ราชันย์จอมโจรปล้นสุสาน - บทที่ 46: ทาสผู้ทำงานหนัก (1) 1
บทที่ 46: ทาสผู้ทำงานหนัก (1)
โบราณวัตถุที่จูฮอนเรียกใช้งานคือขวานเงิน ขวานเงินแปรเปลี่ยนกลับคืนสู่รูปลักษณ์ดั้งเดิมพร้อมสั่นสะท้านราวกับจะฟาดฟันได้ทุกสิ่งอย่าง
เจ้ามนุษย์ ส่งผู้หญิงมา ข้าต้องการผู้หญิง ไม่เอาผู้ชาย
นั่นคือสิ่งที่มันสบถ และจูฮอนก็ไม่เข้าใจเท่าไหร่ ทว่า จูฮอนเพิ่งจะใช้การยึดครองระดับสูงไป
“หุบปาก ทำงานซะ ขวานเงิน”
ชุดสูทของประธานควอนกลับกลายเป็นผ้าขี้ริ้วในทันใด และโบราณวัตถุในมือของเขาถูกทำลาย ซ้ำยังกระเด็นออกไปทันทีที่จูฮอนใช้การยึดครอง ความเร็วของเขาในการใช้โบราณวัตถุนั้นเร็วไม่น้อย
“เฮือก!”
แน่นอน เขาไม่ได้โป๊เปลือย แม้ว่าเสื้อผ้าจะขาดหลุดลุ่ย ชุดเกราะของอคิลิสที่ประธานควอนสวมใส่ราวกับเป็นเสื้อกางเกงรัดรูปแขนยาวยังคงอยู่
ทว่า มันดูเหมือนถุงน่องรัดรูปมากกว่าเสื้อกางเกงรัดรูป
นั่นเป็นสาเหตุที่ยูแจฮากล่าวคำพูดทันทีที่มอง
“บ้าฉิบ ตาฉัน!”
ในเวลาเดียวกัน ประธานควอนพลันตะโกน
“จับตัวมัน! พวกแกมัวทำอะไรกันอยู่? จับไอ้บัดซบนั่นไว้!”
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ถูกจูฮอนทำร้ายวิ่งไปปิดกั้นทางออก จูฮอนเผยยิ้มทันทีที่เห็นการเคลื่อนไหวของอีกฝ่าย
‘เหอะ นี่เราอ่อนให้พวกมันมากไปหน่อยงั้นสิ? ยังไงซะ พวกมันก็แค่คนธรรมดา’
“ฉันจะไม่ฆ่าพวกแกเพราะเราไม่ได้อยู่ในสุสาน”
จูฮอนหยิบปากกาของเช็กสเปียร์ออกมา
สีหน้าของยูแจฮาเริ่มซีดเซียวทันทีที่มองจูฮอน เขาทำอะไรไม่ได้นอกจากเอามือกุมระหว่างขาของตัวเองไว้
‘อย่าบอกนะว่าไอ้หมอนี่…’
ทันใดนั้นเอง… จูฮอนที่กำลังจดบางสิ่งด้วยปากกาหมึกซึมกำลังทำให้อีกฝ่ายประสบพบเจอกับสิ่งที่เลวร้ายยิ่งกว่าความตาย
[เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่จ้องจะเล่นงานซอจูฮอนและยูแจฮาจะต้องดิ้นทุรนทุรายราวกับคนใกล้ตาย]
พรึบ!
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกรีดร้องและล้มลงไปกับพื้นทันทีที่กุมมืออยู่ระหว่างขา
“โอ๊ย โอ๊ย!”
“ไอ้บัดซบ!”
นี่เป็นความเจ็บปวดสาหัส
จูฮอนหัวเราะด้วยความพอใจทันทีที่เส้นทางสะดวก
“ดีเลย ทางสะดวกแล้ว”
“ไอ้สารเลว…”
จูฮอนตัดสินใจแล้วว่าจะต้องดูแลยูแจฮาไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
“ทาสเบอร์หนึ่ง รีบลุกขึ้นซะ ไม่อย่างนั้น ฉันจะหนีไปจากที่นี่โดยไม่มีนาย”
ดวงตาของยูแจฮาเบิกกว้างทันทีทันใด
“อะ-อะไรนะ? ทาสเบอร์หนึ่ง?”
“โอ้ ฉันพูดผิดเอง… ลูกน้องเบอร์หนึ่ง”
“?”
การหลบหนีไม่ใช่เรื่องยาก เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยล้มลงไปนานแล้ว ทันใดนี้ ยูแจฮาวิ่งตามจูฮอนไปพร้อมขึ้นแท็กซี่
***
ยูแจฮาที่หลบหนีไปที่ร้านอาหารถึงกับลมจับ พร้อมเริ่มถามคำถาม
“นี่แก ฉันอยากจะถามอะไรหน่อย”
จูฮอนเริ่มขมวดคิ้วราวกับไม่ชอบน้ำเสียงของยูแจฮา
“จะเอาแต่เรียกผู้ว่าจ้างว่า ‘แก’ ไปถึงเมื่อไหร่กัน?”
“แล้วมันผิดตรงไหน? แกเด็กกว่าฉันตั้งสามปี ควรเรียกฉันว่ารุ่นพี่ด้วยซ้ำ”
ยูแจฮาบ่นพร้อมเปิดเมนูอาหาร
‘หมอนี่บอก ว่าจะเลี้ยงอาหารเป็นการฉลองจ้างงานเรา อวดโอ่เป็นเจ้านายแต่กลับเลี้ยงอาหารราคาถูก’
แล้วยูแจฮาก็ทำท่าทีฮึดฮัดทันทีที่มองเมนูอาหาร มันเป็นเพราะราคาของอาหารในเมนูนั้นสูงกว่าที่คาดคิด ทว่ามันช่วยอะไรไม่ได้
‘สเต็กที่ขนาดเท่ากำปั้นราคาตั้งหนึ่งล้านวอนเลยเหรอ? บ้าน่า มันชุบทองคำมาขายหรือยังไงกัน?!’
มันไม่ใช่แค่นั้น ไวน์แค่ขวดเดียวก็มีราคาเกินร้อยล้านวอนแล้ว นอกจากนี้ เค้กหนึ่งชิ้นก็มีราคาหลายแสนวอน
‘บ้าน่า เป็นไปไม่ได้!’
เขาแตะเศษเงินในกระเป๋าที่ขโมยมา เมื่อไม่นานมานี้ ยูแจฮายังคงกับต้องอ้อนวอนขอแฮมเบอร์เกอร์เพื่อประทังชีวิต เขาไม่มีเงินแม้แต่จะจ่ายค่าเช่าด้วยซ้ำ จึงไม่น่าแปลกที่ราคาเหล่านี้จะทำให้ยูแจฮาตกใจ
ยูแจฮาที่กำลังน้ำตาตกในถึงกับทำอะไรไม่ได้ นอกจากจะต้องถามคำถาม
“นายคงจะไม่สั่งอาหารเหล่านี้ แล้วก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำไช่ไหม?”
“คิดว่าฉันเป็นแกงั้นเหรอ?”
ยูแจฮาถึงกับน้ำตาตกในทันทีที่ได้ยินจูฮอนเผยเสียงหัวเราะเยาะ มันเป็นเพราะเขารู้ว่าความตั้งใจของจูฮอนคืออะไร
‘ไอ้หมอนี่จะใช้เราทำสักกี่งานกัน?’
เรื่องราวจึงเป็นเช่นนั้น ไม่มีใครดีโดยไม่มีเหตุผล ยูแจฮารู้ว่าเหตุผลที่จูฮอนเลี้ยงอาหารราคาแพงเช่นนี้คืออะไร นั่นคือเหตุผลที่ยูแจฮามองจูฮอนด้วยความสิ้นหวัง
“เอ่อ… แล้วงานที่ต้องทำล่ะ…”
จูฮอนหัวเราะเยาะทันทีที่เห็นท่าทีที่เปลี่ยนไปของเขา
“ไม่ต้องห่วง นายจะมีระยะเวลางานที่กำหนดและเวลาเลิกงาน ฉันรู้ว่าพนักงานทุกคนต้องการเวลาพัก อยากกินอะไรก็กินเถอะ”
ยูแจฮาถอนหายใจอย่างโล่งอกและเผยยิ้มอย่างสดใส
“นายต้องการอะไรก็บอกมา ฉันจะทำให้ทุกอย่าง!”
จูออนเผยยิ้มชั่วร้าย
‘เหอะ มันมีมากกว่านั้นอีก’
จูฮอนวางแผนที่จะจ่ายให้ยูแจฮาอย่างดี ทั้งกำหนดเวลาทำงานและเวลาว่างเอาไว้ให้
อย่างไรก็ตาม…
‘ชั่วโมงการทำงานของนายจะหมด ก็ตอนนายทำงานเสร็จแล้วนั่นแหละ’
สำหรับเวลาว่าง…
‘แต่การซ่อมแซมก็เป็นเหมือนเวลาว่างของนายอยู่แล้ว’
นั่นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง
จูฮอนเป็นนายจ้างผู้ชั่วร้ายที่เชื่อว่าเวลาว่างของศิลปินคือการวาดรูป และเวลาว่างของนักซ่อมแซมคือการฟื้นฟูโบราณวัตถุ
‘จะต้องให้นายจับและฝึกฝนโบราณวัตถุจนกว่าจะเบื่อหนาย’
ยิ่งไปกว่านั้น ยูแจฮายังไม่มีทักษะในการซ่อมแซมโบราณวัตถุระดับเทพเจ้าในตอนนี้ นั่นเป็นเหตุผลที่ทางเลือกเดียวคือจูฮอนต้องช่วยทำให้เขาเติบโต วิธีเดียวที่จะชินกับการซ่อมแซมคือต้องซ่อมโบราณวัตถุให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
‘กินไปเลย’
จูฮอนเผยยิ้มชั่วร้ายทันทีที่มองยูแจฮาที่กำลังมองเมนูอย่างมีความสุข
ผู้คนมักจะทำตัวไม่ดีโดยไม่มีเหตุผล
จากนั้น ยูแจฮาจะจึงหยิบสร้อยที่ถูกทำลายออกมาจากกระเป๋าแล้วถามกลับ
“เอ่อ… ยังไงก็เถอะ โบราณวัตถุชิ้นนี้ทำอะไรได้บ้าง?”
“อ่อ นั้นน่ะเหรอ? ก็ไม่มีอะไรมาก”
จูฮอนเผยยิ้มทันทีที่หยิบโทรศัพท์ให้ยูแจฮาดู
***