ราชาโลกเบื้องหลัง - ตอนที่ 18
“ ขอร้องล่ะครับคุณแก้ว ให้ผมได้นอนเถอะ ไหว้ล่ะ… ”
“ เอ๋?! ”
แก้วถึงกับตะลึง เธอคิดไม่ถึงเลยว่าเพียงเอ่ยปากชวนเมฆไปคุยกันที่อื่นก็ถึงกับทำให้เมฆร้องไห้ออกมา
แม้เธอจะรู้สึกสับสนแต่ก็สามารถดึงสติกลับมาได้อย่างรวดเร็ว
“ มันสำคัญจริงๆนะ ถ้าจะคุยกันตรงนี้มันคงไม่ค่อยดีสักเท่าไร ”
“ เฮ้อ~ เอาเป็นอีก30นาทีหลังจากนี้ได้ไหม พอดีฉันมีภารกิจที่ต้องถอดจิตไปเฝ้าพระยูไลน่ะ ”
“ ถ้างั้นเดี๋ยวฉันส่งคนไปเฝ้าพระยูไลให้นายแทนเอง ไม่ต้องห่วงหรอก นายมั่นใจได้เลยว่าคนที่ฉันส่งไปไม่ธรรมดาแน่ ”
“ อา…ขอฉันนอนสักหน่อยได้ไหมเนี่ย!? โลกมันไม่แตกหรอกน่า! ”
แม้ฉันจะพยายามขอร้องหรือโอดควรมากแค่ไหนเธอก็ยังไม่มีท่าทีที่จะยอมแพ้เลย
ตอนนี้แก้วเองก็เริ่มรู้สึกมีน้ำโหแล้วเล็กน้อย ใจจริงเธออยากจะกระชากคอเสื้ออีกฝ่ายแล้วลากตามมาจะได้จบๆ เเต่ต่อหน้านักเรียนคนอื่นที่กำลังมองอยู่แล้วตัวเธอจะต้องเป็นคนสมบูรณ์เเบบ การใช้กำลังบังคับตอนนี้คงไม่ใช่เรื่องที่ฉลาดสักเท่าไร
“ ถ้านายอยากนอนมากนักก็ไปนอนที่ห้องสภานักเรียนสิ จะได้ไม่มีใครมารบกวน พวกเราก็ไปคุยกันที่นั่นด้วยพอดีไง ”
แก้วใช้การยื่นข้อเสนอเพื่อชักจูงฉัน ซึ่งแน่นอนว่าฉันรู้สึกสนใจมันมาก
ห้องสภานักเรียนเป็นห้องที่มีความสำคัญพอๆกับห้องของผู้อำนวยการเลยล่ะ มีทั้งเเอร์ที่เย็นสบายเเละโซฟาที่นุ่มนิ่ม คนที่สามารถเข้าไปได้ก็มีเพียงแค่สภานักเรียนในเเต่ละรุ่นเท่านั้น
ห้องสภานักเรียนเป็นห้องที่เหมาะกับการนอนจนฉันคาดไม่ถึงเลยล่ะ เเต่ว่า…
“ ตอนนี้เธอยังไม่ได้เป็นประธานนักเรียนเลยนี่ แล้วเธอจะเข้าไปใช้ห้องนั้นได้ยังไงล่ะ? ระวังมีอาจารย์บางคนไม่พอใจเอาได้นะ… ”
ถ้าหาก‘นักเรียนตัวอย่าง’ของโรงเรียนกลับฝ่าฝืนกฎระเบียบของโรงเรียนซะเองคงจะกลายเป็นเรื่องใหญ่แน่…และยิ่งเป็นแก้วด้วย
“ เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง ฉันได้รับอนุญาตจากผอ.ให้เข้าไปในห้องนั้นได้ตลอดนั่นเเหละ มันถือเป็นรางวัลที่ฉันทำให้โรงเรียนเราแซงขึ้นที่1ได้ล่ะนะ ถ้าไม่เชื่อก็ดูนี่สิ กุญเเจของห้องสภานักเรียนอยู่กับฉันยังไงล่ะ ”
แก้วได้เผยรอยยิ้มออกมาขณะเหวี่ยงที่คล้องกุญแจเป็นวงกลม…นี่เธอไม่กลัวมันหลุดมือไปบ้างเลยรึไงเนี่ย?
ท้ายที่สุดฉันก็ไม่สามารถทนกับสิ่งยั่วยวนที่เธอเสนอมาได้และลุกตามเธอไป ระหว่างทางที่เดินไปห้องสภานักเรียนั้นฉันก็รู้สึกได้ถึงสายตาของนักเรียนคนอื่นที่มองมาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อกันให้ได้เลย…
“ โอโห~ นี่เป็นห้องที่ดูดีเกินไปจนอาจมีคนเข้าใจผิดว่าได้มาจากการทุจริตเลยนะเนี่ย ”
เบื้องหน้าของฉันตอนนี้คือประตูของห้องสภานักเรียนที่สุดเเสนจะหรูหรา มองด้วยตาเปล่าก็ยังรู้เลยว่าทำจากวัสดุคุณภาพดีมากเเน่ กระทั่งภายในห้องเองก็ดูดีไม่ต่างกัน
“ เป็นไงล่ะ สภานักเรียนของพวกเราทำงานกันด้วยความจริงใจกันทั้งนั้น และนี่ก็คือเงินที่ได้มาอย่างสุจริตไม่มีการทุจริตเเม้เเต่น้อย เพราะงั้นคำพูดของนายเมื่อกี้มันค่อนข้างเสียมารยาทเลยนะ ”
“ จ้าๆ ”
ฉันเดินตามหลังแก้วเข้าไปข้างในและพวกเราก็นั่งลงที่โซฟากลางห้อง
เธอหยิบรีโมตบนโต๊ะขึ้นมาเปิดแอร์ก่อนที่เนกไทใต้คอเสื้อของเธอจะค่อยๆถูกปลดออกเผยลำคอที่เรียบเนียนดั่งไข่มุก
“ เธอแต่งตัวไม่เรียบร้อยแบบนี้ไม่กลัวนักเรียนคนอื่นมาเห็นบ้างเหรอ? ”
“ ใครจะเห็นได้ล่ะ ในห้องนี้ก็มีแค่พวกเราสองคนนั่นแหละ ”
แก้วพูดขณะชูแขนทั้งสองข้างขึ้นบิดขี้เกียจ
“ ก็นั่นสินะครับ ”
บุคลิกของแก้วตอนอยู่ภายในกับภายนอกโรงเรียนนั้นต่างกันราวฟ้ากับเหว
ตอนอยู่ภายในโรงเรียนเธอเปรียบเสมือนตัวตนสูงสุดของเหล่านักเรียน ตัวตนที่ทำได้แต่แหงนหน้ามองและเคารพบูชา แก้วเองก็รู้ดีว่านักเรียนในโรงเรียนคิดยังไงกับตัวเธอกันแน่
แต่จะมีใครรู้ล่ะว่าจริงๆแล้วยัยผู้หญิงที่ถูกเคารพบูชาอยู่นี่เป็นพวกซาดิสต์ชอบใช้ความรุนแรงกับร่างกายน้อยๆของฉัน และนอกจากร่างกายแล้วกระทั่งจิตใจของฉันก็ยังถูกเธอย้ำยีด้วย
( ถ้าหากฉันเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้พวกนักเรียนคนอื่นฟัง มีหวังฉันถูกจับตรึงบนไม้กางเขนและถูกปาหินใส่แน่ )
ต่อให้สิ่งที่ฉันเล่าออกไปจะเป็นความจริง แต่ฉันก็เชื่อว่าจะไม่มีใครรับฟังเลยสักคนและเผลอๆฉันอาจถูกตั้งค่าหัวโดยไอ้เจ้าพวกคนสมาคมGอีกด้วยต่างหาก
“ ก่อนจะเสียเวลาไปมากกว่านี้ บอกเหตุผลที่เธอเรียกฉันมาได้เเล้ว ฉันจะได้นอนสักที ”
ฉันพูดพากลับเข้าประเด็นหลักก่อนจะออกนอกเรื่องไปไกลกว่านี้
“ ….นายยังจำสัญญาก่อนหน้านี้ได้ไหม? ”
“ สัญญา? ”
แก้วถามฉันขณะเผยแววตาที่คาดหวังอะไรบางอย่าง
“ นายลืมเรื่องเมื่อคืนแล้วงั้นเหรอ? ”
“ อ—อ๋อ! เรื่องที่จะไปห้างพึ่งเปิดใหม่ด้วยกันใช่ไหม ”
“ อื้ม ใช่แล้วล่ะ ฉันรู้สึกโล่งใจนะที่นายยังไม่ลืม เพราะถ้านายลืมละก็… ”
“ ยังไม่ลืมครับ! ”
ไอ้นั่นพวกเราไม่ได้สัญญากันไว้สักหน่อย เเต่ฉันถูกเธอบังคับต่างหากล่ะเฟ้ย! ถ้าตอนนั้นไม่ได้ตอบตกลงไปฉันคงขาดอากาศหายใจตายมือเธอแน่…
“ เฮ้อ~ ในเมื่อเธอหมดเรื่องที่จะคุยแล้วก็ออกไปสักทีสิ ฉันจะนอนแล้ว ”
“ ….ฉันเองก็กะจะนอนที่นี่ด้วยเหมือนกัน/// ”
“ เอ๊ะ? ”
เมื่อเธอพูดเสร็จ เธอก็ลุกเดินมานั่งโซฟาข้างฉันทันที เธอไม่รอให้ฉันได้ตั้งสติ ร่างกายที่งดงามและเย้ายวนของเธอค่อยๆถูกขยับเข้ามาใกล้ฉันขึ้นเรื่อยๆ
ในขณะที่หัวใจกำลังเต้นเเรงเเละคิดอะไรไปไกลอยู่นั้น ฉันก็พลันรู้สึกได้ถึงปลายนิ้วเเตะเข้าที่กลางจมูกของฉัน
“ ฉันแค่ล้อเล่นหรอกน่า พวกเรายังอยู่ในโรงเรียนนะ จะไปทำเรื่องแบบนั้นได้ยังไงกัน…เเละอีกอย่าง ฉันยังไม่ได้บอกสักหน่อยว่ามีแค่เรื่องเดียวน่ะ ”
“ ง—งั้นเหรอ ”
“ พวกเราโตกันเเล้วนะ คงกลับไปนอนด้วยกันไม่ได้หรอก/// ”
“ อ—อื้ม ”
แก้วได้ถอยกลับไปพร้อมกับหันหน้ามองไปทางอื่น แต่ถึงเป็นอย่างงั้นฉันก็ยังเห็นแก้มของเธอที่เปลี่ยนเป็นสีแดงอยู่ดี
หลังจากที่พวกเราทั้งคู่นั่งสงบสติกันแล้ว แก้วก็กลับมาแสดงสีหน้าปกติตามเคย
“ เมฆ ปีนี้นายอยากลงสมัครเป็นประธานนักเรียนไหม เหมือนกันกับตอนประถมที่นายเป็นประธานส่วนฉันเป็นรองประธานไง ”
“ หือ?! ”
ทันใดนั้นแก้วก็พูดเรื่องที่น่าตกใจออกมา การที่เธอพูดกับฉันแบบนี้ก็หมายความว่าเธอไม่คิดจะเป็นประธานนักเรียนในปีนี้งั้นเหรอ?
แต่ถ้าเธอไม่อยากเป็นก็ยังมีคนจำนวนมากที่อยากจะมาเข้ามารับตำแหน่งแทนเธออยู่แล้วนิ
“ ทำไมต้องเป็นด้วยฉันล่ะ? ยังมีคนอีกเยอะเลยนี่ที่อยากมาเป็นต่อจากเธอ ”
“ ก็ให้คนมีประสบการณ์มาเป็นต่อก็ไม่ได้เเย่นี่ เเถมตอนที่นายเป็นประธานนักเรียนนายก็สามารถทำให้นักเรียนทุกคนมีความสุขมากด้วย ”
“ …… ”
เมื่อตอนประถม ฉันถูกคนทั้งห้องบังคับให้ลงสมัครเป็นประธานนักเรียน ซึ่งฉันไม่ได้เต็มใจเลยสักนิด เเต่ก็ทำๆไปโดยไม่คิดอะไร สุดท้ายกลับลงเอยที่นักเรียนส่วนใหญ่เลือกโหวตให้ฉันซะงั้น
เเละเมื่อฉันได้รับหน้าที่นี้มาเเล้วฉันจึงทำสุดความสามารถ พยายามผลักดันคนอื่นให้ก้าวหน้าในด้านที่เหมาะสมขณะที่ตัวเองยังนั่งอยู่บนรถเข็น ฉันก็ไม่รู้หรอกว่าที่พวกเขาโหวตฉันเพราะสงสารรึเปล่า เเต่บอกได้คำเดียวเลยว่ามันเป็นช่วงที่ลำบากสุดๆ…
และหลังจากได้ย้ายโรงเรียนมาแล้ว ฉันก็บอกกับตัวเองเสมอว่าจะไม่ทำตัวโดดเด่นเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นอีกเป็นครั้งที่สอง
นั่นคือสิ่งที่ฉันกำลังทำอยู่ แต่ยัยบ้านี่คิดจะให้ฉันกลับไปลำบากแบบนั้นอีกเนี่ยนะ?
“ ขอปฎิเสธ! ”
“ ทำไมล่ะ?! ถ้านายเป็นประธานนักเรียนเเล้วนายจะสามารถเข้ามานอนในห้องนี้ได้ตลอดเลยนะ ไม่สนใจหน่อยเหรอ? ”
“ เธอคิดว่าฉันไม่รู้รึไงว่าพอเป็นประธานนักเรียนแล้วก็เเทบจะไม่มีเวลาให้นอนพักเลย ถ้าหากไม่ใช่เธอที่เป็นสัตว์ประหลาดก็เเทบจะไม่มีใครอดทนเป็นประธานนักเรียนได้นานหรอกนะ ”
แค่คิดก็รู้สึกเหนื่อยแล้ว การเป็นประธานนักเรียนของโรงเรียนปกติเทียบอะไรไม่ได้เลยกับการเป็นประธานนักเรียนของโรงเรียนเอกชนชั้นนำ
และยิ่งเป็นโรงเรียนเอกชนอาสการ์ที่ประธานนักเรียนต้องดูแลคนทั้งโรงเรียนพร้อมกับสมาชิกสภานักเรียนไม่กี่คน
ถึงจะมีบางคนที่มาขอตั้งกลุ่มเพื่อช่วยดูแลนักเรียนในบริเวณที่อาจจะสอดส่องไม่ถึงก็ตาม แต่ภาระของประธานนักเรียนก็ยังคงหนักหนาสาหัสอยู่ดี
“ สัตว์ประหลาดเหรอ… ”
เเก้วได้ขมวดคิ้วเข้าหากันราวกับเเสดงความไม่พอใจ
( นี่ตรูพูดเกินไปรึเปล่าฟะ? )
ไม่ทันที่ฉันจะได้คิดอะไรไปมากกว่านี้ เเก้วก็ได้ลุกขึ้นจากโซฟาเเละกำลังจะเดินออกไป
“ ที่ฉันตัดสินใจเป็นประธานนักเรียนตลอดมานี่ก็เพราะอยากเป็นแบบนายแท้ๆแต่… ”
“ หืม? เธอพูดอะไรรึเปล่า? ”
“ ไม่มีอะไร ”
ตึง!
เธอหันมามองหน้าฉันและพึมพำอะไรบางอย่างก่อนจะปิดประตูไป
หลังจากที่โดนขัดจังหวะมาตลอดตอนนี้มันก็ถึงเวลาที่ฉันจะได้นอนสักที
โซฟานุ่มนิ่ม เเอร์เย็นสบาย กลิ่นของห้องที่ทำให้ผ่อนคลาย ห้องนี้ถูกสร้างมาอย่างดีเพื่อให้เหล่าสภานักเรียนได้ผ่อนคลายจากความเครียดเเละความกดดันที่มากเหลือล้น
ฉันกระโจนตัวเอาหน้าไปซุกเบาะโซฟาข้างๆโดยที่ลืมไปเลยว่าก่อนหน้าเเก้วนั้งตรงตำเเหน่งนี้…
“ อา~ สิ่งนี้นี่แหละที่อดทนรอมานาน~ ”
ฉันพูดพร้อมกับเอาหน้าถูไถไปกับเบาะโซฟาอุ่นๆ
สติของฉันเลือนลางลงพร้อมกับภาพตรงหน้าที่ค่อยๆมืดลงจนท้ายที่สุดฉันก็ไม่เห็นสิ่งใดอีกต่อไป…