ราชันเร้นลับ 2 : วัฏจักรแห่งชะตา (Circle of Inevitability) - ตอนที่ 67 วิชามาร
ตอนที่ 67 วิชามาร
เมื่อวาเลนไทน์เห็นสตรีวัยกลางคนในชุดกระโปรงสีเทาขาว แววตาของเขาพลันเปี่ยมไปด้วยความชิงชังเจือเย็นชา พร้อมกางแขนออกราวกับจะโอบกอดดวงอาทิตย์
ลำแสงอันสว่างไสวและบริสุทธิ์ผุดผ่องสาดลงมาจากด้านบน ตกใส่เป้าหมายที่ถือกรรไกรยักษ์
มิติโดยรอบสว่างขึ้นชั่วขณะ ใบหน้าโปร่งใสบนผนังและกระจกอันตรธานหายไปก่อนจะได้กรีดร้อง
เห็นได้ชัดว่าร่างของสตรีถูกไฟไหม้จนเริ่มระเหิดเหย แต่เพียงพริบตาเดียวเธอก็หายไป
ลูเมี่ยนรู้สึกคุ้นกับฉากนี้มาก คลับคล้ายคลับคลาตอนที่ล่าสัตว์ประหลาด ‘ปาก’
ล่องหน!
แน่นอน สตรีรายนี้อาจไม่ได้ล่องหน แต่ก็ยังไม่ตายแน่นอน ลูเมี่ยนจึงไม่วางใจ เพียงขยับเข้าใกล้ไรอันที่สูงใหญ่กว่าเดิม
ไรอันผู้สวมชุดเกราะสีเงินวาวและถือดาบแสงยักษ์ คือคนที่เขาคิดว่าฝากผีฝากไข้ได้มากที่สุดจากทั้งสาม
แค่มองแวบเดียวก็บอกได้ทันทีว่าแข็งแกร่งในการต่อสู้อย่างยิ่ง!
ทันใดนั้น ด้านหลังลีอา บนผนังใกล้กับทางขึ้นหอคอย ใบหน้าอันซีดเซียวของเด็กเล็กปรากฏขึ้นกะทันหัน แล้วเปลี่ยนเป็นสตรีในชุดกระโปรงสีเทาขาว
เธอใช้กรรไกรยักษ์ในมือตัดคอลีอาทันที
ฉับ!
หัวของลีอาร่วงหล่น แต่ไม่มีเลือดไหล ร่างกายและศีรษะเล็กลง บางลงในพริบตา จนกลายเป็น ‘กระดาษคน’ ขาดๆ ที่ปลิวลงสู่พื้น
เงาร่างของหญิงสาวผู้สวมกระโปรงผ้าแคชเมียร์ไร้จีบ โผล่ขึ้นกลางอากาศไม่ไกลจากจุดเดิม
เสียง ‘ตึง’ ดังกังวาน ไรอันที่ใบหน้าคลุมด้วยหมวกเกราะสีเงินขาว เงื้อ ‘ดาบแสงแรก’ ในมือขึ้น ย่ำเท้าก้าวไปยังตำแหน่งเดิมของลีอา แล้วสับดาบใส่หญิงวัยกลางคนด้วยท่าฟันเฉียง
หญิงวัยกลางคนยกกรรไกรขึ้นพยายามป้องกัน แต่ก็ถูกสับลงไปพร้อมอาวุธจนกระแทกผนัง
ร่างของเธออันตรธานหายไปอีกครั้ง
ด้านหลังวาเลนไทน์ที่สวมทวีตแจ็กเกตสีน้ำเงิน ใบหน้าบวมเขียวถูกแทนที่ด้วยใบหน้าของหญิงวัยกลางคน
เธอโน้มตัวออกมาพร้อมกับหนีบตัดท้ายทอยวาเลนไทน์
“ระวัง!” วินาทีที่หญิงวัยกลางคนปรากฏตัว ลีอารีบตะโกนเสียงดังเพื่อเตือนสติพวกพ้อง
วาเลนไทน์ ‘ฮึ่ม’ หนึ่งคำในลำคอ แล้วดึงมือที่กางอยู่กลับเข้าหากัน
เปลวเพลิงมายาสีทองลุกโชนหลายกลุ่มล้อมรอบตัวเขา ทั้งหมดเชื่อมต่อกัน เปลี่ยนโถงทางเดินให้กลายเป็นมหาสมุทรที่ปล่อยลมหายใจของดวงอาทิตย์
หญิงวัยกลางคนที่ถูกล้อมกรอบอยู่ภายในนั้น ใบหน้าเผยความเจ็บปวดรวดร้าว เนื้อตัวถูกแผดเผาอย่างโหดเหี้ยม
เธอถอยกลับ ‘เข้าไปใน’ ผนังอีกครั้ง ปรากฏตัวแทนที่ใบหน้าทารกบวมเขียวอีกครั้ง
ท่ามกลางเปลวเพลิงมายาสีทอง ใบหน้าโปร่งใสละลายกลายเป็นควันดำอย่างรวดเร็ว ไม่นานก็ระเหิดเหยหายไป
ตึง!
‘ดาบแสงแรก’ ของไรอันเริ่มฟาดฟันอีกครั้ง ทำเอาราวกับปราสาทสั่นสะเทือนไปทั้งหลัง
แต่เขาก็ยังช้าไปหนึ่งก้าวเสมอ พลาดการสังหารหญิงวัยกลางคนไปทุกครั้ง
ลูเมี่ยนเริ่มเข้าใจภาพรวม โดยตระหนักว่าหญิงวัยกลางคนที่ทำคลอดให้ลูอิส·ลุนด์เชื่อมโยงกับใบหน้าโปร่งใสของเด็กๆ ตามผนังและกระจก สามารถเปลี่ยนให้หนึ่งในนั้นเป็นตัวเอง และยังสามารถเปลี่ยนสถานะเป็นผีสางเพื่อหลบหนีการโจมตีหรือโยกย้ายความเสียหาย
กล่าวคือ เธอสามารถโจมตีได้จากทุกทิศทางโดยมีผนังหรือกระจกบนชั้นสามเป็นสื่อกลาง ส่วนพวกไรอันไม่อาจตอบโต้อะไรได้
เมื่อได้ข้อสรุป ลูเมี่ยนผละออกจากหน้าต่างที่สูงจรดเพดาน ผละออกจากผนังโดยรอบทันที แล้วเดินไปยังกึ่งกลางห้องอาบแดด
ทันใดนั้น ใบหน้าอันน่าพรั่นพรึงปรากฏขึ้นทั้งบนพื้นห้องและเพดาน
หญิงวัยกลางคนโผล่ขึ้นด้านหลังเท้าลูเมี่ยน พร้อมกับใช้กรรไกรเอื้อมตัดต้นขาเด็กหนุ่ม
ลูเมี่ยนรับรู้ถึงอันตรายใหญ่หลวงได้ทันที
เขาไม่มัววิเคราะห์หาทิศทางของการโจมตี เพียงกระโดดขึ้นไปในอากาศอย่างไม่ลังเล เพื่อพุ่งไปทางด้านข้าง
เมื่อเกิดเสียง ‘ฉับ’ ดูเหมือนว่าเด็กหนุ่มยังช้าไปครึ่งจังหวะ เกิดแผลลึกตรงต้นขาด้านหลัง โลหิตหลั่งไหลอย่างรวดเร็ว
เมื่อเลือดสัมผัสกับพื้น หญิงวัยกลางคนที่เปลี่ยนตำแหน่งไปแล้วทำการตวัดนิ้ว สั่งให้เลือดทั้งหมดเริ่มจับกลุ่มรวมตัว ก่อกำเนิด ‘ร่างคน’ สีแดงสด
เงาสีเลือดพลันหันไปหาลูเมี่ยนผู้กลิ้งไปทางเก้าอี้เอนหลัง แล้วพุ่งถลันเข้าใส่อีกฝ่ายที่ยังหลั่งเลือดไม่หยุด
เลือดทุกหยาดหยดที่ไหลออกจากตัวลูเมี่ยน แปรเปลี่ยนเป็นสารอาหารของมัน ทำให้เงาคนยิ่งดูคมชัด
ในทางกลับกัน ลูเมี่ยนไม่เพียงต้องทนทุกข์กับความเจ็บปวดแสนสาหัส แต่ยังพบว่าเลือดในกายเริ่มอยู่นอกเหนือการควบคุม
แทบจะในพริบตา ไรอันกระโดดเข้าใส่
ขณะลอยกลางอากาศ เขาเงื้อดาบแสงเล่มใหญ่ยักษ์ขึ้นเหนือศีรษะ แล้วสับใส่เงาเลือดเต็มแรง ฝ่ายหลังถูกกดจนตัวติดพื้นไปพร้อมกับดาบ แต่ไม่นานก็สลายไปพร้อมกับใบหน้าโปร่งใสรอบข้าง
รู้ตัวอีกที ลีอากลิ้งมาอยู่ข้างลูเมี่ยนแล้ว พร้อมกับเอื้อมมือขวากดลงบนต้นขาเด็กหนุ่ม
จากนั้น ลูเมี่ยนต้องตกตะลึงเมื่อพบว่าบาดแผลของตน ‘เลื่อน’ ไปตามมือขวาของลีอาอย่างน่าอัศจรรย์ เธอย้ายมันไปไว้ด้านข้างของน่องซึ่งมีเส้นเลือดไม่มาก
บาดแผลเสียเลือดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด
ทันใดนั้น หญิงวัยกลางคนโผล่หัวจากเพดาน นัยน์ตาสีน้ำตาลของเธอดูลึกล้ำ คล้ายกับมีชีวิตอันร้อนแรงลุกโชนอยู่ภายใน
เลือดที่หยดจากน่องลูเมี่ยนติดไฟทันที กลายเป็นเปลวเพลิงที่สว่างเจิดจ้าราวกับแสงอาทิตย์ฤดูใบไม้ผลิ ไม่นานเพลิงก็ลุกลามไปยังส่วนลึกของบาดแผล เข้าสู่หลอดเลือดภายในกาย
ลูเมี่ยนรู้สึกราวกับชีวิตของตนถูกเผาผลาญไปอย่างรวดเร็ว
ไรอันปักดาบแสงเล่มยักษ์ลงบนพื้นด้วยสองมือจนเกิดเสียง ‘ปึก’
รอบตัวเขา ซึ่งมีลูเมี่ยนกับลีอายืนอยู่ใกล้ๆ แสงที่คล้ายรุ่งอรุณสว่างขึ้นพร้อมกับแผ่ไปรอบทิศ
ท่ามกลางแสงยามเช้าตรู่ เงาเลือดที่ยังหลงเหลือพลันมลายหาย เปลวไฟอันโชติช่วงบนน่องลูเมี่ยนดับมอดในพริบตา
การเผาไหม้เมื่อสักครู่ทำให้บาดแผลของเด็กหนุ่มสมานกัน เลือดไม่ไหลอีกต่อไป
ไรอันชักดาบแสงเล่มยักษ์กลับ พร้อมตะโกนอย่างหนักแน่น
“สภาพแวดล้อมไม่ดี เราต้องออกไป!”
ความหมายของเขาก็คือ หญิงวัยกลางคนมิได้แข็งแกร่งอย่างที่เห็น ภาวะที่ดูเหมือนจะฆ่าไม่ได้หรือโจมตีใส่ไม่ได้ แท้จริงแล้วมาจากสภาพแวดล้อมพิเศษของชั้นสามของปราสาท
โดยไม่รอคำตอบจากผองเพื่อน ไรอันกลับไปไล่ล่าหญิงวัยกลางคนอีกครั้ง
แม้จะดูช้ากว่าศัตรูที่สามารถกระโดดไปมาผ่านใบหน้าโปร่งใส แต่เขาก็ยังคอยกระหน่ำฟันเฉียง ฟันสับ และแทงอย่างไม่ลังเลด้วยกำลังกายทั้งหมด คอยกดดันมิให้คู่ต่อสู้เผยตัวนานนัก ทำได้แค่โจมตีสั้นๆ แล้วก็รีบเปลี่ยนตำแหน่ง
เมื่อผนึกกำลังกับแสงศักดิ์สิทธิ์และไฟสีทองที่วาเลนไทน์สร้าง ทั้งสองสามารถสะกดหญิงวัยกลางคนได้พักใหญ่ ช่วยให้ลูเมี่ยนกับลีอาถูกโจมตีน้อยลง
อาศัยโอกาสดังกล่าว ลีอาบ้างก็กระโดดขึ้นเก้าอี้เอนหลัง บ้างก็วิ่งขึ้นโซฟา โต๊ะ เก้าอี้ รวมถึงของประดับต่างๆ ในห้อง เลี่ยงการสัมผัสพื้นให้มากที่สุด
ระหว่างนั้น กระดิ่งเงินบนหมวกคลุมหน้าและรองเท้าบูตของเธอดังกรุ๊งกริ๊งตลอดเวลา บ้างก็สั่นระรัว บ้างก็เสียงดัง
ลูเมี่ยนไม่กล้าปักหลักบนพื้นต่อ เปลี่ยนไปยืนบนโต๊ะแทน คอยเฝ้าระวังเพดานกับพื้น ขณะเดียวกันก็สังเกตพฤติกรรมของลีอา
อาศัยประสบการณ์ที่ผ่านมา เด็กหนุ่มเชื่อว่าอีกฝ่ายกำลัง ‘สุ่มหา’ เส้นทางสำหรับหนี
ไม่นานลีอาก็หยุดการวิ่งกายกรรมของเธอ
“หอคอย… ไปที่หอคอย!”
สิ้นเสียงดังกล่าว หญิงวัยกลางคนห้อยตัวลงมาจากเพดานพร้อมกับตะโกน
“ไอ้พวกสารเลว!”
แต่ละคำที่ถูกพ่นออกมา ทุกคำคล้ายกับดังกังวานภายในใจพวกลูเมี่ยน ทำเอาหัวใจเต้นถี่ สมองวิงเวียนพร้อมกับคลื่นไส้รุนแรง
วาเลนไทน์กัดฟันทนต่อความรู้สึกอึดอัด กางแขนกว้างอีกครั้ง
แสงสว่างอันบริสุทธิ์ผุดผ่อง แผ่ปกคลุมเพดานด้านบนอย่างรวดเร็ว
“ไป!” ไรอันออกคำสั่ง
ลูเมี่ยนกระโดดลงจากโต๊ะทันที กัดฟันข่มความเจ็บตรงน่อง ย่ำเท้าลงไปบนใบหน้าโปร่งใส วิ่งเต็มเหนี่ยวตรงไปทางหอคอยเป็นคนแรก ตามหลังมาติดๆ ด้วยลีอากับวาเลนไทน์ มีเพียงไรอันผู้สวมเกราะสีเงินเท่านั้นที่ไม่รีบร้อนหลบหนี ยังคงเงื้อ ‘ดาบแสงแรก’ ไล่ฟันหญิงวัยกลางคนที่ผลุบๆ โผล่ๆ เพื่อป้องกันมิให้อีกฝ่ายขัดขวางการหนีของพวกพ้อง
เมื่อพวกลีอาเข้าไปในบันไดซึ่งนำไปสู่หอคอย เขารีบหันหลังกลับแล้วกระโดดไล่ตาม
หญิงวัยกลางคนโผล่ออกมาจากใบหน้าโปร่งใสบนผนังฝั่งหนึ่ง ก่อนจะส่งเสียงกรีดร้องแหลมลึก
พร้อมกันกับเสียงกรีดร้อง เปลวไฟสีดำที่ดูชั่วร้ายลุกท่วมผิวชุดเกราะสีเงินวาวของไรอัน
ไรอันสัมผัสได้ทันทีว่าพลังของตนกำลังลดลงอย่างฮวบฮาบ
โดยไม่ลังเล เขาถอดชุดเกราะรุ่งอรุณออก
ละอองแสงสีย่ำรุ่งกระจัดกระจายไปทุกทิศพร้อมกับเปลวไฟสีดำ ไม่นานก็สลายไปในอากาศ
ไรอันถือดาบแสงยักษ์พร้อมกับกระโดดก้าวใหญ่ ส่งตัวเองออกจากชั้นสามของปราสาทเข้าสู่เขตบันได
ในเวลานี้ ลูเมี่ยนที่รู้อยู่แก่ใจดีว่าตนแข็งแกร่งเป็นรองทุกคนมาก แถมยังไม่อาจใช้ประโยชน์จากสิ่งแวดล้อม กำลังวิ่งเป็นลำดับสอง หัวแถวคือลีอาเจ้าของกระดิ่งเงินที่ดังอย่างแผ่วเบา
ขณะกำลังวิ่งขึ้น ลีอาชะงักฝีเท้ากะทันหัน
ลูเมี่ยนรีบใส่เบรก ทันใดนั้นก็ยินเสียงกระซิบกระซาบในหู
เมื่อมองตรงไปข้างหน้า เด็กหนุ่มเผยแววตาตกตะลึงพรึงเพริด
หอคอยนี้ไม่ใหญ่ จะเรียกว่าแคบก็ยังได้ มีบันไดนำไปสู่ช่องยิงต่างๆ
และที่นี่ บนผนังเต็มไปด้วย ‘เด็กๆ’
แต่ละคนแต่งกายแตกต่างกันไป บางคนดูเหมือนทารกแรกคลอด บางคนดูเหมือนสามสี่ขวบ มีแขนขาคล้ายกับอุ้งเท้านก ปลายแหลมคมอย่างยิ่ง
อาศัย ‘อุ้งเท้านก’ ของตัวเอง เด็กๆ ทำตัวปานประหนึ่งนกในป่า กระจายกันเกาะอยู่บนผนังหอคอยจนเกือบไม่มีที่ว่าง
เมื่อนำใบหน้าและร่างกายของเด็กธรรมดามารวมกับ ‘อุ้งเท้านก’ ที่ชั่วร้ายและแหลมคม อีกทั้งยังมีมากกว่าร้อยตัว ผนวกกับวิธีพักผ่อนอันผิดธรรมชาติ หนังศีรษะของลูเมี่ยนพลันด้านชา บังเกิดความรู้สึกเหมือนจิตใจ ดวงตา และจิตวิญญาณถูกทำให้สกปรก เฉกเช่นเมื่อคราวได้เห็นลูอิส·ลุนด์คลอดลูก
‘เด็กๆ’ เหล่านี้ยังไม่สังเกตเห็นผู้บุกรุก บางคนยังพูดคุยกันในเรื่องต่างๆ อย่างร่าเริง
“ท้องฟ้าข้างนอกสีฟ้าสวยจัง”
“ไม่ได้”
“ท่านแม่บอกว่า เราต้องเก็บเล็บให้ได้ก่อน ต้องทำตัวเหมือนมนุษย์ปกติให้ได้ก่อน จึงจะออกไปข้างนอกได้…”
ทันใดนั้น ไรอันที่รั้งท้ายสุดและเพิ่งมาถึง กล่าวอย่างร้อนรน
“ทุกคนถอยออกไป!”
พูดจบเขาก็หันหลังกลับทันที ยังคงถือดาบแสงแรกไว้ในมือ คอยปิดกั้นทางเข้าหอคอยดุจดังยักษาปักหลัก
ลีอากับวาเลนไทน์ไม่ถามถึงเหตุผล เพียงวิ่งเต็มฝีเท้าไปหลบหลังบันไดหรือกำบัง แม้ลูเมี่ยนจะยังไม่เข้าใจอะไรเลย แต่ประสบการณ์เมื่อครั้งดิ้นรนเอาตัวรอดบอกให้ยอมเชื่อและทำตาม
“พวกแกลงมาเดี๋ยวนี้!”
เสียงของหญิงวัยกลางคนดังขึ้นอย่างแหลมลึก
แต่ละคำของเธอทะลุทะลวงโสตประสาทพวกลูเมี่ยน ทำเอาทุกคนอ่อนเพลียไปตามๆ กัน
วินาทีถัดมา หญิงวัยกลางคนในชุดกระโปรงสีเทาขาวปรากฏตัวที่มุมบันได ทั่วทั้งหอคอยพลันเปี่ยมล้นไปด้วยบรรยากาศแห่งชีวิต ปราศจากใบหน้าโปร่งใสสีคล้ำเขียว
……………………………………………………..