ราชันเร้นลับ 2 : วัฏจักรแห่งชะตา (Circle of Inevitability) - ตอนที่ 463 รายละเอียดที่ไม่สอดคล้อง
- Home
- ราชันเร้นลับ 2 : วัฏจักรแห่งชะตา (Circle of Inevitability)
- ตอนที่ 463 รายละเอียดที่ไม่สอดคล้อง
ตอนที่ 463 รายละเอียดที่ไม่สอดคล้อง
……….
ห้อง 12 …ดวงตาลูเมี่ยนแข็งขึ้นทันทีขณะจดจ้องซาฟารี
เด็กหนุ่มเคยจินตนาการถึงความเป็นไปได้ต่างๆ แต่ไม่มีอันไหนคาดคิดว่า ‘ห้อง 12’ จะมีความหมายเช่นนี้
และผู้ที่พักในห้อง 12 คือ ‘คุณนายราตรี’ ปัวริส·เดอ·โร้คฟอร์ พร้อมด้วย สามี พ่อบ้าน สาวใช้ และลูกๆ ของเธอ!
แทบจะในเวลาเดียวกัน ลูเมี่ยนหวนนึกถึงภาพสีน้ำมันที่เคยเห็นในศูนย์ศิลปะทรีอาร์ นางแบบในภาพดูคล้ายซาฟารี เปลือยกาย บนผิวพรรณเต็มไปด้วยภาพวาดใบหน้า
ใบหน้าเหล่านั้นคือตัวแทนของผู้เข้าพักในห้อง หรือเป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงการเป็นห้องใน ‘หอพัก’? ลูเมี่ยนจ้องซาฟารีตรงหน้าด้วยดวงตาเบิกกว้าง เตรียมกระตุ้นรอยประทับสีดำบนร่างกายทุกเมื่อ เพื่อใช้ ‘วิชาฮึ่มฮ่า’ ขัดขวางการโผล่ออกมาของผู้เข้าพักห้อง 12
เด็กหนุ่มยังมีบางแผลทางใจจากคุณนายปัวริสไม่น้อย
ซาฟารีจับชายกระโปรงยาวสีน้ำเงินอมเขียว ใบหน้าที่อวบอิ่มเริ่มบิดเบี้ยวอย่างเห็นได้ชัด
“ฉันระงับการรับรู้โลกภายนอกของผู้เข้าพักได้ไม่นานนัก…”
กล่าวคือ คุณนายปัวริสยังไม่ทันสังเกตเห็นเรา…ลูเมี่ยนถอนหายใจแผ่วเบา แต่ก็ยังไม่กล้าประมาท จะเกิดอะไรขึ้นหากอิทธิพลของซาฟารีหมดฤทธิ์ในอีกไม่ช้า?
ขณะเดียวกัน ซาฟารีดึงคอเสื้อของชุดกระโปรงยาวลง เผยให้เห็นผิวพรรณส่วนหนึ่ง
เต็มสองตา ลูเมี่ยนมองเห็นใบหน้าจำนวนมากที่คล้ายภาพวาดสีน้ำมัน พวกมันกึ่งซ่อนเร้นกึ่งเปิดเผย ดูน่าขนลุกยิ่งนัก
สิ่งนี้ยืนยันข้อสงสัยของลูเมี่ยน อีกทั้งยังช่วยสร้างข้อสงสัยใหม่
ทำไมต้องใช้นางแบบที่ถูกปนเปื้อนเป็น ‘ห้อง’ ของ ‘หอพัก’? ทำไมต้องให้คุณนายปัวริส อัวซอง·ซ็องซงกับพวกผู้รับพรจากเทพมารที่แข็งแกร่งคนอื่นเข้าไปพักอาศัย พวกเขาย้ายเข้าโรงแรมระกาทองปลอมๆ โดยตรงเลยไม่ได้หรือ?
หรือทำไปเพื่อรบกวนการค้นหาด้วยเทคนิคทางศาสตร์เร้นลับ อย่างการพยากรณ์และทำนายถึง?
ทำไมเรากลับได้กลิ่นอายของพิธีกรรมบางอย่าง? คล้ายกับการ ‘จัดวาง’ และการบรรลุเงื่อนไขเฉพาะ…ในฐานะ ‘ภิกษุบิณฑบาต’ ลูเมี่ยนผู้มีความรู้เกี่ยวกับอาคมพิธีกรรมอย่างล้นเหลือ รู้สึกว่าเรื่องนี้แฝงความชั่วร้ายไว้ไม่เบา
เห็นว่าซาฟารียังไม่ได้หันหลังกลับไป จึงรีบใช้เวลาที่เหลือถาม
“ใน ‘หอพัก’ มีกี่ห้อง”
“ตั้งแต่ห้อง 2 ถึงห้อง 13” ซาฟารีตอบเสียงเลื่อนลอย
“ไม่มีห้อง 1 หรือ?” ลูเมี่ยนถามย้ำ
กาเบรียลตอบแทนคนรักของเขา
“ได้ยินมาว่ามี แต่พวกเราไม่เคยเห็น…ห้อง 1 ไม่เคยเข้ามาอยู่ใน ‘หอพัก’ เลย”
ห้อง 1 สุดลึกลับสินะ…ตอนนี้มั่นใจว่ามี 12 ห้อง แต่ผู้รับพรจากเทพมารที่พักในแต่ละห้อง อาจไม่ได้มีแค่คนเดียว…ลูเมี่ยนรู้ว่าเหลือเวลาไม่มากนัก จึงรีบเปลี่ยนคำถาม
“จะออกจากที่นี่ได้ยังไง?”
“ต้องได้รับอนุญาตจากพวกภูตก่อน หรือผ่านรูดำบนถนนใหญ่ตลาด แต่มันอันตรายมาก อาจทำให้คุณโผล่ไปในที่ที่ไม่เหมาะสม” สายตาของซาฟารีดูว่างเปล่าเป็นระยะ บางครั้งก็เปี่ยมไปด้วยความเจ็บปวด
รูดำบนถนนใหญ่ตลาด…ลูเมี่ยนถามอย่างร้อนรน
“มีภูตอยู่กี่ตน? แล้วพวกมันอยู่ไหน?”
“สามตน” กาเบรียลเป็นฝ่ายตอบ “พวกมันไม่ได้อยู่ในโลกนี้ เพียงแวะเข้ามาเป็นครั้งคราว ปกติจะให้ข้ารับใช้คอยดูแลความเรียบร้อยแทน ก็พวกร่างลอยได้และส่องแสงด้านนอกนั่นแหละ”
ภูตสามตน…ตามข้อมูลจาก ‘ผู้ชำระ’ ลำดับพรของ ‘ภูต’ น่าจะยังไม่ได้รับเทวบารมี ในเบื้องต้น คาดว่าเทียบเท่าลำดับ 5 แต่สภาวะของพวกมันค่อนข้างพิเศษ หากไม่บุกเข้ามาในโลกความจริง แม้แต่นักบุญบางคนก็ไม่แน่ว่าจะโจมตีพวกมันได้…กับภูตเหล่านั้น ใช่ว่าเราจะรับมือไม่ไหว…ถ้าจับมาได้สักตน ก็คงหนีออกจากที่นี่ได้…ลูเมี่ยนรีบไตร่ตรอง ก่อนถามต่อไป
“พวกภูตเข้าออกมีกฎเกณฑ์อะไรไหม?”
“ไม่มี…” ซาฟารีส่ายศีรษะช้าๆ อย่างเหม่อลอย
ลูเมี่ยนละทิ้งทิศทางนี้ เปลี่ยนไปถามประเด็นใหม่
“พวกคุณรู้ไหมว่าจินนาซ่อนตัวอยู่ที่ไหน?”
“ไม่รู้” กาเบรียลเร่งตอบ “แต่พวกข้ารับใช้ของภูตยังไม่เจอตัวเธอ พวกมันก็ไม่ได้มั่นใจว่ามีใครหลงเข้ามาหรอก น่าจะเป็นฝั่งภูตที่สั่งให้ค้นหาอย่างละเอียด เพราะรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงภายนอก”
ลูเมี่ยนยังไม่ทันได้ถามใหม่ ใบหน้าของซาฟารีก็บิดเบี้ยวอีกครั้ง
เธอหันหลังกลับทันที เดินออกจากหน้าห้อง 207 มุ่งหน้าขึ้นบันไดไป
เห็นได้ชัดว่า เธอระงับการรับรู้โลกภายนอกของผู้เข้าพักใน ‘ร่างกาย’ แทบไม่ไหวแล้ว
สภาพของกาเบรียลก็ย่ำแย่ลงเรื่อยๆ เช่นกัน เขาก้าวเดินเชื่องช้าออกไปนอกห้อง
“ที่นี่มีขอบเขตไหม?” ลูเมี่ยนถามทิ้งท้าย
กาเบรียลพยักหน้า ดวงตายิ่งดูว่างเปล่าขณะเอ่ยปาก
“มีเพียงถนนใหญ่ตลาดกับพื้นที่รอบๆ เท่านั้นที่เป็นของจริง”
“รอบด้านเป็นห้วงมืดลึกลับ มีบาเรียที่มองไม่เห็น”
บาเรีย…ลูเมี่ยนทวนคำนี้ในใจ มองกาเบรียลปิดประตูห้องให้ตนอย่างไร้อารมณ์ พลางได้ยินเสียงฝีเท้าของอีกฝ่ายเดินกลับชั้นสาม
คำว่า ‘บาเรีย’ ทำให้ลูเมี่ยนนึกถึงเรื่องที่มาดามเมจิกเชี่ยนเคยเล่า
นอกโลกที่พวกตนอาศัยอยู่ มีบาเรียชั้นหนึ่งขวางกั้นการรุกรานของเหล่าเทพมารนอกขอบเขต
แม้คำว่า ‘บาเรีย’ ที่กาเบรียลพูดถึงจะเป็นเพียงการพรรณนา อาจไม่เท่ากับ ‘บาเรีย’ ในคำพูดของมาดามเมจิกเชี่ยน แต่ในเมื่อตอนนี้เหล่าสาวกเทพมารกำลังคิดการใหญ่ ลูเมี่ยนจึงไม่สามารถตัดทิ้งเรื่องที่ทั้งสองบาเรียอาจมีความเชื่อมโยงกันบางประการ
ลูเมี่ยนละสายตาจากประตู รับรู้ว่าตัวเองเหลือเวลาไม่มากแล้ว
ระดับการปนเปื้อนของซาฟารีกับกาเบรียลรุนแรงขึ้นตามลำดับ ส่งผลให้พวกเขาควบคุมตัวเองได้ยากลำบากเต็มที หากถึงจุดที่กลายพันธุ์โดยสมบูรณ์เมื่อไร ทั้งสองคงไม่ช่วยเก็บความลับให้ลูเมี่ยนกับจินนาต่อ จำเป็นต้องรายงานแก่พวกภูต
“ตอนนี้ต้องจดจ่ออยู่กับสองประเด็น…หนึ่ง จะติดต่อกับโลกภายนอกหรือหาทางออกจากที่นี่ได้อย่างไร สอง ตามหาจินนาให้พบ” ลูเมี่ยนเค้นสมองไตร่ตรอง พยายามดึงศักยภาพของ ‘นักวางแผน’ จนถึงขีดสุด
สำหรับคำถามแรก โดยเฉพาะในประเด็นการติดต่อกับโลกภายนอก เด็กหนุ่มคิดเร็วๆ ออกมาได้แปดเก้าแผน
หนึ่ง พยายามปลุกออร่าของ ‘จักรพรรดิโลหิต’ ในมือขวาสุดชีวิต เพื่อดูว่าสามารถทะลุผ่านสิ่งกีดขวางของโลกพิสดารแห่งนี้ได้หรือไม่ สั่นคลอนกรุงทรีอาร์ของจริงได้หรือไม่ เรียกร้องความสนใจให้เหล่าครึ่งเทพในมหานครชายตามามอง
สอง ประกอบพิธีวิงวอนขอพรคุ้มครอง เพื่อดูว่าการกระตุ้นผนึกตามธรรมชาติสามารถ ‘อ้อม’ การแทรกแซงจากราชันสวรรค์ฟ้าดินประทานโชคได้หรือไม่ แล้วส่งข้อมูลของที่นี่ไปให้มิสเตอร์ฟูล
สาม ดูว่ายังมีการเชื่อมโยงทางวิญญาณระหว่างนิ้วของมิสเตอร์ K กับร่างต้นหรือไม่
สี่ ลองอัญเชิญผู้ส่งสารของมาดามเมจิกเชี่ยน
ห้า ลองอัญเชิญผู้ส่งสารของมาดามเฮล่า
หก สวดคาถาเพื่อเข้าสู่สถานที่ชุมนุมของสมาคมวิจัยลิงบาบูนขนหยิก ซึ่งก็คือพระราชวังบนอาณาจักรราตรี เพื่อดูว่าในสถานการณ์ปัจจุบัน หากไม่ได้ยื่นคำร้องล่วงหน้าไว้ มันจะทำงานตามปกติหรือไม่
เจ็ด ตามหาฟรังก้าปลอมในโลกนี้ ดูว่าเธอมีกระจกเงินโบราณจากใต้ดินหรือไม่ แล้วใช้คุณสมบัติพิเศษของกระจกเพื่อหนีออกไป
แปด สร้างความวุ่นวายเล็กน้อย เพื่อล่อให้ภูตหนึ่งหรือสองตนออกมา แล้วจับกุมพวกมัน
เก้า…
แต่ก่อนจะลองใช้แผนใด ลูเมี่ยนจำเป็นต้องตามหาจินนาให้พบ เพราะทุกวิธีล้วนมีโอกาสดึงดูดความสนใจจากพวกภูต
จะหาจินนาได้ยังไง? ลูเมี่ยนลองนำตัวเองไปแทนที่จินนา สมมติว่าเป็น ‘แม่มด’ อ่อนประสบการณ์ ที่หลงเข้ามาในโลกพิสดารซึ่งน่าจะเป็นสถานที่ตั้งของ ‘หอพัก’ โดยบังเอิญ
“จินนาคงเห็นกาเบรียลด้วยเช่นกัน ในระยะแรก เธอคงยังไม่กล้าเสี่ยงเข้ามาในโรงแรมระกาทองปลอม…”
“เธอสามารถใช้ ‘ล่องหน’ เพื่อซ่อนตัวในเงา แถมยังเป็นคนมีน้ำอดน้ำทนในการสังเกตการณ์ จึงไม่ยากที่จะพบความผิดปกติของคนเดินถนนกับพวกพ่อค้าแม่ขาย…”
“ถ้าเป็นเรา ในสถานการณ์แบบนี้จะวางตัวยังไง?”
“อา…คงพยายามค้นหาขอบเขตของโลกนี้ ดูว่าอาคารที่ได้รับการคุ้มครองจากทวยเทพ เช่นวิหาร ถูกจำลองมาด้วยหรือไม่ ถ้าใช่ ข้างในเป็นอย่างไร นับถือใคร…ค้นหาความแตกต่างระหว่างโลกนี้กับเขตตลาดของจริง เพื่อดูว่าพอจะมีเบาะแสในการหลบหนีหรือไม่…แต่ก่อนอื่นต้องยืนยันให้แน่ใจว่า มีตัวปลอมของตัวเองหรือไม่…”
“เมื่อสักครู่ ข้ารับใช้ของพวกภูตกำลังเร่งค้นหา…”
ความคิดของลูเมี่ยนเริ่มกระจ่างทีละนิด พลางเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะไม้ แง้มม่านเล็กน้อยแล้วมองออกไปด้านนอก
ลูเมี่ยนรอจนกระทั่งข้ารับใช้ของพวกภูต ซึ่งเป็นร่างมนุษย์รางเลือนที่แผ่แสงสลัว ใบหน้าเรียบเฉยว่างเปล่า ตรวจตราบริเวณนี้เสร็จเรียบร้อยแล้วหายตัวไปในอากาศ จึงค่อยหยิบต่างหู ‘คำลวง’ สีขาวเงินออกมา สวมไว้ที่หูซ้าย
เด็กหนุ่มรีบแปลงกายเป็นนางเฟลส์ เดินลงชั้นล่างโดยทำทีเหมือนกำลังตรวจสภาพห้องต่างๆ
จากนั้นก็แปลงกายอีกครั้ง เป็นพ่อค้าที่บ้านอยู่ไกล เดินผ่านหน้านางเฟลส์ออกจากโรงแรมระกาทองไป
ที่นี่คือถิ่นของเขา ต่อให้เป็นภาพจำลองหรือภาพสะท้อน แต่ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับการที่เขารู้จักตัวละครและสภาพแวดล้อมในละแวกนี้เป็นอย่างดี
ลูเมี่ยนไม่รีบร้อนมุ่งหน้าไปยังถนนเสื้อนอกขาว แต่อ้อมไปทางถนนไนติงเกลก่อน เพื่อแวะบ้านลับของตน
พอเปิดประตูเข้าไป คิ้วของเด็กหนุ่มก็ขมวดเข้าหากัน
จากบรรดากับดักมากมายที่เขาเตรียมไว้ กลับเหลือแค่อันตรงประตูซึ่งเรียบง่ายที่สุด
ลูเมี่ยนกวาดตาไปทั่วห้องทันที แต่ก็ไม่พบหนังสัตว์ปลุกเสก รวมถึงหนังวัวหนังหมาที่ใช้แล้ว ซึ่งมีอยู่ในโลกความเป็นจริง
“ไม่ได้เหมือนทุกกระเบียดนิ้วสินะ…” เขาพึมพำกับตัวเองไร้เสียง
เด็กหนุ่มยิ่งรู้สึกว่า โลกนี้กับเขตตลาดของจริงคล้ายคลึงกันแค่ภายนอกเป็นหลัก เพราะในห้องที่ควรจะเต็มไปด้วยกับดัก รายละเอียดส่วนใหญ่กลับผิดไปจากความเป็นจริงมาก
“ยังกับแค่มองคร่าวๆ จากภายนอกแล้วเลียนแบบเฉพาะห้องสำคัญๆ …เหมือนกับ เหมือนกับ…” รูม่านตาของลูเมี่ยนเบิกกว้างฉับพลัน ในใจผุดข้อสันนิษฐานบางอย่าง
ยังกับการวาดภาพ!
…………
ถนนเสื้อนอกขาวปลอม บ้านเลขที่ 3 อพาร์ตเมนต์ 601
หลังจากจินนาถือเหรียญทองนำโชคแล้วสวดวิงวอนถึงมิสเตอร์ฟูลอย่างเรียบง่าย หมอกสีเทาก็ปรากฏตรงหน้าทันที แต่ไม่นานก็หายวับไป
“ด…ได้ผล!” จินนาพึมพำตะกุกตะกัก
เหรียญทองนำโชคนั่น ช่วยนำโชคอย่างแท้จริง!
จินนาไม่ได้รับวิวรณ์ใด จึงต้องอดทนต่อไป สวมบทบาทเป็นตัวปลอมของตัวเอง จัดห้องสลับกับเช็ดโต๊ะกาแฟซ้ำไปซ้ำมา
ทันใดนั้น จินนาได้ยินเสียงเปิดประตู จึงหันขวับไปมองโดยไม่ทันคิด ส่วนฟรังก้าปลอมแทบไม่ตอบสนอง ยังคงทำสิ่งที่เคยทำเช่นเคย
สายตาของจินนาประสานกับลูเมี่ยนผมดำสลับบลอนด์ ฝ่ายแรกรีบชักหน้ากลับตามสัญชาตญาณ พยายามสวมรอยเป็นตัวปลอมให้แนบเนียน พยายามปั้นหน้าให้ดูว่างเปล่าไร้อารมณ์
เธอยังไม่แน่ใจว่า ชาร์ลที่เปิดประตูเข้ามาเป็นตัวจริงหรือปลอม
วินาทีถัดมา หญิงสาวได้ยินเสียงคุ้นเคยแฝงคำเสียดสี
“อยู่นี่จริงด้วย อย่างคุณคงนึกถึงได้แค่ที่นี่สินะ?”
……………………………………………………..