ราชันเร้นลับ 2 : วัฏจักรแห่งชะตา (Circle of Inevitability) - ตอนที่ 62 วันที่
ตอนที่ 62 วันที่
เมื่อมาถึงชายป่าเล็กๆ ที่ไม่ห่างจากหมู่บ้านนัก ลูเมี่ยนหยุดเดินแล้วหันไปมองพวกลีอาที่แอบตามมาด้านหลัง
ตรงนี้ถือว่าค่อนข้างไกล ไม่มีใครผ่านไปผ่านมา ต้นไม้ในป่าก็เรียงห่างกัน จึงมองเห็นได้ไม่ยากว่ามีคนซ่อนตัวหรือไม่
เมื่อเสียงกรุ๊งกริ๊งดังใกล้เข้ามา ลีอาถามด้วยรอยยิ้ม
“เธอรู้ได้ยังไงว่าเรากำลังตามหาคน”
ลูเมี่ยนไม่พูดไม่จา เพียงหยิบอุปกรณ์สำคัญที่พกติดตัวมาด้วย
หนังสือเล็กปกฟ้าที่บ้านของเขา!
เด็กหนุ่มยกหนังสือขึ้น แสดงให้พวกไรอันเห็นหน้ากระดาษที่ถูกตัดออกไปบางคำ
ไม่ต้องพูดอะไรเพิ่มเติม ไรอันพยักหน้ารับพร้อมกับตอบ
“เธอเองสินะที่เขียนจดหมายขอความช่วยเหลือฉบับนั้น”
ตั้งแต่มาถึงหมู่บ้านกอร์ตู พวกเขายังไม่เคยเอ่ยถึงจดหมายขอความช่วยเหลือ ไม่เคยเล่าว่ามีการตัดแปะคำจากหนังสือเล็กปกฟ้า
คนที่ทราบเรื่องนี้ ถ้าไม่ใช่คนใหญ่คนโตในเมืองบีกอร์ ก็ต้องเป็นผู้เขียนจดหมายฉบับนั้นเอง
ลีอามองไปรอบๆ ตามสัญชาตญาณ
กระดิ่งเงินใบเล็กที่ห้อยจากหมวกคลุมหน้า กลับเงียบงันอย่างน่าประหลาด
ขณะวาเลนไทน์เตรียมถามว่า ‘คนรอบข้างทำตัวผิดปกติยังไง?’ ไรอันชิงถามตัดหน้าด้วยน้ำเสียงเจือความสงสัย
“เธอแน่ใจได้ยังไงว่าเรามาเพราะจดหมายฉบับนั้น”
ก็พวกคุณเป็นคนบอกเอง… ลูเมี่ยนยิ้มๆ
“หมู่บ้านกอร์ตูไม่ค่อยมีคนนอกเข้ามาอยู่แล้ว ยิ่งเป็นคนที่ไม่ซื้อขนแกะ ชีส หรือลูกแกะเลย เอาแต่เตร็ดเตร่ชวนคุยไปเรื่อยๆ ยิ่งน้อยเข้าไปใหญ่”
“นอกจากนั้น ฉันยังไม่ได้พูดอะไรสักคำ แค่เปิดหนังสือเล็กปกฟ้าให้ดูเท่านั้นเอง”
ลีอาพลันกระจ่าง จึงหัวเราะออกมาหนึ่งคำ
“เมื่อกี้แค่หยั่งเชิงสินะ”
“หัวคิดดีมาก คนที่ไม่รู้เรื่องจดหมายขอความช่วยเหลือ ก็คงไม่เข้าใจว่าเธอกำลังทำอะไรและไม่รู้สึกผิดปกติ อย่างมากก็คิดว่าเป็นการเล่นพิเรนทร์ ใช่ไหมล่ะ ราชานักแกล้งแห่งหมู่บ้านกอร์ตู?” ไรอันพยักหน้าแผ่วเบา
อีกฝ่ายแสดงความเห็นรวดเดียว สื่อเป็นนัยว่าการตระเวนพูดคุยกับคนในหมู่บ้านกอร์ตูของตนกับเพื่อนอีกสองคนไม่เสียเที่ยว อย่างน้อยก็ได้ทราบว่าใครคือคนดังในหมู่บ้าน รวมถึงทราบรูปพรรณสัณฐาน
ลูเมี่ยนยิ้มยียวนทันที
“หลงเชื่อแล้ว? พวกคุณหลงเชื่อแล้วสินะ!”
ได้เห็นสีหน้าตกตะลึงของพวกไรอัน เด็กหนุ่มรีบเสริม
“หยอกๆ … มาต่อกันเถอะ”
ลีอากัดฟันกรอด
“สมแล้วที่เป็นราชานักแกล้งแห่งหมู่บ้านกอร์ตู เธอไม่กลัวหรือว่าเราจะไม่เชื่อคำพูดเธออีกแล้ว?”
“คนเรามีสิทธิ์เลือกที่จะไม่เชื่อ” ลูเมี่ยนกล่าวอย่าง ‘ไม่ยี่หระ’ “ยังไงเสีย พวกคุณก็ตรวจสอบข้อเท็จจริงได้เองอยู่แล้ว”
วาเลนไทน์ที่แสดงออกชัดเจนว่าค่อนข้างไม่พอใจ ถามคาดคั้น
“เธอเขียนในจดหมายว่า คนรอบข้างแปลกไปทุกที พวกเขาแปลกยังไง?”
ลูเมี่ยน ‘หึ’ พร้อมกับยกนิ้วขึ้นมาส่าย
“เพียบเลยล่ะ อย่างเช่น… หลวงพ่ออธิการโบสถ์ที่ศรัทธาเทพมาร คนเลี้ยงแกะปิแยร์·แบรีที่เปลี่ยนมนุษย์ให้เป็นแกะแล้วพากลับมาที่หมู่บ้านด้วย คุณนายปัวริสที่นั่งรถม้าไปตามทุ่งร้างโดยมีปีศาจคอยลากจูง สัตว์ประหลาดรูปร่างคล้ายกิ้งก่าตัวใสๆ ที่คลานออกจากปากรองอธิการโบสถ์ขณะเขาหลับ นาโรคาที่เดินทางไป ‘ยังโลกอีกฝั่ง’ ทั้งที่ยังไม่ตาย พ่อบ้านของเจ้าหน้าที่ปกครอง—ลูอิส·ลุนด์ที่คลอดลูกในปราสาท และนกฮูกในตำนานพ่อมดที่บินกลับมายังหมู่บ้านเป็นครั้งคราว…”
ไรอัน ลีอา และวาเลนไทน์ ยิ่งได้ฟังก็ยิ่งเผยสีหน้าตกตะลึง พวกเขาไม่อยากเชื่อ และไม่คิดว่าเด็กหนุ่มตรงหน้าจะปั้นน้ำเป็นตัวได้สุดโต่งถึงเพียงนี้
ทั้งสามคือผู้สืบสวนเจนสนามของทางการ เคยผ่านคดีมากมายที่เกี่ยวข้องกับเทพมารและวิชานอกรีต แต่ไม่มีเหตุการณ์ใดฟังดูหลุดโลกได้เท่ากับสิ่งที่เพิ่งได้ยิน หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง เรื่องที่หลวงพ่ออธิการโบสถ์นับถือเทพมารดูจะปกติไปทันที
ที่สำคัญไปกว่านั้น คดีที่เคยพบเจอมาทั้งหมด ส่วนใหญ่จะเกิดแยกกัน อย่างมากก็เกิดสองถึงสามเรื่องในคดีเดียวหรือมีความเชื่อมโยงกัน แต่ในหมู่บ้านกอร์ตูกลับเต็มไปด้วยเรื่องพิสดารที่แทบไม่เกี่ยวข้องกันเลย
“นี่มันหมู่บ้านบ้าบออะไร…” แทบจะในทันที ความคิดในทำนองเดียวกันแวบวาบเข้ามาในใจลีอา ไรอัน และวาเลนไทน์
พวกเขานึกสงสัยว่า หรือพวกตนจะหลงเข้ามายังนรกห้วงลึกในตำนานเสียแล้ว!
เมื่อลูเมี่ยนเงียบไป ลีอาไถ่ถามอย่างอดไม่ได้
“อันนี้ไม่ได้ล้อกันเล่นใช่ไหม…”
ในหมู่บ้านยังมีคนปกติเหลืออยู่ไหม?
ลูเมี่ยนยิ้ม
“ฉันยังเล่าไม่จบ ยังมีความผิดปกติอีกหนึ่งเรื่อง”
“นี่เป็นครั้งที่สามหรือสี่แล้วที่ฉันพูดเรื่องเดิมๆ กับพวกคุณ… คุณไรอัน ลีอา วาเลนไทน์… เหล่ากะหล่ำปลีของฉัน”
ไรอัน ลีอา และวาเลนไทน์ไม่ตกใจเรื่องที่ลูเมี่ยนรู้ชื่อของตน ระหว่างที่เตร็ดเตร่ตลอดสองวันเพื่อชวนชาวบ้านคุย พวกตนอาจเผลอพูดชื่อออกไปบ้าง
สิ่งที่พวกเขาประหลาดใจและสับสนคือครึ่งแรกของประโยค
“เธอหมายความว่ายังไง…” วาเลนไทน์ถามหน้านิ่วคิ้วขมวด
“ความหมายของฉันก็คือ ทุกอย่างเกิดขึ้นซ้ำมาหลายครั้งแล้ว พวกเรากำลังติดอยู่ในวัฏจักรเวลา” ลูเมี่ยนไม่ปล่อยให้สามคนต่างถิ่นต้องเดาเอาเอง
โดยไม่รอให้พวกไรอันถามกลับ เด็กหนุ่มเล่าสั้นๆ ถึงสิ่งที่เคยทำร่วมกัน และตบท้ายด้วย
“ลองนึกดูให้ดี ตอนที่พวกคุณเข้ามาในหมู่บ้าน มันคือวันที่ 29 มีนาคมจริงๆ น่ะหรือ”
พวกลีอาต่างจมอยู่ในความคิดพร้อมกัน
หลังจากผ่านไปกว่าสิบวินาที วาเลนไทน์เผยสีหน้าเจ็บปวด
“ฉันรู้สึกสับสนกับเวลา… จดจำวันที่แน่ชัดในช่วงสองเดือนที่ผ่านมาไม่ได้…”
“แต่ฉันจำได้ ก่อนจะออกเดินทาง ฉันฉลองวันเกิดให้ลูกชายคนเล็ก วันเกิดของเขาคือ…”
ทันใดนั้น วาเลนไทน์เงยหน้าขึ้นพร้อมกับโพล่งด้วยความตกใจ
“10 เมษายน!”
นั่นหมายความว่า เวลาจริงในตอนนี้คือช่วงกลางถึงปลายเดือนเมษายน… หรือก็คือ จำนวนวัฏจักรที่เราเคยผ่านก่อนจะรักษาความทรงจำได้ อาจไม่มากเท่าไร ไม่น่าจะเกินหนึ่งรอบ… หืม… ตอนนั้นอาจยังเป็นรอบแรก วัฏจักรยังไม่เริ่ม เราจึงส่งจดหมายออกไปได้ตรงๆ โดยไม่ต้องพึ่งพาแม่น้ำ… พอวัฏจักรย้อนกลับ ความทรงจำที่เกี่ยวข้องก็ถูกเขียนทับ… แต่วัตถุที่ออกนอกขอบเขตไปแล้ว ย้อนกลับเข้ามาใหม่ไม่ได้? ลูเมี่ยนตั้งทฤษฎีใหม่เกี่ยวกับจดหมาย
เด็กหนุ่มผงกหัวเล็กๆ จนแทบมองไม่เห็น แล้วพูดกับไรอันและลีอา
“พวกคุณสามารถส่งโทรเลขออกไปข้างนอกได้ เพื่อถามถึงวันที่ปัจจุบันแบบอ้อมๆ โดยไม่กระตุ้นความสงสัย”
“เมื่อถึงตอนนั้น พวกคุณจะเชื่อฉันเอง”
“จริงด้วย! โทรเลข!” วาเลนไทน์ได้สติกลับมา “ขอความช่วยเหลือจากเบื้องบน!”
ลูเมี่ยนมองด้วยสายตาที่มองคนโง่
“ขอความช่วยเหลือ?”
“หากต้องเผชิญหน้ากับวัฏจักรเวลาพิศวงเช่นนี้ ปกติแล้วหน่วยงานของพวกคุณจัดการยังไง?”
ไรอันเงียบไปสักพัก แล้วจึงตอบ
“กวาดล้างให้ราบคาบทันที ป้องกันไม่ให้มลพิษแพร่กระจายออกไป”
“การขอความช่วยเหลือในตอนนี้น่ะ มีค่าเท่ากับฆ่าตัวตาย” ลูเมี่ยนยิ้มพลางกางมือออก
วาเลนไทน์ยืนกรานเสียงแข็ง
“ตามระเบียบแล้ว เราต้องรายงานทันที และฉันก็ยินดีที่จะเสียสละ!”
“…” ลูเมี่ยนถึงกับพูดไม่ออก
คนแบบนี้ก็มีด้วยหรือ?
ไม่สิ ไอ้หมอนี่ต้องถูกเก็บโดยด่วน เพื่อไม่ให้ทุกคนต้องฉิบหายกันหมด!
ไรอันตบไหล่วาเลนไทน์
“ไม่ต้องรีบร้อน เรายังไม่รู้แน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้น อาจมีวิธีแก้ปัญหาที่ดีกว่านี้…”
“ถ้าสุดท้ายแล้วไม่มีทางอื่นจริงๆ ถึงตอนนั้นเราค่อยรายงานไปยังเบื้องบน”
“ใช่” ลูเมี่ยนรีบเสริม ตามด้วยเล่าเรื่องสัญลักษณ์บนหน้าอก ซากปรักหักพังในฝัน มาดามลึกลับ รวมถึงสมาคมวิจัยลิงบาบูนขนหยิก และปิดท้ายว่า “กุญแจสำคัญน่าจะอยู่ในคืนที่สิบสอง เราต้องเอาตัวรอดจากวัฏจักรนี้ให้ได้ แล้วค่อยลงมือแก้ปัญหาอย่างจริงใจในรอบถัดไป”
เมื่อเด็กหนุ่มเล่าหลายเรื่องที่สามารถยืนยันรายละเอียดได้ พวกไรอันเริ่มถูกโน้มน้าว ส่วนวาเลนไทน์ก็สงบลงหลังจากนึกถึงหน้าลูกเมีย
“นั่นคือเหตุผลที่เธอรู้จักเรา และรู้ว่าเรากำลังตามหาคน” ลีอาถอนหายใจ
ที่แท้ก็เคยคุยกันมาแล้ว
อาศัยความเคยชิน หญิงสาวจับกระดิ่งใบเล็กบนหัวเพื่อเตรียมทำนาย แต่ทันใดนั้นก็นึกถึงสิ่งที่ลูเมี่ยนเพิ่งเล่า จึงตัดสินใจอดกลั้นเอาไว้
ลีอาไม่อยากระเบิดตัวเองจากการทำนายถึงสิ่งที่ไม่ควรทำนาย โดยที่ยังไม่ทันจะเริ่มสืบสวนหาความจริง
ไรอันไตร่ตรองสักพัก แล้วหันมาพูดกับลูเมี่ยน
“ที่ยอมเล่าให้เราฟัง เพราะเธอกับพี่สาวอยากได้ความช่วยเหลือจากเราสินะ…”
“ฉลาดมาก กะหล่ำปลีของฉัน” ลูเมี่ยนหัวเราะก่อน แล้วค่อยพูดเสียงขรึม “เรื่องแรก… ส่งโทรเลขออกไปข้างนอก แจ้งว่าการสืบสวนมีความคืบหน้าแล้ว นั่นคือการพบความผิดปกติของหลวงพ่ออธิการโบสถ์ จากนั้นก็ถามถึงสัตว์ที่คล้ายกิ้งก่าที่คลานออกจากปากรองอธิการโบสถ์ เท่าที่ฉันสังเกต สิ่งนี้มีโอกาสน้อยที่สุดที่จะระเบิดหมู่บ้านทิ้ง เอ่อ… แล้วอย่าลืมยืนยันวันที่จริง แต่อย่ากระโตกกระตากเกินไปจนคนภายนอกพบความผิดปกติ…”
“เรื่องที่สอง บ่ายวันนี้พี่สาวของฉันจะเชิญคุณนายปัวริสไปดื่มชาที่บ้าน ฉันอยากให้พวกคุณร่วมมือกับฉัน ลักลอบเข้าไปในจวนเจ้าหน้าที่ปกครอง เพื่อสืบข้อมูลเท่าที่จะทำได้…”
“ส่วนจะทำอะไรต่อนั้น ขึ้นอยู่กับข้อมูลที่เราสืบได้วันนี้”
ไรอัน ลีอา และวาเลนไทน์มองหน้ากัน ต่างก็มองว่าคำขอของลูเมี่ยนไม่ได้มากเกินจริง
นี่คือสิ่งที่พวกเขาควรทำอยู่แล้ว
ทั้งสี่เดินไปยังลานจัตุรัสของหมู่บ้าน ไรอันเข้าไปส่งโทรเลข ส่วนลีอา วาเลนไทน์ และลูเมี่ยนรออยู่ใต้คนเอล์มด้านนอก
หลังจากรวบรวมความสุขุมกลับมาได้ ลีอาเหล่มองลูเมี่ยนแล้วถาม
“เธอเป็นผู้วิเศษ พี่สาวก็ด้วยใช่ไหม”
“ใช่” ลูเมี่ยนไม่ได้ซ่อนเร้น
ลีอาหัวเราะหนึ่งคำ
“ตอบตรงจังเลยนะ ไม่กลัวถูกพวกเราจับหรือ”
“ตอนนี้เราลงเรือลำเดียวกันแล้ว ในเมื่อเรือกำลังจะจม ทุกคนไม่มีทางเลือกนอกจากช่วยเหลือกัน” ลูเมี่ยนยักไหล่ “ส่วนอนาคตก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของอนาคต ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกเราจะหลุดพ้นจากวัฏจักรเวลาได้ไหม”
“ก็ตามนั้น” ลีอาหันหน้าไปทางวาเลนไทน์จนเกิดเสี่ยงกรุ๊งกริ๊ง
ที่เธอยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูด ก็เพื่อตักเตือนให้เพื่อนร่วมงานเข้าใจสัจธรรม จะได้ไม่ทำอะไรโง่ๆ ลงไป
วาเลนไทน์ยังคงทำหน้าเย็นชา แต่ก็พยักหน้ารับจางๆ จนแทบจะมองไม่เห็น
ลีอาจึงหันกลับมาถามสิ่งที่เธออยากรู้มากที่สุด
“ว่าแต่… ทำไมเธอถึงจดจำเหตุการณ์ในวัฏจักรก่อนๆ ได้ล่ะ”
“ไม่บอกหรอก” ลูเมี่ยนยิ้ม
โดยไม่รอให้อีกฝ่ายตอบโต้ เขารีบยกมือขึ้นแล้วพูด
“หยอกๆ … ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน อยู่ดีๆ มันก็จำได้เอง แต่ก็แค่สองรอบหลังสุด”
“พยายามนึกดูว่าตอนนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง มันอาจสำคัญก็ได้” ลีอาพูดพลางครุ่นคิด
ลูเมี่ยนตอบอย่างจริงใจ
“ฉันพยายามแล้ว แต่นึกเท่าไรก็ไม่พบคำตอบ บางทีอาจต้องได้เจอกับตัวกระตุ้นก่อน”
ขณะลีอาเตรียมช่วยวิเคราะห์ ไรอันที่ส่งโทรเลขเสร็จ เดินออกจากตึกสำนักงานของเจ้าหน้าที่ปกครอง
……………………………………………………..