ราชันย์จอมโจรปล้นสุสาน - บทที่ 19: ถ้าไม่อยากตายก็ส่งมันมา 2
บทที่ 19: ถ้าไม่อยากตายก็ส่งมันมา 2
“กะ-เกิดอะไรขึ้น?”
“ฉันจะคลายเชือกที่มือให้ แล้วก็เงียบด้วย เขียนทุกอย่างที่ปรากฎในบันทึกแห่งอนาคตนั่นลงไป ขาดไปสักคำเธอตายแน่
“อะ-อือ!”
ท้ายที่สุด กิก็ลงเอยด้วยการเป็นนักโทษของจูฮอน และต้องเขียนข้อมูลทั้งหมดที่โผล่ขึ้นมาในบันทึกแห่งอนาคตลงไป
‘ยังมีเวลาอีกเยอะก่อนที่เราจะได้กลับบ้าน’
เขาจัดการกับบันทึกแห่งอนาคตด้วยมุรามาสะได้ แต่ทว่า มันจะไม่เป็นการเสียเปล่างั้นเหรอที่จะทำลายบันทึกแห่งอนาคตแล้วก็กลับบ้าน ทั้งที่ทุกอย่างเป็นเช่นนี้?
นี่เป็นเรื่องจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตอนนี้จูฮอนรู้แล้วว่าที่ประธานควอนมีส่วนเกี่ยวข้องกับบันทึกแห่งนาคต
มันหมายความว่าอย่างไร?
จูฮอนเริ่มหัวเราะ
‘อนาคตของประธานควอนจะต้องอยู่ในนี้ด้วย’
และมันเป็นเช่นนั้น จูฮอนเลยตั้งเป้าเพื่อที่จะหาข้อมูลเกี่ยวกับประธานควอน
ประธานควอนคอยช่วยรัฐบาลญี่ปุ่นอยู่ เขาคงต้องให้ซาซากิดูอนาคตของตัวเองไว้อย่างแน่นอน
ในกรณีนั้น บันทึกแห่งอนาคตก็ควรจะแสดงอนาคตของไอ้เวรนั่นเช่นกัน
นี่เป็นโอกาส
‘แต่ก็ยังเป็นเรื่องที่น่ารำคาญที่ต้องมาจัดการโบราณวัตถุเกรด S (ระดับตำนาน) อยู่ดี’
แทนที่จะต้องเหนื่อยเพื่อที่จะครอบครองบันทึกแห่งอนาคตด้วยตัวเอง แต่มันจะเร็วกว่าหากสั่งให้ซาซากิอ่านข้อมูลทั้งหมดและทำลายมันทิ้งไปซะ
ในปัจจุบัน จูฮอนได้ยึดครองโบราณวัตถุระดับ B (หายาก) ได้อย่างง่ายดาย แต่โบราณวัตถุระดับ A (สมบัติล้ำค่า) และระดับที่สูงกว่านั้นจะต้องอาศัยการยึดครองที่แข็งแกร่งไม่น้อยเพื่อที่จะได้ครอบครองมา
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงแพ้ให้กับโบราณวัตถุระดับ S หรือระดับที่สูงกว่านั้น ที่จริงแล้ว จูฮอนต้องแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ให้ได้ เพราะว่าโบราณวัตถุชิ้นใดก็ตามที่อยู่เหนือระดับ A นั่นถือว่าเป็นเหมือนโลกที่ต่างออกไป
‘โอเค เรามั่นใจแล้วว่าซาซากิเป็นหนึ่งในคนที่มีความสัมพันธ์ในด้านความเป็นมิตรมากกว่าการยึดครอง’
เธอเป็นผู้ที่ถูกโบราณวัตถุเลือก
ถึงกระนั้น มันก็ไม่ได้ดีเลยที่จะมีค่าความเป็นมิตรสูง
การมีค่าความเป็นมิตรที่สูงนั่นหมายความว่ามันเป็นเรื่องง่ายสำหรับบุคคลนั้นที่จะจัดการกับโบราณวัตถุ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าโบราณวัตถุจะไม่เกลียดชังบุคคลนั้น
‘คนพวกนั้นก็เป็นเหมือนเหยื่อที่ตกได้ง่าย’
ซาซากิจะถูกวางยาพิษโดยโบราณวัตถุและเสียชีวิตภายในหนึ่งหรือสองปีหากเธอยังคงใช้บันทึกแห่งอนาคตนี้ด้วยความใกล้ชิด
“ยังไงซะ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่ได้เขียนอะไรผิด ฉันจะฆ่าเธอถ้าเขียนอะไรไม่รู้เรื่อง”
ซาซากิสะดุ้งและรีบมองดูที่สมุดบันทึกทันทีที่เห็นจูฮอนหยิบมุรามาสะออกมาจากปลอก ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยน้ำตาและน้ำมูก เธอเริ่มเขียนอย่างลนลานเพราะกลัวว่าจูฮอนจะฆ่าเธอหากเธอหยุดเขียนเพียงเพื่อเช็ดน้ำตา
ผ่านไปประมาณสี่ชั่วโมง…
ซาซากิเขียนข้อมูลจำนวนมากบนสมุดบันทึกหากเทียบกับที่เธอต้องเขียนตามปกติ เธอเขียนจนเต็มหน้าทุกแผ่น
แน่นอนว่าซาซากิไม่มีทางเลือกนอกจากต้องทำเช่นนั้น
เธอขอร้องจูฮอนว่าขอพักสักหน่อยได้ไหม แต่ได้คำตอบกลับมาว่า ‘เธอต้องการที่จะพักไปตลอดหรือเปล่า?’ เธอบอกต่อว่าเธอเจ็บมือ แต่ก็ได้คำตอบกลับมาว่า ‘ฉันแน่ใจว่ามันจะเจ็บมากกว่านี้ หากเธอไม่มีมือ’
แม้ว่าเธอจะขอเขาไปเข้าห้องน้ำ จูฮอนก็บอกเธอว่า ‘จัดการตรงนี้ให้เสร็จก่อน’ หากเป็นเช่นนี้ มันจะเป็นอย่างไรกันหากเธอหยุดเขียน?
ซาซากิส่งสมุดบันทึกให้จูฮอนขณะที่เธอสะอึกสะอื้น
“ฮือ หนูขอโทษ ที่หนูทำแบบนี้ก็เพราะหนูอยากที่จะคุยกับพี่ชาย ฮือ! โชสุเกะ ฉันขอโทษนะที่ไปสนใจชายอื่นมากกว่า ก็มีคนเคยบอกว่าคนเกาหลีมักจะเป็นสุภาพบุรุษ นิสัยดีแล้วก็มีน้ำใจนี่”
จูฮอนที่มองผ่านกระดาษจดพูดขึ้น
“ใครบอกเธอกัน?”
“พะ-เพื่อน!”
“แล้วมันวัดจากอะไรล่ะ?”
“ละครเกาหลี!”
ไอ้ละครน้ำเน่าพวกนั้น
ละครพวกนั้นมักจะเป็นเหตุผลที่ทำให้เด็กวัยรุ่นมีจินตนาการที่แปลกประหลาด
จูฮอนกระเดาะลิ้นทันทีที่พลิกหน้ากระดาษ
ซาซากิไม่รู้ว่าเธอเขียนอะไรลงไป แต่มันง่ายมากสำหรับจูฮอน เพราะเขาอ่านอักษรโบราณจากข้อมูลของกองกำลังญี่ปุ่นออก โบราณวัตถุที่ญี่ปุ่นจะได้ครอบครองมานั่นมาจากสุสานในอนาคตที่ตั้งอยู่ในประเทศญี่ปุ่นเอง
น่าเสียดายที่ข้อมูลที่จูฮอนต้องการมากที่สุดไม่ได้อยู่ที่นั่น
‘ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับประธานควอนเลยงั้นเหรอ?’
ทันใดนั้นเอง…
“!”
คำทำนายที่ไม่คาดคิดถูกเขียนในหน้าถัดไป มันดูเหมือนเป็นรหัส แต่เป็นข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับประธานควอนอย่างแน่นอน
นั่นเป็นสาเหตุที่จูฮอนยิ้มขึ้นมา
‘เจอแล้ว’
เขาโชคดีเหลือเกิน
แต่ทว่า ความโชคดีมักจะมาพร้อมกับความโชคร้ายเสมอ
“ท่านครับ คำสั่งต่อไปคืออะไรครับ?”
“เรากำลังทำการสืบสวนสอบสวนอยู่ครับ!”
จูฮอนได้ยินเสียงดังมาจากข้างนอกห้อง
ซาซากิหันไปมองทันทีที่ได้ยินเสียงที่คุ้นเคย
“พี่ชาย นั่นมันเสียงพันเอกโมรินี่!”
ทหารพวกนั้นดูเหมือนจะตามซาซากิมา แม้ว่าจูฮอนจะทำลายเครื่องติดตามไปหมดแล้วก็ตาม
แต่ก็ไม่แปลกที่อีกฝ่ายหาจนพบ มีวิธีการมากมายที่ใช้ในการค้นหา อย่างเช่น การตรวจสอบวิดีโอใน
จูฮอนคาดว่าอีกฝ่ายจะปรากฏขึ้นไม่ช้าก็เร็ว
อันที่จริงมันค่อนข้างช้าที่อีกฝ่ายใช้เวลาถึงสี่ชั่วโมงกว่าจะมาถึงที่นี่
ห้องที่จูฮอนอยู่นั้นถูกล้อมไปด้วยกองกำลังญี่ปุ่น
“อย่าขยับ!”
ปัง! ประตูถูกกระแทกออกจนเปิด มีทหารราวสิบคนยืนอยู่ตรงนั้น
พักเอกโมริที่มียศสูงเกินไปที่จะมาอยู่ที่นี่เริ่มกัดฟันทันทีที่เห็นจูฮอน
“บันทึกแห่งอนาคตหายไปไหนแล้ว?!”
จูฮอนยิ้มขึ้นมาทันทีที่โบกหนังสือไปมา
“มองหานี่อยู่งั้นเหรอ?”
ใบหน้าของผู้พันโมริแดงด้วยความโกรธทันทีที่เห็นบันทึกในมือของจูฮอน
“แก ไอ้สารเลว แกนี่เองที่เป็นคนขโมยบันทึกแห่งอนาคตไป!”
ในทางกลับกัน ซาซากิมองไปที่จูฮอนด้วยใบหน้าซีดเซียว ดูเหมือนว่าจูฮอนกำลังจะตาย แต่ถึงกระนั้น เธอก็รู้สึกกลัวมากกว่าเดิมทันทีที่สังเกตเห็นว่าจูฮอนดูจะไม่ตกใจกับสถานการณ์ตรงหน้าเลย
‘เขาคิดอะไรอยู่กันนะ?’
กองกำลังทหารตะโกนดังขึ้น
“เฮ้ย ไอ้เกาหลี! วางบันทึกแห่งอนาคตลงซะ!”
“แล้วถ้าฉันไม่ทำล่ะ?”
“เฮอะ แกดูเหมือนจะไม่เข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้สินะ แกคิดว่าจะหนีไปได้งั้นเหรอ?”
จูฮอนตะโกนใส่อีกฝ่าย
“พวกปัญญาอ่อนอย่างแกมากกว่าที่ไม่เข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้เลย”
‘กล้าดียังไงที่จะมาต่อกรกับผู้ใช้โบราณวัตถุ ทั้งที่ตัวเองไม่มีติดตัวสักชิ้น?’
จูฮอนที่ล้วงมืออีกข้างลงในกระเป๋าเสื้อได้เปิดการใช้งานโบราณวัตถุ
แสงไฟส่องสว่างวาบไปทั่วห้องห้อง
มันคือเค้กข้าวตะวันจันทราฮอนขโมยมาจากอาเบะพร้อมกับเชือก
[เค้กข้าวแสนอร่อยฝีมือคุณนาย (เกรด C) (ระดับทั่วไป) – โบราณวัตถุกำจัดการใช้]
ทันในนั้นเอง จูฮอนได้แทงบันทึกแห่งอนาคตด้วยมุรามาสะ
มีกรีดร้องอีกเสียงดังขึ้นก่อนที่แสงไฟจะส่องสว่างไปทั่วห้อง