“รองประธานหลี่ ผมไม่สนหรอกว่าคุณจะจำนองบ้านหลักของตระกูลหวัง แต่จะมาจำนองบ้านฉันไม่ได้!”หวังซูกล่าวเสียงดัง เขาไม่คิดว่าหลี่ลี่เว่ยจะพูดออกมาแบบนั้น
“หวังซู หุบปาก!” หญิงชราตวาด ใบหน้าของเธอตอนนี้เปลี่ยนเป็นหน้าเกลียดเป็นอย่างมากเธอต้องการที่จะจำนองบ้านของหวังเสี่ยวหวู่แต่เธอคาดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะต้องการให้จำนองบ้านของเธอและหวังซู
“มันเป็นคำขอของประธาน คุณจะว่ายังไงจะตอบรับหรือเปล่า!” หลี่ลี่เว่ยหัวเราะ
“ได้! ถ้ารองประธานหลี่ต้องการแบบนั้นก็ตามนั้นเถอะ!” เมื่อคิดถึงหลายชายของเธอที่ต้องทนทุกที่ฮ่องกงหญิงชราก็ไม่มีทางเลือกอื่น
“ คุณย่าผมไม่เห็นด้วย ผมจะเอาไว้ใช้ในการแต่ง… ”
“ถ้าแกไม่ยอมรับ แกก็ออกไปจากตระกูลหวังและไม่ต้องมาคิดถึงเรื่องมรดกในอนาคตเลย!” หญิงชราข่มขู่หวังซู
หวังขูเงียบไปในทันที แม้ว่าตอนนี้ทรัพย์สินของตระกูลหวังทั้งหมดจะถูกจำนองไว้ แต่อย่างน้อยในตอนนี้บริษัทยังสามารถดำเินนการต่อไปได้ และยังมีโอกาสพลิกกลับมายืนได้อีกครั้งในอนาคต แล้วเขาจะยอมทิ้งไปได้ไง เขาจึงตอบตกลงไปอย่างไม่เต็มใจนัก
หลังจากลงนามในสัญญาการจำนองแล้ว หลี่ลี่เว่ยก็ได้นำสัญญาจากไป เมื่อเขาเดินผ่านมาทางเจียงเป่ยเฉินทั้งสองคนตามองหน้ากันและพากันเดินออกไปด้านนอก
“ พี่เจียง นี่สัญญา… ”
“นายเก็บไว้ก่อน ถ้าฉันจะเอาเมื่อไรฉันจะบอกนาย!” เจียงเป่ยเฉินกล่าว
หลี่ลี่เว่ยพยักหน้าและกล่าว “พี่เจียง เราไม่ได้พบกันมานาน ยังไงวันนี้ผมจะโทรหาหลิวฮาวให้มาทานอาหารด้วยกันดีไหม? นอกจากนั้นยังมีเพื่อนๆอีกหลายคนที่ต้องการพบคุณที่เป็นประธานบริษัทใหญ่! “
“ได้ตอนเย็นฉันว่าง นายจองสถานที่แล้วบอกฉันแล้วกัน!”เจียงเป่ยเฉินตอบตกลง
“ได้เลยพี่เจียง งั้นผมไปก่อนนะ!” หลี่ลี่เว่ยตอบอย่างเคารพและขึ้นรถจากไป
“เป่ยเฉิน!” เมื่อเจียงเป่ยเฉินกำลังจะขึ้นรถจากไปก็มีเสียงเรียกหยุดเขาไว้
เป็นหวังเสี่ยวหวู่ที่ไม่รู้ออกมาตั้งแต่เมื่อไร
“นายรู้จักกับรองประธานหลี่ด้วยหรอ?” หวังเสี่ยวหวู่ถามและมองรถที่จากไปอย่างสงสัย
เจียงเป่ยเฉินพยักหน้า “เขาเป็นเพื่อนสมัยเรียน!”
“นายรู้เรื่องพี่รองมาก่อนแล้วงั้นหรอ?” หวังเสี่ยวหวู่ถามพร้อมกับกัดริมฝีปาก เธอรู้สึกขอบคุณเขาไม่น้อยที่มาขัดขวางไว้ได้ทันไม่งั้นเธอคงจำนองบ้านไปแล้ว
“ที่จริงฉันก็เพิ่งรู้ไม่นานมานี้เอง พี่รองของเธอเนี้ยไว้ใจไม่ได้เลยจริงๆ!” เจียงเป่ยเฉินกล่าว
หวังเสี่ยวหวู่ถอนหาย แต่ทันใดนั้นเธอก็นึกบ้างอย่างขึ้นมาได้และถามเขาออกไป “เอาล่ะข้ามเรื่องพี่รองไปก่อน ก่อนนี้นายบอกเพื่อนนายเป็นประธานหรงติ่ง และมาตอนนี้นายยังมีเพื่อนเป็นรองประธานอีกงั้นหรอ ทำไมนายไม่ลองพยายามแบบเขาบ้าง”
หวังเสี่ยวหวู่เรื่องที่จะบ่นเขา ก็ไม่แปลกใจที่เธอจะบ่น เขารู้จักคนมากมายแต่ตัวเขาเองนั้นยอมเป็นแค่คนขับรถ แม้ว่าจะมีเพื่อนมากยังไงมันก็ไม่ได้ช่วยให้มีเงินมากขึ้นใช่ไหมละ?
ถ้านายไม่พยายาม!
“เอ่อ… ” เจียงเป่ยเฉินไม่รู้จะตอบว่าอย่างไร
เมื่อเห็นดังนั้นหวังเสี่ยวหวู่ก็เงียบไป จากนั้นเธอก็กล่าวขึ้นมาอีกครั้ง “เป่ยเฉินนายต้องมีความทะเยอทะยานมากกว่านี้นะ!”
“ฉันรู้ว่ามันยากที่จะเปลี่ยนได้ แต่ฉันก็หวังว่านายจะเปลี่ยนมันเพื่อฉันได้นะ!” หวังเสี่ยวหวู่หน้าแดงขึ้นมาเล็กน้อย
“อืมม ก็ได้!” เจียงเป่ยเฉินพยักตอบกลับหน้าด้วยรอยยิ้ม “เจ้านายยังรอรถอยู่ เพราะงั้นฉันไปก่อนนะ!”
เมื่อเห็นเจียงเป่ยเฉินจากไปหวังเสี่ยวหวู่ก็พลันถอนหายใจออกมา เธอไม่รู้ว่าเขาจะทำตามที่เธอบอกหรือเปล่า
……
ตอนบ่ายเจียงเป่ยเฉินกลับไปที่บริษัทของเขาอีกครั้งเนื่องจากเขายังต้องจัดการเอกสาร จากนั้นเขาก็โทรหาจางเหมี่ยว
“ค่อยดูเรื่องของตระกูลหวังให้ดี หากไม่จ่ายเงินภายในเจ็ดวันให้ดำเนินการส่งฟ้องได้และรวมเอาบริษัทของตระกูลหวังมา!” เจียงเป่ยเฉินกล่าวกับจางเหมี่ยวตามในแจ้งหนี้ตามกฏหมายเขามีสิทธิ์ที่จะฟ้องหากทางนั้นค้างจ่าย
หญิงชราและหวังซูรักแกภรรยาของเขามานานมากแล้ว และเจียงเป่ยเฉินจะไม่ทนอีกต่อไปหากว่าพวกนั้นยังกล้าที่จะรังแกเธออีกเขาจะทำให้ตระกูลหวังไม่เหลืออะไรอีกเลย!
“ได้คะ ฉันจะจัดการให้ตามที่ท่านสั่ง!” จางเหมี่ยวตอบ
ช่วงเย็นหลี่ลี่เว่ยก็โทรมาหาเขาว่าได้จองภัตตาคารเอาไว้แล้ว
เจียงเป่ยเฉินจึงขับโรลส์รอยซ์ของเขาไปตามที่ได้นัดหมายกันไว้
ระหว่างทางมีรถหงฉีL5 วิ่งไปบนถนนด้วยความเร็วมันปาดซ้ายปาดขวาจนรถคันอื่นๆต้องหักหลบให้ ท่ามกลางการจารจรที่ติดขัดเป็นอย่างมาก
“ไอ้บ้า ขับรถภาษาอะไรว่ะ” รถออดี้สีดำมีหญิงสาวคนหนึ่งตระโกนด่า แต่จะว่าเธอก็ไม่ได้เพราะว่ารถคันนั้นขับปาดจนแทบจะชนกับรถของเธออยู่แล้ว
“ยัยโง่เอ๊ยยยยยย รีบเงียบละนั่งเฉยๆ” คนขับรีบดึงผู้หญิงคนนั้นกลับมานั่งลง
“คุณดึงฉันทำไม ก็รถคันนั้นมันไม่ได้ขับตามกฏจราจรนิ!” หญิงสาวกล่าวอย่างโกรธเกรี้ยว แทนทีเขาจะว่ากล่าวรถคันนั้นเขากลับมาต่อว่าเธอแทน นี่เขามันขี้ขลาดมาก!
“หุบปาก! เธอไม่รู้งั้นหรอว่ามันคือรถหงฉี เธอรู้ไหมว่าคนแบบไหนถึงจะขับรถคันนั้นได้!” ชายคนนั้นกล่าว
“ทำไม หรือว่ามันจะแพงยิ่งกว่าโรลส์รอยซ์งั้นหรอ” ผู้หญิงกล่าวอย่างไม่ค่อยมันใจนัก
ชายคนนั้นตอบพร้อมกับส่ายหัวอย่างรวดเร็ว“ไม่หรอก! คนรวยน่ะซื้อรถคันนี้ไม่ได้หรอก คนที่จะสามารถขับรถคันนี้ได้ต้องเป็นคนพิเศษเท่านั้น! ไม่ใช่อะไรที่คนธรรมดาจะมีได้เราไม่ควรมีเรื่องกับเขา ฉันได้ยินว่าในเมืองนี้มีเพียงแค่ที่เดียวเท่านั้นแหละที่มีรถแบบนี้! “
“รถคันนั้นมันพิเศษขนาดนั้นเลยหรอ คุณไม่ได้พูดเกินจริงไปใช่มั้ย?” หญิงสาวกล่าวอย่างไม่อยากจะเชื่อ
ชายคนนั้นส่ายหัว “ผมไม่ได้พูดเกินจริงเลย ต้องเป็นคนพิเศษถึงจะซื้อมันได้ แม้ว่าจะเป็น โรลส์รอยซ์เขาก็ต้องหลบ ไม่งั้นคนโดน… “
ปัง!!!!
ก่อนที่ชายคนนั้นจะกล่าวจบก็มีการขนกันเกิดขึ้น
เป็นการชนกันระหว่างหงฉีกับโรลส์รอยซ์!
“ที่รักดู!”
“…..”
เจียงเป่ยเฉินขมวดคิ้วอยู่ในรถเขามองไปที่หงฉีที่ด้านหน้าของเขา เขาขับรถมาตามปกติแต่ใครจะไปคาดคิดว่าหงฉีจะขับข้ามเส้นเหลืองมาและชนเข้ากับรถของเขา
มันขับรถภาษาอะไรว่ะ ปัญญาอ่อนหรือยังไง!
นี่มันผิดกฏจราจรนะ!
รถหรูทั้งสองคันชนกัน มันดึงดูดความสนใจของคนอื่นๆเป็นอย่างมากแม้แต่คนเดินเท้าทั่วไปก็ยังหยุดดูเหตุการณ์
รถชนกันมีแทบทุกวันนั้นแหละ แต่โรลส์รอยซ์กับหงฉีนะมันไม่ได้มีบ่อยๆ
“เธอค่อยดูเจ้าของรถโรลส์รอยซ์จะต้องลงจารถมาขอโทษอย่างแน่นอน” ชายในรถออดี้กล่าวพลางถอนหายใจ
ที่จริงไม่ใช่แค่เขาเท่านั้นมันไม่ใช่แค่เขา หลายๆคนรู้ดีว่ารถยี่ห้อหงฉีมีไว้สำหรับใคร
มันเป็นรถสำหรับคนพิเศษ!
ดังนั้นแม้ว่าหงฉีจะทำอะไรผิด แต่สุดท้ายยังไงก็ตามเจ้าของรถโรลส์รอยซ์และคนส่วนใหญ่ก็จะลงจากรถมาขอโทษ และต้องจ่ายเงินชดเชยค่าซ่อมรถให้
“คุณเสี่ยว ทำไมผู้ชายคนนั้นเขายังไม่ลงจากรถอีก?” ในรถหงฉีที่นั่งข้างคนขับหญิงสาวที่แต่งหน้าจัดราวกับเอาแป้งมาถมลงบนใบหน้าของเธอกล่าว
“ผมว่าเขาคงกลัวจนทำอะไรไม่ถูก อีกสักพักเขาก็คงลงมาขอโทษผมแน่นอน!” ชายหนุ่มหน้าตาดีในชุดสูทกล่าวพร้อมกับรอยยิ้ม
.
.
.
.
.
ปล.รถหงฉี หรือ รถธงแดงเป็นรถที่ประเทศจีนมีไว้เพื่อรองรับบุคคลระดับ VIP นะครับเช่นแขกคนสำคัญจากต่างประเทศอะไรแบบนี้อะครับ
MANGA DISCUSSION