ราชันเร้นลับ 2 : วัฏจักรแห่งชะตา (Circle of Inevitability) - ตอนที่ 248 เหล่าผู้มาเยือน
- Home
- ราชันเร้นลับ 2 : วัฏจักรแห่งชะตา (Circle of Inevitability)
- ตอนที่ 248 เหล่าผู้มาเยือน
ตอนที่ 248 เหล่าผู้มาเยือน
เขตน้ำพุร้อน ถนนต้นเกาลัด บ้านเลขที่ 55 อาคารสามชั้นสีเทาอมน้ำเงินพร้อมสวน สนามหญ้า และโรงม้า
วงดนตรีที่มุมห้องบรรเลงทำนองเบาสบาย เจ้าของเคหสถานหลังนี้ มิสเตอร์โบโน·โกลด์ไวร์ ถือแก้วแชมเปญสีทองเหลืองเดินไปมาท่ามกลางแขกเหรื่อ พูดคุยเกี่ยวกับกระบวนการหลังจากโรงงานเคมีระเบิด หวังเลี่ยงความรับผิดชอบให้ได้มากที่สุด โดยเน้นไปที่การรับเงินชดเชยก้อนโตจากบริษัทประกัน
เขาพูดคุยกับภรรยาของข้าราชการระดับสูง คุยกับนักกฎหมายส่วนตัว และเดินคุยกับคนใหญ่คนโตที่เกี่ยวข้อง
โบโน·โกลด์ไวร์เปรียบดังสัตว์ที่เกิดมาเพื่องานเลี้ยง ในสถานการณ์เช่นนี้ สมองของเขากระปรี้กระเปร่ามาก ร่างกายเปี่ยมไปด้วยพลัง นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มจนเกือบดำและหนวดสีน้ำตาลดกหนาที่ข้างปาก ต่างสะท้อนแสงระยิบระยับจากโคมแก้วคริสตัล
หลังจากเลี่ยงแขกที่ไม่ค่อยสำคัญด้วยท่าเต้นหมุนตัว โบโน·โกลด์ไวร์ได้ก็พบกับทราวิส·เอเวอเรตต์
ผู้กำกับเขตตลาดคนซื่อผู้นี้ มิได้สวมเครื่องแบบ เพียงใส่ชุดสูทสีดำ ผูกเนกไทสีน้ำเงิน มือถือแก้วแชมเปญสีทองอ่อนเช่นกัน
“ผู้กำกับเอเวอเรตต์ ช่วงนี้พวกคุณต้องปกป้องผมให้ดีนะ!” โบโน·โกลด์ไวร์พูดกับทราวิส·เอเวอเรตต์ด้วยรอยยิ้ม “มีคนตายไปไม่น้อยจากเหตุระเบิด ผมเป็นห่วงว่าญาติของพวกเขาอาจจะทำอะไรสุดโต่ง”
เอเวอเรตต์ดันแว่นตากรอบดำของตน แล้วยิ้มเล็กน้อย
“ที่นี่เป็นเขตน้ำพุร้อน ผมควบคุมไม่ได้ แล้วอีกอย่าง หลังจากที่ผมมาถึงถนนเส้นนี้ ก็สัมผัสได้ว่าตำรวจลาดตระเวนกันถี่และเข้มงวดกว่าปกติพอสมควร”
“อา… คุณก็จ้างบอดี้การ์ดมาไม่น้อยมิใช่หรือ? ยังต้องกังวลอะไร? คนตายก็แค่แรงงานทั่วไป ไม่มีทางคุกคามคุณได้แน่ แล้วอีกอย่าง พวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคุณอยู่ที่ไหน”
เอเวอเรตต์พูดติดตลก
“หากว่าผู้บาดเจ็บและครอบครัวของเขา ซึ่งได้รับเงินชดเชยจากอุบัติเหตุล่าช้า จนต้องออกจากโรงพยาบาลก่อนกำหนดและกลับไปรอความตายที่บ้าน ได้ล่วงรู้ว่าคุณยังจัดงานเลี้ยง ปรนเปรอแขกเหรื่อด้วยเหล้าชั้นเลิศหลายขวด และจ้างวงซิมโฟนีขนาดเล็กมาบรรเลง พวกเขาอาจเป็นบ้าไปจริงๆ และลากคุณรวมถึงครอบครัวของคุณลงสู่ขุมนรกไปพร้อมกัน”
โบโน·โกลด์ไวร์ยิ้มแหยๆ
“งานเลี้ยงไม่เกี่ยวข้องกับเงินชดเชยสักหน่อย ผมต้องปฏิบัติตามกฎหมาย รอคำตัดสิน”
“ผู้กำกับเอเวอเรตต์ ถ้าผมกลับไปจัดการธุระที่เขตตลาด หวังว่าคุณจะส่งตำรวจสองสามนายมาอารักขาผมนะ”
เอเวอเรตต์พยักหน้าเบาๆ
“นั่นเป็นหน้าที่ของผม แต่ขอเตือนคุณไว้ว่า มีตำรวจหลายนายที่ครอบครัวทำงานอยู่ในโรงงานเคมีของคุณ”
เขากำลังกดดันโบโน·โกลด์ไวร์แทนลูกน้องตัวเอง โดยหวังให้ครอบครัวเหล่านั้นได้รับเงินชดเชยโดยเร็ว
โบโน·โกลด์ไวร์พยักหน้าเงียบงันแบบขอไปที
งานเลี้ยงดำเนินไปจนถึงเช้ามืด ท่ามกลางกลิ่นหอมขจรขจายที่หลงเหลืออยู่ โบโน·โกลด์ไวร์กอดลูกทั้งสามทีละคน ก่อนจะขึ้นไปบนชั้นสาม
เขาคลายเนกไทขณะเดินไปห้องนอนพร้อมกับภรรยา
ปึก! โคมไฟแก๊สถูกเปิด แสงในดวงตาของโบโน·โกลด์ไวร์ฉายแววตกตะลึง
เนื่องจากเห็นใครบางคนนั่งอยู่บนเก้าอี้เอนหลังตัวโปรดของตน
อีกฝ่ายโน้มตัวมาข้างหน้าเล็กน้อย แม้จะนั่งอยู่ แต่กลับมองโบโน·โกลด์ไวร์ด้วยท่าทางราวกับมองลงมาจากที่สูง
คนแปลกหน้าสวมเครื่องแบบคนงานสีเทาอมน้ำเงิน ใส่หมวกแฟลตแก๊ปสีน้ำเงินเข้ม ใบหน้าพันด้วยผ้าพันแผลสีขาวรอบแล้วรอบเล่า เห็นเพียงดวงตาสีฟ้าและรูจมูกทั้งสอง
โบโน·โกลด์ไวร์ตกตะลึงพรึงเพริดอยู่ในใจ เตรียมจะอ้าปากตะโกนขอความช่วยเหลือ
แต่ก่อนจะได้ลงมือ อีกามายาสีแดงฉานที่บีบอัดจากเปลวไฟ พลันโผล่ขึ้นด้านหลัง ‘ผู้บุกรุก’ ในพริบตา พุ่งกระแทกใส่ฟันของโบโน·โกลด์ไวร์อย่างแม่นยำ
เกิดเสียง ‘บึ้ม’ แผ่วเบา มุมปากของโบโน·โกลด์ไวร์กลายเป็นสีดำเกรียม ฟันสองซี่หลุดร่วง เจ็บจนสีหน้าบิดเบี้ยวไปหมด ส่วนเสียงร้องโหยหวนถูกผลักกลับไป
ตอนนี้ทั้งเขาและภรรยา ต่างถูกวัตถุปลายแหลมจ่อเข้าที่หลัง
ฟรังก้าและจินนาออกมาจากหลังประตูแล้ว พลางปิดประตูห้องนอนไปด้วย จากนั้นควบคุมเป้าหมายไว้คนละหนึ่ง
คนหนึ่งสวมเสื้อคลุมยาวสีดำมีฮู้ด เข้าชุดกับเกราะหนัง ใบหน้าซ่อนอยู่ใต้เงามืด อีกคนสวมเสื้อเชิ้ตลินินผู้ชาย แจ็กเกตสีน้ำตาล กางเกงขายาวสีน้ำตาลเข้ม และบูตหนังไร้เชือก สวมหน้ากากโลหะสีเงินวาวที่ปิดครึ่งบนของใบหน้าและเจาะช่องตรงดวงตา
ฟรังก้าใช้มืออีกข้างประคองโบโน·โกลด์ไวร์ไว้ ป้องกันมิให้เขาล้มกลิ้งด้วยความเจ็บปวด
ลูเมี่ยนยังคงนั่งนิ่งในท่าเดิม ยิ้มพลางพูด
“มิสเตอร์โกลด์ไวร์ เมื่อสักครู่เป็นแค่การตักเตือน ไม่อย่างนั้นช่องปากของคุณคงระเบิดพังไปหมดแล้ว มิใช่เพียงฟันหลุดแค่สองซี่และบาดเจ็บเล็กน้อย”
ภรรยาของโบโน·โกลด์ไวร์ได้สติกลับมา รีบถามด้วยอารมณ์ตกใจกลัว
“คุณเป็นใคร? คิดจะทำอะไร?”
“ผมเป็นใครน่ะหรือ…” ลูเมี่ยนหัวเราะหนึ่งที “ให้คิดว่าเป็นพ่อของพวกคุณก็แล้วกัน”
พูดจบ เด็กหนุ่มมองฟรังก้า
ฟรังก้านำ ‘ยาสารภาพ’ ที่ลูเมี่ยนส่งให้ก่อนลงมือออกมา แล้วป้อนให้โบโน·โกลด์ไวร์ดื่มเล็กน้อย
เขารอให้ยาออกฤทธิ์และพูดยิ้มๆ
“มิสเตอร์โกลด์ไวร์ คิดไม่ถึงว่าจะได้พบคุณง่ายๆ และพูดคุยกับคุณฉันมิตรแบบนี้ แอบผิดหวังอยู่นิดหน่อยนะ”
แถมยังไม่เคยได้รับพรมาก่อน!
หลังจากถูกบังคับให้ดื่ม ‘ยาสารภาพ’ โบโน·โกลด์ไวร์ถามด้วยสีหน้าขมขื่น
“พวกคุณต้องการอะไร? ในตู้นิรภัยมีเงินก้อนโต พวกคุณเอาไปได้ทั้งหมดเลย!”
ได้ยินประโยคนี้ จินนาโกรธจนเดือดดาล โทสะจากอกปะทุขึ้นมาถึงสมอง
หญิงสาวยกเท้าซ้ายทันที ตวัดฟาดใส่ข้างน่องของโบโน·โกลด์ไวร์
หากมิใช่เพราะตำแหน่งไม่เอื้ออำนวย เธออยากอัดใส่หว่างขาของไอ้เวรนี่มากกว่า!
ไปตายซะ! หอบเงินเน่าๆ ของแกลงหลุมไปด้วย!
โบโน·โกลด์ไวร์พลันเอียงตัว รู้สึกเหมือนกระดูกจะร้าวเสียให้ได้
เสียงร้องโหยหวนตามสัญชาตญาณ ถูกปิดกั้นด้วยน้ำแข็งที่กลั่นตัวในช่องปากกะทันหัน
ลูเมี่ยนพยักหน้าให้จินนา หลังจากโบโน·โกลด์ไวร์ผ่อนคลายลงเล็กน้อยจึงพูดต่อ
“ผมอยากรู้เหตุผลที่คุณระเบิดโรงงานเคมีของตัวเอง”
สีหน้าของโบโน·โกลด์ไวร์พลันแปรเปลี่ยน ก่อนจะโพล่งออกมา
“คุณรู้ได้ยังไง?”
ยังพูดไม่ทันจบ เขาก็อยากยกมือขวาตบหน้าตัวเองสักที
ต่อหน้าคำถามแบบนี้ มิใช่ว่าควรปฏิเสธไปก่อนหรือ? เหตุใดถึงพูดสิ่งที่ใจคิดออกมา?
“โฮ่… ตรงไปตรงมาดีนี่ ผมแค่บลัฟคุณนิดหน่อยเอง ดันยอมรับออกมาหมดเปลือกเลยแฮะ” ลูเมี่ยนพูดด้วยน้ำเสียงยียวน เพียงพอให้โบโน·โกลด์ไวร์เส้นเลือดในสมองแตก
เป็นอีกครั้งที่จินนารู้สึกเหมือนวิญญาณหลุดออกจากร่าง
แม้จะได้ฟังคำวิเคราะห์ของลูเมี่ยนจนเตรียมใจมาบ้างแล้ว แต่พอได้ยินกับหูก็ยังไม่อยากเชื่อ
ทำไมคนเราถึงชั่วร้ายได้เพียงนี้?
ผลของการกระทำ ได้พรากชีวิตไปหลายร้อยครอบครัวเลยนะ!
หลังจากตั้งสติกลับมา จินนากัดฟันตัวเองแน่น
เธอเกรงว่าหากตนเผลอไผลแม้เพียงเล็กน้อย จิตสำนึกอาจถูกไฟแห่งโทสะแผดเผา จนเผลอแทงใส่โบโน·โกลด์ไวร์สักมีดหนึ่ง
ไม่สิ หลายร้อยมีดต่างหาก!
ภรรยาของโกลด์ไวร์มองสามีด้วยสายตาตกตะลึงสุดขีด
เธอเคยคิดว่าเหตุโรงงานเคมีระเบิด เป็นเพียงอุบัติเหตุทั่วไป
ลูเมี่ยนมองโบโน·โกลด์ไวร์ด้วยสายตาเย็นชา
“คุณทำไปทำไม… เกี่ยวข้องกับใครบางคนในสำนักงานของสส. ฮิวจ์·อาร์ทัวส์สินะ?”
ได้ยินคำถามข้อหลัง โบโน·โกลด์ไวร์มิอาจควบคุมสีหน้าได้อีก เผยให้เห็นความตกตะลึงพรึงเพริดปนหวาดผวา
หลังจากดื่มของเหลวประหลาดนั่นเข้าไป แล้ว ‘ยอมรับ’ ว่าเหตุระเบิดโรงงานเคมีเป็นฝีมือตน เขาก็เริ่มอยากดึงคนอื่นมาแบกรับบาปกรรมเป็นเพื่อน เพราะแนวป้องกันทางจิตใจได้พังทลายลงแล้ว
“โรแนกับทิบอลต์! พวกเขาเป็นเลขาและผู้ช่วยเลขาของสส. ฮิวจ์·อาร์ทัวส์”
“ทั้งสองคอยพูดกรอกหูผมตลอด ว่าโรงงานเคมีของผมเสื่อมโทรมเกินเยียวยาแล้ว อาจระเบิดได้ทุกเมื่อ เหตุใดถึงไม่หาลู่ทางได้รับเงินประกันที่เคยซื้อไว้ล่วงหน้า? และเมื่อถึงเวลา ทางสส. ฮิวจ์·อาร์ทัวส์จะอ้างเหตุผลว่าเพื่อตั้งโรงงานใหม่ เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ เขาจะคุ้มครองเจ้าของโรงงาน ช่วยให้ผมได้รับเงินทุนสำหรับสร้างโรงงานใหม่ รวมถึงเงินชดเชยพิเศษด้วย”
“พวกเขาพูดเสมอว่าทุกสิ่งย่อมมีเสื่อมสลาย โรงงานเคมีของผมก็เช่นกัน มันจึงเกิดปัญหาจุกจิกตามมาไม่หยุดหย่อน แทนที่จะรอให้ระเบิดไปเอง สู้นำไปแลกกับผลประโยชน์ที่มากกว่าไม่ดีหรือ”
“เมื่อวานตอนเช้า ผมไปหาพวกเขาอีกรอบ ไม่รู้ทำไมสมองถึงได้สับสนไปหมด โดนพวกเขาพูดจนคล้อยตาม พอระเบิดเกิดขึ้นจริงๆ ผมถึงได้รู้สึกหวาดผวา รีบแจ้นไปที่สำนักงานสส. ถึงสามครั้ง”
“พวกเขาบอกกับผมว่า ไม่มีอะไรต้องกังวล”
โง่บริสุทธิ์จริงๆ กระทั่งสาวกเทพมารยังฉลาดกว่า… หรือจะได้รับอิทธิพลจากพลังวิเศษสักชนิด? ทิบอลต์เห็นเราปลอมตัวเป็นโบโน·โกลด์ไวร์แล้วก็พูดถึงความเสื่อมโทรม แท้จริงแล้วเป้าหมายของพวกมันคืออะไรกันแน่? ลูเมี่ยนใช้ความคิดสักครู่ เตรียมถามรายละเอียดการสนทนา แต่ทันใดนั้น จากประตูรั้วเหล็กรอบสนามหญ้า กลับมีเสียงกระดิ่งดังขึ้น
ลูเมี่ยนสบตากับฟรังก้าทันที ต่างก็คาดเดาได้
ในช่วงเวลาแบบนี้ แขกผู้แวะมาหาโบโน·โกลด์ไวร์แล้วสั่นกระดิ่งอย่างสุภาพ หากมิใช่เพื่อนของเขา ก็ต้องเป็นเจ้าหน้าที่สอบสวนจากหน่วยผู้วิเศษ!
ไม่จำเป็นต้องพูดมาก ลูเมี่ยนลุกขึ้นยืน ส่วนฟรังก้าก็เก็บมีดสั้นอย่างเข้าใจกันดี
เห็นท่าทางของพวกเขาแล้ว จินนาก็เข้าใจตาม
เธอก้าวเฉียงไปข้างหน้า ยกมีดสั้นแทงปักไหล่ของโบโน·โกลด์ไวร์เต็มแรง
เสียง ‘ซวก’ ดังขึ้น เลือดพุ่งกระฉูด โบโน·โกลด์ไวร์ร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด
จินนาไม่รอช้า รีบวิ่งปราดไปยังหน้าต่างฝั่งตรงข้ามประตูทางเข้าหลัก
เปลวไฟสีดำลุกโชนและดับลงในพริบตาหลายจุดบนห้อง รวมถึงบนมีดของเธอ
ทั้งสามกระโดดออกจากตึก ปีนข้ามรั้วเหล็กหลังสวน แล้วก็หายลับไปในความมืดยามค่ำคืน
…………
ทีมสามคนที่ประกอบด้วยอ็องกูแลม วาเลนไทน์ และอิมเรผู้เป็นลูกครึ่ง ได้พบกับโบโน·โกลด์ไวร์ในห้องนอน ซึ่งเพิ่งทำแผลเสร็จ ปากของเขาดำเป็นเขม่า
เจ้าของโรงงานพูดด้วยใบหน้าเปี่ยมด้วยความโกรธแค้น
“คุณตำรวจ ผมเกือบถูกพวกโจรสามคนลักพาตัวไป!”
อ็องกูแลมมองไปรอบๆ จุดเกิดเหตุ แล้วพูดยิ้มๆ
“เราจะสืบสวนเรื่องนั้นทีหลัง ตอนนี้ปัญหาหลักอยู่ที่คุณ”
“ปัญหาอยู่ที่ผม?” โบโน·โกลด์ไวร์ผงะในใจ
อ็องกูแลมผงกศีรษะรับ
“อันดับแรก เราขอยืนยันความศรัทธาของคุณก่อน จากนั้นค่อยมาว่ากันเรื่องที่คุณไปเยี่ยมสำนักงานสส. ในเช้าวันที่โรงงานเคมีระเบิด”
เมื่อยังขาดประจักษ์หลักฐาน จนมิอาจใช้มาตรการรุนแรงกับสส. และเจ้าหน้าที่ใกล้ชิด เหล่า ‘ผู้ชำระ’ จึงหันเหความสนใจมายังโบโน·โกลด์ไวร์แทน
เมื่อโบโน·โกลด์ไวร์ ผู้ที่ถูกทะลวงกำแพงทางจิตใจเรียบร้อยแล้ว ได้ยินคำพูดดังกล่าว ใบหน้าของเขาก็ซีดเผือดทันที
……………………………………………………..