นิยาย ราชาเหนือราชัน ตอนที่ 151 : ข้ายอมรับภารกิจนั่น
ภายในหุบเขามีน้ําตกที่ดูน่าตื่นตาตื่นใจราวกับทางช้างเผือก
สายน้ําอันรุนแรง มันกระแทกลงสู่โลกเบื้องล่างซ้ําแล้วซ้ําเล่า มีชายหนุ่มเปลือยท่อนบนกําลังยืนใต้น้ำตกนั่น และรับน้ําหนักของน้ําตกด้วยร่างกาย
แรงกระแทกของน้ำตกแห่งนี้ แม้แต่ผู้ฝึกยุทธ์ระดับแปรสภาพเองก็ยังไม่กล้ายืนรับมันนานนัก หากไม่สามารถต้านแรงกระแทกได้จะต้องได้รับบาดเจ็บ หรือแม้แต่บางคนก็อาจทําให้ศีรษะจมลงสูงใต้น้ําได้
ชายหนุ่มยืนขึ้นโดยไร้ซึ่งชั้นพลังงานภายนอกที่คอยปกป้อง ด้วยใช้เพียงความแข็งแกร่งทางกายภาพเขายืนอย่างมั่นคงราวกับตะปูที่ถูกตอกด้วยท่าทางไร้กังวล ทั้งยังไม่สะทกสะท้านใดเมื่อน้ำตกกระแทกซ้ําแล้วซ้ําเล่า
ในความเป็นจริง ด้วยกําลังใช้สมาธิทั้งหมดจดจ่อกับการต้านทานน้ําตก เขากัดฟันแน่น และกําลังดิ้นรนเพื่อมีชีวิตต่อ ภายในหัวเป็นพื้นที่สีดาสนิท และภายในนั้น มีคนตัวเล็กนั่งไขว่ห้าง และทําหน้าที่เป็นผู้คุ้มกันศีรษะให้แก่เขา
ภายใต้ความกดดัน พื้นที่สีดําสนิทดูเหมือนะเปลี่ยนเป็นของแข็งมากขึ้น ราวกับถูกปลอมแปลงโดยน้ำตก ขณะคนตัวเล็กที่นั่งไขว่ห้างนั้น ดูเหมือนเสียงสะท้อน และพื้นที่สีดํานั่นจะค่อยเติบโตขึ้น ไม่มีผู้ใดทรายว่าชายหนุ่มผู้นี้ยืนอยู่ที่นี่มานานเพียงใด แล้ว แต่ในที่สุดเขาก็ถึงขีดจํากัด
“อ๊ากกกกก!”
เขายกศีรษะขึ้น และคํารามไปยังท้องนภา ปลดปล่อยพลังที่มีอยู่ก่อนหน้าภายในร่างกาย เกราะพลังงานสีม่วง และทองค่าได้ก่อตัวขึ้นรอบตัว และขณะที่การเผยตัวของพยัคฆ์ และมังกรปรากฏขึ้นรอบตัวเด็กหนุ่มเขาช่างดูราวกับบุตรแห่งสรวงสวรรค์ความสง่างามของเขาเป็นสิ่งที่แทบไม่มีผู้ใดเทียบเคียง
จะเป็นผู้ใด้ล่า หากไม่ใช่เซี่ยงเส้าหยุน?
หลังจากแยกทางกับตงลื่อว่าน เขามิได้เข้าไปยังเมืองหุบเขาทมิฬ แต่เขาใช้ทางอ้อม และเดินทางผ่านภูเขาที่มีคนอาศัยเพื่อใช้ภูมิศาสตร์ที่แตกต่างกันในการปรับอารมณ์ตนเอง
ปัจจุบัน เซี่ยงเส้าหยุนกําลังพยายามค้นหาศักยภาพที่ซ่อนอยู่ใต้น้ําตกในขณะ เดียวกันวิญญาณ และขอบเขตวิญญาณสั่นระรัวมากขึ้นในขณะระเบิดพลังส่วนหนึ่งบางส่วนของน้ำถูกบังคับให้ไหลย้อนกลับจากสิ่งนี้ เห็นได้ชัดว่าเขามีพลังมากเพียงใด
ในที่สุด เซี่ยงเส้หยุนเดินออกจากใต้น้ําตก ขณะปล่อนออร่าที่มีศักยภาพอันไร้ขอบเขตออก เขาจับปลาที่อยู่ไม่ไกลนัก หลังจากกินมันเสร็จจึงนอนลงบนทุ่งหญ้าความอบอุ่นของแสงแดดทําให้อารมณ์ดียิ่งขึ้น
การฝึกฝนทั่วไปไม่สามารถเร่งการฝึกยุทธได้ มีเพียงการปรับอารมณ์ และการฝึกที่เสี่ยงอันตรายสูงเท่านั้นจึงจะแข็งแกรงได้อย่างรวดเร็วดูเหมือนเราจะต้องหาสถานที่ฝึกยุทธ์ใหม่เสียแล้ว สถานที่ซึ่งเหมาะกับตัวเราเซี่ยงเส้หยุนครุ่นคิด
หลังจากครู่คิด เขาตัดสินใจมองหาเมืองเป็นอันดับแรกเพื่อจะถามหาสถานที่ซึ่งอันตรายเพื่อที่จะสามารถควบคุมอารมณ์ตนเองได้ ครั้งหนึ่ง เขาเคยคิดที่จะไปยังนครขอบนภา ด้วยมีทรัพยากรในการฝึกยุทธ์มากมายที่นั่น แต่ด้วยมั่นใจว่าหากเปิดเผย ตัวที่นั่นศัตรูอาจจะพบเขาได้เร็วขึ้น
เซี่ยงเส้าหยุนไม่คิดว่าการเสี่ยงเช่นนั้นมันคุ้มค่า ดังนั้นจึงตักสินใจไม่ไปยังนครขอบนภาในตอนนี้ หลังจากพักผ่อนเด็กหนุ่มชําระล้างร่างกายตนเอง ก่อนจะเริ่มออกเดินทางต่อ
ผ่านไปสามวัน เขาได้มาถึงเมืองที่มีนามว่าเมืองไผ่เขียว ที่นี่เป็นเมืองที่เล็ก และ อ่อนแอกว่าเมืองอู่ผู้ปกครองเมืองค่อนข้างยากจนกว่าเมื่อเปรียบเทียบกัน
ตามชื่อของเมืองต้นไผ่เขียวสามารถพบได้ทุกที่ในเมือง ด้วยเหตุนี้จึงมีสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบ และสง่างาม เมื่อเดินท่ามกลางป่าไผ่ และฟังเสียงไม่ไผ่ถูกลมพัดทําให้เซี่ยงเส้าหยุนรู้สึกผ่อนอย่างหาที่เปรียบมิได้
เมื่อได้มาถึงโรงน้ําชาใกล้เมืองเด็กหนุ่มนั่ง และสั่งชาหนึ่งถ้วย ก่อนจะถามบริกร “ท่านบริกรท่านพอจะทราบถึงสถานที่อันตรายใกล้เคียงที่นี่ไหม?”
“ท่านกําลังล้อเล่นกับข้าอยู่หรือ คุณลูกค้า ข้าเป็นคนธรรมดาคงไม่อาจทราบสถานที่เช่นนั้นได้หรอก” บริกรตอบกลับ
เซี่ยงเส้าหยุนคิดว่าตนเองช่างโง่เขลาที่ไปถามบริกรด้วยคําถามเช่นนี้ เขาควรไปถามผู้ฝึกยุทธ์แทน
“หากเราไม่หาข้อมูลสถานที่อันตรายของที่นี่เราจะต้องหาคนร้ายสักคนเซี่ยงเส้า หยุนครุ่นคิดกับตนเอง
เมื่อตัดสินใจเช่นนั้น เซี่ยงเส้าหยุนลึกเข้าไปในเมืองไม่นาน เขาก็ได้พบแผ่นจารึกข่าวใหม่มากมายจะถูกเขียนบนแผ่นจารึกนั้น ดังนั้นจึงมีทั้งภารกิจ และรางวัลมากมาย แผ่นจารึกสามารถพบได้ทั่วไปในเมืองด้วยไม่ได้สนใจสิ่งนี้มากนักในอดีต แต่ด้วยไม่มีสิ่งใดจะทํา เด็กหนุ่มจึงตัดสินใจมองหางานจากแผ่นจารึก
เมืองจ้องไปยังประกาศล่าค่าหัว เขาได้พบข้อมูลของอาชญากรที่ต้องการตัวมากมาย และรางวัลที่ถูกระบุไว้อย่างชัดเจนการยอมรับค่าหัวเท่ากับการยอมรับภารกิจ และภารกิจจะต้องเสร็จสิ้นในเวลาที่กาหนด
หากผู้รับงานล้มเหลวในคําร้องล่าค่าหัวภายในเวลาจํากัด ภารกิจนั้นจะถูกยกเลิกไปโดยอัตโนมัติ สําหรับเงินมัดจําที่จ่ายเมื่อรับภารกิจจะไม่มีการคืนเงิน แน่นอนว่าหากทําสําเร็จตามกําหนดเวลาจะได้รับรางวัลสําหรับภารกิจนั้น
หลังจากศึกษารายชื่อเพียงครู่หนึ่ง เซี่ยงเส้าหยุนได้หมายหัวคนผู้หนึ่งไว้ “กําจัดโจรหมาป่าแดง หัวของหัวหน้าโจรมีมูลค่าหนึ่งพันผลึกวิญญาณขั้นต่ำ หัวของรองหัวหน้าทั้งสองนั้นมีราคาแปดร้อยผลึกวิญญาณขั้นต่ำแต่ละคน…”
นี่เป็นภารกิจระดับสาม ซึ่งบ่งบอกได้ถึงความแข็งแกร่งของศัตรูที่อาจพบได้ในระหว่างทําภารกิจ ซึ่งล้วนแต่เป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับแปรสภาพ และนี่ยังเป็นรางวัลที่มากที่สุด ในบรรดาทุกภารกิจที่แสดงเอาไว้ และจนถึงตอนนี้ยังไม่มีผู้ใดทําสําเร็จ
โจรหมาป่าแดงเป็นกลุ่มโจรที่อยู่ใกล้เมืองพวกเขาปล้นพ่อค้าที่เดินทางบ่อยครั้ง และสร้างความหวาดกลัวให้แก่ประชาชนที่นี่ จนทําให้พ่อค้าที่มีมากขึ้นกลับไม่กล้า มาเยี่ยมเยียนเมืองไผ่เขียวอีกต่อไป
สําหรับสถาบันไผ่เขียวของเมืองไผ่เขียว มันค่อนข้างอ่อนแอกว่าเมื่อเทียบกับความแข็งแกร่งของกลุ่มโจรหมาป่าแดง แต่หากต้องการกําจัดโจรหมาป่าแดง พวกเขาจะต้องจ่ายด้วยราคาที่สูงเพราะเหตุนี้ เมืองจึงต้องออกค่าหัวเพื่อหวังให้มีผู้มากําจัดเหล่าโจรหมาป่าแดงให้แก่พวกเขา
“เอาละ เจ้าละกัน” เซี่ยงเส้าหยุนฉีกแผ่นจารึกที่มีค่าหัวโดยไม่ได้คิด
มีชายสูงวัยผู้รับผิดชอบยืนเฝ้าแผ่นจารึกถอนหายใจ และกล่าว “หนุ่มน้อยเจ้าฉีกแผ่นจารึกนั่นไปเพราะงั้นเจ้าจะต้องทําให้สําเร็จ มิเช่นนั้น จะต้องถูกชาวเมืองหัวเราะเยาะเป็นแน่”
ชายสูงวัยดูเป็นคนใจดี เมื่อได้เห็นผู้เยาว์เช่นเซี่ยงเส้าหยุนยังเยาว์วัยนัก จึงสรุปได้ว่าผู้เยาว์คนนี้คงทาภารกิจไม่สําเร็จแน่ นั่นคือเหตุผลที่เขาถอนหายใจ
“ขอบคุณท่านมาก แต่ข้าจะทําภารกิจล่าค่าหัวนี่ โปรดลงทะเบียนมันให้ข้าด้วย” เซี่ยงเส้าหยุนกล่าว
“เฮ้อ ชายหนุ่มมักดื้อรั้น” ชายสูงวัยถอนหายใจ ก่อนจะลงทะเบียนให้เซี่ยงเส้าหยุ
ราชั้นเซี่ยงยอมรับคําร้องล่าค่าหัวระดับสาม “กาจัดโจรหมาป่าแดง”
เวลาจํากัด : สามเดือน
เงินมัดจํา : ผลึกวิญญาณชั้นต่าหนึ่งร้อยก่อน
ไม่มีผู้ใดยอมรับภารกิจโดยไม่จ่ายเงิน หากเขาทําพลาดหลังจากยอมรับภารกิจ แล้วเงินมัดจําจะถูกริบ ชายสูงวัยรู้สึกประหลาดใจที่เห็นว่าเซี่ยงเส้าหยุนมีผลึกวิญญาณขั้นต่หนึ่งร้อยชิ้น แต่กระนั้นก็ยังไม่มั่นใจในโอกาสสําเร็จของเด็กหนุ่ม
เซียงเส้หยุนเป็นสายตาสงสัยของชายสูงวัย ขณะม้วนแผ่นประกาศ และก้าวออกไปด้วยความมั่นใจ
MANGA DISCUSSION