ราชาซากศพ - บทที่ 627 ถูกโจมตี
บทที่ 627
ถูกโจมตี
“ถูกต้อง!”หลินเว่ยพยักหน้าด้วยรอยยิ้มทันที จากนั้น เขาชี้ไปที่เต่ายักษ์และพูดกับมังกรด้วยรอยยิ้มว่า “มันจะเป็นนายของเจ้าในอนาคต ไปหาเขาและสังเวยวิญญาณ!”
“อะไรนะ มันจะเป็นเจ้านายของข้า…..ทำไม?” เมื่อได้ยินหลินเว่ยพูด มังกรมีใบหน้าไม่พอใจตะโกนออกไป
“อะไรนะ? หากเจ้าไม่ยอมรับมันเป็นเจ้านายหรือจะยอมรับข้าเป็นเจ้านาย?” หลินเว่ยเลิกคิ้วและชี้ไปที่จมูกของเขา
“นี้…!” เมื่อเขาได้ยินคำพูดของหลินเว่ย มังกรก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เขามองไปที่ หลินเว่ยสักครู่ แล้วหันศีรษะไปที่เต่ายักษ์ หลังจากลังเลใจ เขาก็ส่ายหัว
ในที่สุด สายตาของเขาจับจ้องไปที่เต่ายักษ์ด้วยใบหน้าที่ยุ่งยากใจ จากนั้นเขาก็พยักหน้าและพูดอย่างช่วยไม่ได้ “ข้า… ข้าเลือกเต่ายักษ์!” เห็นได้ชัดว่า มังกรยังคงต่อต้านหลินเว่ย เนื่องจากเขาต้องเลือกระหว่าง หลินเว่ยกับเต่ายักษ์ เขาชื่นชอบเต่ายักษ์มากกว่า
ท้ายที่สุด ถึงแม้ว่าพวกเขาจะอยู่คนละเชื้อชาติ แต่พวกมันทั้งหมดมาจากทะเล และพวกมันทั้งหมดมีพลังในระดับเดียวกัน ยิ่งกว่านั้นพวกเขารู้จักกันมาก่อน
แม้ว่าพวกเขาจะไม่มีมิตรภาพ แต่อย่างน้อยพวกเขาก็ไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจ ทั้งปูยักษ์และกุ้งยักษ์ไม่ได้แสดงความไม่พอใจใด ๆ เมื่อ หลินเว่ยขอให้พวกเขารับเต่ายักษ์เป็นเจ้านาย
“ดี! จากนั้นเริ่มสังเวยวิญญาณได้แล้ว หลินเว่ยพยักหน้าและพูด
“ได้!” มังกรพยักหน้าและพูดเบาๆ แม้ว่าเขาจะไม่เต็มใจ แต่เพื่อเห็นแก่ชีวิตของตนเอง มังกรก็พอจะยอมรับเต่ายักษ์เป็นเจ้านายได้ ณ จุดนี้ มีผู้ช่วยอีกสามคนภายใต้เต่ายักษ์
ในขณะที่ หลินเว่ยมีพลังการต่อสู้ระดับเทพจำแลงอีกสามตน บวกกับเต่ายักษ์และเสี่ยวไป๋ คนของหลินเว่ยตอนนี้ มีสัตว์ร้ายห้าตัวขั้นเทพจำแลง ศิลปวัตถุ และปรมาจารย์หมิง
ขั้นตอนต่อไปคือการรวบรวมกองกำลัง หากมีเต่ายักษ์เพียงตัวเดียว และอาจมีสัตว์อสูรน้ำจำนวนมากที่ไม่พอใจ ดังนั้นภายใต้ ความเกรงกลัวของสัตว์อสูรทะเลทั้งสี่ พวกมันทั้งหมดก็แสดงการเชื่อฟัง
ในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง ทั้งสัตว์อสูรน้ำและกองทัพของหลินเว่ยที่มีกลุ่มชาติพันธุ์ทั้งห้ากลุ่ม บาดเจ็บไปมากกว่าหนึ่งแสนล้านคน และยอดผู้เสียชีวิตเกือบ 3 แสนล้าน
ในวันที่สาม หลังจากสิ้นสุดสงคราม สนามรบของ หลินเว่ยได้รับการทำความสะอาดอย่างสมบูรณ์ ต่อมาเขาได้รับรายงานจาก จ้าวเหลียงว่า ทางตอนเหนือของดินแดนตงเฉิงเสิ่นโจว ถูกโจมตีโดยสัตว์อสูรบก เป็นเหตุทำให้สูญเสียพื้นที่ขนาดใหญ่
และทหารกว่า หนึ่งพันล้านจากสี่เผ่าพันธุ์ถูกสังหาร โชคดีที่มีกำลังเสริมจากอีกสองทิศทางมาสมทบได้ทันเวลา ไม่เช่นนั้น พวกเขาจะถูกบดขยี้โดยไร้กำลังต่อต้าน เนื่องจากในบรรดาสัตว์อสูรบกนั้น ไม่เพียงแต่ราชันย์จำนวนมากเท่านั้น แต่ยังมีเทพเจ้าอีกด้วย
เมื่อหลินเว่ยได้ยินข่าวนี้ จิตใจของเขาก็ร้อนรุ่ม และเขาก็โบกมือขึ้น และไม่ได้สนใจทำความสะอาดสนามรบต่อ เขาสั่งรวบรวมกองกำลังที่เหลือ อีกสี่กลุ่มและกองทัพกลุ่มชาติพันธุ์สัตว์อสูรน้ำ มากกว่าหนึ่งล้านล้านคน หลินเว่ยแบ่งพวกมัน ออกเป็นสามกลุ่ม และนำพวกเขาเข้าในพื้นที่มิติ เพื่อเดินทางไปยัง ทิศเหนือของดินแดนตงเฉิงเสิ่นโจว โดยมีจ้าวเหลียงซึ่งมีกองกำลังอยู่รอบ ๆ ตัวเขา เพียง หนึ่งหมื่นเก้าพันล้านนายเท่านั้น
“เกิดอะไรขึ้น? เจ้าไม่ได้บอกว่ามีคนเสียชีวิตเพียง หนึ่งหมื่นล้านคน ทำไมจึงหลงเหลือทหารน้อยกว่า 2 แสนล้าน ในตอนนี้ ทหารอีกหนึ่งแสนล้านนายอยู่ที่ใด” จากนั้นหลินเว่ยก็พาคาหลูลู่ มาพบกับ จ้าวเหลียงด้วย ใบหน้าซีดเซียว เขาอ้าปากร้องถามทันที
“ใช่แล้ว จ้าวเหลียง! ผลที่ตามมาของการโกหก เกี่ยวกับสถานการณ์ทางทหารนั้นร้ายแรงมาก โปรดอธิบายให้นายน้อยทราบทันที” คาหลูลู่เห็นว่า ใบหน้าของหลินเว่ยดูไม่ค่อยดีนัก เขาขยิบตาให้จ้าวเหลียงอย่างรวดเร็วและกระตุ้นให้จ้าวเหลียงรีบพูด
“รายงานจ้าววิญญาณ! ลูกน้องของข้าไม่ได้โกหกเรื่องข้อมูลทางการทหาร! ทางตะวันตก และทางใต้ มีทหารอีก 5 หมื่นล้านนาย และขั้นราชันย์ เพื่อป้องกันวิกฤตที่อาจเกิดขึ้นในสองทิศทางนี้”
เมื่อเห็นความโกรธของหลินเว่ย เมื่อได้เห็นสัญญาณจากคาหลูลู่ จ้าวเหลียงคุกเข่าลงที่เข่าข้างหนึ่งอย่างรวดเร็ว ลดศีรษะลงแล้วพูดท่าทางประสานกำปั้น
“เข้าใจแล้ว!” เมื่อได้ยินคำอธิบายของจ้าวเหลียง ใบหน้าของหลินเว่ยก็คลายลงอย่างกะทันหัน จากนั้นพยักหน้าและกล่าวว่า “ข้าตำหนิเจ้าผิดไป ลุกขึ้นเถอะ!”
“ไม่! ในฐานะผู้บัญชาการทหารสูงสุด ข้าต้องรับผิดชอบสำหรับการสูญเสียพี่น้องจำนวนมาก โปรดลงโทษข้า” เมื่อได้ยินคำพูดของหลินเว่ย จ้าวเหลียงไม่ลุกขึ้น แต่ส่ายหัวและพูดด้วยความเศร้า
“ช้าก่อน รับผิดชอบหรือ ข้าจะจัดการเรื่องนี้ เมื่อถึงเวลา! ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ บอกข้อมูลทั้งหมดที่เจ้ารู้มาให้ข้า” หลินเว่ยขมวดคิ้วและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ใช่! จ้าววิญญาณ! อันที่จริงเรื่องนี้เป็นเช่นนี้ … ” จ้าวเหลียงพยักหน้า และรีบอธิบายข้อมูลให้หลินเว่ยฟังทีละน้อย
“ผู้นำวิหารเทพมังกร? และยังคนของเขาอีกมากมาย?” หลังจากที่จ้าวเหลียงอธิบายเสร็จ หลินเว่ยก็ขมวดคิ้วและถามด้วยน้ำเสียงครุ่นคิด
“ใช่! ผู้นำเหล่านั้น มีสัตว์อสูรมากมาย พวกเขาทั้งหมดคือสัตว์อสูร และพวกเขาสวมเสื้อผ้าของวิหารเทพมังกร พวกเราจำได้แม่นยำ…ไม่มีผิดพลาด” จ้าวเหลียงพยักหน้าและยืนยัน
“ไอ้สารเลวพวกนี้! สมัยก่อนเมื่อสัตว์อสูรน้ำบุกเข้ามา พวกเขาเลือกที่จะยืนเฉย ๆ แต่ตอนนี้กลับมาปล้นชิงอาณาเขตของเราไป น่ารังเกียจจริงๆ พวกเราต้องกำจัดมันให้หมด” เมื่อได้ยินคำพูดของ จ้าวเหลียง ใบหน้าของคาหลูลู่ ปรากฏความโกรธเคือง และพูดอย่างไม่พอใจ
“ใช่ ไอ้สารเลวพวกนี้ต้องถูกสั่งสอน และล้างแค้นให้พี่น้องที่ตายแล้วของเรา”
“มันต้องโดนลงโทษอย่างแรง!”
“ฆ่าพวกเขาและล้างแค้นให้พี่น้อง”
“แก้แค้น”
“……” คำพูดของคาหลูลู่ดังขึ้นทันที ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นผู้ฝึกตนมนุษย์, ภูตวิญญาณ, ยักษ์ภูเขา, หรือเผ่าพันธุ์หนู พวกเขาทั้งหมดร้องตะโกน ต้องการแก้แค้นด้วยความขุ่นเคือง
“ คนกลุ่มนี้ที่ไม่รู้ว่าตนเองควรทำอะไร หรือไม่ควรทำอะไร ได้ออกมาฉวยโอกาสอย่างน่ารังเกียจ ในขณะที่เรากำลังต่อสู้กับกองทำสัตว์อสูรน้ำ และกลับฆ่าทหารของข้าไปมากมาย ข้าจะต้องเอาหนี้เลือดนี้คืนมา ”
หลินเว่ยรู้สึกโกรธแค้นมาก คำพูดของเขาเผยให้เห็นความรู้สึกที่รุนแรงของเจตนาสังหารในคำพูดของเขา
“ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า”
“……” เสียงโห่ร้อง และความมุ่งมั่นสังหาร ราวกับ หิมะถล่ม ทหารส่วนใหญ่เพิ่งประสบกับสงครามเมื่อไม่กี่วันก่อน ในวันนี้กลับมีความมุ่งมั่นในการต่อสู้พลุ่งพล่าน
ในอีกด้านหนึ่ง สัตว์อสูรกลุ่มใหญ่ของวิหารเทพมังกร และผู้คนระดับสูงอื่น ๆ ก็รู้สึกว่าแผ่นดินสั่นสะเทือน มาจากกองกำลังของหลินเว่ย เช่นเดียวกับ วิญญาณชั่วร้ายที่อาฆาตพยาบาท
“เกิดอะไรขึ้น? เจตนาสังหารแรงกล้ามาจากที่ใด? ใคร เป็นกำลังเสริมของจ้าวหัวกะโหลกหรือไม่? เจ้าหน้าที่ระดับสูงของวิหารเทพมังกรบินขึ้นไปบนท้องฟ้า และเผชิญหน้ากับ หลินเว่ย และกองทัพของเขา
ดวงตาของ จื่อโยว่กะพริบตาด้วยความไม่แน่ใจและขมวดคิ้ว
“ไม่กี่วันก่อน พวกเขาบาดเจ็บแต่ตอนนี้กลับฟื้นตัวได้ เกรงว่ากำลังเสริมของพวกเขามาถึงแล้ว ไม่เช่นนั้น พลังของพวกเขาจะไม่มีทางฟื้นฟูเร็วขนาดนี้” หูจืออีกด้านหนึ่ง เขาขมวดคิ้วแน่น เมื่อได้ยินคำพูดของจื่อโยว่ และพยักหน้าเห็นด้วย
“จิ้งจอกเฒ่า! ดูเหมือนว่าจ้าวหัวกะโหลกได้ส่งกำลังเสริมจำนวนมาก ยิ่งกว่านั้น จ้าวหัวกะโหลกอาจมาด้วยตัวเอง” จื่อโยว่หัวหน้าไปมองจิ้งจอกเฒ่า และพูดอย่างจริงจัง
“เจ้ากลัวอะไร ทำราวกับว่า พวกเราไม่เคยทุบตีมันมาก่อน คนพวกนั้นไม่ได้แข็งแกร่งอะไรนัก เกรงว่าจ้าวหัวกะโหลกมีดีเพียงชื่อ” ดีมาก คราวนี้หากเขามาด้วยตัวเองจริง ๆ ข้ากินมันให้หมด” ผู้นำเผ่าหมาป่า ที่มีรูปร่างมนุษย์ครึ่งอสูร ดวงตาสีเขียว ในขณะที่เขาพูด เขาเลียริมฝีปากบนด้วยลิ้นสีแดงสดของเขา น้ำลายที่มีกลิ่นเหม็น แทบจะไหลลงจากปากของเขา
“หมาป่าเฒ่า! เจ้าโลภเกินไป ต้องเป็นยกให้เจ้ากรมวังสิ ท่าทางน่าแบบนี้ น่าจะอร่อย จะกินคนเดียวได้อย่างไร ขึ้นอยู่กับว่าทุกคนว่าเห็นด้วยหรือไม่? ข้าไม่เห็นด้วย” ผู้นำหมาป่าพูดจบ หมีภูเขาด้านหนึ่ง เริ่มร้องประท้วงทันที
“ใช่! เราจะไม่กินคนเดียว เราจะแบ่งให้เท่าๆ กัน” ผู้นำสิงโตร้องออกมา พร้อมกับหัวเราะ
“อย่ากังวลไป! ข้าบอกตอนไหนว่าจะกินคนเดียว? เมื่อข้าได้ตัวเขามา พวกเราค่อยมากินด้วยกันเถอะ” หมาป่ากล่าวด้วยรอยยิ้มอย่างรวดเร็ว
“ไอ้พวกงี่เง่า! มันง่ายหรือที่จะจัดการเขา เขาเป็นจ้าวหัวกะโหลกนะ?” หญิงสาวในชุดขาว ราวกับมนุษย์ทั่วไป มองดูพวกเขา ที่เริ่มหารือถึงวิธีจัดการกับจ้าวหัวกะโหลก นางส่ายหัวเล็กน้อยและดุด่าในใจ แต่ภายนอกดูเย็นชาและไม่พูดอะไรสักคำ
ในอีกด้านหนึ่ง จื่อโยว่ สั่นศีรษะและเอื้อมมือไปที่บีบหน้าผากของตน ปวดหัวแต่ไม่พูดอะไรออกมา
“หืม?” จื่อโยว่ดูเหมือนจะรู้สึกอะไรบางอย่าง เขาเงยหน้าขึ้นมอง ครู่ต่อมา หูจือตะโกนพูดกับจื่อโยว่: “เจ้ากรมวัง … ”
“ข้ารู้แล้ว!” โดยไม่รอให้หูจือพูดจบ จื่อโยว่พยักหน้า
เขามองเห็น ร่างเป็นมังกรดำตนหนึ่ง ที่มีปีกขนาดใหญ่อยู่ด้านหลัง ศีรษะ ปรากฏเขาสองข้าง และมีสีดำสนิทไปทั้งร่าง
“อัง…!” เสียงคำรามของมังกร ดังออกมาจากปากของ จื่อโยว่ เมื่อได้ยินเสียงคำรามของจื่อโยว่ สัตว์อสูรต่างลุกขึ้นมาทีละคนและเริ่มรวบรวมกองกำลัง