ราชาซากศพ - บทที่ 459 การจัดลำดับ
บทที่ 459
การจัดลำดับ
“ตายซะ ! เฉินชื่อหู่คำรามร้องเสียงดัง และทุบหัวของภูตวิญญาณฟ้าเบื้องหน้าด้วยกำปั้น จากนั้นเอื้อมมือไปคว้าแก่นคริสตัลเท่าไข่นกพิราบแล้วโยนทิ้งไป
จากนั้นร่างของเฉินชื่อหู่ก็รีบวิ่งไปที่ภูตวิญญาณขั้นทองคำ ทั้งสามตัวที่กำลังต่อสู้กับเจียงหลิงเฟิงและ เจียงหลิงหยุน และในปากของเขา ร้องตะโกนว่า: “พี่เจียง! ข้ามาช่วยแล้ว”
“ดี!” เมื่อได้ยินคำพูดของเฉินชื่อหู่ เจียงหลิงเฟิงและ เจียงหลิงหยุน ใบหน้าเต็มไปด้วยความสุขและตอบรับเสียงดัง
ความแข็งแกร่งสำเร็จของเจียงหลิงเฟิงและ เจียงหลิงหยุนเกือบจะเท่าๆกัน พวกเขาทั้งสองอยู่ในขั้นทองขาว ระดับสาม ทั้งสองเป็นฝาแฝดกันและมีความเข้าใจอย่าลึกซึ้งในการต่อสู้ร่วมกัน มิฉะนั้นพวกเขาจะไม่สามารถต้านทานการโจมตีของภูตวิญญาณขั้นทองขาวทั้งสามตัวได้ ท้ายที่สุดภูตวิญญาณฟ้าขั้นทองขาวทั้งสามนี้ มีระดับสามสองตน และระดับสี่ หนึ่งตน
ในทางตรงกันข้าม ความแข็งแกร่งของ เฉินชื่อหู่และ เหยียนหลาง ต่างก็เป็นขั้นทองขาวระดับหนึ่ง
“ทุกคนใจเย็นๆ! ตราบใดที่เรารอให้หัวหน้าสังหารศัตรูที่แข็งแกร่ง และส่วนที่เหลือพวกเราเป็นคนจัดการ ไม่นานนักเราจะเอาชนะการต่อสู้ครั้งนี้อย่างแน่นอน” ผู้ฝึกตนที่อยู่ด้านระดับสูงสุดของขั้นทองส่งเสียงให้กำลังทุกคน นอกจากนี้ยังเป็นการให้กำลังตนเองด้วย เมื่อได้ยินคำพูดของชายคนนี้ ทุกคนที่ได้ยินพลันฮึกเหิมขึ้นอย่างกะทันหัน ดูเหมือนพวกเขาจะเต็มไปด้วยพลังและการโจมตีก็ดุเดือดมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ไม่นานนัก ต่อมามีผู้ฝึกตนแห่งหุบเขาเทียนซินต่างเสียชีวิตลงครั้งแรก โดยที่โฮ่วจ้านเทียนไม่ทันได้ช่วยเหลือเขา เขาคือผู้ฝึกคนของหอหมาป่ามรกตขั้นเงินระดับหก ถูกภูตวิญญาณเขียวหลายตัวรุมทำร้าย หลังจากที่เขาหมดเรี่ยวแรง ร่างกายของเขาถูกฉีกขาดกระจัดกระจาย และแม้แต่จิตวิญญาณสงครามก็ถูกรุมทึ้ง
อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ครั้งแรก ภายในเวลาไม่ถึงสิบนาที ความแข็งแกร่งภายในของผู้ฝึกตน พลังจิตวิญญาณของพวกเขาก็หมดลง และเขาถูกปิดล้อมและถูกสังหารโดยภูตวิญญาณหลายตน
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเวลาผ่านไป จำนวนผู้บาดเจ็บล้มตายยังคงเพิ่มขึ้น แม้กระทั่งผู้ฝึกตนที่อยู่ด้านข้างของหอผิงซิน หากไม่ใช่เพราะการช่วยเหลือของหลินเว่ย เขาอาจจะเสียชีวิต
“ทุกคน! ตอนนี้ร่างกายของเรากำลังสูญเสียพลังงานอย่างต่อเนื่อง และยังมีภูตวิญญาณมากมายที่นี่ หากเราสู้ต่อไป สถานการณ์ก็จะยิ่งไม่เอื้ออำนวยต่อเรามากขึ้นเรื่อย ๆ ข้าขอแนะนำให้เราถอยก่อนและจัดการกับพวกมัน หลังจากที่พลังงานของร่างกายฟื้นฟูแล้ว” เจียงหลิงเฟิงเห็นว่าคนของเขาสูญเสียไปมากกว่าสิบคน ในคราวเดียว เขารู้สึกเจ็บปวดในหัวใจ และร้องออกมาอย่างเร่งรีบ
“ดี! เชื่อพี่เจียง..เราถอยไปตั้งหลักก่อน” เมื่อได้ยินคำพูดของเจียงหลิงเฟิง เฉินชื่อหู่กล่าวเป็นครั้งแรก
“เราไปแล้ว…อาวุโสโฮ่วล่ะ” กู่ป๋อร้องด้วยใบหน้าที่เป็นกังวล
“ด้วยความแข็งแกร่งของอาวุโสโฮ่ว เจ้ายังต้องกังวลหรือ เจ้ารักษาชีวิตตนเองก่อนเถอะ” เหยียนหลางพูดพร้อมกับระเบิดร่างภูตวิญญาณฟ้า และจากนั้นเขาร้องเรียกหอหม่าป่ามรกตให้รีบล่าถอย: “ทุกคน..ถอย! ”
หลังจากนั้น เหยียนหลางก็หันกลับและเหาะตรงไปที่ทางเข้า ในขณะที่คนของเขาทยอยตามมาทีละคน เมื่อหลินเว่ยเห็นสิ่งนี้ เขาจึงร้องเรียกหลินเหยาอย่างรีบร้อน: “เร็วเข้า! ไปกันเถอะ”
หลังจากนั้น หลินเว่ยขอให้ เสี่ยวไป๋ เปิดทางให้พวกเขา จากนั้นเหาะไปที่ทางเข้าด้วยความเร็วสูงสุด หยางหลงเฟยเห็นสิ่งนี้ เขาไม่ลังเล เขาสังหารภูตวิญญาณเขียวสองตัวด้วยดาบเดียว จากนั้นบังคับภูตวิญญาณที่ล้อมรอบตัวให้ถอยหนี จากนั้น
บินไปหาหลินเว่ยอย่างเร่งรีบ
“ไป…หลินเหยาเห็นสิ่งนี้เช่นกัน นางเอ่ยกับคนของ หอผิงซินอย่างเร่งรีบ หากการล่าถอยชักช้า มันจะเป็นความพ่ายแพ้ที่ยิ่งใหญ่ในตอนท้าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งบางคน ถึงกับต่อสู้แย่งชิงกับสหายร่วมทางเพื่อที่จะหลบหนีไปก่อน
ในไม่กี่นาที สมาชิกหอหมาป่ามรกตกว่า 100 คน ซึ่งเป็นกลุ่มแรกที่หลบหนีได้มาถึงทางเข้า หลินเว่ยและหยางหลงเฟยติดตามเช่นกัน จากนั้น หลินเหยาและผู้ฝึกตนคนอื่น ๆ ของหอผิงซิน
เนื่องจากทางเข้ามีขนาดเล็กมาก จึงสามารถให้ผ่านได้ทีละคนเท่านั้น โชคดีที่พวกเขาออกมาเร็ว จึงไม่มีความวุ่นวาย
ในทางกลับกัน หลังจากที่ผู้ฝึกตนของหอผิงซินผ่านออกไปอย่างเรียบร้อย หอพยัคฆ์มืดของเฉินชื่อหู่และหอภราดรภาพของเจียงหลิงเฟิงก็มาถึงในเวลาเดียวกัน ด้านหลังพวกเขามีภูตวิญญาณจำนวนมากตามมา
โดยเฉพาะภูตวิญญาณฟ้าขั้นทองขาว หลังจากที่พวกเขาสูญเสียการต่อต้านเหล่าภูตวิญญาณระลอกใหญ่ เฉินชื่อหู่กับพวกของเขา ราวกับเป็นฝูงแกะในกลุ่มหมาป่า จากนั้นก็เกิดการนองเลือดขึ้น
ในเวลานี้ เฉินชื่อหู่, เจียงหลิงเฟิง, เจียงหลิงหยุน และผู้ฝึกตนบางคนไม่ได้สนใจชีวิตของคนอื่น พวกเขาต่างวิ่งกลับออกมาในทันที เมื่อเห็นเช่นนี้ คนอื่น ๆ ที่เหลือลุกลี้ลุกลนมากขึ้น เพื่อที่จะออกไปโดยเร็วที่สุด จึงต้องโจมตีผู้คนรอบ ๆ สิบนาทีต่อมา ไร้ซึ่งผู้ฝึกตนออกมาจากถ้ำ มีเพียงภูตวิญญาณที่ติดตามออกมา
“ พรึ่บ!”ร่างของหลินเว่ยปรากฏขึ้นที่ปากถ้ำ และดาบของเขาก็แทงร่างของภูตวิญญาณที่เพิ่งบินออกจากถ้ำ และพวกมันต่างไม่รู้สถานการณ์โดยรอบ ต่างถูกแทงตายด้วยดาบ จากนั้นหลินเว่ยก็เก็บศพกลับไป
ในเวลานี้ทางเข้าของปากถ้ำ ยังคงมีภูตวิญญาณออกมา ยิ่งไปกว่านั้น เนื่องจากพวกมันออกมาครั้งละหนึ่งหรือสองตัว ทำให้หลินเว่ยสังหารพวกมันได้ง่ายมาก เขาถือดาบขึ้นในมือข้างหนึ่งและแทงไปที่ด้านหน้าของเขาด้วยมือเดียว
ฉากนี้ทำให้ทุกคนอิจฉาในทันที ดังนั้นจึงง่ายต่อการเก็บเกี่ยวคะแนนสมทบ และไม่มีอันตรายราวกับเปิดประตูบ้าน
“เด็กน้อย! ออกไปซะ ยกตำแหน่งนี้ให้ข้า” เหยียนหลางเอาคนมาล้อมรอบหลินเว่ย และขู่คุกคามด้วยท่าทางหยาบคาย
“ผายลม! ทำไมเขาต้องยกให้เจ้า?” เฉินฉือหู่พูดเสียงดัง จากนั้นก็เรียกหลินเว่ย “เด็กน้อย! เจ้าลงมาพักเถอะ”
“บัดซบ! เจ้ามาสู้กับข้า!” เหยียนหลางพูดอย่างโกรธเกรี้ยว แล้วพูดกับหลินเว่ย “เด็กน้อย! หากเจ้ากล้ายกที่ตรงนั้นให้แมวดำตัวนี้ ข้าจะฆ่าเจ้า”
“อืม! เฉินชื่อหู่ เหยียดยิ้มราวกับมองคนโง่ และส่งเสียงพึมพำอย่างเย็นชา จากนั้นเขาก็พูดกับหลินเว่ยที่ยังคงยุ่งอยู่” เด็กน้อย! หากยอมยกที่ตรวจนั้นให้หมาโง่ตัวนี้ ข้าจะฆ่าล้างตระกูลเจ้า ”
เมื่อได้ยินคำพูดของคนสองคน ดวงตาของหลินเว่ยก็ฉายแสงเย็น เหยียนหลางและ เฉินชื่อหู่ได้รับการระบุว่า เป็นรายชื่อที่เขาต้องสังหาร
ในการเคลื่อนไหวของมือหลินเว่ยไม่หยุดนิ่ง จากนั้นแสร้งทำหน้าไม่พอใจเพื่อพูดว่า: “พี่ชายสองคน ข้าสู้พวกท่านไม่ได้ อย่าทำให้ข้าลำบากใจเลย ท่านตัดสินใจเองเถอะ ใครก็ได้มาแทนที่ตำแหน่งของข้า”
“ มันง่ายมาก! เราทั้งสามคนใช้เวลาคนละหนึ่งชั่วโมง แล้ววนไปเรื่อยๆ เป็นอย่างไร?” เจียงหลิงเฟิงพูดอย่างใจเย็น
“ตกลง!” เหยียนหลางพยักหน้าและกล่าวว่า
“ ตกลง!” เฉินชื่อหู่พยักหน้าเห็นด้วย ในความเป็นจริงพวกเขาทุกคนรู้ดีว่า นอกเหนือจากหอผิงซินของหลินเหยาแล้ว คนอื่นๆ ไม่มีทางมาร่วมแข่งขันกับพวกเขา
“ สามคนล่ะแล้ว หอผิงซินล่ะ?” หลินเว่ยถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
“อืม! เจ้ายังมีหน้ามาพูดอีกหรือ ครั้งนี้เราสูญเสียพี่น้องไปหลายคน และเราไม่ได้ส่วนแบ่งอะไรเลย ” เจียงหลิงเฟิงมองไปที่หลินเว่ยอย่างเย็นชาและพูดอย่างโกรธ ๆ
“ใช่! ถ้าไม่ใช่เพราะใบหน้าของน้องหลิน หากเป็นคนอื่น ข้าจะทำให้รู้สึกแย่ยิ่งกว่าตาย” เหยียนหลางพูดอย่างดุเดือด
“ใช่! ยกให้พวกเขาไป หลินเหยาส่ายหัวใส่ให้หลินเว่ย หลังจากพยักหน้าแล้ว หลินเว่ยก็ก้าวถอยหลังอย่างรวดเร็วภายในไม่กี่ก้าว แยกตัวออกจากฝูงชนแล้วและถอยกลับไปด้านหนึ่ง
ผู้ฝึกตนคนอื่น ๆ ในหอผิงซิน แม้ว่าพวกเขาทั้งหมดจะไม่พอใจ แต่ก็รู้ว่าพวกเขาไม่สามารถเปรียบเทียบกับคนสามคนตรงหน้าได้ ได้นับประสาอะไรกับการร่วมมือกันเพื่อโค่นล้มพวกเขา
“ฉึก!”
“ฉึก!”
“ฉึก!” หลังจาก หลินเว่ยจากไป เงาคนทั้งสามครั้งก็ปรากฏขึ้น แต่ เหยียนหลาง, เฉินชื่อหู่และ เจียงหลิงเฟิงกลับสังหารภูตวิญญาณในเวลาเดียวกัน
ภูตวิญญาณเขียวผู้น่าสงสาร ซึ่งเป็นเพียงขั้นเหล็กดำถูกปิดล้อมโดยปรมาจารย์ขั้นทองขาวทั้งสามคน และเสียชีวิตอย่างอนาถ
“เจ้าทำอะไร เมื่อกี้ข้าขอให้เด็กคนนั้นออกไปก่อน ตอนนี้ควรจะเป็นรอบของข้า” เหยียนหลางถามเฉินฉือหู่
“ผายลม! หากขอให้เด็กคนนั้นไปก่อน หมายความว่าต้องเป็นรอบของเจ้า?” เฉินชิหู่พูดประชดด้วยริมฝีปาก และดวงตาของเขามองดูความดูแคลน
เหยียนหลางกำลังจะต่อสู้ เมื่อเขาเห็นภูตวิญญาณฟ้า ท่ามกลางภูตวิญญาณเขียว เขาปิดปากและแทงดาบของเขาลงไป
“ ฉึก!”
“ ฉึก!”
“ ฉึก!” ดาบสามเล่มแทงออกมาอีกครั้ง แต่คราวนี้มันเป็นภูตวิญญาณฟ้าขั้นทองระดับหก อย่างไรก็ตามพวกเขายังคงไม่ยอมแพ้ นอกจากนั้นพวกเขาต่างคว้าร่างของภูตวิญญาณฟ้าทีละคน จากนั้นดึงมันอย่างแรง
“ฉัวะ เลือดสีฟ้ากระเด็นสาดไปทั่ว เจียงหลิงเฟิงมองไปที่ครึ่งขาของเขา จากนั้นก็โยนร่างของมันทิ้งด้วยความรังเกียจ เมื่อเห็น เหยียนหลางและ เฉินชื่อหู่ยังคงต่อสู้เพื่อชิงศีรษะของศพ
เขาจึงรีบพูดว่า”ทั้งสองคนข้าว่า มันไม่ดีเท่าใดนัก! ไม่อย่างนั้น เรามาจัดลำดับตามการจัดอันดับของกลุ่มของเราเป็นอย่างไร? ”
“ใช่!”
“ไม่มีปัญหา!” เหยียนหลางและ เฉินชื่อหู่พยักหน้าและเห็นด้วย จากนั้นพวกเขาก็โยนร่างของภูตวิญญาณฟ้าไปที่ เจียงหลิงเฟิง และเรียกคนของพวกเขาให้ถอยกลับไปด้านหนึ่ง
จากนั้นเจียงหลิงเฟิงขั้นทองและสมาชิกขั้นเงินสองคนเพื่อเข้าไปในถ้ำ คนอื่น ๆ นั่งลงบริเวณปากทางเข้าถ้ำ พวกเขากินยาเพิ่มพลังปราณหรือดูดซับหินหยวนจิง และเริ่มควบคุมลมปราณอีกครั้ง
“ ตูม!” อย่างไรก็ตามไม่ถึงครึ่งชั่วโมงต่อมา มีเสียงดังจากใต้พื้นดิน ทั้งถ้ำสั่นสะเทือนชั่วขณะ จากนั้นทุกคนก็ได้ยินเสียงมาจากปากถ้ำ
ครู่หนึ่งก็ ไม่ปรากฏภูตวิญญาณในถ้ำอีก ไม่นานมีร่างหนึ่งบินออกจากถ้ำ ความเร็วนั้นเร็วมาก จนคนทั้งสามที่ยืนอยู่ที่ถ้ำลืมที่จะตั้งท่าป้องกันตัว
โชคดีที่พวกเขาไม่ขยับ เพราะร่างที่บินออกมาจากถ้ำคือโฮ่วจ้านเทียนที่วิ่งไล่จับภูตวิญญาณฟ้าขั้นทองนิลกลับออกมา