ราชันเร้นลับ 2 : วัฏจักรแห่งชะตา (Circle of Inevitability) - ตอนที่ 295 สมองเป็นสิ่งสำคัญ
- Home
- ราชันเร้นลับ 2 : วัฏจักรแห่งชะตา (Circle of Inevitability)
- ตอนที่ 295 สมองเป็นสิ่งสำคัญ
ตอนที่ 295 สมองเป็นสิ่งสำคัญ
ตระหนักถึงกลิ่นคาวเลือดและกลิ่นไหม้จากลมที่ ‘พัดมา’ จากด้านหลัง ลูเมี่ยนหมุนตัวคล่องแคล่ว เลี้ยวเข้าตรอกที่นำไปสู่ถนนไนติงเกล
มนุษย์หมาป่าเจ้าของดวงตาสีดำสนิทที่เผยให้เห็นเส้นเลือดฝอย ถูกความกระหายเลือดและแรงอาฆาตควบคุมความคิด ซึ่งเป็นผลมาจากบาดแผลฉกรรจ์ ฝืนบิดร่างกาย วิ่งกระหืดกระหอบเข้าไปในตรอกดังกล่าว
เขาเห็นลูเมี่ยนกระโดดง่ายๆ ข้ามเครื่องกรีดขวางตรงหน้า จึงกระโดดตามไป
วินาทีถัดมา สิ่งที่ปรากฏสู่สายตามนุษย์หมาป่าคือทางลงท่อระบายน้ำที่ไม่มีฝาปิด มีบันไดสีเหล็กดำตั้งฉากลงไปในส่วนลึก
ลูเมี่ยนเหยียบส่วนขอบของทางลงท่อระบายน้ำอย่างแม่นยำ กระโดดข้ามกับดักธรรมชาตินี้ด้วยความคล่องแคล่วว่องไว
โครม! มนุษย์หมาป่าชนเข้ากับขอบด้านในของท่อระบายน้ำอย่างจัง จมลงไปครึ่งตัว บาดแผลแตกลึกยิ่งกว่าเก่า ศีรษะเริ่มวิงเวียนหวีดหวิว
ลูเมี่ยนถือโอกาสหมุนตัวกลับ พลางเรียกฝูงอีกาเพลิงสีแดงฉาน ปล่อยให้พวกมันบินวนไปหาศัตรูที่กำลังติดปากท่อระบายน้ำ
ท่ามกลางเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ฝูงอีกาเพลิงสีแดงฉานปกคลุมทั่วมิติ แผดเผาเส้นขนสีเทา กัดกินผิวหนังแผ่นแล้วแผ่นเล่าจนไหม้เกรียม ฉีกกระชากเลือดเนื้อเป็นวงกว้าง
มนุษย์หมาป่าใช้สองมือดันตัวเองสุดแรง ในที่สุดก็กระโดดพ้นจากปากท่อระบายน้ำ ขณะที่การโจมตีของลูเมี่ยนเข้าเป้าเพิ่มอีกหนึ่งนัด เด็กหนุ่มก็รีบเผ่นหนีไปอีกครั้ง
มนุษย์หมาป่ายิ่งทวีความเคียดแค้น อยากฉีกไอ้เวรนี่ให้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยใจแทบขาด แล้วโยนเครื่องในให้สุนัขจรจัดแถวนี้กิน
ฟึ่บ! ลูเมี่ยนที่วิ่งไปถึงทางออกของตรอก เปลี่ยนทิศทางด้วยความเร็วสูง หักเลี้ยวไปทางซ้าย
มนุษย์หมาป่าไล่ตามทันภายในไม่กี่ก้าว หมุนตัวไปยังทิศที่เป้าหมายหนีไปด้วยท่าทางคล้ายการสะบัดหาง
แต่ความมืดมิดตรงหน้าเขากลับปรากฏเครื่องกีดขวางสูงเกือบหนึ่งเมตร ลูเมี่ยนที่เตรียมพร้อมอยู่แล้วยื่นมือออกไปค้ำ ถือโอกาสกระโดดข้ามไปด้วยท่าทีคล่องแคล่ว
มนุษย์หมาป่าพบเห็นเครื่องกีดขวางนี้ช้าเกินไป สายเกินกว่าจะใช้กลยุทธ์อื่น ต้องเลือกระหว่างการกระโดดข้ามอย่างทุลักทุเลหรือวิ่งชนเข้าไปตรงๆ
เขาออกแรงที่สองขา พยายามกระโดดให้ถึงยอดเครื่องกีดขวางในคราวเดียว แต่ร่างกายกำลังพุ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูงเกินไป ยังไม่ทันลอยขึ้นไปจนสุด เท้าสองข้างก็เกี่ยวเข้ากับเครื่องกีดขวางเสียก่อน
โครม!
มนุษย์หมาป่าตกลงจากเครื่องกีดขวาง กระแทกแรงเสียจนตาลายเห็นดาว
ลูเมี่ยนหยุดวิ่งอีกครั้ง สอดมือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋า หันกลับไปมองศัตรู
รอบตัวเด็กหนุ่ม อีกาเพลิงกลุ่มใหม่กำลังรวมตัว บินเฟี้ยวฟ้าวไปยังพื้นที่ใกล้เครื่องกีดขวาง
มนุษย์หมาป่าพยายามกลิ้งตัวสุดชีวิต แต่ก็ยังถูกอีกาเพลิงนับสิบพุ่งชนเข้าอย่างจัง จนมือหลุดออกจากแผลตรงท้อง ถ่างแยกออกจากกัน ลำไส้สีชมพูปนกับเลือดไหลทะลักออกมา
มนุษย์หมาป่าเพิ่งตระหนักได้ว่า ตนหลงเข้ามาในกับดักศัตรูแล้ว จึงได้สติกลับมาบางส่วน รับรู้ถึงความอ่อนแอของร่างกายและสภาพที่ไม่มั่นคง
เขาดับไฟบนผิวหนัง ดิ้นรนลุกขึ้นยืน พยายามหนีไป
ทันใดนั้นเอง เขาได้ยินเสียงเย้ยหยันของลูเมี่ยนดังขึ้นข้างหู
“แม่แกไม่เคยสอนหรือไงว่าอย่าสู้ในถิ่นของนักล่า?”
“กล้าดียังไงถึงวิ่งไล่ฉันในย่านถนนอลเวง? สมองคือสิ่งสำคัญนะ แต่แกดันไม่มี”
ในหัวมนุษย์หมาป่าส่งเสียงหึ่งทันที ทั่วร่างกลายเป็นคนที่เดือดดาลผิดวิสัย
เขาละทิ้งสติสัมปชัญญะด้วยความเต็มใจ ระเบิดแรงกระหายออกมา ปล่อยให้ร่างกายถูกเสริมพลังในทุกด้าน
บัดนี้เขากลายเป็น ‘คนบ้า’!
มนุษย์หมาป่าไล่ล่าลูเมี่ยนอีกครั้ง
เด็กหนุ่มบางทีก็หยุดกะทันหัน โจมตีกลับสักหน่อย บางคราวก็แทรกตัวลอดผ่านใต้แขนรูปปั้นหินที่ยื่นออกจากมุม เมื่อมนุษย์หมาป่าชนเข้ากับสิ่งกีดขวาง เขาก็หมุนตัวกลับมาปล่อยอีกาเพลิงสีแดงฉานอีกระลอก บางคราวก็ทำท่าจะเข้าไปในทรีอาร์ใต้ดิน แต่กลับดักซุ่มอยู่แถวนั้น คอยหาจังหวะตอดโจมตี
การไล่ล่าและหนีหัวซุกหัวซุนดำเนินไปเช่นนี้ จนกระทั่งมนุษย์หมาป่าถึงขีดจำกัด ร่างกายแทบพังทลาย
เขาหลุดพ้นจากความคลั่ง ในใจเต็มไปด้วยลางสังหรณ์อันตราย อยากรีบหนีออกจากตรงหนี้ หนีออกจากเขตตลาดคนซื่อ
เด็กหนุ่มมองดูมนุษย์หมาป่ากำลังวิ่งหนีอย่างเชื่องช้ากว่าตอนแรกมาก พลางเสกหอกยาวสีขาวโชติช่วงขึ้นบนมือ
ลูเมี่ยนสะบัดตัวทันที เหวี่ยงหอกเพลิงเล่มนั้นออกไป
เส้นแสงสีขาวโชติช่วงพุ่งแหวกอากาศ ทะลวงร่างของมนุษย์หมาป่าที่พังยับเยินไปแล้ว ตรึงมันไว้กับพื้น จุดไฟเผาไหม้ท่วมร่าง
ท่ามกลางเปลวไฟที่ลุกไหม้ฉับพลัน ลูเมี่ยนเดินเข้าหาศัตรูพลางสอดมือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋า
จากด้านหลังเด็กหนุ่ม ฝูงอีกาเพลิงสีแดงตัวแล้วตัวเล่าทยอยโผล่จากความว่างเปล่า ส่งเสียงหวีดหวิวบินวนไปหามนุษย์หมาป่า มุดเข้าไปตามบาดแผลต่างๆ บนผิวหนัง ทำลายหัวใจ ปอด และอวัยวะอื่นๆ
เมื่อลูเมี่ยนเดินมาถึงเหยื่อ ‘สิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์’ ตัวนี้ก็หยุดหายใจแล้ว สิ้นชีวิตลงแล้ว
ดวงตาของมันเบิกกว้าง แข็งค้างด้วยความเสียใจระคนหวาดกลัว
“แกแค่ไปหาบอสของพรรคซาฟาห์ก็พอแล้วแท้ๆ ทำไมต้องโจมตีฉันด้วย? คิดจะเปลี่ยนฉันเป็นหุ่นเชิด เตรียมไว้สังหารการ์ดเนอร์·มาร์ตินหรือไง” ลูเมี่ยนก้มมองมนุษย์หมาป่าพลางส่ายหน้าพึมพำ “แกดูถูกคนของแก๊งอันธพาลเกินไปไหม มั่นใจจนหลงตัวเองขนาดนี้เชียวหรือ”
เมื่อสักครู่ เด็กหนุ่มเตรียมใจไว้แล้วว่า หากอีกฝ่ายตึงมือเกินไป หรืออาจเป็นถึงลำดับ 6 ก็จะ ‘หนี’ ไปทางถนนเสื้อนอกขาว
เมื่อไปถึง ก็คงทำอะไรสักอย่างเพื่อดึงดูดความสนใจของฟรังก้า ให้เธอใช้เลือดสดที่ไหลจากศัตรู สาปให้ตายอย่างเงียบงัน
หากก่อนหน้านั้นลูเมี่ยนประเมินแล้วว่า ถึงจะร่วมมือกันสองคนก็ยังไม่แน่ใจว่าจะโค่นเป้าหมายได้ เขาจะรีบเลี้ยวเข้าถนนใหญ่ตลาด อาศัยเสียงระเบิดจากลูกไฟสร้างความวุ่นวายในระดับที่เตะตาผู้วิเศษทางการ เพื่อข่มขู่ให้ศัตรูหนีไป
ทว่า คำนึงจากความบ้าคลั่งและกระหายเลือดอย่างล้นเหลือที่อีกฝ่ายแสดงออก ลูเมี่ยนสงสัยว่ามนุษย์หมาป่าอาจไม่ทันได้ชั่งน้ำหนักหาข้อดีข้อเสีย ไม่รีบถอนตัวเพื่อหลบหนีการไล่ล่าจากผู้วิเศษทางการ ถ้าเป็นแบบนั้นเขาก็คงต้องยื้อไว้จนถึงเช้า
ลูเมี่ยนย่อตัวลง คลำหาเสื้อผ้าของมนุษย์หมาป่า
เขาพบเพียงเหรียญเงินมูลค่ารวมสามเฟลคิน ธนบัตรและกระเป๋าสตางค์ที่ถูกเผาทำลาย ไม่พบสิ่งอื่นที่มีประโยชน์
“แกไม่คิดจะติดสินบนฉันเลยหรือ คิดแต่จะใช้พละกำลังข่มขู่อย่างเดียว?” ลูเมี่ยนด่าทออย่างปวดใจเล็กน้อย
เด็กหนุ่มมิได้ผิดหวังนัก เพราะทราบดีว่า มนุษย์หมาป่าผู้นี้คงไม่ใช่ผู้วิเศษสายรับ ‘พร’ อีกสักพักก็จะได้ตะกอนพลังลำดับ 7 ที่พ่วงลำดับ 9 และ 8 มาด้วย
มูลค่ารวมอยู่ที่ราวๆ สี่หมื่นเฟลคิน หรืออาจมากกว่านั้น!
ลูเมี่ยนยังสามารถนำมันไปรวมกับกิ่งพฤกษาเงาเพื่อสร้างสมบัติวิเศษ หรือแลกเปลี่ยนกับตะกอนพลังอื่นๆ ที่เหมาะสมกว่า
คำนึงจากเสียงระเบิดที่ค่อนข้างเบาแต่ถี่เมื่อสักครู่ ลูเมี่ยนไม่คิดแช่อยู่กลางถนน รีบจัดการศพมนุษย์หมาป่าเบื้องต้นแล้วแบกขึ้นหลัง พาไปยังประตูหลังของคาบาเร่ต์ลมเอื่อย
คนของพรรคซาฟาห์อย่างซาโกตาคุ้นเคยกับการฆ่าคนและทำลายศพอยู่แล้ว ไม่นานก็หาถุงใส่ศพมาได้ บรรจุศพเข้าไป แล้วส่งคนไปทำความสะอาดเลือดตามทางที่เดินมา
ลูเมี่ยนโยนถุงศพเข้าไปในรถม้าของคาบาเร่ต์ลมเอื่อย ตั้งใจจะไปหาการ์ดเนอร์·มาร์ตินในยามวิกาล
ระหว่างทาง เด็กหนุ่มเปิดถุงศพดูหลายครั้ง ในที่สุดก็เห็นแสงสีเขียวเข้มเล็กๆ แยกตัวออกจากศพ ผสานเข้ากับเขี้ยวแหลมๆ ของหมาป่า
ผ่านไปหลายสิบวินาที ลูเมี่ยนก็ได้เขี้ยวประหลาดสีเขียวเข้มมาหนึ่งซี่
เด็กหนุ่มใคร่ครวญครู่หนึ่ง แล้วตัดสินใจเก็บเขี้ยวไว้ในถุงศพตามเดิม ดูว่าการ์ดเนอร์·มาร์ตินจะจัดการอย่างไร
ด้วยรูปแบบการทำงานที่ ‘ผู้การ’ คนนี้แสดงให้เห็น เมื่อถึงเวลาตกรางวัล เขาก็จะตกรางวัลแน่นอน ถ้าไม่ให้ตะกอนพลังของมนุษย์หมาป่ากับลูเมี่ยนโดยตรง ก็คงเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น หรือไม่ก็ซื้อไปในราคาที่เหมาะสม
ไฉนเลยลูเมี่ยนจะไม่แสดงความจริงใจในโอกาสนี้
ยามตีหนึ่งกว่า รถม้าของคาบาเร่ต์ลมเอื่อยแล่นมาจอดหน้าบ้านเลขที่ 11 ถนนน้ำพุในเขตหอรำลึก ลูเมี่ยนไม่เกรงใจที่จะดึงเชือกข้างประตูรั้วเหล็กอย่างแรง สร้างเสียงระฆังดังก้องไปทั่วบ้าน
ไม่นานนัก บุรุษรับใช้เชื้อสายทวีปใต้ก็เดินมาเปิดประตู
ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจที่ถูกปลุกให้ตื่น แต่พอเห็นเสื้อผ้าขาดๆ และไหม้เกรียมของลูเมี่ยน กับถุงศพที่ลากอยู่ด้านหลัง ทั้งร่างก็พลันสะดุ้งโหยง รีบเรียกความสุภาพนอบน้อมที่คนรับใช้พึงมีกลับมา
ลูเมี่ยนลากถุงศพเข้าไปในคฤหาสน์ เห็นพ่อบ้านฟอสติโน ผู้เป็นสมาชิกชุมนุมกางเขนเลือดเหล็กเหมือนกัน
ฟอสติโนที่ผูกหูกระต่ายเรียบร้อย เพ่งพินิจลูเมี่ยนกับถุงศพอยู่หลายวินาที แล้วถามด้วยน้ำเสียงปนประหลาดใจ
“นี่คือ?”
“คนแปลกๆ น่ะ” ลูเมี่ยนตอบยิ้มๆ
ฟอสติโนไม่ถามต่อ พาลูเมี่ยนเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่นบนชั้นหนึ่ง
การ์ดเนอร์·มาร์ตินในชุดนอนผ้าไหมสีน้ำเงินเข้ม เอนหลังพิงเก้าอี้ ถามด้วยรอยยิ้ม
“ศพใครอยู่ในถุง?”
“การที่คุณต้องรีบร้อนมาหาผมกลางดึก เรื่องนี้คงไม่ธรรมดาสินะ”
ลูเมี่ยนแกะถุงศพ เทร่างมนุษย์หมาป่า รวมถึงเขี้ยวประหลาดสีเขียวเข้มลงบนพรมในห้องนั่งเล่น
การ์ดเนอร์·มาร์ตินมองครู่หนึ่ง สีหน้าเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมขึ้น
“มนุษย์หมาป่า…”
ลูเมี่ยนหัวเราะ
“มันมาถามผมว่า ใครคือหัวหน้าของพรรคซาฟาห์ แถมยังทำท่าจะควบคุมผม พยายามเปลี่ยนให้เป็นหุ่นเชิด”
การ์ดเนอร์·มาร์ตินผงกศีรษะเชื่องช้า
“ยังไงต่อ”
“ยังไงต่อ?” ลูเมี่ยนเลิกคิ้ว ยิ้มตอบ “ผมก็เลยฆ่ามันไง”
ได้ยินประโยคดังกล่าว พ่อบ้านฟอสติโนที่ยืนอยู่ข้าง ‘ผู้การ’ มองดูศพมนุษย์หมาป่าบนพื้น แล้วมองลูเมี่ยนที่เสื้อผ้ามีรอยไหม้ดำและขาดวิ่น สีหน้าไม่สงบนิ่งและไร้อารมณ์เหมือนเก่า
การ์ดเนอร์·มาร์ตินเอาแต่มองโดยไม่พูดไม่จา เงียบไปสักพักก่อนจะกล่าวด้วยความเสียดาย
“ถ้าคุณมีพลังสื่อวิญญาณก็คงจะดี เราพลาดข้อมูลไปไม่น้อยเลย”
ลูเมี่ยนอยากอาศัยโอกาสนี้ตอบกลับไปว่า ‘บางทีผมอาจต้องมีสมบัติวิเศษสายสื่อวิญญาณติดตัวไว้บ้าง’ แต่ก็กังวลว่ามันจะทำให้ส่วนแบ่งรางวัลลดลง ทำให้กิ่งพฤกษาเงาพลาดคู่ไป
การ์ดเนอร์·มาร์ตินพูดต่อ
“ผมจะจัดการเรื่องการสืบสวนและรับมือต่อจากนี้เอง คุณไม่ต้องใส่ใจ ถ้าผมอยากให้คุณทำภารกิจเมื่อไร จะส่งข้อความไปบอกเอง”
“มันคิดจะทำอะไรกันแน่? ที่มาที่ไปดูไม่ธรรมดาเลย” ลูเมี่ยนมองศพมนุษย์หมาป่าแวบหนึ่ง จงใจเผยความสงสัยออกมา
การ์ดเนอร์·มาร์ตินส่ายศีรษะ
“ตอนนี้ยังไม่ชัดเจน”
เขามองหน้าลูเมี่ยน ถามพร้อมรอยยิ้มว่า
“คุณอยากได้ฟันมนุษย์หมาป่าซี่นี้ หรืออยากได้อย่างอื่น?”
“มีตัวเลือกอะไรบ้างครับ?” ลูเมี่ยนไม่เกรงใจแม้แต่น้อย
………………………………………..
.