ราชาโลกเบื้องหลัง - ตอนที่ 14+
“ นายเคยไปสัญญาอะไรกับพี่เค้ากันแน่ยะ? ”
“ อืมมมม สัญญาสินะ…สัญญา… ”
เมื่อประมาณ3ปีก่อน, ก่อนที่ครอบครัวของฉันจะย้ายบ้าน
ในขณะที่ตัวฉันกำลังเก็บสัมภาระส่วนตัวอยู่นั้น หญิงสาวคนหนึ่งก็เดินเข้ามาทักฉันจากด้านหลัง เธอคนนี้ไม่ใช่ใครที่ไหนไกล เธอมีชื่อว่าทราย ไคม์ เป็นพี่สาวของแก้วเอง
‘ นี่คงจะดีที่สุดสำหรับนายแล้วนั่นแหละนะ หลังจากนี้นายสามารถอ่านหนังสือได้เต็มที่โดยไม่มีใครมารบกวนหรือขัดจังหวะแล้วด้วย ’
‘ เอ่อ…งั้นมั้งครับ ’
ตัวฉันหันหน้าไปตอบคำถามของหญิงสาวด้วยคำตอบที่แสนสั้นและเรียบง่ายก่อนจะหันกลับอย่างนิ่งเฉย
‘ อย่างน้อยก็ช่วยแกล้งยิ้มให้ฉันในวันสุดท้ายหน่อยไม่ได้รึไง เฮ้อ~ ’
ถึงแม้ว่าหญิงสาวจะรู้สึกหงุดหงิดนิดหน่อยกับการกระทำของฉัน แต่เพราะที่ผ่านมาเธอมักจะได้รับคำตอบประมาณนี้มาเสมอ เธอเลยสามารถมองข้ามมันไปได้
เมื่อเธอถอนหายใจเสร็จ เธอก็เข้ามาช่วยฉันเก็บสัมภาระใส่กระเป๋าให้เรียบร้อย ในระหว่างที่ทำเธอก็เอาแต่เงียบปากไม่ยอมพูดอะไรเลย แน่นอนว่าฉันเองก็ไม่ได้พูดอะไรเหมือนกัน
และหลังจากที่เธอช่วยฉันยกของใส่ท้ายรถเสร็จดีแล้ว เธอก็เปิดปากออกมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้น้ำเสียงของเธอมีความจริงจังเป็นอย่างมาก และถึงเธอจะพยายามแสดงมาดที่นิ่งสงบเพียงใด แต่ริมฝีปากของเธอก็สั่นระเรื่อจนฉันสามารถสังเกตเห็นได้
‘ ….นี่เมฆ นายช่วยสัญญากับฉันหน่อยได้ไหมว่าหลังจากนี้จะไม่ใช้พลังเกินวันละหนึ่งครั้งอีกน่ะ ฉันไม่อยากให้นายลืมฉัน…เพราะงั้นช่วยให้สัญญากับฉันได้ไหม? ’
เธอยื่นมือซ้ายออกมาแล้วทำนิ้วเป็นการเกี่ยวก้อยสัญญา ใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงเล็กน้อยจากความอายและความเศร้า เพราะสิ่งเธอทำอยู่มันแทบไม่ต่างจากเด็กเลย
‘ …… ’
ฉันก้มมองไปที่นิ้วก้อยอันขาวเนียนของเธอก่อนจะเงยหน้าขึ้นมา และเมื่อหญิงสาวเห็นฉันมองมาเธอก็รีบหันหน้าหนีทันที น้ำบางอย่างหยดลงพื้น สุดท้ายฉันก็ยื่นนิ้วก้อยไปเกี่ยวกับเธอพร้อมกับให้คำสัญญาไป
‘ ก็ได้ครับ… ’
‘ อ๋อใช่! ฉันลืมบอกไปเลยว่าถ้านายผิดสัญญานายจะถูกฉันแกล้งล่ะ แน่นอนว่าต้องไม่ใช่การแกล้งธรรมดาอยู่แล้ว ’
‘ ….ไม่บอกช้าไปหน่อยเหรอครับ? ’
‘ แล้วนายคิดจะผิดสัญญารึไงล่ะ? ”
และนี่คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนั้น แต่ถึงอย่างงั้นฉันก็ผิดสัญญาจนได้ หลังจากที่ให้สัญญาในตอนนั้นไปฉันก็ทำตามสัญญามาตลอดจริงๆนะ…จนกระทั่งคุณลุงออกจากคุกมานี่แหละ เลยเผลอลืมตัวไปนิดหน่อย…
และถึงจะเป็นพี่น้องกันก็เถอะ แต่จะให้ฉันเอาสัญญาที่ทำไว้ระหว่างสองคนไปบอกคนอื่นแบบนั้นนี่มันทำให้ฉันรู้สึกไม่ดีเลยแฮะ…
“ เอ่อ…ฉันก็เเค่เคยให้สัญญาไปว่าจะปกป้องน้องสาวของพี่ทรายตอนที่เธอไม่ได้อยู่ด้วยก็เท่านั้นเอง ไม่ได้มีอะไรมากนักหรอก ”
“ อ—เอ๋?! ง—งั้นเหรอ…ปกป้องฉันเองสินะ/// ”
หน้าของแก้วเปลี่ยนเป็นสีแดงแจ๋ก่อนที่เธอจะก้มหน้าลงเพื่อหลบตาฉัน
ทันใดนั้นเธอก็ตัดสินใจอะไรบางอย่างได้ เธอรวบรวมความกล้าเงยใบหน้าที่เเดงเเจ๋กว่าเดิมขึ้นมาและพยายามสบตากับฉันตรงๆ
“ นายรู้จักห้างZoNaที่พึ่งเปิดใหม่เเถวๆนี้ไหม… ”
“ รู้จักสิ? ”
“ พอดีว่าหนังเรื่องZombie Island 9 ออกฉายในโรงเเล้ว เพราะงั้น…น—นายจะไปด้วยกันไหม? เเค่สองคน/// ”
“ หืม? ”
นี่เธอกำลังพยายามชวนฉันไปดูหนังงั้นเหรอ? ก็ไม่ใช่ว่าพวกเราไม่เคยไปดูหนังด้วยกันมาก่อนนะ เเต่ในตอนนั้นพวกเราไม่ได้ไปกันเเค่2คนน่ะสิ ถ้าจำไม่ผิดทั้งครอบครัวของฉันก็ไปด้วย แต่ก่อนจะไปดูหนังกันพวกเราก็แวะไปเที่ยวสวนสัตว์กันก่อน ในตอนนั้นก็เกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้นเลยวุ่นวายกันแบบสุดๆ…
( เฮ้อ~ทำไมอยู่ๆก็รู้สึกเหนื่อยใจกันนะ? )
ถึงจะไม่เข้าใจก็เถอะ แต่ในเมื่อมีคนมาชวนฉันไปเที่ยวอย่างนี้ คำตอบของฉันมันก็แน่นอนอยู่แล้ว…
“ ไม่เอาอ่ะ ขี้เกียจ นี่ก็มืดเเล้วเพราะงั้นฉันกลับล่ะ— ”
ขณะที่กำลังจะหันหลังกลับ ฝ่ามือปริศนาได้มาดึงคอเสื้อของฉันไว้ ร่างของฉันถูกจับหมุนหันหน้าเข้าหาตัวแก้วอย่างต้านไม่ได้
เมื่อฉันได้หันกลับไปก็เห็นใบหน้าของแก้วที่เปลี่ยนเป็นเจ้าหญิงน้ำเเข็งผู้แสนเย็นชาทันที และถึงคราวนี้พวกเราจะสบตากันอีกครั้ง เเต่ความรู้สึกที่ได้รับกลับชวนให้ขนลุกแทนซะอย่างงั้น…
“ นายแน่ใจแล้วงั้นเหรอที่จะตอบแบบนั้นน่ะ… ”
“ หืม ทำไมล่ะ? ”
“ เพราะถ้านายไม่ยอมไปด้วย ฉันจะบอกฟ้าเรื่องที่นายพยายามลักหลับฉันเมื่อคืนก่อน และคราวนี้ฉันก็จะบอกพ่อแม่นายเป็นของแถมด้วย! ”
“ ฮ—เฮ้ย!? นี่เธอยังจะใช้มุกนี้อยู่อีกงั้นเรอะ?! ”
ทันใดนั้นแก้วก็โพล่งคำขู่ที่ฉันไม่อยากได้ยินที่สุดออกมา
ไอ้สุดยอดสมองของเธอมันนึกอย่างอื่นไม่ออกเลยรึไงเนี่ย?
“ แล้วถ้านี่เป็นไงล่ะ…เมื่อตอน8ขวบ นายพยายามเเอบเข้ามาในห้องนอนของฉันเเละขึ้นคร่อมฉันตอนหลับ ตอน9ขวบก็ด้วย ตอน10ขวบก็เหมือนกันเเละอีกหลายต่อหลายครั้ง…อ๊ะ พอมาคิดดูดีๆฉันน่าจะแต่งงานกับใครไม่ได้แล้วล่ะ ”
“ ไม่ใช่แล้วเฟ้ย! ทำไมมันถึงได้มั่วแบบนี้กันฟะ?! แล้วนี่มันก็มุกเดิมนี่หว่า!? ”
พวกเราเถียงต่อกันไปอีกสักพักใหญ่ และครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งนึงที่ฉันต้องยอมยกธงขาวให้กับเธอ ไม่งั้นฉันได้ขาดอากาศหายใจจากการถูกบีบคอแน่
“ ฮึ! งั้นวันนี้พอแค่นี้แหละ ฉันจะกลับบ้านแล้ว ส่วนนายจะไปไหนก็ไป ”
แก้วบอกกับฉันแบบนี้ก่อนจะหันหลังเดินจากไปพร้อมกับกระทืบเท้าเสียงดัง ทำไมไม่รู้ ฉันรู้สึกเหมือนถูกผู้หญิงที่ยังไม่ได้คบมาบอกเลิกกันเลย…
( นี่กาลเวลามันเปลี่ยนเธอไปเยอะขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย ทั้งๆที่เมื่อก่อนยังเป็นเด็กน้อยคอยเดินเกาะแขนฉันไปมาเป็นปลิงอยู่เลยแท้ๆ )
ฉันได้เดินกลับมาถึงบ้านในสภาพร่อแร่เนื่องจากระยะทางบวกกับความง่วงนอนที่กัดกิน ยังโชคดีที่คุณแม่กลับขึ้นไปนอนแล้วจึงไม่มีใครมารบกวนฉันอีก ไม่งั้นฉันคงได้ล้มฟุบคาทางเดินแน่
ฉันทิ้งตัวลงบนเตียงนอนและเข้าสู่สภาวะหลับเป็นตายทันที อา~ทำไมมีแต่เรื่องน่าปวดหัววนเวียนเข้ามาไม่หยุดเลยนะ…
ภายในโลกสีขาวที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา ท้องฟ้าไร้ก้อนเมฆ พื้นดินไร้รูปร่าง ตัวตนของฉันได้มาโผล่อยู่ในที่ที่ไม่รู้จักซะแล้วสิ
‘ ความฝันเหรอ? ’
ฉันมั่นใจว่าตัวเองพึ่งจะหลับไปแต่ทำไมถึงได้มาโผล่ที่นี่กันล่ะ?
[ ▅▅▅ ถึงจะไม่ใช่ แต่ก็น่าจะคล้ายกัน▅▅ ]
ทันใดนั้นตัวตนปริศนาก็ปรากฏตัวขึ้นและตอบคำถามของฉัน ประโยคที่มันตอบออกมานั้นมีบางส่วนที่ฉันได้ยินไม่ชัด เหมือนอยู่ๆเสียงก็เงียบหายไป
และนอกจากปากกับดวงตาแล้ว ร่างกายของฉันตอนนี้รู้สึกว่าจะขยับอะไรไม่ได้เลยเหมือนกับถูกตรึงไว้โดยอากาศ
ในตอนแรกฉันไม่ทันได้สังเกต แต่ถ้านี่เป็นความฝันแล้วทำไมฉันถึงยังง่วงอยู่เลยล่ะ?
[ สถานที่แห่งนี้ ถูก▅▅▅มาในตอนที่นายหลับ แต่▅▅จะเหมือนกับตอนที่นายตื่น เพราะ▅▅▅▅ยังง่วงอยู่เหมือนเดิมนั่นแหละถูกแล้ว ]
‘ หือ?? ’
น้ำเสียงที่ไม่สามารถแยกออกว่าชายหรือหญิงได้พยายามอธิบายให้ฉันฟังอย่างใจเย็น
ถึงน้ำเสียงอีกฝ่ายจะฟังดูใจเย็นแต่ฉันไม่รู้เลยว่าแท้จริงแล้วอีกฝ่ายรู้สึกอย่างไรกันแน่ เพราะตัวตนปริศนาที่มาปรากฏเบื้องหน้าของฉันเป็นร่างสีขาวไร้ใบหน้า กระทั่งเสียงที่ถูกเปล่งออกมาดังจากทางไหนฉันก็ยังไม่รู้เลย
ตัวตนตรงหน้านั้นเป็นปริศนาเกินไป ความไม่รู้จะก่อให้เกิดความกลัวหรือความกังวล และฉันไม่ขอปฏิเสธว่าไม่รู้สึกกังวลกับเหตุการณ์แปลกๆนี้ แต่ในเมื่อปัญหาคือความไม่รู้ งั้นฉันก็แค่ต้องรู้เท่านั้นเอง…
‘ แกเป็นใคร? ’
บุคลิกที่อีกฝ่ายแสดงออกมานั้นสามารถบอกได้นิดหน่อยว่าฉันสามารถถามสิ่งที่สงสัยได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าอีกฝ่ายต้องการจะตอบไหม…
[ อ๊ะ โทษทีๆ ลืมไปซะได้ว่า▅▅▅ไม่เคยเจอกันใน▅▅▅ ฉันกะว่าจะสร้างความประทับใจ▅▅ที่เจอกันใน▅▅▅▅สักหน่อย ]
“ พูดให้มันรู้เรื่องหน่อยสิ ขาดๆหายๆแบบนั้นฉันจะไปฟังรู้เรื่องได้ยังไง ”
[ เอ๋?! เป็นงั้นได้ไง▅▅เนี่ย? นี่เสาหนวดกุ้งของฉันมันพัง▅▅▅▅เหรอ? ]
ตัวตนตรงหน้ายืนเกาหัวตัวเองสักพักก่อนที่จะถอนหายใจออกมา ฉันได้ยินเสียงเต็มสองหู แต่ไอ้ฉันก็ยังจับทางไม่ได้ว่าเสียงมันดังออกมาจากทางไหน
[ ดูเหมือนจะมีบางสิ่งที่ฉันยังไม่รู้ด้วย▅นะ อื้ม~อย่างงี้สิถึงจะน่า▅▅▅▅▅เพิ่มขึ้นมาหน่อย ]
‘ ช่วยหยุดพูดไร้สาระและตอบคำถามของฉันได้ไหม? ’
[ อ้า นายไม่จำเป็นต้องใส่ใจหรอก ▅▅▅เหตุผลที่นายได้ยินเสียงฉันไม่ชัดมันไม่ใช่ความผิดของฉันนะ ▅▅ อย่ามาโทษกันล่ะ ]
‘ ห๋าาาา?! ’
ไอ้หมอนี่มันกำลังล้อกันเล่นอยู่รึไง? มารบกวนการนอนของคนอื่นแล้วยังมาพูดแบบนี้อีก
แต่อีกฝ่ายเป็นใครกันล่ะถึงเข้ามาในความฝันของฉันได้ ถ้าใช้เวทมนตร์ก็น่าจะเป็นระดับที่สูงมากแน่ อย่างต่ำก็ต้องเป็นเวทมนตร์ของจอมเวทระดับ8ถึงจะมีผลกับ[ร่างไร้พร]ของฉัน และถ้าไม่ใช่ก็คงจะเป็น…
‘ แกเป็นพวก«ร่างทรง»เหรอ? ’
[ อืม~ไม่รู้สิน่า~ ]
ฟังเสียงไอ้บ้านี่แล้วรู้สึกหงุดหงิดชะมัดเลย
‘ งั้นแก— ’
เพล๊ง!
[ อ๋า~แย่จังน่า~ดูเหมือนจะมี▅▅สิ่งไม่อยากให้พวกเราคุยกัน▅▅▅▅▅น่ะสิ เอาไว้ครั้งหน้าเดี๋ยวมาหาใหม่ ฉันจะพยายามให้พวกเราได้▅▅▅กันนานขึ้นนะ ]
เสมือนโลกใบนี้กำลังจะแตก เกิดรอยร้าวมากมายบนท้องฟ้าลามลงมาถึงพื้นที่ฉันยืน
‘ ด—เดี๋ยวสิ?! ’
ในวินาทีนั้นเองที่ร่างกายของฉันเริ่มกลับมาขยับได้อีกครั้ง ฉันไม่รีรอรีบออกวิ่งไปหาอีกฝ่ายทันที ฉันไม่รู้ว่ามันเป็นใครกันแน่ แต่ในเมื่อทำให้ฉันเกิดความสงสัยขนาดนี้ก็ต้องกลับมาแก้ปมให้กระจ่างก่อนสิฟะ!
[ บ๊ายบาย▅~ ]
ทุกสิ่งทุกอย่างพังทลาย กระทั่งตัวฉันเองก็ยังแตกเป็นเสี่ยงๆไม่เหลือชิ้นดี สติของฉันหลุดลอยก่อนจะกลับมารวมตัวกันอีกครั้งพร้อมกับภาพเพดานห้องนอนที่คุ้นเคย…
ฉันจ้องมองเพดานเงียบๆก่อนที่จะถอนหายใจให้กับความโชคร้ายของตัวเอง
( ไอ้พระเจ้าบัดซบ! จะให้ฉันได้พักบ้างไม่ได้เลยรึไงฟะ! สวรรค์มันจะถล่มรึไงถ้าฉันได้นอนอย่างมีความสุขเนี่ย! )
สิ่งที่ฉันทำได้ก็มีแต่เพียงบ่นกับตัวเองภายในใจเท่านั้น
ฉันพะงาบปากพึมพำอะไรบางอย่าง ฉับพลันนั้นเองแสงสีเทาประหลาดก็ปรากฎขึ้นและแตกกระจายกลายเป็นละอองหายไปบนร่างของฉันทันทีเมื่อสัมผัสโดน
ฉันลุกขึ้นนั่งบนเตียงและพยายามครุ่นคิดหลายๆสิ่ง หลังจากนั่งทำใจไปสักพัก ฉันก็กัดฟันตัดสินใจทิ้งตัวนอนต่อแม้จะยังกังวลเรื่องตัวตนปริศนานั่น…