ราชันเร้นลับ 2 : วัฏจักรแห่งชะตา (Circle of Inevitability) - ตอนที่ 204 สอบถาม
ตอนที่ 204 สอบถาม
อาศัยแรงขณะลูอิส·ลุนด์ล้มลงมา ลูเมี่ยนดึงตัวเองขึ้นไปนั่งเบาะคนขับ
ตอนนี้ฟรังก้านั่งแทนลูอิส·ลุนด์แล้ว มือกุมบังเหียนม้า บังคับรถให้จอดข้างทางในจุดที่ไม่มีแสงไฟ
เมื่อสักครู่ ทั้งสองร่วมมือกันอย่างกลมกล่อม โดยมิได้นัดแนะมาก่อน คนหนึ่งโจมตีด้านหน้า อีกคนโจมตีด้านหลัง ใช้เวลาไม่กี่วินาทีก็จัดการลูอิส·ลุนด์ ผู้วิเศษลำดับ 8 ได้ง่ายดาย
“พาหมอนี่เข้าไปในตู้รถ” คล้ายกับฟรังก้าช่ำชองเรื่องทำนองนี้ ในหัวมีแบบแผนเป็นขั้นเป็นตอน
ลูเมี่ยนไม่คัดค้าน ตั้งใจพยุงลูอิส·ลุนด์ใส่ตู้รถม้าสี่ล้อ
ฟรังก้าตามหลังไป ใช้มือปิดประตูรถ แล้วเริ่มถอดฮู้ด ถอดเสื้อคลุมสีดำ ประหนึ่งกลับถึงบ้านแล้ว เตรียมจะเปลี่ยนเป็นชุดนอน
ระหว่างกำลังถอด หญิงสาวสังเกตเห็นสายตาค้างคาใจของลูเมี่ยน จึงได้สติและกล่าวอย่างเก้อเขิน
“หันหลังไปก่อนสิ”
ลูเมี่ยนพอเดาออกว่าฟรังก้าคิดจะทำอะไร จึงรีบหันหลัง มองออกไปนอกหน้าต่าง ปล่อยให้เธอจัดการให้เสร็จ
เสียงขยุกขยิกดังขึ้นจากด้านหลังเด็กหนุ่ม กินเวลาประมาณหนึ่งนาทีกว่า
“เสร็จแล้วล่ะ” น้ำเสียงใสกังวานของฟรังก้าดังเข้ามาในหูของเขา
ภายในรถม้าที่หลังคาไม่สูงมาก ลูเมี่ยนผู้สูงเกินหนึ่งเมตรแปด จนต้องค้อมหลังพร้อมกับโน้มศีรษะ หันกลับไปมอง
เด็กหนุ่มเห็นฟรังก้าสวมเสื้อกั๊กสีแดง ผูกเนกไทสีขาว สวมเครื่องแบบสีน้ำเงินติดกระดุมสีเหลืองเรียงแถว มือถือหมวกลงขี้ผึ้งและแส้ม้า
เมื่อรวมกับจมูกโด่งเรียว คิ้วสีน้ำตาลเข้มที่ดูโดดเด่น ริมฝีปากสีแดงบาง และดวงตาสีทะเลสาบที่เปล่งประกาย ก็ก่อให้เกิดความรู้สึกไม่สอดคล้องกัน แปลกประหลาด แต่ก็สวยงามอย่างพิลึกพิลั่น
“เร็วมาก” ลูเมี่ยนจ้องฟรังก้า — ‘คนขับรถม้าหน้าใหม่’ ของบริษัทรถม้าจักรวรรดิ พลางเอ่ยปากชมเปาะ
“นี่แหละคือความเป็นมืออาชีพ! ถ้าไม่ติดว่ากระดุมพวกนี้ทำเสียเวลาไปเยอะ ฉันเร็วกว่านี้ได้อีก” ฟรังก้าบ่นพึมพำไปพลาง เก็บผมยาวสีเชือกป่านยัดใส่ในหมวกลงขี้ผึ้งไปพลาง
เมื่อปลอมตัวเสร็จ เธอหยิบดินสอเขียนคิ้วที่พกติดตัวมา แต่งหน้ารวดเร็วเรียบง่าย เปลี่ยนใบหน้าตัวเองให้ดูหมองลง คิ้วดูยุ่งเหยิง ในแวบแรกที่มองไป ก็ดูเป็นเพียงผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง ไม่ถึงกับสะดุดตาในค่ำคืนที่มีเพียงแสงจากพระจันทร์สีแดงและเสาไฟ
“ฉันขับรถ คุณสอบปากคำ” ฟรังก้าเปิดประตูห้องโดยสาร กระโดดลงไป ย้ายไปนั่งตรงที่เก่าของลูอิส·ลุนด์
ต่อมา หญิงสาวดึงบังเหียน บังคับให้ม้าเริ่มเคลื่อนที่จากสภาพหยุดนิ่ง
รู้สึกได้ว่ารถม้ากำลังแล่นไปอย่างราบเรียบ ลูเมี่ยนพยุงลูอิส·ลุนด์นั่งบนเบาะฝั่งตรงข้าม แล้วหยิบขวด ‘ยาสารภาพ’ ที่ได้มาจากไอ้วิตถารเฮิดซ์ ป้อนให้อีกฝ่ายดื่มสักหนึ่งในสามของขวด
รอจนยาเริ่มออกฤทธิ์ ลูเมี่ยนข่มใจไม่ใช้กริชเงินพิธีกรรมปลุกเป้าหมาย แต่เลือกใช้วิธีบีบดั้งจมูกและตำแหน่งระหว่างริมฝีปาก ดึงผมของลูอิส·ลุนด์ออกมา แล้วใช้ผมจั๊กจี้จมูก บรรจงปลุกให้คนที่หมดสติกลับมาฟื้น
ระหว่างนี้ เด็กหนุ่มได้ถอดข้อต่อของอีกฝ่าย มิได้มัดมือมัดเท้า วางท่าเหมือนอยากคุยแบบฉันมิตร
ฮัดชิ้ว!
ลูอิส·ลุนด์จามออกมา พร้อมกับตื่นขึ้น
เขามองฝั่งตรงข้ามด้วยสายตางุนงง เห็นลูเมี่ยนนั่งพิงในท่าสบาย พร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า
“นาย!” ลูอิส·ลุนด์ตกใจจนตัวสั่น นึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิด
“อย่าเพิ่งแตกตื่น” ลูเมี่ยนยิ้มแล้วกดมือขวาลง “ถ้าฉันอยากทำร้ายนายจริง ป่านนี้คงกลายเป็นอาหารหมาจรจัดไปแล้ว”
ปฏิกิริยาแรกของลูอิส·ลุนด์คือ รีบใช้พลังของตัวเองฝืนหลบหนี แต่พอนึกถึงการถูกโจมตีจากด้านหลัง เขาก็หันไปมองนอกหน้าต่างรถม้าด้วยความระแวง
แสงไฟที่อยู่ไกลออกไปเชื่อมต่อกับเงาระยะใกล้ เสียงล้อรถและกีบม้าที่ย่ำไปบนถนนฟังดูเงียบงันเป็นพิเศษ
“นายคิดจะ… ทำอะไร?” ลูอิส·ลุนด์ไม่เสี่ยงลงมือ เพียงถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ
ในสายตาของเขา การที่ลูเมี่ยนไม่ใช้มาตรการควบคุมตัวเลย แสดงให้เห็นว่าอีกฝ่ายมั่นใจเสียเต็มประดา ว่าตนหนีไม่พ้นแน่
จริงอยู่ คนเราประมาทกันได้ มีจุดอ่อนกันได้ แต่สิ่งนี้จะไม่มีทางเผยออกมาในการต่อสู้ซึ่งหน้า
ส่วนผู้ช่วยของเด็กหนุ่ม ซึ่งสามารถย่องมาสับกกหูตนได้โดยที่ไม่รู้ตัวมาก่อนเลย ก็บ่งบอกถึงความสามารถได้เป็นอย่างดี!
ลูเมี่ยนยิ้ม
“ฉันแค่อยากเจอเพื่อนเก่าเท่านั้นเอง”
“ฉันจะไม่ยอมถูกนายข่มขู่อีกแล้ว คุณนายรับรู้ถึงความผิดที่ฉันเคยก่อไว้แล้ว และให้อภัยแล้วด้วย”
ที่แท้เราก็เคยเค้นข้อมูลลับจากหมอนี่จริงๆ ? ลูเมี่ยนเหม่อไปชั่วขณะ
เขายังไม่ลืมว่าในความฝัน ตนล่วงรู้ว่าลูอิส·ลุนด์นอกใจภรรยา ไปมีชู้กับผู้หญิงในหมู่บ้าน รวมถึงการแอบขายของสะสมในปราสาท จึงใช้เรื่องนี้ข่มขู่ลูอิส จนได้ทราบว่าคุณนายปัวริสแอบเล่นชู้กับอธิการโบสถ์
นึกย้อนกลับไปอีกที อาจไม่ใช่ทั้งหมดที่เป็นความจริง
หลวงพ่ออธิการโบสถ์ ถ้าได้ร่วมเตียงกับคุณนายปัวริสจริง ไม่มีเหตุผลที่เขาจะไม่ศรัทธาเทพมารแห่งความอุดมสมบูรณ์นั่น และไม่มีเหตุผลที่จะไม่มีลูกเต้าสักสองสามคน
ส่วนเรื่องที่ลูอิส·ลุนด์นอกใจและแอบขายของสะสม เทียบกับความลับอื่นในปราสาทของคุณนายปัวริสแล้ว มันช่างเด็กน้อยและธรรมดาราวกับอาหารสามมื้อ คนอย่างเขาไม่มีทางถูกข่มขู่ด้วยเรื่องนี้แน่
แต่ตอนนี้ ลูอิส·ลุนด์กลับบอกว่าตัวเองเคยทำผิดจริง และเคยถูกเด็กหนุ่มข่มขู่จริง!
“งั้นหรือ…” ลูเมี่ยนกลับเข้าร่าง ‘ราชานักแกล้งแห่งหมู่บ้านกอร์ตู’ “แต่ฉันจำได้ว่า… ทางนี้คอยช่วยนายปกปิดความผิดอยู่นะ ทำไมถึงเรียกว่าข่มขู่ได้ล่ะ?”
ลูอิส·ลุนด์โกรธจนหัวเราะออกมา
“นายเป็นคนที่ไร้ยางอายที่สุดเท่าที่ฉันเคยพบเจอ”
“อย่ามาทำไขสือเลย ตอนนั้นนายพบความผิดปกติแค่เล็กน้อยเท่านั้น จึงต้องการสืบหาต้นตอ… แต่นายข่มขู่ฉันไม่ผิดแน่ จนได้ข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับคุณนายไป”
“อา… ตอนนั้นฉันคิดจะทรยศคุณนาย โดยหันไปหาความช่วยเหลือจากหลวงพ่อ แต่นั่นเป็นเพราะฉันยังไม่เข้าใจความยิ่งใหญ่ขององค์มารดา และยังเป็นผู้ศรัทธาในเทพเทียมอย่าง ‘สุริยันเจิดจรัส’ แต่ตอนนี้ ชีวิตของฉันมาจากองค์มารดา อนาคตของฉันเป็นขององค์มารดา”
อย่างนี้นี่เอง… ขอบคุณ ‘ยาสารภาพ’ ที่ทำให้พูดออกมาหมดเปลือก ไม่ต้องปวดหัวกับการเลือกเฟ้นคำถามเพื่อให้หมอนี่สารภาพ… ในความเป็นจริง เราก็สังเกตเห็นความผิดปกติในหมู่บ้าน และเริ่มลงมือสืบสวนบ้างแล้วสินะ? ลูเมี่ยนพยักหน้าพอใจ พูดต่อด้วยรอยยิ้ม
“นายเริ่มเข้าถึงความยิ่งใหญ่ขององค์มารดาตั้งแต่เมื่อไร? ตั้งแต่คลอดลูกคนนั้น?”
“นายรู้ได้ยังไง?” ลูอิส·ลุนด์ทำหน้าตกใจ เกือบจะลุกขึ้นยืนจนหัวโขก “…รู้ได้ยังไงว่าฉันเคยคลอดลูก?”
หืม… ในกลุ่มหลวงพ่อที่บุกโจมตีปราสาทเจ้าหน้าที่ปกครอง ไม่มีเราอยู่ด้วยสินะ… ไม่อย่างนั้นลูอิส·ลุนด์คงไม่ถามแบบนี้… ลูเมี่ยนยินดีปรีดาในใจ แล้วพูดติดตลกกลับไป
“ตอนที่ถอดเสื้อผ้านายเมื่อสักครู่ ฉันเห็นรอยท้องแตกและแผลผ่าคลอดน่ะ”
“ไม่มีทาง!” ลูอิส·ลุนด์โต้แย้งหน้าดำหน้าแดง “คุณนายกำจัดมันหมดแล้ว!”
ลูเมี่ยนถือโอกาสเปลี่ยนเรื่อง ถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“ฉันสงสัยว่า คุณนายปัวริสทำให้พวกนายท้องได้ยังไง”
ลูอิส·ลุนด์ที่เดิมไม่คิดจะตอบ กลับห้ามใจไม่ไหว เกิดอยากอธิบายขึ้นมาทันที
“ไม่ว่าจะชายหรือหญิง แค่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับคุณนาย มีการแลกเปลี่ยนสารคัดหลั่ง ก็จะตั้งท้องตามความปรารถนาของคุณนายได้”
งั้นหรือ… ลูเมี่ยนถอนหายใจเบาบางอย่างโล่งอก
ก่อนหน้านี้ สิ่งที่เขากังวลที่สุดก็คือ คุณนายปัวริสอาจใช้พลังวิเศษทำให้ตนตั้งท้องในระยะไกล
“จะชายหรือหญิงก็ได้สินะ… แล้วสัตว์ล่ะ?” ลูเมี่ยนถามต่อ
คำถามทำให้ลูอิส·ลุนด์อึ้งไปชั่วขณะ นิ่งไปสักพักจึงตอบได้
“ก็คงได้เหมือนกัน…”
“แล้วพืชล่ะ? หินล่ะ?” ลูเมี่ยนดูมีจิตวิญญาณนักวิชาการอย่างยิ่ง
“ม…ไม่รู้…” ลูอิส·ลุนด์มิอาจให้คำตอบที่แน่ชัด
ตัวคุณนายยังไม่เคยลองทำเรื่องพรรค์นั้นเลย ไอ้หนุ่มนี่มีจินตนาการอุดมสมบูรณ์เพียงนี้เชียว?
ลูเมี่ยนเปลี่ยนหัวข้อด้วยความเสียดาย
“ในเมื่อตั้งท้องโดยการแลกเปลี่ยนสารคัดหลั่ง… แล้วสิ่งที่อยู่ในท้องนาย ที่มันเหมือนรังนก มาจากไหน?”
“นายรู้ได้ยังไง? เคยเห็นมันตอนไหน!” ลูอิส·ลุนด์ถามกลับอย่างตกใจ
“เดี๋ยวค่อยเล่าให้ฟัง” ลูเมี่ยนหลอกอีกฝ่ายโดยไม่กะพริบตา
ใบหน้าของลูอิส·ลุนด์เต็มไปด้วยความสงสัย พึมพำพูดว่า
“มันเจริญเติบโตมาพร้อมกับเด็ก เหมือนผลไม้ มันเป็นเปลือก ส่วนตัวอ่อนเป็นเนื้อผล แต่เดิมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน จนกระทั่งสุกจึงแตกออก”
“ฟังดูอัศจรรย์จริงๆ … รังนกนั่นคงเป็นวัตถุที่เต็มไปด้วยพลังวิญญาณ นำไปใช้ในศาสตร์เร้นลับได้ไหม?” ลูเมี่ยนจงใจถามเรื่องโน้นทีเรื่องนี้ที ทำให้อีกฝ่ายมองไม่ออกว่า ที่จริงแล้วเขาอยากถามอะไร
“มันเป็นหนึ่งในส่วนประกอบหลักของน้ำยารักษาบางชนิด” ลูอิส·ลุนด์เล่าหมดเปลือก “และยังใช้ประโยชน์ในด้านอื่นได้ด้วย เช่น ช่วยปรับปรุงสภาพผิวของร่างกายมนุษย์ ช่วยเพิ่มพลังให้เวทมนตร์…”
รอจนอีกฝ่ายพูดจบ ลูเมี่ยนจึงถามทีเล่นทีจริง
“ลูกคนแรกของนาย ตายไปตอนที่หลวงพ่อโจมตีปราสาทสินะ?”
“ใช่… เขายังเด็กอยู่เลย” ลูอิส·ลุนด์รู้สึกเศร้าใจกับการจากไปของชีวิตหนึ่ง “ตอนนั้นหลวงพ่อพาคนมาเยอะเกินไป พวกเราต้องถอยร่นไปเรื่อยๆ ‘คนสวน’ ตายไปหลายคน ‘เจ้าวิชามาร’ ก็เหมือนกัน… ถ้าไม่ใช่เพราะคุณนายรีบกลับมาทัน พวกเราอีกสักสองสามคนคงหนีไม่รอดแน่… เฮ้อ… เด็กๆ พวกนั้นถูกฆ่าจนเกลี้ยง”
“หลวงพ่อพาคนมาเท่าไร” ลูเมี่ยนฝืนระงับอารมณ์ ถามด้วยท่าทีไม่ได้ใส่ในนัก
ลูอิส·ลุนด์เล่าพลางทำหน้านึก
“บางคนเคยเป็นคนเลี้ยงแกะมาก่อน เช่นปิแยร์·แบรี นียอร์·บาสต์ บางคนเป็นพวกผู้หญิงของหลวงพ่อ เช่นฌิบริล·แบรี มาไดนา·เบเนต์ ฟิลิปปา·กิโยม ที่เหลือก็เป็นปงส์·เบเนต์กับลิ่วล้อ พวกเราจัดการไปได้หลายคน รวมถึงนียอร์·บาสต์ที่แข็งแกร่งมากด้วย…”
ในความฝันของเรา นียอร์·บาสต์ถูกแกะสามตัวนั่นฆ่าตาย… ความจริงคือตายระหว่างโจมตีปราสาทเจ้าหน้าที่ปกครอง? ลูอิส·ลุนด์ไม่ได้เอ่ยชื่อเรา… หมายความว่า ภาพการต่อสู้ที่เราเคยเห็น เกิดจากเศษวิญญาณบางส่วนในร่างกายเรา? มันจึงไม่สมบูรณ์ ไม่อาจแสดงฉากได้ทั้งหมด ไม่อาจแสดงผู้ร่วมรบได้ครบทุกคน… ลูเมี่ยนรู้สึกผ่อนคลายลงมาก จึงถามด้วยรอยยิ้ม
“แล้วตอนนั้นคุณนายปัวริสไปไหนมา?”
…………………………………………………….