ราชันเร้นลับ 2 : วัฏจักรแห่งชะตา (Circle of Inevitability) - ตอนที่ 439 สามคำถาม
ตอนที่ 439 สามคำถาม
……….
เนื่องจากมีแฮงแมนอยู่ด้วย ไม่ต้องกังวลว่าจะถูกเกราะซ่อนเงาโจมตี ลูเมี่ยนจึงมิได้อัญเชิญในนามของเดอะฟูล แต่อาศัยวิธีง่ายๆ อย่างการสร้างกำแพงวิญญาณ แล้วอัญเชิญเหมือนผู้ส่งสาร
เบื้องหน้าเปลวเทียนสีเขียวที่ขยายใหญ่ เงาอันพร่ามัวในชุดเกราะสีดำคล้ายเกล็ดปลาที่เคลือบสีทองจำนวนมาก กำลังลอยนิ่งอยู่กลางอากาศ
ใบหน้าเล็กจิ๋วบนเกล็ดแต่ละแผ่น ต่างก็บิดเบี้ยวอย่างดุร้าย กรีดร้องอย่างไร้เสียง ไม่เก็บซ่อนความทุกข์ทรมานของตน ส่งผลให้พวกมันเคียดแค้นและเกลียดชังสิ่งมีชีวิตโดยรอบ
แฮงแมนอัลเจอร์ในชุดลูกเรือ ก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ส่งผลให้ในกำแพงวิญญาณมีสายฟ้าสีเงินขาวแวบวาบหนึ่งครั้ง
พวกมันหายวับในพริบตา แล้วก็โผล่กลับมาใหม่ จนเส้นขนทั่วร่างลูเมี่ยนกับฟรังก้าลุกชูชัน ตามตัวรู้สึกชาซาบซ่าน
ท่ามกลางบรรยากาศอึดอัดเหมือนพายุก่อตัว ใบหน้าโปร่งใสนับไม่ถ้วนบนเกล็ดของเกราะซ่อนเงากลับสู่ความสงบ แต่สายตายังคงเปี่ยมไปด้วยความเกลียดชัง
ลูเมี่ยนมองแท่งทองหกแท่งบนแท่นบูชา ทำใจให้สงบแล้วกล่าวเป็นภาษาเฮอร์มิส
“ข้าขอถวายเครื่องบูชา จงตอบคำถามมาสามข้อ”
ใบหน้าอันเลือนรางนับไม่ถ้วนบนเกาะซ่อนเงา ล้วนหันมามองทองคำที่ส่องประกายเย้ายวน พลางส่งความรู้สึก ‘ได้’ ให้ลูเมี่ยน
จากนั้น ลูเมี่ยนผงกศีรษะให้แฮงแมน
เขาครุ่นคิดสักพัก แล้วเริ่มคำถามแรก
“เจ้าเป็นใคร”
ลูเมี่ยนทวนคำถามเป็นภาษาเฮอร์มิส ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ และในฐานะสัตว์พันธสัญญาของเด็กหนุ่ม เกราะซ่อนเงาจะสื่อสารกับเขาเท่านั้น
หลังจากความเงียบชั่วครู่ เป็นอีกครั้งที่เกราะซ่อนเงาพูดภาษาซึ่งมีเพียงฟรังก้าที่เข้าใจ
“ปรมาจารย์สวรรค์ทรงโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ให้เป็นเทพผู้ปราบผี นามของข้าคือเฉินถู”
ปรมาจารย์สวรรค์…ฟรังก้าครุ่นคิดหลายวินาที รีบกลั่นออกมาเป็นภาษาปัจจุบัน
“เขาแซ่เฉิน ชื่อถู เป็นเทพที่ผู้นำศาสนาเต๋าโปรดเกล้าฯ ให้คอยปราบปรามวิญญาณมาร”
“ศาสนาเต๋าคืออะไร” แฮงแมนถามด้วยสีหน้าใคร่ครวญ
“โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งคืออะไร” ลูเมี่ยนหันข้างไปมองฟรังก้า ถามเป็นภาษาอินทิสแทน
ในความคิดของเขา หากเรียกว่าศาสนา ไม่ว่าจะต่อท้ายด้วยอะไร ก็คงไม่ต่างจากศาสนาเดอะฟูล หรือศาสนาสุริยันเจิดจรัส
ฟรังก้าทำหน้าลำบากใจ
“สองคำถามนี้ต้องเล่ายาว ไว้ค่อยอธิบายทีหลัง ฉันกลัวว่าเกราะซ่อนเงาจะรอไม่ได้นาน”
ก็จริง…ลูเมี่ยนหันไปมองมิสเตอร์แฮงแมน
แฮงแมนครุ่นคิดสักพัก ก่อนจะถามเรื่องที่สอง
ลูเมี่ยนช่วยแปลเป็นภาษาเฮอร์มิส
“ทางฝั่งทะเลตะวันออกมีอะไรพิเศษบ้าง”
เกราะซ่อนเงาตอบด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมทรงอำนาจ
“ในทะเลตะวันออกมีเขาเซียน หายสาบสูญไปตั้งแต่โบราณ ชื่อเผิงไหล”
เผิงไหล…เป็นบ้านเกิดเราจริงๆ …ฟรังก้ายินดีปรีดาอยู่ในใจ ความเร็วในการแปลเพิ่มขึ้น
“ในทะเลตะวันออกมียอดเขาซึ่งเป็นถิ่นพำนักของจอมเวทและเทพพิเศษหลายองค์ มันหายไปตั้งแต่โบราณกาล ชื่อว่าเผิงไหล”
คำตอบนี้เข้าใจง่ายมาก ไม่ว่าจะลูเมี่ยนหรือแฮงแมน ต่างก็ไม่มีข้อสงสัย
ผ่านไปสักครู่ แฮงแมนอัลเจอร์ถามอย่างช้าๆ
“ช่วงไม่กี่ปีมานี้ ทะเลตะวันออกเกิดความผิดปกติใดบ้างไหม”
ไม่กี่ปีมานี้? เกราะซ่อนเงาต้องสงสัยว่าถูกสังหารโดย ‘นักพรตโลกแห่งความตาย’ แล้วถูกจองจำ ถูกนำไปยังน้ำพุเหลือง ซึ่งช่วงเวลาที่นักพรตโลกแห่งความตายสละชีพลงน้ำ ก็น่าจะราวๆ หนึ่งถึงสองพันปีก่อน ตรงกับช่วงเวลาที่จักรพรรดิโลหิตเพิ่งร่วงหล่น แล้วเกราะซ่อนเงาจะรู้สถานการณ์โลกภายนอกในช่วงไม่กี่ปีหลังได้ยังไง? ฟรังก้าได้ฟังแล้วก็ฉงนใจ แต่ไม่กล้าขัดคำพูดมิสเตอร์แฮงแมน
หลังจากลูเมี่ยนทวนซ้ำ เกราะซ่อนเงาก็ตอบเสียงเย็น
“มีศพจากเผิงไหลลอยตามแม่น้ำมา…”
พอได้ฟัง ฟรังก้าก็ยิ่งงุนงง รีบโพล่งออกมา
“ยอดเขาที่ชื่อเผิงไหลปรากฏตัวอีกครั้ง จอมเวททรงพลังหรือเทพพิเศษบนนั้นเสียชีวิต ศพลอยไปยังสถานที่ซึ่งอาจเป็นแม่น้ำโลกแห่งความตาย! หรือก็คือ แม่น้ำที่จักรพรรดิโลหิตอลิสต้า·ทูดอร์ถูกนักพรตโลกแห่งความตายปราบ ต้นกำเนิดของบ่อน้ำสตรีซามาเรียนั่นแหละ!”
หรือก็คือ ทะเลตะวันออกในโลกที่เกราะซ่อนเงาอาศัยอยู่ เกิดความเปลี่ยนแปลงที่ผิดปกติในช่วงไม่กี่ปีหลัง…เขาเซียนเผิงไหลที่เคยหายไป กลับมาปรากฏตัวอีกครั้ง โดยที่พวกผู้วิเศษบนนั้นเสียชีวิต? เขาเผิงไหลนั่นตั้งตระหง่านบนทะเลตะวันออกตลอดเวลา หรือผลุบๆ โผล่ๆ เป็นครั้งคราว? ลูเมี่ยนอยากถามใจจะขาด แต่กฎการอัญเชิญไม่อนุญาตให้ถามมากกว่านี้แล้ว
ทองคำหกแท่งบนแท่นบูชาพลันแตกสลาย กลายเป็นประกายแสงใสบริสุทธิ์ ซึมซาบเข้าไปในเกราะเกล็ดปลาสีดำ
คราวนี้ เกล็ดปลาเกือบหนึ่งในห้าถูกย้อมเป็นสีทอง ทวีความศักดิ์สิทธิ์มากยิ่งขึ้น
แฮงแมนเพียงมองดูเกราะซ่อนเงาหายลับไปในเปลวเทียนสีเขียวเข้ม ไม่พูดไม่จาเป็นเวลานาน ไม่มีใครรู้ว่ากำลังคิดสิ่งใด
ลูเมี่ยนยุติพิธีกรรม รีบเก็บกวาดแท่นบูชา แล้วหันไปพูดกับฟรังก้า
“คุณอธิบายคำตอบแรกได้แล้ว”
แกล้งกันอยู่หรือไง! ฟรังก้าบ่นในใจ แล้วพูดด้วยสีหน้าครุ่นคิด
“โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งก็เหมือนกับ…เหมือน ‘พร’ นั่นแหละ!”
“เกราะซ่อนเงามีนามว่าเฉินถู ได้รับพระราชทานตำแหน่งในศาสนจักรหรือในอาณาจักรแห่งเทพ จึงได้รับพรที่มาพร้อมกับพลัง สามารถปราบปรามวิญญาณมาร”
“นี่มิใช่การประทานพรจากเทพโดยตรง แต่เป็นผู้นำศาสนา ซึ่งเป็นตัวแทนของเทพ ประกอบพิธีมอบตำแหน่งเพื่อมอบ ‘พร’”
ลูเมี่ยนฟังอย่างตั้งใจ เริ่มเข้าใจหลักการของ ‘โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง’ มากขึ้น
มันคือระบบพรที่มีความเป็นทางการกว่าปกติ ไม่เพียงผูกติดพลังอำนาจของพรเข้ากับ ‘ตำแหน่ง’ อย่างแน่นแฟ้น แต่ยังให้ตัวแทนเทพมีบทบาทมากขึ้น
“ก็ทำนองนั้นแหละ ถ้าจะให้ลงลึกรายละเอียด มันพัวพันกับหลายเรื่องเกินไป ไม่มีทางเล่าจบในเวลาอันสั้น อย่างเช่น สวรรค์ ใต้พิภพ วิถีแห่งพิธี รับยันต์เต๋า อะไรพวกนี้ หลายอย่างฉันก็ยังไม่เข้าใจดี แค่รู้จักเชื่อเฉยๆ” ฟรังก้าถอนหายใจแรง
เห็นมิสเตอร์แฮงแมนกับลูเมี่ยนยังคงมองมา เธอสะดุ้งในใจ
“พวกคุณ…คงไม่คิดจะให้ฉันเล่าจริงๆ ใช่ไหม?”
แฮงแมนพยักหน้าเล็กน้อย
“ผมเข้าใจว่าถ้าให้เล่าเลยคงลำบาก อาจเกิดข้อผิดพลาดได้ไม่น้อย ดังนั้น คุณกลับไปค่อยๆ ทบทวนอย่างถี่ถ้วน เรียบเรียงใส่เอกสาร แล้วส่งให้ผมผ่านไพ่อาร์คาน่าใหญ่ของคุณ”
“ตกลง” ฟรังก้าโล่งใจที่มิสเตอร์แฮงแมนเป็นคนใจดี มีเหตุผล เห็นอกเห็นใจผู้อื่น แต่ทันใดนั้นก็บ่นในใจ
ทำไมเราถึงยอมตกลงง่ายๆ เลยล่ะ…
บรรยากาศรอบตัวแฮงแมนอาจดูน่าเกรงขาม แต่มิได้หยิ่งผยอง เขายิ้มพลางเอ่ยปาก
“จัดการเอกสารเสร็จเมื่อไร คุณคิดของรางวัลเตรียมไว้ได้เลย”
ฟรังก้ามีหลายอย่างที่อยากได้ เช่นสมบัติวิเศษที่คล้ายกับวิชาฮึ่มฮ่า หรือสมบัติปิดผนึกที่ช่วย ‘เทเลพอร์ต’ หรือสูตรโอสถลำดับ 5 ‘นางมารทุกข์ระทม’
เธอเกิดความขัดแย้งภายในใจทันที มัวแต่คิดถึงค่าตอบแทนล่วงหน้า จนเกือบลืมอธิบายคำว่า ‘ศาสนาเต๋า’ ให้แฮงแมน จนกระทั่งลูเมี่ยนเตือน
คิดอยู่สักสิบยี่สิบวินาที ฟรังก้าอธิบายอย่างกระชับ
“เป็นศาสนาที่นับถือ ‘กฎเกณฑ์ของโลก’ รวมถึงหลักปรัชญาที่สัมพันธ์กัน แล้วอุปโลกน์ให้เป็นเทพพิเศษหลายๆ พระองค์เพื่อเคารพบูชา ผู้นำของศาสนาถูกเรียกว่า ‘ปรมาจารย์สวรรค์’ หมายถึงอาจารย์ผู้เข้าใจ ‘วิถีสวรรค์’ แล้วเผยแผ่มัน อา…ฉันเข้าใจแบบนี้ ส่วน ‘วิถีสวรรค์’ คือกฎของการปฏิบัติตัว รวมถึงหลักปรัชญาที่สอดคล้องกับโลก ตามที่เล่าไปแล้วข้างต้น”
“ปรมาจารย์สวรรค์ก็เหมือนกับสันตะปาปา พระสังฆราช พระราชาคณะ หรือนายหญิงสินะ? เป็นคำเรียกผู้นำในศาสนาต่างๆ” ลูเมี่ยนพยายามสกัดใจความสำคัญ
ฟรังก้าเงียบไปครู่หนึ่ง
“จะเข้าใจแบบนั้นก็ได้”
ตราบใดที่ไม่คิดจะนับถือเต๋า การเข้าใจแบบนี้ก็ไม่ถือว่าผิดร้ายแรง
ลูเมี่ยนพยักหน้ารับ
“จากเท่าที่ฟัง ยังกับ ‘ปรมาจารย์สวรรค์’ กับ ‘นักพรตโลกวิญญาณ’ จะอยู่ลำดับชั้นเดียวกันเลย”
“ฉันก็คิดแบบนั้น” ฟรังก้าเห็นด้วยอย่างมาก
ขณะทั้งสองพูดคุยกัน แฮงแมนอัลเจอร์แทบไม่แทรกบทสนทนา คอยเงียบฟังเป็นส่วนใหญ่ แสดงความคิดเห็นหรือซักถามเป็นครั้งคราวเท่านั้น ทำให้การสนทนาดำเนินไปอย่างราบรื่น ลูเมี่ยนกับฟรังก้าได้พูดคุยกันยาวๆ ในคราวเดียว
สุดท้าย ผู้ถือไพ่อาร์คาน่าใหญ่รายนี้มองไปทางลูเมี่ยน
“คำตอบสามข้อจากเกราะซ่อนเงาช่วยผมได้มาก คุณอยากได้อะไรตอบแทนล่ะ”
ช่วยได้มาก? นอกเหนือจากเรื่องที่พวกเราเข้าใจโลกนั้นมากขึ้น ได้รู้ว่าภูเขาเซียนเผิงไหลที่หายไป กลับมาปรากฏอีกครั้ง ก็แทบจะหาสาระสำคัญอื่นไม่ได้แล้ว… ลูเมี่ยนทำตามคำแนะนำของมาดามเมจิกเชี่ยน เอ่ยปากโดยไม่ลังเล
“ผมอยากสำรวจเรือผีลำนี้”
ฟรังก้าไม่คิดว่าจะลูเมี่ยนจะขออะไรแบบนี้ ทีแรกก็ตกใจ แต่ไม่นานก็เริ่มตื่นเต้น
ฉันก็อยากสำรวจบ้าง! อยากลองขับเรือผี อยากลองศึกษาเรือผี!
แฮงแมนมองลูเมี่ยนครู่หนึ่ง
“คุณสัมผัสถึงความพิเศษของ ‘โทสะสีคราม’ ได้จริงๆ สินะ? มันคือหนึ่งในมรดกจากจักรวรรดิทูดอร์ อยากลองสำรวจเลยไหม?”
ลูเมี่ยนยังไม่ทันได้ตอบ ภายในใจก็พลันมีเสียงอันน่าเกรงขามของเทอร์มีโพลอสดังก้อง
“อันตราย”
อันตราย…แน่หรือ? เทอร์มีโพลอสแค่กลัวว่าจะถูกเราลากไปพัวพัน จึงออกปากตักเตือน หรือกลัวว่าเราจะได้รับสิ่งพิเศษระหว่างสำรวจ ‘โทสะสีคราม’ ซึ่งอาจทำลายหายนะที่ซ่อนเร้นในกรุงทรีอาร์ จนแผนการของพระองค์กลายเป็นหมัน? ลูเมี่ยนไม่รู้ว่าควรเชื่อคำพูดของเทอร์มีโพลอสดีไหม
เทอร์มีโพลอสกล่าวด้วยเสียงทุ้มนุ่ม
“ถ้าเจ้าอยากให้อลิสต้า·ทูดอร์คืนชีพในร่าง ก็เชิญสำรวจได้เลย”
ลูเมี่ยนมิได้ตื่นตระหนกกับคำเตือนของเทอร์มีโพลอส แต่ยังไม่ลืมคำแนะนำของมาดามเมจิกเชี่ยน
ความหมายโดยนัยคือ เราสามารถพิจารณาเลื่อนออกไปได้? ไม่อย่างนั้นก็ไม่มีความจำเป็นต้องพูดประโยคดังกล่าว แค่บอกว่า ‘สามารถเลือกสำรวจเรือเป็นค่าตอบแทน’ ก็พอแล้ว…แนวคิดโปรดของโอลัวร์คือ ‘ความสมดุล’ ตอนนี้อิทธิพลเชิงลบในตัวเรากำลังสมดุลดี ไม่มีความจำเป็นต้องเร่งเสริมออร่าของจักรพรรดิโลหิต…ลูเมี่ยนที่กลายเป็น ‘นักวางแผน’ คิดไวทำไว
“มิสเตอร์แฮงแมนครับ ผมอยากสำรวจโทสะสีครามในเวลาที่เหมาะสม”
……………………………………………………..