่อฉันส่งฟ้าเข้าห้องนอนเสร็จก็รีบกลับเข้าห้องของตัวเองทันที ฉันนอนอ่านหนังสือเฉยๆและปล่อยให้เวลาไหลผ่านไปจนกระทั่งถึงเวลาเที่ยงคืนตรง ฉันพึมพำบางอย่างก่อนที่แสงสีเทาจะปรากฏเหนือร่างของฉันและจางหายไป
พรึบ
ฉันลุกขึ้นจากเตียงเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า หยิบเสื้อกันหนาวตัวนึงออกมาใส่และเดินมาชั้นล่างอย่างเงียบเชียบ
คุณพ่อไม่ได้กลับขึ้นไปในห้องนอน แต่เขานอนฟุบอยู่บนโต๊ะกินข้าวแทน ฉันเหลือบไปเห็นปากของคุณพ่อกำลังบ่นพึมพำอะไรบางอย่างและด้วยความสงสัยจึงลองตั้งใจฟัง
“ ปกป้อง…ฝน… ”
……
“ …ครอบครัว… ”
คำพูดที่แสนสั้นและเข้าใจได้ง่ายนี้ มันยิ่งทำให้หัวใจของฉันเย็นยะเยือกมากกว่าเดิม
ฉันน่ะรู้จักเส้นทางไปบ้านของคุณลุงดีเลย เพราะเมื่อก่อนคุณพ่อพาฉันแวะไปบ่อยๆ หลังจากที่คุณลุงโดนตำรวจจับไป คุณพ่อก็เป็นคนจ่ายค่าเช่าห้องให้คุณลุงมาตลอด2ปี เพื่อหวังให้คุณลุงเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้หลังออกจากคุก
คุณพ่อเชื่อว่าคนที่ทำผิดสามารถแก้ไขตัวเองได้เสมอและเพราะเป็นพี่น้องกันถึงได้เชื่อในตัวของคุณลุงมากขนาดนี้ ในอดีตคุณลุงเองก็เป็นคนปกติที่นิสัยดี แต่เพราะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดและการพนันเลยทำให้เปลี่ยนไปเป็นคนละคน
แน่นอนว่าคุณพ่อน่ะทำสิ่งที่ดีแล้ว แต่ไอ้แก่เศษสวะนั่นมันเกินเยียวยาไปแล้วจริงๆ อาจจะมีสักวันที่มันบุกมาพร้อมกับจับตัวฟ้าไปเหมือนกับเหตุการของฉันก็ได้ และมั่นใจได้เลยว่าฉันจะไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์เเบบนั้นขึ้นกับฟ้าเด็ดขาด
“ แต่มันจะคุ้มเสียไหมเนี่ย? เฮ้อ~ช่างเถอะ ”
หลังจากที่แวะไปหาคนๆนึงเสร็จ ฉันก็บ่นพึมพำอะไรบางอย่างและทันใดนั้นก็พลันมีแสงสีทองปรากฏขึ้นมาเบื้องหน้า ฉันเดินเข้าไปหาแสงนั่นก่อนที่ทั้งฉันทั้งแสงสีทองจะจางหายไปพร้อมกันทิ้งไว้แค่พื้นหินที่ว่างเปล่า…