ราชันย์จอมโจรปล้นสุสาน - บทที่ 48: ทาสผู้ทำงานหนัก (3) 1
บทที่ 48: ทาสผู้ทำงานหนัก (3)
ยูแจฮากำลังคิดว่าจูฮอนเป็นพวกขี้อวด ทั้งที่ไม่รู้อะไรเลย
‘เรานี่แหละมืออาชีพ มันคิดว่าตัวเองเก่งนักเหรอ? ไม่ว่าจะซ่อมแซมได้เร็วขนาดไหน เร็วสุดมันต้องใช้เวลาหนึ่งสัปดาห์ ตั้งหนึ่งสัปดาห์!’
ยูแจฮายิ้มเยาะทันทีที่คิดเช่นนั้น เป็นเพราะเขามั่นใจว่าไม่มีผู้ซ่อมแซมคนไหนเทียบ
นั่นคือเหตุผลที่เขากล่าวคำพูด
“เอาล่ะ ทำไมไม่ลองสาธิตให้ดูหน่อยล่ะว่าต้องทำยังไง? ใครก็พูดได้ว่าตนเป็นศิลปิน เป็นนักเรียนดีเด่น เป็นอัจฉริยะหรือไม่ก็บอกว่าตนมีเงินประจำปีตั้งร้อยล้านวอน ถ้าไม่เห็นกับตา ฉันก็ไม่เชื่อหรอก”
‘ไอ้เจ้านี่ คิดจะอวดดีต่อหน้าเรา?’
ยูแจฮาจึงกระตุ้นเพิ่มเข้าไปอีก
“เอาเงินเดือนเป็นเดิมพัน ว่านายทำไม่ได้”
จูฮอนแอบยิ้มทันทีที่ได้ยิน
‘ถึงกับเอาเงินเดือนมาเดิมพันเลยงั้นเหรอ?’
เขาไม่ควรพูดเช่นนั้นออกมาโดยไม่ยั้งคิด
“เอางั้น”
“ใช่! ถ้านายทำได้ ฉันจะซ่อมแซมโบราณวัตถุทั้งสิบชิ้นภายในวันเดียว! ฉันไม่ของั้นเดือนด้วย! แต่ถ้าฉันชนะ…”
“ถ้าฉันชนะ?”
“ฉันจะใช้เวลาหนึ่งเดือนในการซ่อมแซมโบราณวัตถุทุกชิ้นและจะทำให้นายได้สัมผัสถึงศักดิ์ศรีของผู้ซ่อมแซมโบราณวัตถุ ฉันอยากจะพักผ่อนในระหว่างทำงานด้วย!”
“แน่ใจแล้ว?”
จูฮอนยิ้มเยาะด้วยเหตุผลใดไม่ทราบ และยูแจฮาก็ไม่อาจทราบ ว่าเสียงหัวเราะนั้นมีอะไรแอบแฝงไว้ภายใน
‘ก็เหมือนจะมีความรู้ซ่อมโบราณวัตถุอยู่บ้าง แต่ถ้าทำได้จริง ฉันคนนี้จะยอมเผามือทิ้งก็ได้ เพราะมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว คิดซ่อมแซมโบราณวัตถุไม่ใช่เรื่องที่ใครคิดก็ทำได้’
อย่างไรก็ตาม…
เขาได้ยินคำตอบที่ไม่คาดคิด
“สาธิตงั้นเหรอ? ได้สิ”
ยูแจฮาไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยิน ท่าทีของเขากลับแข็งทื่อ
“ว่าไงนะ? เมื่อกี้นายว่ายังไงนะ?”
จูฮอนขยับนิ้วราวกับกำลังจะบอกให้ยูแจฮาส่งบางสิ่งมาให้
“คอยดูละกัน ส่งโบราณวัตถุแห่งการรักษามา”
ยูแจฮาอดไม่ได้ที่จะเกิดความกังวล
“ดะ-เดี๋ยวสิ เมื่อกี้นายพูดว่าอะไรนะ?”
“บอกให้ส่งมายังไงเล่า”
‘เขาพูดจริงงั้นเหรอ?’
ท้ายที่สุด ยูแจฮาก็พบว่าเรื่องราวไม่ชอบมาพากล
***
ประมาณสามสิบนาทีต่อมา …
‘มันไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย’
ยูแจฮาทำอะไรไม่ได้ ซ้ำยังเหงื่อแตกท่วมตัว เหตุการณ์นี้มันน่าเหลื่อเชื่อเกินไป
นั่นเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง
มันบ้ามาก
นายจ้างของเขาต้องบ้าไปแล้วแน่
‘อะไรกันวะเนี่ย มันเป็นไปได้ไงกัน?!’
ปริ๊ง!
แสงสว่างจ้าส่องประกายอยู่ด้านนอกคาเฟ่ ในตรอกแคบที่ไม่มีคนอยู่… จูฮอนที่ขอไอรีนออกมาด้านนอกคาเฟ่เพื่อซ่อมแซมโบราณวัตถุกำลังขยับมืออย่างรวดเร็ว
ในมือของจูฮอนคือปากกาแปรงที่มักจะพบได้ในร้านขายเครื่องเขียน มือของเขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วราวกับการเร่งวิดิโอ
ด้วยเหตุนี้ ยูแจฮาทำได้แค่ยืนมองพร้อมกับอ้าปากค้าง
แม้แต่ผู้ซ่อมแซมก็ยังฟื้นฟูโบราณวัตถุที่ถูกทำลายร้ายแรงเช่นนี้ในระยะเวลาอันสั้นไม่ได้!
ถึงกระนั้น จูฮอนเริ่มกล่าวคำพูดอย่างใจเย็นโดยไม่สนใจว่ายูแจฮาจะคิดอะไรอยู่
“นี่ไง ง่ายใช่ไหมล่ะ?”
คำกล่าวนั้นทำให้ยูแจฮาต้องสบถออกมา
‘ไอ้บัดซบ ง่ายบ้าบออะไรกัน!’
จูฮอนดูเหมือนชายที่กำลังถือแปรงปากกา เขากำลังยิ้มอยู่พร้อมพูดว่า ‘ง่ายใช่ไหมล่ะ?’
และนั่นเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง
โบราณวัตถุในมือของจูฮอนคือ <แปรงจากสวนดอกไม้ของพระราชวังคยองบกกุง-เกรด B (ใช้งานทั่วไป)> วัตถุราวกับเคยทำมันจนคุ้นชิน
นี่มันอะไรกัน?!
‘เอ่อ… บ้าน่า เราเพิ่งจะเอาเงินเดือนมาพนันไปด้วยสิ!’
ยูแจฮากำลังน้ำตาตกใน
เขาคิดว่าตัวเองมีความสามารถในการซ่อมแซมโบราณวัตถุ ทว่า เขาไม่ต่างอะไรกับคนที่พยายามจะสอนปลาให้รู้จักว่ายน้ำ
นอกจากนี้ จูฮอนมีความรู้ในเรื่องการซ่อมแซมโบราณวัตถุราวกับเป็นศาสตราจารย์ เขาไม่ใช่มือสมัครเล่น
‘บ้าฉิบ เป็นไปได้ไง?’
ณ จุดนี้ ไม่ต่างอะไรกับการเปรียบเทียบว่ายูแจฮาเป็นเหมือนนักเรียนประถม แต่จูฮอนเป็นถึงอาจารย์มหาวิทยาลัย!
นั่นคือสาเหตุที่ยูแจฮาแทบเสียสติและรู้สึกอับอาย แต่เขาก็ยังคงชื่นชมในความสามารถของจูฮอน
‘บ้าน่า เราอาจจะชอบมันขึ้นมาก็ได้ ไม่สิ ไอ้หมอนี่มันเลว!’
จูฮอนนั้นดูเชี่ยวชาญกว่าคนอื่น ยูแจฮาที่เป็นศิลปินอัจฉริยะเช่นนี้กลับทำอะไรไม่ได้เลย แต่เขาก็ยังคงให้ความเคารพกับศิลปะที่ยอดเยี่ยมของจูฮอน
ถึงเขาจะทำอะไรไม่ได้ แต่เขาก็เคารพบุคคลที่สร้างงานศิลปะชั้นยอด
นั่นเป็นสาเหตุที่ยูแจฮาพูดด้วยน้ำเสียงที่เจ็บปวด
“บ้าน่า นายเก่งกว่าฉันเสียอีก! แล้วทำไมถึงต้องมาจ้างให้ฉันทำให้กัน?!”
“ทำไมงั้นเหรอ? เพราะว่ามันน่ารำคาญไง”
ยูแจฮาแทบล้มทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ทว่า จูฮอนเผยยิ้มและมองมาที่ยูแจฮา
การซ่อมแซมโบราณวัตถุต้องอาศัยสมาธิและพลังงานเป็นอย่างมาก
นั่นไม่ใช่เพียงแค่สิ่งเดียว
“ยังไม่จบแค่นั้น การซ่อมแซมในแบบของฉันอาจจะทำลายพวกมันมากเกินไป พวกมันทนการยึดครองของฉันไม่ไหว มันเหมือนกับการใช้ของที่จำกัด”
“งั้นเหรอ?”
นั่นคือความจริง การซ่อมแซมโบราณวัตถุต้องอาศัยค่าความเป็นมิตรสูง ทว่า ค่าความเป็นมิตรของจูฮอนนั้นต่ำ ต่ำมากจนเหมือนว่าการซ่อมแซมคือการทำลายโบราณวัตถุ