ราชันเร้นลับ 2 : วัฏจักรแห่งชะตา (Circle of Inevitability) - ตอนที่ 65 ชั้นสาม
ตอนที่ 65 ชั้นสาม
จวนเจ้าหน้าที่ปกครองแต่เดิมเป็นปราสาทสำหรับขุนนางดาลีแอช ทุกอย่างเน้นไปที่การป้องกัน หน้าต่างจะมีแค่ในชั้นสูงๆ แถมยังแคบและเล็ก แม้จะเป็นกลางวัน แสงแดดก็ถือว่าค่อนข้างแย่ ในภายหลังถูกปรับปรุงใหม่เพื่อให้เหมาะแก่การอยู่อาศัยมากขึ้น เจ้าของบ้านได้เน้นติดกระจกหน้าต่างจำนวนมากไว้ที่ชั้นล่าง
ลูเมี่ยนมองผ่านหน้าต่างกระจกลายดอกไม้เข้าไปข้างใน เห็นห้องจัดเลี้ยงอันว่างเปล่าและเงียบเหงา
“คนรับใช้น้อยมากจริงๆ …” ลีอาถอนหายใจ
เนื่องจากยังเป็นช่วงกลางวัน หน้าต่างหลายบานจึงถูกเปิดทิ้งไว้ เพื่อให้อากาศบริสุทธิ์ผสมกลิ่นหอมของดอกไม้ไหลเข้าไป ส่งผลให้พวกลูเมี่ยนลอบแทรกซึมอย่างไม่ยากเย็น
ถือโอกาสที่ชั้นหนึ่งมีคนรับใช้ไม่มาก ทั้งสี่ลอบเข้าไปในห้องโถง เดินเรียงทีละหนึ่ง แต่มิได้รีบร้อนเข้าไปลึกนัก ผ่านไปสักพักก็แยกย้ายหากำบังซ่อนตัวใกล้ๆ
ลีอาหันไปพูดกับวาเลนไทน์ที่กำลังพิงต้นเสาตกแต่งลวดลาย
“ฉันจะไปดูลาดเลาก่อน เตรียมตัว”
“ตกลง” วาเลนไทน์พยักหน้ารับเคร่งขรึม
ลูเมี่ยนกำลังนั่งยองอยู่ด้านหลังแท่นหินสำหรับวางแจกันลายคราม เมื่อได้ยินบทสนทนา เด็กหนุ่มชะโงกหน้าออกมาเตือน
“ไม่ต้องสำรวจชั้นหนึ่ง”
“ที่นี่มีแขกเข้าออกเป็นประจำ คงไม่มีอะไรผิดปกติหรอก”
นับตั้งแต่เจ้าหน้าที่ปกครองบีโอสกับคุณนายปัวริสย้ายเข้ามา โอลัวร์มักแวะมายังปราสาทเป็นครั้งคราวเพื่อยืมม้าน้อย บางครั้งลูเมี่ยนก็ถือโอกาสตามเข้าไปเพื่อกินเค้ก ขนมปัง และเครื่องดื่มต่างๆ
เมื่อเจ้าหน้าที่ปกครองกับคุณนายปัวริสออกจากบ้าน เขามักจะแอบดอดไปหาพ่อบ้านลูอิส·ลุนด์เป็นครั้งคราว เพื่อเที่ยวชมชั้นหนึ่งภายใต้การ ‘ดูแล’ จากเขา
“ไปที่บันไดเลยก็แล้วกัน” ลีอาสื่อเป็นนัยว่าเข้าใจ
หญิงสาวไม่คิดจะเดินผ่ากลางโถงจัดเลี้ยงอันว่างเปล่า แต่เลียบเลาะไปตามผนัง แล้วอ้อมตรงบันได
ช่างน่าอัศจรรย์ กระดิ่งเล็กสี่ใบไม่ส่งเสียงเลย
ขณะผ่านหน้าห้องหนึ่งริมโถง เธอได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากตำแหน่งใกล้กับประตูห้อง
ลูเมี่ยนซึ่งอยู่ในมุมที่ดีกว่า มองเห็นคนรับใช้เพศชาย แต่งกายในเสื้อเชิ้ตสีแดง กางเกงขายาวสีขาว กำลังจะเดินออกจากประตูบานนั้น กำลังจะเห็นลีอาที่ปราศจากกำบัง!
ลีอาไม่ตื่นตระหนก เพียงหันหลังกลับ วางมือลงบนผนังห้อง แล้วไต่ขึ้นไปเหยียบภาพวาดสีน้ำมันที่แขวนสูงจากพื้นราวๆ สองเมตร
หญิงสาวยืนเขย่งปลายเท้าเหยียบกรอบภาพ หลังพิงกำแพงอย่างมั่นคงโดยไม่ทำให้ภาพวาดหลุดหล่น
ลูเมี่ยนเห็นแล้วอยากจะปรบมือให้ เพราะนี่ทำให้นึกถึงการแสดงกายกรรมละครสัตว์ที่เคยชมในดาลีแอชเมื่อปีก่อน
คนรับใช้ชายเดินออกจากประตู เหลียวซ้ายแลขวาตามความเคยชิน แล้วมุ่งหน้าไปทางครัวที่ติดกับโถง
หลังจากคนรับใช้เดินไปได้ไม่กี่ก้าว ลีอาไถลลงมาตามภาพวาดสีน้ำมัน ปลายเท้าสัมผัสพื้นโดยไม่เกิดเสียง
จากนั้น หญิงสาวกลิ้งสองตลบไปซ่อนตัวอยู่หลังต้นเสา
รอจนกระทั่งคนรับใช้ชายลับสายตาไป ลีอาเริ่มเดินเลียบกำแพงอีกครั้ง
ในที่สุดเธอก็ไปถึงทางขึ้นบันได และหันมายืนยันว่าไม่พบสิ่งผิดปกติ
ลูเมี่ยนเห็นดังนั้นจึงก้าวออกจากแท่นหิน วิ่งปรี่เป็นเส้นตรงทันที
เขารวดเร็วมาก ใช้เวลาเพียงสองสามวินาทีก็ไปถึงข้างๆ ลีอา
ทว่า ลูเมี่ยนไม่ได้เร็วที่สุด เพราะไรอัน ‘เคลื่อนที่’ เสร็จภายในลมหายใจเดียว
วาเลนไทน์ก็ไม่ได้ช้าเกินไปนัก สมรรถภาพร่างกายดูดีกว่าคนทั่วไปชัดเจน
ลีอาเดินนำโดยไม่พูดไม่จา ทั้งสี่คอยรักษาระยะห่างระหว่างกัน จนกระทั่งขึ้นไปถึงชั้นสอง
สองฝั่งโถงทางเดินเป็นห้อง ประตูทั้งสองห้องปิดอยู่ สองฝั่งซ้ายขวาหน้าต่างรับแสงฝั่งละบานอยู่ด้านล่าง ทำให้สภาพแวดล้อมโดยรวมดูมืดมนผิดปกติ
ไรอันมองซ้ายขวาแล้วพูด
“เราควรแยกกันไปคนห้อง จะได้ประหยัดเวลาและซ่อนตัวได้ดีกว่า แต่ไม่ควรอยู่ไกลกันเกินหนึ่งห้อง เพราะถ้าเกิดเหตุไม่คาดฝันจะช่วยเหลือไม่ทัน”
พวกลีอาพยักหน้าเป็นนัยว่าเข้าใจ
ลูเมี่ยนรีบเดินไปทางห้องใกล้ๆ ทันที แนบหูกับบานประตูเพื่อฟังความเคลื่อนไหวด้านใน แล้วจึงบิดหมุนที่จับ ก้าวเข้าไปอย่างคล่องแคล่ว
นี่คือห้องสาวใช้
เด็กหนุ่มค้นอยู่สักพักแต่ไม่พบเบาะแส จึงเปลี่ยนไปห้องถัดไป
อาศัยรูปแบบดังกล่าว ทั้งสี่ช่วยกันสำรวจห้องบนชั้นสองจนเกือบหมด ระหว่างนั้นก็คอยหลบสาวใช้เป็นครั้งคราว
เมื่อเหลือห้องที่ต้องค้นอีกไม่มาก ลูเมี่ยนหยุดยืนหน้าประตูห้องที่เคยทิ้งแผลใจไว้ให้ตน
ห้องนอนของลูอิส·ลุนด์!
และตาม ‘ประวัติศาสตร์’ พ่อบ้านควรจะคลอดลูกไปแล้วเมื่อวาน
“หมอนั่นถูกฉีกท้อง… ถึงจะเย็บแผลแล้ว แต่ไม่น่าฟื้นตัวได้เร็วนัก ตอนนี้คงนอนพักผ่อนอยู่บนเตียง…” ลูเมี่ยนพึมพำเงียบ สองจิตสองใจว่าจะดันประตูเข้าไปดีหรือไม่ เพื่อคุยกับลูอิส·ลุนด์
ในฐานะผู้ผ่านประสบการณ์พิสดารมากับตัว พ่อบ้านรายนี้ต้องรู้เรื่องตื้นลึกหนาบางอย่างแน่นอน
แต่การทำแบบนั้นจะฝ่าฝืนหลักการที่พวกเขาตกลงกันไว้ก่อนหน้า—แค่สังเกตและสำรวจโดยไม่ยุ่งเกี่ยวกับสิ่งผิดปกติ—เพราะท้ายที่สุดแล้ว ลูเมี่ยนก็ไม่อาจรับประกันได้ว่า ลูอิส·ลุนด์จะไม่บอกกับคุณนายปัวริสเรื่องที่พวกเขาแอบเข้ามาในปราสาท
ถึงกับคลอดลูกให้อีกฝ่ายเชียวนะ จะไปเก็บความลับอะไรได้?
ส่วนเรื่องการฆ่าปิดปาก นั่นก็เท่ากับเป็นการบอกคุณนายปัวริสว่า ‘มีบางอย่างเกิดขึ้น’
“น่าเสียดาย ถ้ารู้วิธีสะกดจิตก็ดี…” ลูเมี่ยนถอนหายใจเบาๆ พลางเอาหูแนบประตูตามนิสัย เพื่อฟังความเคลื่อนไหวด้านใน
เงียบสนิท
ด้วยโสตประสาทของนักล่าที่เพ่งสมาธิ ไม่มีทางที่เขาจะไม่ได้ยินเสียงหายใจ แม้จะผ่านบานประตูหรืออยู่ไกลออกไปสองสามเมตรก็ตาม
“ไม่มีคนอยู่? ลูอิส·ลุนด์เพิ่งคลอดลูก หมอนั่นจะไปไหนได้…” ลูเมี่ยนลองหมุนลูกบิด แง้มประตูเล็กน้อยแล้วมองเข้าไป
ภายในห้องสะอาดสะอ้าน ไม่มีรอยเลือดตามความทรงจำของเด็กหนุ่ม แน่นอนว่าไม่มีลูอิส·ลุนด์เช่นกัน
ลูเมี่ยนขมวดคิ้ว ออกแรงผลักประตูเปิดราวๆ ครึ่งหนึ่งแล้วเดินเข้าไป
เขาสังเกตเห็นร่องรอยการนอน ทั้งผ้าห่มที่ปูเรียบร้อย ก้นบุหรี่ข้างเตียง เสื้อคลุมสีดำที่ห้อยบนเก้าอี้ หรือรอยเท้าที่บนพื้นที่คนปกติมองไม่เห็น ทุกเบาะแสบ่งชี้ว่าลูอิส·ลุนด์เคยอยู่ในห้องจนถึงเมื่อไม่นานมานี้
ลูเมี่ยนยังสังเกตเห็นคราบเลือดและคราบน้ำมันที่เช็ดไม่หมดตรงขอบเตียง
“เขาเพิ่งคลอดลูกเมื่อวานจริงๆ …” ลูเมี่ยนพึมพำขณะพยักหน้า
ทันใดนั้น เด็กหนุ่มได้ยินเสียงพูดคุยเบาๆ ดังมาจากนอกหน้าต่าง
จึงรีบเดินไปทางกระจกหน้าต่าง ตะแคงตัวแล้วชะโงกมองออกไป
ที่คอกม้า ลูอิส·ลุนด์ผมดำตาฟ้า สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว สูทสีดำ กางเกงขายาวสีเข้ม และรองเท้าหนัง กำลังเดินไปพลางพูดคุยบางสิ่งกับเซแวร์ คนขับรถม้าที่เคยพาสองพี่น้องไปยัง ‘โลกอีกฝั่ง’ ในวัฏจักรก่อนหน้า
ใบหน้าของลูอิสดูมีเลือดฝาด ท่วงท่าการเดินดูมั่นคงแข็งแรง ทำเอาลูเมี่ยนถึงกับตะลึง
นี่คือคนที่เพิ่งคลอดลูกเมื่อวาน?
แถมยังเป็นการผ่าคลอด!
ลูเมี่ยนระงับความหวาดกลัวในใจ เพ่งสมาธิฟังบทสนทนาของลูอิส·ลุนด์กับเซแวร์
แต่ต้องผิดคาด เขาพวกเพียงแลกเปลี่ยนความรู้ด้านการกำจัดวัชพืชและปลูกดอกไม้
“เกิดอะไรขึ้น?” เมื่อเห็นว่าลูเมี่ยนไม่ออกมาสักที ไรอันที่สวมหมวกโบว์เลอร์สีเข้ม เปิดประตูแล้วเดินเข้ามาในห้อง ตามหลังด้วยลีอากับวาเลนไทน์
ลูเมี่ยนรีบหรี่เสียง เล่าพฤติกรรมของลูอิส·ลุนด์ให้คนต่างถิ่นทั้งสามฟัง
หลังจากตั้งใจฟังจนจบ ไรอันครุ่นคิดสักพักแล้วถาม
“เธอรู้จัก ‘พระแม่ธรณี’ ไหม”
เนื่องจากเขตดาลีแอชมีพรมแดนติดกับอาณาจักรเฟเนพ็อต คนเลี้ยงแกะจึงมักจะผลัดถิ่นไปแถวนั้น ผนวกกับการศึกษาพื้นฐานที่พี่สาวมอบให้ เรื่องทำนองนี้จึงไม่แปลกใหม่สำหรับลูเมี่ยน
“รู้จักสิ เทพที่ชาวเฟเนพ็อตนับถือ”
ไรอันพยักหน้าแล้วอธิบาย
“ฉันไม่ได้บอกว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับพระแม่ธรณี เพียงแต่อยากบอกว่าการเจริญพันธุ์ การรักษา และชีวิตมักเชื่อมโยงกัน ในเมื่อลูอิสคลอดลูกได้ ก็ไม่แปลกถ้าจะหายเป็นปกติในวันเดียว”
“จริงด้วย…” ลูเมี่ยนนึกภาพตามแล้วก็เข้าใจ
ผู้ชายที่คลอดลูกได้ ถ้าวันถัดมาจะกระโดดโลดโผน ยังจะมีอะไรน่าแปลก?
“แล้วทางพวกคุณเจออะไรบ้างไหม” เขาถามกับพวกไรอัน
ไรอันส่ายหน้า
“ทุกห้องเป็นแค่ห้องคนรับใช้ทั่วไป”
“คงต้องขึ้นไปชั้นสาม…” ลูเมี่ยนสัมผัสถึงแรงกดดันอย่างไม่มีเหตุผล
ชั้นสามประกอบด้วยห้องนอนของคุณนายปัวริสกับเจ้าหน้าที่ปกครองบีโอส รวมถึงห้องอ่านหนังสือ ห้องอาบแดด และห้องนั่งเล่น
และนั่นหมายถึงความเสี่ยงครั้งใหญ่
“ตกลง” ไรอันตอบอย่างไม่ลังเล
ไม่นานทั้งสี่ก็ขึ้นมาถึงชั้นสาม
หลายห้องเปิดประตูทิ้งไว้ ช่วยให้ทางเดินสว่างกว่าข้างล่างมาก
ลูเมี่ยนเดินดุ่มไปยังเป้าหมายทันที ก้าวเข้าสู่ห้องนอนของคุณนายปัวริสและเจ้าหน้าที่ปกครองบีโอส
ด้านในมีเตียงนอนที่ปูด้วยผ้านวมกำมะหยี่สีอ่อน มีชั้นหนังสือเล็กๆ สำหรับวางหนังสืออ่านก่อนนอน มีตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ที่แขวนเครื่องนุ่งห่มหลากหลายรูปแบบ มีตู้นิรภัยสำหรับเก็บของสะสมล้ำค่า มีชุดโซฟาสีขาวที่ดูนุ่มสบาย มีโต๊ะที่วางกรอบรูปห้ากรอบและหนังสือกับเอกสาร มีพรมขนปุยสีขาวปูอยู่ทั่วห้อง…
พวกลูเมี่ยนมองไปรอบๆ และสะดุดตาอยู่กับโต๊ะพร้อมกัน
หนังสือบนโต๊ะเป็นนิยายยอดนิยม หนึ่งในนั้นคือผลงานชิ้นเอกของฟอร์ส·วอลล์เรื่อง ‘นักผจญภัยผู้ยิ่งใหญ่ 5: พลเรือโทโรคภัย’ และผลงานล่าสุดของโอลัวร์เรื่อง ‘นักสืบตัวแทน’ ส่วนเอกสารก็เป็นพวกหนังสือราชการเขตดาลีแอช สำหรับกรอบรูปทั้งห้า สี่รูปเป็นภาพของคุณนายปัวริส ส่วนอีกหนึ่งเป็นภาพของชายที่ลูเมี่ยนไม่รู้จัก
“ไม่มีเจ้าหน้าที่ปกครอง?” เด็กหนุ่มพึมพำด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ
ในสี่ภาพถ่ายคือคุณนายปัวริส สวมชุดที่แตกต่างกันในอิริยาบถที่ต่างกัน ส่วนภาพผู้ชายเพียงคนเดียว ก็มิได้เป็นของเจ้าหน้าที่ปกครองบีโอส
ต้องไม่ลืมว่า อีกฝ่ายคือเจ้าบ้านหลังนี้ ไม่แปลกไปหน่อยหรือที่จะไม่มีรูป?
ลีอาครุ่นคิดบางสิ่งก่อนจะพยักหน้า
“สถานะของเจ้าหน้าที่ปกครองอาจใกล้เคียงกับพ่อบ้าน…”
“เธอเคยเห็นบ้านหลังไหนมีรูปพ่อบ้านไหม”
“แล้วผู้ชายคนนี้เป็นใคร” ลูเมี่ยนมองกรอบรูปริมสุด
ในกรอบเป็นภาพถ่ายสีของผู้ชายวัยยี่สิบเจ็ดยี่สิบแปด สวมเสื้อเชิ้ตสีแดง ทับด้วยเสื้อกั๊กกำมะหยี่สีดำ กางเกงขายาวสีส้มที่ปลายขาเป็นพู่ รองเท้าบูตสั้นผูกเชือก แต่งตัวได้ทันสมัยอย่างยิ่ง
ใบหน้าดูคล้ายคุณนายปัวริสอยู่บ้าง คิ้วค่อนข้างบาง นัยน์ตาสีน้ำตาลยิ้มแย้มสดใส เรือนผมสีน้ำตาลถูกจัดทรงอย่างโก้หรูหวีแสกสามต่อเจ็ด มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย มอบความรู้สึกเหมือนคนที่ออกงานสังคมชั้นสูงบ่อยๆ แต่ยังหลงเหลือบุคลิกของหนุ่มเกเร
มองจากภาพรวม ใบหน้าของชายคนนี้มิได้โดดเด่น แต่ก็ทำให้คนมองรู้สึกดี
“พี่ชายหรือน้องชายของคุณนายปัวริส?” ลูเมี่ยนลองคาดเดาจากรูปพรรณสัณฐาน
……………………………………………………..