ราชันเร้นลับ 2 : วัฏจักรแห่งชะตา (Circle of Inevitability) - ตอนที่ 209 ดวงซวย
ตอนที่ 209 ดวงซวย
คาบาเร่ต์ลมเอื่อย
ท่ามกลางแสงไฟสลัว ลูเมี่ยนมองไปรอบตัว แต่ไม่พบชาร์ลี
นี่ทำให้เขายิ่งร้อนใจ รีบกวักมือเรียกลูอิสกับซาโกตามาหา
“ลูกพี่ มีอะไรหรือครับ” ลูอิสถามด้วยท่าทีหวาดหวั่น
เขาคิดว่าลูกพี่อาจไม่พอใจบางสิ่งบางอย่างในคาบาเร่ต์
สายตาของลูเมี่ยนกวาดผ่านเด็กเสิร์ฟสวมเสื้อกั๊กผูกหูกระต่ายทีละคน พลางถามด้วยเสียงพูดคุยปกติ
“ชาร์ลีอยู่ไหน? ฉันมีเรื่องจะถามเขา”
ลูอิสทำตาโตทันที อุทานด้วยความประหลาดใจ
“ล…ลูกพี่ ชาร์ลีเพิ่งออกไปกับลูกพี่ไม่ใช่หรือครับ?”
เรา? ชาร์ลีออกไปกับเรา? รูม่านตาลูเมี่ยนพลันหดลีบ ราวกับเผชิญแสงที่จ้าเกินไป
เด็กหนุ่มถามเสียงเข้ม
“เมื่อไร?”
ลูอิสนึกย้อนไปสักพัก มองลูเมี่ยนด้วยความสงสัย
“ไม่ถึงห้านาทีที่แล้วครับ”
สายตาของลูเมี่ยนเลื่อนไปหยุดอยู่กับซาโกตา เห็นว่าลูกน้องนิสัยเงียบขรึมและน่าเชื่อถือรายนี้ ก็ทำหน้างุนงงไม่ต่างกัน
ห้านาทีก่อน? เราไปที่ถนนเสื้อนอกขาวก็เกินครึ่งชั่วโมงแล้ว อีกทั้ง ครั้งล่าสุดที่ออกจากคาบาเร่ต์ เราแต่งหน้าแต่งตัวปลอมเป็นคนเมาหัวราน้ำ ชาร์ลีไม่มีทางตามออกไปแน่… ลูเมี่ยนรีบตัดความเป็นไปได้ที่ว่า ชาร์ลีแอบตามตนออกจากคาบาเร่ต์โดยไม่รู้ตัว
เรื่องนี้ยิ่งลึกลับซับซ้อนขึ้นไปอีก!
เมื่อผนวกกับดวงชะตาของชาร์ลีที่เป็นสีแดงฉานผสมดำ โอกาสที่อีกฝ่ายจะเจอเรื่องอันตราย ก็มากถึงเกือบหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์!
ลูเมี่ยนข่มความคิดต่างๆ ที่พรั่งพรูเข้าสู่สมอง บอกกับลูอิสและซาโกตาว่า
“…อาจมีคนแต่งตัวเลียนแบบฉัน ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าอีกฝ่ายหวังอะไรจากชาร์ลี”
“เป็นไปไม่ได้…” ลูอิสโพล่งออกมา
เมื่อไม่กี่นาทีก่อน เขากับซาโกตาเพิ่งทักทายลูกพี่ และนั่นไม่มีทางเป็นตัวปลอมแน่!
ลูอิสยังพูดไม่ทันจบ ก็โดนลูเมี่ยนเหล่มองเย็นชา จึงรีบเปลี่ยนท่าทีพลางพึมพำ
“อาจเป็นไปได้… คงเป็นตัวปลอมจริงๆ ครับ”
ลูเมี่ยนไม่ยึดติดกับประเด็น เพียงหันไปถามเพิ่ม
“ตอนที่ชาร์ลีออกจากคาบาเร่ต์ไป หมอนั่นได้เปลี่ยนเสื้อผ้าไหม”
ตามระเบียบของคาบาเร่ต์ลมเอื่อย เด็กเสิร์ฟ บาร์เทนเดอร์ พ่อครัว ลูกครัวทุกคน จะได้รับเครื่องแบบคนละสองชุด แต่ห้ามนำออกนอกคาบาเร่ต์ ต้องเก็บไว้ในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าบนชั้นหนึ่งเท่านั้น
สาเหตุมาจาก ‘สภาพแวดล้อมด้านมนุษย์’ ของเขตตลาด พวกบาร์เทนเดอร์และเด็กเสิร์ฟ อาจสิ้นเนื้อประดาตัวกันได้ตลอดเวลา เพราะตัวเองหรือครอบครัวเป็นหนี้พนัน ติดเหล้า เจ็บป่วย จนถูกบีบให้ต้องหนีออกจากเขตตลาด หากอนุญาตให้นำเครื่องแบบกลับบ้าน ก่อนจะหนีออกไป ก็คงนำเครื่องแบบไปจำนำแลกเงินสด โดยไม่สนใจว่าคาบาเร่ต์ลมเอื่อยจะเป็นของแก๊งมาเฟียหรือไม่
ในทำนองเดียวกัน ร้านกาแฟราคาถูกในทรีอาร์ที่มีกลุ่มลูกค้าเป็นคนเก็บขยะ กรรมกร คนเร่ร่อน และกรรมกรระดับล่าง มักใช้ภาชนะดีบุก และใช้โซ่เหล็กล่ามไว้กับโต๊ะ โดยเหลือช่องว่างให้เคลื่อนไหวได้เล็กน้อย เพื่อป้องกันมิให้ลูกค้าแอบนำออกไปขาย
ร้านกาแฟที่ดีหน่อยก็มีปัญหาของตัวเอง เพื่อภาพลักษณ์ พวกเขามักจะใช้เครื่องเงินหรือเครื่องกระเบื้อง แต่ลูกค้าบางคนก็ไร้มรรยาท จนกระทั่งทุกวันหลังปิดร้าน เจ้าของต้องนับจำนวนเครื่องใช้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าขาดหายไปหรือไม่ และต้องคอยเตือนพนักงานให้ระวังเรื่องแบบนี้
“ไม่ได้เปลี่ยนครับ” ลูอิสตอบคำถามอย่างมั่นใจ
เขาตั้งใจจะห้ามมิให้ชาร์ลีสวมชุดเด็กเสิร์ฟออกจากคาบาเร่ต์ แต่เนื่องจากอีกฝ่ายออกไปกับบอส เขาจึงปิดปากอย่างมีสติ
กฎส่วนใหญ่ของคาบาเร่ต์มีไว้สำหรับเด็กเสิร์ฟ หางเครื่อง บาร์เทนเดอร์ พ่อครัว นักเลง พนักงานทำความสะอาด และแม้แต่ผู้จัดการ บอสไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตาม!
ลูเมี่ยนผงกศีรษะแผ่วเบา พูดอย่างใจเย็นว่า
“รบกวนพวกนายแค่นี้แหละ”
เขาสงสัยว่าการหายตัวไปของชาร์ลี อาจเกี่ยวข้องกับซูซานน่า·มาติส!
ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้ามีขนาดไม่ใหญ่ ตอนนี้ว่างเปล่า ลูเมี่ยนกวาดตามองสองรอบ จนพบตู้ที่ติดป้ายชื่อชาร์ลี
“หัวไวดีนี่ รู้ด้วยว่าต้องหาสื่อทำนายมาให้ฉัน” ฟรังก้าในชุดคลุมสีดำมีฮู้ด ปรากฏตัวข้างลูเมี่ยน พลางชมเชยหนึ่งประโยค
“ผมไม่ได้โง่นะ” ลูเมี่ยนตอบกลับเรียบง่าย หยิบลวดเหล็กครึ่งเส้นที่พกติดตัวออกมา งัดเล่นสองสามที แล้วเปิดตู้ที่ชาร์ลีเก็บเสื้อผ้าตัวเองไว้
ฟรังก้าคิดอยู่สองวินาที ยื่นมือไปหยิบเสื้อลินินของชาร์ลีออกมา
เธอนำไม้กวาดที่วางอยู่นอกห้องเปลี่ยนเสื้อผ้ามาใช้เป็นอุปกรณ์ทำนาย
“ตำแหน่งปัจจุบันของชาร์ลี…”
“ตำแหน่งปัจจุบันของชาร์ลี…”
“…”
ฟรังก้าถือเสื้อผ้าของชาร์ลีไว้ในมือซ้าย มือขวาแตะที่ปลายด้ามไม้กวาด พึมพำบางสิ่งบางอย่าง
ในไม่ช้า หญิงสาวปล่อยมือขวา แต่ไม้กวาดด้ามดังกล่าวกลับไม่ไหวติง ตั้งอยู่อย่างมั่นคง ราวกับมีคนค้ำไว้
ผ่านไปหลายวินาที มันถึงล้มลงมาพร้อมเสียง ‘ปัก’
“ถูกรบกวน?” ลูเมี่ยนถามหยั่ง
ฟรังก้าส่ายหัวแผ่วเบา
“ดูไม่เหมือนเท่าไร…”
เธอรีบเดินไปยังกระจกเงาเต็มตัวในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ยกมือลูบไล้ผิวหน้ากระจกเบาๆ
ขณะถือเสื้อผ้าของชาร์ลีอยู่ หญิงสาวเริ่มทำนายอีกครั้ง
ไม่กี่ลมหายใจถัดมา กระจกก็กลายเป็นสีคล้ำลึก ราวกับสะท้อนภาพความมืด
ทันใดนั้น ร่างสองร่างปรากฏขึ้นบนผิวกระจก เดินอยู่ท่ามกลางแสงสีเหลืองเลือนราง
นอกจากนี้ก็มองไม่เห็นอะไรอีก
ฟรังก้าพิจารณาอยู่สองสามวินาที แล้วตีความด้วยน้ำเสียงมั่นใจ
“พวกเขาอยู่ใต้ดิน!”
“ถึงว่าการทำนายเมื่อสักครู่ไม่เกิดผล ก็ไม้กวาดมันตีลังกากลับหัวเองไม่ได้นี่นะ…”
ลูเมี่ยนพยักหน้าเล็กน้อย หันหลังเดินออกจากห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ขึ้นไปหยิบโคมไฟคาร์ไบด์หนึ่งดวง กับสิ่งของที่อาจมีประโยชน์ แล้วเดินออกจากคาบาเร่ต์ทันที
เขาพอจะมีทิศทางในใจแล้ว!
ฟรังก้าเห็นดังนั้น ก็หยิบผงเรืองแสงระยิบระยับออกมาอีกครั้ง พร้อมท่องคาถาที่สอดคล้องกัน ทำให้ตัวเองอันตรธานหาย
บนถนนใหญ่ตลาดที่แหล่งกำเนิดแสงมีเพียงพระจันทร์สีแดงเรื่อกับโคมไฟถนน ลูเมี่ยนเร่งรุดฝีเท้าไป พลางมองหาร่องรอยที่อาจเป็นไปได้
จุดหมายของเด็กหนุ่มคือ ทางลงใต้ดินที่อยู่กึ่งกลางถนนใหญ่ตลาด
มาถึงพื้นที่สว่างๆ ที่ล้อมรอบด้วยความมืด ลูเมี่ยนชะงักฝีเท้ากะทันหัน
เด็กหนุ่มเห็นรอยเล็กๆ ที่บ่งบอกว่าตะแกรงระบายน้ำขยับเขยื้อน ใกล้กันมีรอยเท้าชุลมุนจำนวนหนึ่ง และบนเสาโคมไฟถนน มีร่องรอยการชนในระดับความสูงเท่าศีรษะคน
“คงจะลื่นตรงนี้ แล้วพยายามทรงตัว แต่ดันไปสะดุดท่อระบายน้ำ ก็เลยหัวโขกโคมไฟ… ควรจะมีคราบเลือด แต่ถูกกำจัดไปแล้ว…” ฟรังก้าเผยตัวอีกครั้ง จำลองเหตุการณ์ตามสภาพที่เห็น
เธอพึมพำกับตัวเองด้วยท่าทีค่อนข้างฉงน
“คล้ายกับเคราะห์ร้ายที่ฉันเห็นตอนบ่ายเลย…”
พูดถึงตรงนี้ เธอเพิ่งกระจ่าง
“เอฟฟ์ปลอมดวงซวยคนนั้น? หมอนั่นพาชาร์ลีไป?”
ลูเมี่ยนสงสัยมานานแล้ว ตอนนี้ยิ่งมั่นใจ
“คนที่ปลอมตัวเป็นมิสเตอร์เอฟฟ์ได้ ก็ปลอมตัวเป็นผมได้เหมือนกัน”
“เป็นพลังที่ร้ายกาจจริงๆ …”
ตอนนี้ทุกรายละเอียดในสมองของเด็กหนุ่ม เชื่อมโยงกันจนเป็นเค้าโครง:
ซูซานน่า·มาติส ใกล้ฟื้นตัวเต็มที แต่ยังกังวลว่าหน่วยพิเศษจะจับตาชาร์ลีอยู่ จึงให้ ‘เอฟฟ์ปลอม’ ปลอมตัวเป็นชาร์ล พาชาร์ลีออกมาอย่างแนบเนียน นำทางลงใต้ดิน และเมื่อไปถึงทรีอาร์ใต้ดินแล้ว ก็ยากที่จะถูกหน่วยพิเศษของทางการตามตัวเจอ
ยิ่งเวลาผ่านไป กระทั่งการทำนายก็อาจถูกรบกวน!
“ไม่ร้ายกาจก็คงหลอกผู้วิเศษทางการตอนสืบสวนครั้งแรกไม่ได้หรอก” ฟรังก้าตอบกลับหนึ่งประโยค ไม่ได้ล่องหนอีก เพียงตามลูเมี่ยนไปยังทางลงทรีอาร์ใต้ดิน ณ กึ่งกลางถนนใหญ่ตลาด
เมื่อแสงจากโคมไฟคาร์ไบด์สีเหลืองอมฟ้า ส่องสว่างบันไดที่ลาดลง ลูเมี่ยนก็พบรอยเท้าสองคู่
คู่หนึ่งเขาคุ้นเคยดี เป็นรอยเท้าของชาร์ลี
จากสภาพรอยเท้า บอกได้ว่าชาร์ลีกลัวที่จะลงใต้ดินในยามกลางดึก เดินตัวสั่นเทิ้ม แต่สุดท้ายก็เลือกที่จะเชื่อใจ ‘ชาร์ล’
จากตรงนี้ยังไม่มีร่องรอยถูกพันธนาการ
“ไอ้โง่เอ๊ย…” ลูเมี่ยนอดด่าไม่ได้
เป็นธรรมดาที่จะแยกของจริงของปลอมไม่ออก เพราะฝ่ายหนึ่งเป็นผู้วิเศษ ส่วนอีกฝ่ายเป็นคนธรรมดา แต่พวกเขาเดินเคียงกันมาไกลพอสมควรแล้ว ไม่รู้สึกถึงความผิดปกติระหว่างพูดคุยบ้างเลยหรือ?
ฉัน ลูเมี่ยน·ลี จะปลอมแปลงได้ง่ายขนาดนั้นเชียว?
“โชคดีที่มีรอยเท้า” ฟรังก้าถอนหายใจเบาๆ
ศาสตร์ ‘ทำนายด้วยไม้เท้า’ แบบเรียบง่าย จะด้อยประสิทธิภาพใต้ดิน เพราะการบอกทิศอาจถูกต้อง แต่ในความเป็นจริงต้องอ้อมไกล สุ่มเสี่ยงที่จะหลงทาง
‘แม่มด’ รายนี้มิได้พกเครื่องส่องสว่าง ไม่รู้ว่ามั่นใจว่าจะไม่แยกกับลูเมี่ยน หรือไม่ยี่หระในการมองผ่านความมืด
ลูเมี่ยนถือโคมไฟคาร์ไบด์ เดินตามบันไดไปจนถึงชั้นที่มีชื่อถนนและชื่อจัตุรัส
เด็กหนุ่มเดินเร็วมาก บางครั้งยังไม่พบรอยเท้า ก็เลือกทิศทางเสร็จแล้ว ไม่นานก็พบรอยเท้าใหม่ของชาร์ลีและเอฟฟ์ปลอม
ฟรังก้างุนงงกับสิ่งนี้ หลังจากผ่านไปสองสามที เธอก็ทนไม่ไหว ถามออกมา
“ยังกับนายรู้ว่าเอฟฟ์ปลอมมุ่งหน้าไปทางไหน?”
“ไอ้วิตถารที่มอมยาจินนา ก็ใช้เส้นทางเดียวกันนี้” ลูเมี่ยนตอบกลับเรียบๆ
นี่คือเส้นทางที่ ‘พวกนั้น’ คุ้นเคยและรู้สึกปลอดภัย และที่สำคัญ เอฟฟ์ปลอมน่าจะพาชาร์ลีไปหาซูซานน่า·มาติส มีความเป็นไปได้สูงว่าซูซานน่า·มาติสจะอยู่ปลายเส้นทางนี้!
ฟรังก้าไม่บ้าน้ำลาย เพียงซ่อนกายในความมืด บ้างก็ไปสำรวจด้านหน้า บ้างก็ช่วยระวังหลังและด้านข้าง
เดินไปได้สองสามนาที ลูเมี่ยนกับฟรังก้าก็หยุดฝีเท้า
แถวนี้มีร่องรอยการพังถล่ม เศษหินกระจัดกระจาย รอยเท้ากลายเป็นยุ่งเหยิง ทุกสิ่งบ่งชี้ไปยังโพรงเล็กๆ ที่ถูกเศษหินถล่มลงมาปิด
“เป้าหมายประสบอุบัติเหตุจนถูกขังอยู่ในนี้?” ฟรังก้าส่งเสียงซี้ดปาก “นี่ไม่โชคร้ายไปหน่อยหรือ?”
เธอหันไปมองลูเมี่ยนทันที
“คุณซื้อยันต์เคราะห์ร้ายนั่นมาจากไหน ทำไมถึงได้ผลดีนัก?”
“ครั้งหน้าถ้าเจออีก เดี๋ยวซื้อมาเผื่อสักแผ่น” ลูเมี่ยนไม่แน่ใจว่าในอนาคตอันใกล้ ตนจะได้เจอคนที่มีเคราะห์หนักเหมือนคนเร่ร่อนนั่นอีกไหม
เด็กหนุ่มพูดจบ ก็เห็นเศษหินที่กองอยู่ตรงทางเข้าออกโพรง ทยอยกลิ้งลงมาทีละก้อนสองก้อน ส่งเสียงกระทบพื้นกรุกกรัก
ผ่านไปสักพัก ปากทางเข้าโพรงก็ถูกใครบางคนเจาะเป็นช่อง โดยมีร่างหนึ่งคลานออกมาอย่างระมัดระวัง
ผมสีทองอมดำ ตาสีฟ้าอ่อนเป็นประกาย หน้าตาหล่อเหลาเอาการ ไม่ต่างจากลูเมี่ยนอีกคนหนึ่ง
…………………………………………………….