ราชันเร้นลับ 2 : วัฏจักรแห่งชะตา (Circle of Inevitability) - ตอนที่ 412 ชำระล้าง
ตอนที่ 412 ชำระล้าง
……….
007 ผู้สวมหัวสิงโต คิดสักครู่แล้วพูด
“ผมได้ยินเพียงข่าวลือว่า ‘นักเชิดหุ่น’ คนนั้นหายตัวไปพร้อมกับเอกสารลับบางอย่าง”
“ไม่มีของแบบนั้นหรอก” เนื่องจาก 007 คาดเดาได้ถูกต้องแม่นยำ ว่าในคืนนั้น พวกเธอสองคนร่วมมือกับเฮล่า เพื่อจัดการกับโลกิ ฟรังก้าจึงเลิกปกปิด ด้วยการปฏิเสธข่าวลือดังกล่าว
โลกิไม่ได้พกเอกสารติดตัวเลยสักชิ้น!
007 มิได้โต้แย้ง เพียงทบทวนเนื้อหาข่าวลือของตน
“ดูเหมือนว่าเอกสารลับดังกล่าว จะเกี่ยวข้องกับสมบัติที่องค์กรลับสักแห่งทิ้งไว้”
สมบัติที่ถูกทิ้งไว้…ลูเมี่ยนกับฟรังก้า ต่างก็นึกถึงปราสาทโบราณ ‘เดอลาน’ ที่ ‘ฉันมีเพื่อนอยู่คนนึง’ เคยพูดถึง
ยังไม่รู้ว่าปราสาทลึกลับหลังดังกล่าว ซ่อนอยู่แห่งหนตำบลใด อีกทั้ง ฉากหลักในความฝันของโลกิ ก็เป็นปราสาทโบราณสูงตระหง่านหม่นหมอง
007 เล่าต่อ
“สมาชิกบางคนของหน่วยแปดก็สงสัยว่า กลิ่นอายอันน่าพรั่นพรึงที่เกิดขึ้นในคืนนั้น อาจเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของ ‘นักเชิดหุ่น’… หัวหน้าหน่วยข่าวกรองที่ชื่ออ็องตวน พยายามสืบสวนรายละเอียดในคืนนั้นซ้ำๆ”
อ็องตวน…เขาเชื่อว่าโลกิคงไม่หายตัวไปเองแน่ ต้องเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นสักอย่างสินะ? ลูเมี่ยนจดชื่อนี้ไว้
หลังจากเล่าข่าวลือจบ 007 มองมักเกิ้ลด้วยสายตาติดตลก
“คุณไม่ควรอยู่เขตตลาดนะ ‘ดาบซ่อนแขน’ ก่อความวุ่นวายไว้เพียบ จนกลายเป็นสถานที่อันตรายไปแล้ว”
“ใครบอก ที่นี่เป็นระเบียบเรียบร้อยขึ้นตั้งเยอะ!” ฟรังก้าแย้งกลับอย่างมั่นใจ
หลังจากเธอกับลูเมี่ยน กวาดล้างพวกหัวหน้าหน่วยแก๊งหนามพิษจนเกลี้ยงเกลา เขตตลาดก็เหลือเพียงพรรคซาฟาห์ครองอำนาจฝ่ายเดียว อัตราการเกิดเหตุร้าย เช่นการต่อสู้ระหว่างแก๊ง การยิงสังหาร ลดลงไปหลายระดับ ทุกสิ่งเริ่มเข้ารูปเข้ารอยตามครรลอง
007 ถอนหายใจแล้วพูด
“นั่นก็แค่ผิวเผิน ความจริงแล้วคดีเหนือธรรมชาติมีมากกว่าแต่ก่อน”
“เฮ้อ…ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ผมจะได้หยุดพักยาวสักที”
ลูเมี่ยน ผู้สวมรอยเป็นมักเกิ้ล พูดคุยเล่นกับ 007 อีกสองสามประโยค แล้วเดินกลับไปหากลุ่ม ‘วิทยาลัย’
‘ศาสตราจารย์’ ผู้สวมหน้ากากผีเสื้อสีดำ เดินเข้าใกล้เด็กหนุ่ม กระซิบกระซาบด้วยความเสียดาย
“ก่อนหน้านี้ ฉันเคยเข้าใจว่าคุณมีปัญหาเพราะเสียงกระซิบของ ‘ปราชญ์เร้นลับ’ เลยหยุดพักผ่อนไปสักพัก ใครจะคิดว่าเป็นฝีมือพวกโลกิ”
เธอสบถด่าพวกโลกิพอเป็นพิธี แล้วก็ถามเพื่อยืนยันกับมักเกิ้ล
“คุณสังเกตไหมว่า ในช่วงไม่กี่เดือนหลัง เสียงกระซิบของ ‘ปราชญ์เร้นลับ’ เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่น่ากังวล?”
ในสมุดบันทึกเวทมนตร์ โอลัวร์ไม่ได้เขียนเรื่องพวกนี้ไว้…ลูเมี่ยนใช้เวลาคิดอยู่สองสามวินาที ก่อนจะเผยรอยยิ้มเจือความเศร้า
“ฉันไม่เป็น…”
“คุณก็ได้ทราบไปแล้ว ในช่วงต้นปีมานี้ ฉันได้รับผลกระทบจาก ‘มนตร์เรียกวิญญาณ’ อย่างหนัก สภาพจิตใจไม่ปกติเลย ไม่นานมานี้ก็ต้องผนึกบุคลิกแตกแยก ปัญหาในตัวยังไม่ถูกแก้ไขอย่างกระจ่าง…เฮ้อ…ฉันน่าจะรีบย่อยโอสถของ ‘จอมเวท’ ให้เสร็จๆ ไปตั้งนาน แล้วเตรียมวัตถุดิบเพื่อเลื่อนลำดับ แต่ตอนนี้ไม่กล้าจริงๆ”
‘ศาสตราจารย์’ แสดงความเข้าใจ แล้วเน้นย้ำอย่างตั้งใจ
“ปลอดภัยไว้ก่อนดีแล้ว ก่อนที่ปัญหาทางใจจะหายดีและกลับเป็นปกติ อย่าได้คิดดื่มโอสถเชียว”
พูดถึงตรงนี้ เสียงของเธอก็เบาลงอีกนิด
“ฉันพบว่า ในเสียงกระซิบของ ‘ปราชญ์เร้นลับ’ มี ‘ปัญญาไล่ล่าคน’ ปะปนอยู่มากขึ้น โดยมันคือ ‘ความรู้’ ที่จะตามล่าคุณ พยายามทุกวิถีทางเพื่อให้ได้เข้าไปในความคิดคุณ นั่นทำให้การเลื่อนขั้นของผู้วิเศษเส้นทาง ‘ผู้ส่องความลับ’ อย่างพวกเรา อันตรายยิ่งกว่าแต่ก่อน”
ความรู้ที่ไล่ล่าเป้าหมายมีมากขึ้น…สถานะของ ‘ปราชญ์เร้นลับ’ เปลี่ยนแปลงไปหรืออย่างไร? ลูเมี่ยนเคยได้ยินโอลัวร์กล่าวถึงเรื่อง ‘ปัญญาไล่ล่าคน’ มาก่อน จึงมิได้ออกท่าทีงุนงงหรือสับสน
เด็กหนุ่มพยักหน้ารับขึงขัง แล้วกล่าว
“ฉันจะระวัง”
‘ศาสตราจารย์’ ไม่สานต่อบทสนทนาเดิม แต่เปลี่ยนไปคุยเรื่องรายละเอียดสัญญากับ ‘รองศาสตราจารย์’ และชาวกลุ่ม ‘วิทยาลัย’ แน่นอนว่าลูเมี่ยนในบทบาท ‘มักเกิ้ล’ ก็เข้าร่วมด้วย
ใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมง แต่ละกลุ่มก็รวบรวมความเห็นของสมาชิก เขียนลงบนกระดาษ แล้วส่งให้ ‘คณะกรรมการตรวจสอบ’
หลังจากแกนดาล์ฟ เฮล่า กับคนที่เหลือได้รวบรวม คัดเลือก อธิบาย และอภิปรายร่วมกับสมาชิกสมาคมวิจัยฯ ทุกคนอย่างเข้มข้น รายละเอียดของสัญญาถูกกำหนดขึ้น
อาจเพราะทุกคนเข้าใจกันโดยปริยายว่า ทุกคนที่เข้าร่วมชุมนุมใน ‘อาณาจักรราตรี’ ล้วนเป็นผู้ข้ามมิติอยู่แล้ว จึงไม่มีข้อกำหนดใดระบุว่า สมาชิกของสมาคมวิจัยลิงบาบูนขนหยิกต้องผ่านเงื่อนไขดังกล่าว หรือต้องมาจากโลกเดียวกัน เฮล่าทราบช่องโหว่นี้ แต่ก็จงใจไม่พูดถึง ช่วยให้ลูเมี่ยนมีคุณสมบัติครบถ้วน และเต็มใจจะปฏิบัติตามข้อกำหนดในสัญญา โดยจะไม่แอบสืบสวนตัวจริงของสมาชิกสมาคมฯ และไม่ตั้งใจทำร้ายกันเอง
ในแง่นี้มีข้อยกเว้นบางประการ นั่นคือสัญญาจะให้สิทธิ์แก่ ‘คณะกรรมการตรวจสอบ’ ในการสอบสวนสมาชิกที่มีพิรุธ แต่ไม่สามารถตัดสินหรือลงโทษได้ตามลำพัง ต้องเรียกประชุมพิเศษ แจ้งสถานการณ์ให้สมาชิกทุกคนทราบ แล้วให้ทุกคนลงคะแนนว่ามีความผิดหรือไม่ พร้อมทั้งกำหนดขอบเขตบทลงโทษคร่าวๆ
โลกิกับพรรคพวกที่กำลังถูกตามล่าอยู่ มิได้อยู่ภายใต้ความคุ้มครองดังกล่าว ไม่ว่าใครก็สามารถประหารพวกเขาได้
เมื่อสัญญาผ่านการอนุมัติ ‘ดาบซ่อนแขน’ ฟรังก้าที่ยืนอยู่ข้างๆ ลูเมี่ยน ก็ถอนหายใจโล่งอก พลางเปล่งความรู้สึกจากก้นบึ้งออกมา
“ถ้าทุกคนเซ็นสัญญาเมื่อไร สมาคมจะกลายเป็นองค์กรลับอย่างแท้จริงทันที”
“ก่อนหน้านี้ยังหย่อนยานเกินไป หละหลวมเกินไป หลายเรื่องขึ้นอยู่กับจิตสำนึกของแต่ละคน”
ลูเมี่ยน ผู้เผยให้เห็นเพียงครึ่งล่างของใบหน้าโอลัวร์ ยิ้มแล้วพูด
“ก็ก่อนหน้านี้ พวกคุณมารวมตัวกันโดยไม่ได้คิดจะทำการใหญ่ ไม่ได้ออกแบบลำดับชั้นในองค์กรอย่างเคร่งครัด เป็นธรรมดาที่จะอิสระแต่หย่อนยาน”
องค์กรที่หละหลวมจะเติบโตได้ก็ต่อเมื่อ ผ่านการโหมกระหน่ำโดยพายุฝน
ระหว่างที่รอรองประธาน ‘อะพอลโล’ ทำสัญญาศาสตร์เร้นลับขนาดมหึมา แต่ละกลุ่มก็เริ่มเสวนากันตามปกติ
ครั้งนี้ ทุกกลุ่มต่างพูดถึงพฤติกรรมของพวกโลกิ รวมถึงผู้ที่อาจเป็นสมุนของพวกเขา
แกนดาล์ฟ ครูใหญ่ เฮล่า ดาบซ่อนแขน และคนที่เหลือ เทียวเดินไปมาระหว่างกลุ่มต่างๆ เพื่อสังเกตปฏิกิริยาของสมาชิกแต่ละคน
ทันใดนั้น สมาชิกสมาคมที่ปลอมตัวเป็นม้า เริ่มแอบท่องคาถาเพื่อออกจากอาณาจักรราตรี ราวกับต้องการหนีก่อนที่ ‘คณะกรรมการตรวจสอบ’ จะลาดตระเวนมาถึงตัว
“ผู้ก้าวข้ามจากโบราณกาล…ผู้ปกครองสูงสุดแห่งอาณาจักรราตรี…องค์มารดาผู้ยิ่งใหญ่แห่งผืนนภา…”
เสียงนี้ก้องกังวานอยู่ในพระราชวังโบราณ แต่ร่างดังกล่าวยังไม่ทันได้ท่องคาถาจบ ก็ต้องหลับตาลง ล้มลงไปนอนสลบ
ชาวสมาคมวิจัยลิงบาบูนขนหยิกรอบๆ ต่างผงะตกใจไปครู่หนึ่ง แต่แล้วก็เข้าใจความเป็นไป
พวกเขาทยอยก่นด่า
“ไอ้คนทรยศ!”
นี่คือสมุนที่โลกิซ่อนเอาไว้
หลังจากควบคุมตัวสายลับคนนี้ได้ ‘คณะกรรมการตรวจสอบ’ ก็ลาดตระเวนต่อไป
สิบห้านาทีต่อมา สัญญาฉบับมหึมา ขนาดเท่ากับโต๊ะอาหารสองตัวรวมกัน ก็ถูกร่างขึ้นจนเสร็จ โดยมีลายเซ็นของ ‘ผู้รับรอง’ อยู่บนนั้นแล้ว
รองประธาน ‘อะพอลโล’ อ่อนเพลียจนต้องกินยาที่แกนดาล์ฟเตรียมไว้ให้ เพื่อบรรเทาอาการล้าทางใจ
ถัดมา ชาวสมาคมวิจัยลิงบาบูนขนหยิกทยอยเดินขึ้นบันไดเรียงหนึ่ง ต่างก็อ่านสัญญา แล้วลงนามด้วยโค้ดเนมของตนที่ใช้มาหลายปี โดยมี ‘คณะกรรมการตรวจสอบ’ เป็นสักขีพยาน
ในระหว่างนี้ หมอกด้านนอกพระราชวังโบราณยิ่งรวมตัวหนาแน่นราวกับกำลังปิดกั้นการแทรกแซงจากภายนอกที่อาจเกิดขึ้น
เมื่อสมาชิกทุกคนเซ็นเสร็จ ก็มีสายลับอีกสามคนถูกจับได้
หนึ่งในนั้น หลังจากงกๆ เงิ่นๆ เซ็นสัญญา คนทั้งคนก็กลายคบเพลิงแสง อีกคนพยายามจะจับเพื่อนข้างๆ เป็นตัวประกัน แต่กลับหลับไปเสียก่อน ส่วนอีกคนที่เห็นเหตุการณ์เหล่านี้แล้ว เลือกที่จะสารภาพหมดเปลือก
หลังจากให้เสียงส่วนใหญ่ลงคะแนน คนที่สารภาพก็ถูกส่งให้ ‘นักสะกดจิต’ จัดการ ลบความทรงจำที่เกี่ยวข้อง แล้วถูกขับออกจากสมาคม ส่วนอีกสามคนที่เหลือกลายเป็น ‘ตะกอนพลัง’
เฮล่ากล่าวต่อไป
“ฉันกับแกนดาล์ฟจะไปตรวจสอบสถานการณ์ของครอบครัวสมาชิกเหล่านี้ หากพวกเขาเป็นคนธรรมดา ไม่มีปัญหาอะไร ฉันขอเสนอให้นำตะกอนพลังไปประมูล แลกเป็นเงิน แล้วมอบให้พวกเขา นี่คือการชดเชย”
นี่มิใช่การชดเชยต่อความผิด แต่ชดเชยเรื่องที่สมาชิกเหล่านี้จะไม่สามารถจุนเจือ ‘ครอบครัว’ ตัวเองได้อีก
ชาวสมาคมวิจัยฯ ได้ข้ามมายังโลกนี้นานห้าหกปีแล้ว หลายคนมีคู่ครอง มีลูก เมื่อได้ยินก็รู้สึกสะเทือนใจ เห็นว่าไม่ควรทำร้ายถึงครอบครัว
ลูเมี่ยนไม่มีความเห็น โดยยังคงมองว่าตัวเองเป็นคนนอก
ในเวลาที่เหลือ เด็กหนุ่มตระเวนไปตามกลุ่มย่อย อาศัยคำแนะนำของ ‘ดาบซ่อนแขน’ ฟรังก้า เขาได้พบกับ ‘ช่างฝีมือ’ สองคนที่สามารถสร้างสมบัติวิเศษ
เด็กหนุ่มไม่รีบติดต่อกับ ‘ช่างฝีมือ’ แล้วส่งตะกอนพลัง ‘นักสะกดจิต’ จาก ‘ฉันมีเพื่อนอยู่คนนึง’ ให้ทันที โดยกะว่าจะรออ็องโตนี·รีดอีกสักพัก
ความช่วยเหลือที่ ‘นักสะกดจิต’ หนึ่งคนมอบให้ได้ มีประสิทธิภาพสูงกว่าสมบัติวิเศษในลำดับเดียวกันมาก เพราะสมบัติวิเศษส่วนใหญ่พูดไม่ได้ มอบคำแนะนำหรือชี้แนะไม่ได้
สืบเนื่องจากเรื่องของโลกิ อีกทั้งยังได้เห็นการเปิดโปงคนทรยศที่แฝงตัวอยู่ตามกลุ่ม ชาวสมาคมวิจัยฯ จำนวนไม่น้อยจึงเสียกำลังใจ รีบออกจากอาณาจักรราตรีโดยไม่มัวดื่มด่ำบรรยากาศ จำนวนคนในพระราชวังโบราณจึงถดถอยลงเรื่อยๆ
คู่สามีภรรยา ‘ศาสตราจารย์’ กับ ‘รองศาสตราจารย์’ ที่เดิมตั้งใจจะจัดชุมนุมกลุ่ม ‘วิทยาลัย’ ในทรีอาร์ ตอนนี้ก็ผัดผ่อนไปก่อนชั่วคราว
…………
วันรุ่งขึ้นตอนเที่ยง ลูเมี่ยนถือพายเนื้อรูอ็องมาถึงคาบาเร่ต์ลมเอื่อย อย่างไม่รีบร้อน
เด็กหนุ่มเพิ่งจะเดินเข้าร้านกาแฟชั้นสอง ก็เห็น ‘มุสิก’ คริสโต
หัวหน้าแก๊งลักลอบฯ ร่างเล็ก เจ้าของหนวดเครายาวเหมือนหนู คลี่ยิ้มเต็มใบหน้า พร้อมกับเดินเข้ามาทักทาย
“เจอเรื่องยุ่งยากหรือไง” ลูเมี่ยนเลิกคิ้ว ถามพร้อมรอยยิ้ม
ขณะเดียวกัน เด็กหนุ่มรำพันในใจ
หมอนี่เป็นลำดับ 8 ‘นักฝึกสัตว์’ ถัดไปก็เป็นลำดับ 7 ‘แวมไพร์’ แล้ว ชักอยากเห็นว่าโอสถจะเพิ่มเสน่ห์ในแง่ไหน จะช่วยเพิ่มความสูงให้ด้วยไหม?
คริสโตหัวเราะแหะๆ
“ผมมีบางเรื่องอยากปรึกษาคุณ พอดีตัดสินใจไม่ถูกน่ะ”
ลูเมี่ยนดึงเก้าอี้มานั่ง
“เรื่องอะไรล่ะ”
คริสโต เจ้าของรูปโฉมคล้ายหนูตัวเขื่อง เหลียวซ้ายแลขวาแล้วพูด
“จะว่าไงดี พวกสมาคมถ้ำทรีอาร์น่ะ เชิญผมไปเข้าร่วม”
“พวกเขาต้องการอะไรจากผมหรือ”
สมาคมถ้ำทรีอาร์คือ สมาคมที่ประกอบด้วยผู้ชื่นชอบการสำรวจถ้ำ กับผู้ชื่นชอบการศึกษาถ้ำ ภายหลังยังรวมแนวคิดเกี่ยวกับโพรงเหมืองเข้าไปด้วย พร้อมกับชักชวนเจ้าของเหมืองจำนวนหนึ่งเข้าร่วมเป็นสมาชิก
และในทรีอาร์ บริเวณที่มีถ้ำมากที่สุดคือใต้ดิน
……………………………………………………..