ราชันย์จอมโจรปล้นสุสาน - บทที่ 16: รางวัลที่ไม่คาดคิด 2
บทที่ 16: รางวัลที่ไม่คาดคิด 2
‘หากเป็นภูมิต้านทานต่อออร่าพิษของโบราณวัตถุ นับจากนี้ทุกสิ่งอย่างก็จะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงแล้ว’
และมันก็เป็นเช่นนั้น
สิ่งที่ผู้ใช้ส่วนใหญ่กลัวคือความเจ็บป่วย พวกเขากลัวออร่าพิษจากโบราณวัตถุที่จะมาทำลายร่างกายและสร้างความเจ็บป่วย
นี่คือเหตุผลที่โบราณวัตถุแห่งการรักษามีความจำเป็นเพื่อความอยู่รอด นี่เป็นสาเหตุที่มีผู้ใช้ที่ได้ครอบครองโบราณวัตถุแห่งการรักษาครั้นอดีต
ความทนทานเนี่ยนะ?
‘หากของแบบนี้มีอยู่จริง ผู้คนก็ไม่ต้องไปร้องขอโบราณวัตถุแห่งการรักษากันแล้วสิ!”
จูฮอนเริ่มหัวเราะเสียงดังราวกับจะเป็นบ้าที่คิดเช่นนั้น
‘เราทำได้น่า’
จูฮอนไม่จำเป็นต้องสนใจเรื่องความเป็นมิตรหากเขาพัฒนาความทนทานได้
เขาไม่จำเป็นต้องเสียเวลาและเงิน ไม่ต้องถูกใครควบคุม ไม่ต้องถูกใช้ทำงานที่ต้องแลกมาด้วยโบราณวัตถุแห่งการรักษา
กล่าวโดยสรุปคือ หากเป็นเกม เขาก็ไม่ต้องซื้อยาเพิ่มเลือด (HP) แล้ว
นี่เป็นข้อได้เปรียบที่น่าอัศจรรย์
เขาได้เปรียบกว่าคนอื่น
นั่นคือเหตุผลที่เขาเริ่มหัวเราะในสถานการณ์ที่ไร้สาระเช่นนี้ และเหมือนว่ากำลังมีคนคอยช่วยเหลืออยู่
ทั้งพากลับมาสู่อดีต มอบความสามารถของนักปล้นสุสานให้ ซ้ำยังมีระบบแปลกประหลาดแบบนี้
‘ทั้งหมดนี่เป็นฝีมือของโบราณวัตถุอีกางั้นเหรอ?’
เขาหวนนึกถึงโบราณวัตถุจากสุสานที่ตนเองตาย
ดูเหมือนกับว่าโบราณวัตถุนั่นได้ส่งจูฮอนมายังอดีตและมอบสิ่งพิเศษให้
แต่ทำไมถึงทำแบบนี้กัน? จูฮอนยังไม่อาจทราบเรื่องนี้
บางทีมันอาจจะเบื่อที่ต้องเน่าเปื่อยอยู่ในสุสานตามลำพัง ไม่ก็อาจคิดวางแผนที่จะทำร้ายเขาทีหลัง
เขาไม่รู้เลยแม้แต่น้อยว่าโบราณวัตถุอีกาคิดอะไรอยู่ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นโบราณวัตถุระดับไหนหรือมีตัวตนอย่างไร
สิ่งที่เขาแน่ใจคืออีกานั่นได้ให้โอกาสเขาพร้อมกับรางวัลพิเศษบางอย่าง ถึงกระนั้น จูฮอนก็ไม่ใช่คนโง่ที่จะไม่ใช้โอกาสนี้ให้คุ้ม
ในตอนนั้นเอง…
โทรศัพท์ของเขาดังขึ้น
คนที่โทรมาคือโฮซังอู ที่ได้รับคำสั่งให้ไปงานประมูลใต้ดินที่ลาสเวกัส พร้อมกับตามหาคนที่ชื่อ JK หรือที่อยู่ของประธานควอน
จูฮอนรับสายและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ว่าไง? ยังไม่ถึงเวลาประมูลเลยนี่”
[อ่า รับสายสักที ฉันโทรมาเพราะมีอะไรจะให้นายดู!]
พวกโอซังอูได้ข้อมูลที่น่าสนใจมาไม่น้อย
“ผมไม่รู้ว่าจะพูดอะไร”
โมริ ฮิโรยูกิ หรือพันเอกโมริ สั่นกลัวราวกับมีดาบจ่ออยู่ที่คอ
นายพลบางคนจากกองกำลังขุดค้นญี่ปุ่นและนายกรัฐมนตรียืนอยู่ตรงหน้าเขา
“ทำไมถึง…”
หนึ่งในนั้นพูดขึ้น
“นี่พวกแกทำอะไรกันอยู่?!”
“ผมต้องขอโทษด้วยครับ!”
พันเอกโมริ ผู้รับผิดชอบเรื่องโบราณวัตถุและทีมงานขุดค้นในครั้งนี้กำลังเสียสติ
เขาเป็นคนสั่งให้อาเบะไปขุดหาโบราณวัตถุที่เกาหลี และเขาคิดว่ามันน่าแปลกที่ติดต่ออาเบะไม่ได้เลย ทั้งที่ผู้ใช้บันทึกแห่งอนาคตบอกเขาว่าอาเบะอยู่ไหน
อาเบะ โคจิถูกฆ่าโดยนักปล้นสุสานชาวเกาหลี ผู้ทำนายบอกว่าโบราณวัตถุทั้งหมด รวมถึงมุ
“บอกฉันไม่ใช่หรือไงว่าจะจัดการให้เรียบร้อย! เสียอย่างอื่นไม่ว่า แต่นี่เสียกระทั่งวัตถุที่เป็นสัญลักษณ์ของญี่ปุ่นด้วยงั้นเรอะ?!”
“แกเสียมุรามาสะไปได้ยังไง?!”
พวกเขาเริ่มโกรธ
พวกเขาสูญเสียโบราณวัตถุญี่ปุ่นให้กับเกาหลีไปได้อย่างไร? นี่เป็นเรื่องน่าละอายไม่น้อยสำหรับผู้ที่อ้างว่าตัวเองคอยแบกรับจิตวิญญาณแห่งเอาไว้
“ต้องขอโทษด้วยครับ!”
ถึงกระนั้น เห็นได้ชัดว่าพวกเขายังคงโกรธอยู่ ทันใดนั้นเอง นายพลคนหนึ่งได้หันจอภาพมา
ข่าวที่ร้อนแรงที่สุดในโลกเริ่มออกอากาศ
[สุสานลึกลับได้ปรากฏขึ้นมา มีโบราณวัตถุอยู่ในนั้นหรือไม่?]
[อาเบะ โคจิ กองกำลังขุดค้นญี่ปุ่นพยายามที่จะฝังชาวเกาหลีร่วมห้าสิบชีวิตทั้งเป็นบริเวณที่สุสานปรากฎ]
[ผู้รอดชีวิตอ้างว่า “ญี่ปุ่นกำลังปิดบังบางสิ่งเพื่อเอาสมบัติล้ำค่าไปใช้เอง”]
[ญี่ปุ่นรู้เรื่องสุสานที่ยังไม่ผ่านการตรวจสอบเหล่านี้หรือไม่?]
[จีน: “ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่หน้า” คำเตือนถึงญี่ปุ่น]
[สหรัฐอเมริกา: “สุสานเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทั่วโลก เรารู้สึกผิดหวังกับญี่ปุ่นไม่น้อยที่ปิดบังวิธีการแก้ไขปัญหา”]
และมันเป็นเช่นนั้น ทันทีที่เกาหลีออกอากาศ ประเทศอื่นก็เริ่มกระจายข่าวด่วนนี้เช่นกัน
สุสานลึกลับเหล่านี้เป็นปัญหาระดับโลกไปแล้ว มันคงแปลกไม่น้อยหากประเทศอื่นไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้
นั่นเป็นสาเหตุที่พวกเขาแทบเสียสติ
ญี่ปุ่นพยายามอย่างมากที่จะเก็บเรื่องการคงอยู่ของสุสานและโบราณวัตถุเหล่านี้เป็นความลับต่อประเทศอื่น และทำให้มันไม่รั่วไหลออกมา
“พวกอเมริกันมันแกล้งทำเป็นไม่รู้ต่างหาก!”
“ผะ-ผมไม่มีข้อแก้ตัวครับ! ทั้งหมดนี่เป็นฝีมือของคนเกาหลีที่บันทึกแห่งอนาคตกล่าวถึง… “
“แกเป็นคนบอกว่าจะจัดการไอ้เกาหลีนั่น!”
“เรื่องนั้น…!”
โมริเริ่มอยากที่จะตายจริงเสียแล้ว เพราะหัวหน้าเอาแต่ตะโกนด่าทอจนแทบเห็นเส้นเลือดด้วยโทสะ
แม้ว่ายศพันเอกนั้นสูง แต่เขาก็เริ่มอยากที่จะคว้านท้องตัวเองออกมาเพื่อชดเชยความผิดพลาดครั้งนี้
‘ไอ้เจ้าอาเบะ ไอ้คนไร้ประโยชน์!’
นอกจากนี้ ทั่วโลกกำลังพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าญี่ปุ่นคือความอับอายขายหน้า ถึงแม้ประเทศเหล่านั้นจะไม่รู้เรื่องสุสานและโบราณวัตถุทั้งหมด แต่ตอนนี้พวกเขาก็รู้แล้วว่ามีบางสิ่งอยู่ภายในสุสาน
“บ้าเอ้ย! แผนที่จะทำให้ญี่ปุ่นถือครองโบราณวัตถุพังหมดแล้ว!”
โมริรีบตะโกนทันทีที่ได้ยินเสียงไม่พอใจ
“ท่านครับ ทุกอย่างต้องเรียบร้อยครับ! เราสั่งผู้ใช้บันทึกแห่งอนาคตไปแล้วว่าให้ตามหาไอ้คนเกาหลีนั่น… !”
“มันเชื่อได้หรือไง?!”
“เชื่อได้ครับท่าน! เราได้รับความช่วยเหลือจากกลุ่ม TKBM เพื่อทำให้นักวิชาการได้ใช้บันทึกแห่งอนาคต… แล้วก็เราจะได้รู้คำทำนายได้มากกว่าครั้งก่อนครับ”
“ประธานของกลุ่ม TKBM… ควอนเทจูงั้นเหรอ?”
“ใช่ครับท่าน”
“เข้าใจแล้ว ใช้บันทึกแห่งอนาคตลากคอไอ้เกาหลีนั่นมาให้ได้ เราจะทำให้มันลิ้มรสความเสียใจที่ทำให้ทุกอย่างเป็นเช่นนี้”
“ได้เลยครับท่าน เราจะทำสุดความสามารถครับ!”
โมริโค้งคำนับและเริ่มกัดฟัน
ในเวลาเดียวกัน จูฮอนกำลังหัวเราะทันทีที่ได้ยินข้อมูลที่ไม่คาดคิดจากโอซังอู
“เข้าใจแล้ว มีทั้งหมดสามคนสินะที่ใช้ชื่อย่อว่า JK ในรายชื่อผู้เข้าร่วมประมูล”
[ใช่แล้ว โอ้! แกรู้ไหมว่าเราทำงานกันหนักแค่ไหนเพื่อที่จะได้รายชื่อมา…]
“มันไม่ใช่เรื่องของฉันอยู่แล้วนี่”
[ว่าไงนะ? แกนะแก!]
“ยังไงก็เถอะ ฉันจะไปตรวจสอบรายชื่อเอง ตอนนี้เลย แล้วก็… “
ในตอนนั้นเอง…
[คุณตกเป็นเป้าหมายของโบราณวัตถุแรงค์ S]
[อนาคตของคุณกำลังถูกอ่าน]
จูฮอนขมวดคิ้วทันทีที่เห็นข้อความสอดแนม
นี่เป็นครั้งแรกที่ข้อความโผล่ขึ้นมาเช่นนี้ เขาก็รู้ดีว่าอะไรจะเกิดขึ้น
เขารู้สึกมั่นใจ
‘ต้องเป็นบันทึกแห่งอนาคตแน่’
มันอาจจะเป็นเช่นนั้น เพราะว่าเขาเคยเจอกับอาเบะผู้ที่ได้รับอิทธิผลจากบันทึกแห่งอนาคตมาก่อน และในตอนนี้เอง บันทึกแห่งอนาคตได้ตั้งจูฮอนเป็นเป้าหมายและกำลังอ่านข้อมูลของเขาอยู่
นี่อาจจะทำให้บันทึกแห่งอนาคตบอกอีกฝ่ายถึงสิ่งที่จูฮอนจะทำในภายภาคหน้า
โอซังอูที่เริ่มกลัวขึ้นมาเพราะว่าจูฮอนเงียบไป เลยถามกลับด้วยความประหม่า
[นี่ จะ-จูฮอน? พวกเราทำอะไรผิดอีกหรือเปล่า? ทำไมแกไม่พูดอะไรเลยล่ะ? แกจะมาตรวจสอบรายชื่อเองงั้นเหรอ? หรือจะไม่มา?]
“ไม่ใช่แบบนั้น… ฉันจะไปที่นั่น”
จูฮอนหยิบมุรามาสะออกมาและเริ่มหัวเราะอย่างชั่วร้าย
แน่นอนว่าเขาจะจัดการกับอีกฝ่ายและคำทำนายที่น่ารำคาญนั่นเสียก่อน