ราชันมังกรแห่งสงคราม - ตอนที่ 5
“อะไรนะ?”
“เขาไม่ลงมา? “
หลังจากฟังแม่บ้านพูดเสี่ยวหวู่ก็ตะลึง
ไอบ้านี้กล้าเพิกเฉยต่อคำสั่งของเธอหรอ? แต่ในความคิดเธอก็คิดว่ามันคงจะเหนื่อยจริงๆที่เพิ่งกลับมา เขาควรจะพักผ่อนก่อนแล้วค่อยมาคุยเรื่องหย่าทีหลัง
แต่เตวหยูหลานไม่สามารถรอได้อีกต่อไปเธอพูดขึ้นมาทันที “มันกล้าที่จะไม่ฟังเสี่ยวหวู่ได้ยังไง? ให้เขาลงมาเดียวนี้เลย! “
“ แม่เขาเพิ่งกลับมาไม่ให้เขาพักผ่อนหน่อยหรอ”
“ทำไมเสี่ยวหวู่ หรือเธอมีความรู้สึกดีๆกับมัน?”
“แม่ฉันไม่ได้… ”
“ฉันบอกแล้วว่าวันนี้เธอต้องหย่ากับมัน!”
ดวงตาของเตวหยูหลานแดงขึ้นทันที
“เธอและจื่อฉิงเป็นลูกสาวขอฉัน จื่อฉิงซึ่งไม่มีความรู้สึกผิดชอบชั่วดีอะไรเลยตั้งแต่แต่งงานไปเธอก็ไม่เคยกลับมาที่นี้อีกเลยและเธอยังมาแต่งงานกับขยะนี้อีก ตอนไปเจอคนอื่นๆ เห็นลูกเขยเขาเจริญรุ่งเรืองไม่ต้องพูดเลยว่าฉันจะอิจฉาพวกเขาแค่ไหน! “
“ถ้ารู้งั้ฉันน่าจะมีลูกผู้ชายสักคน!”
เตวหยูหลานแกล้งร้องไห้ออกมา
หวังเสี่ยวหวู่กัดริมผีปากแน่น
ไม่ใช่แค่แม่ของเธอเท่านั้นที่เป็นแบบนี้ ตัวเธอเองก็ถูกผู้คนนิทาทั้งต่อหน้าและลับหลังใน บริษัท ในฐานะประธานบริษัท เธอที่แต่งงานกับทหารเธออาจจะไม่สามารถขึ้นมาควบคุมตระกูลหวังได้
เธอโทษตัวเองที่ยอมทำตามคำขอของพ่อในตอนนั้น! แต่ตอนนี้อาการป่วยของพ่อก็หายแล้วและเธอก็ไม่ต้องกังวลในเวลาที่เจียงเป่ยเฉินจะกลับมาในครั้งนี้เธอสามารถหย่ากับเขาได้!
“โอเค แม่อย่าเพิ่งร้องไห้ หนูจะไปคุยกับเขาเรื่องหย่าเดียวนี้แหละ!”
หวังเสี่ยวหวู่รีบลุกขึ้นจากโซฟาและขึ้นไปชั้นบนเพื่อไปหาเจียงเป่ยเฉิน
“ เธออยากหย่ากับฉันเหรอ?”
เจียงเป่ยเฉินเพิ่งใส่เสื้อผ้าเสร็จ สีหน้าของเขาก็ประหลาดใจเล็กน้อย เขาไม่คาดคิดว่าเขาเพิ่งกลับมาถึงและจะมาเจอการขอหย่า
“ฉันจะมอบหมายให้ทนายความของ บริษัท จัดทำข้อตกลงการหย่าของเรา เราสามารถคุยกันเกี่ยวกับเงื่อนไขที่เราต้องการได้หากนายเซ็นสัญญา!”
หวังเสี่ยวหวู่จ้องมองเขาด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
“ฉันจะไม่เห็นด้วยกับการหย่าในหัวของฉันไม่มีการหย่า มีแต่การแต่งงานเท่านั้น!”
เจียงเป่ยเฉินกล่าวด้วยใบหน้าที่จริงจัง
“นายว่าไงนะ”
หวังเสี่ยวหวู่คิดว่าเธอได้ยินผิด
“ฉันเจียงเป่ยเฉินเป็นทหารมาห้าปีไม่เคยละทิ้งศักดิ์ศรี เพราะฉนั้นอย่าได้คิดเรื่องหย่ากับฉัน!
หย่าหรอมันเป็นไปไม่ได้ เข้าไม่อยากถูกหัวเราะเยาะจากเพื่อนทหารและผู้บัญชาการของเขา เนื่องจากเพราะการแต่งงานเป็นมรดกเพียงชิ้นเดียวที่พ่อเขาเหลือไว้ให้ เขาจะไม่ทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของพ่อต้องล้มเหลว!
“เจียงเป่ยเฉิน อย่าได้มากเกินไปนะ ฉันสามารถฟ้องศาลเพื่อหย่ากับคุณได้นะ!”
ร่างกายของ หวังเสี่ยวหวู่สั่นสะท้าน แต่ดูเหมือนจะนึกถึงอะไรบางอย่างออก
“ฉันรู้ว่านายกลัวว่าชีวิตของนายจะไม่ได้รับความสะบายหลังจากหย่าใช่ไหม? ฉันมีบ้านพักในหนานซานและฉันจะให้นายอีกล้านนึง แม้ว่านายจะไม่ทำงานในอนาคต แต่มันก็น่าจะพอให้นายใช้ชีวิตได้สบาย! “
“ฮิฮิ สิ่งที่เธอพูดนะมันไร้ค่าในสายตาของฉัน ฉันเจียงเป่ยเฉินจะพูดอีกครั้งว่าฉันจะไม่หย่า!”
เจียงเป่ยเฉินปฏิเสธอย่างเด็ดขาดและโบกมือ “ออกไปเถอะฉันต้องการพักผ่อน!”
“ เจียงเป่ยเฉินนี่นายยังไม่พอใจกับข้อเสนอหรอ? นายมันโลภเกินไป! “
หวังเสี่ยวหวู่โกรธมากในความคิดเธอเจียงเป่ยเฉินนั้นต้องการมากกว่านี้
“แล้วแต่คุณจะคิดแล้วกัน!”
เจียงเป่ยเฉินก็ไม่อยากอธิบายเช่นกัน
“ได้งั้นนายก็รอจดหมายจากทนายของฉันแล้วกัน!”
หวังเสี่ยวหวู่กัดฟันแน่นและเดินจากไป
เจียงเป่ยเฉินปิดประตูนั่งสมาธิบนเตียงและปรับลมหายใจ แม้ว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บสาหัสในระหว่างการปฏิบัติภารกิจ แต่เขาก็พบกับโอกาสดีๆเช่นกัน เขาได้รับชิ้นส่วนลึกลับในถ้ำซึ่งเป็นคําภีร์โบราณ “ซวนชิงจือ”! ไม่ทราบว่าใครเป็นผู้สร้างมันขึ้นมา แต่มันวิเศษมากที่เจียงเป่ยเฉินซึ่งใกล้จะตายแล้ว มันกลับสามารถทำให้อาการบาดเจ็บของเขาทรงตัวได้ ในเวลาเดียวกันเขาก็ได้ความลับจากชิ้นส่วนนี้ มันไม่เพียงแต่สามารถรักษาเท่านั้นมันยังช่วยเสริมสร้างกระดูกและสร้างร่างกายขึ้นใหม่ได้เหมือนเกิดใหม่โดยสมบูรณ์ แต่ทว่ามันมีชิ้นส่วนทั้งหมดเก้าชิ้นแต่เขามีมันแค่ชิ้นเดียว ในการค้นหา เก้าชีวิต ต้องรวบรวมชิ้นส่วนทั้งหมด ไม่กี่เดือนที่ผ่านมาเขาสั่งให้คนออกตามหาทุกที่ แต่ก็ไม่ไบอะไรเลย แต่โชคดีที่ ซวนฉิงเฉอ สามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้ ทำให้เขาไม่รีบร้อนมากนัก
เมื่อ เจียงเป่ยเฉิน กำลังปรับลมหายใจอยูานั้น หวังเสี่ยวหวู่กลับไปที่ บริษัท ซือหยุ่น ด้วยความโกรธ เธอนั่งอยู่ในห้องทำงานของประธานอย่างใจลอย ตระกูลหวังกำลังจะเปิดประชุมคณะกรรมการในคืนนี้ ธุรกิจสิบล้านยังไม่สะสางไม่เสร็จ แถมตอนนี้ยังมีสามีที่มาสร้างความลำบากใจให้เธออีก เห็นได้ชัดว่าเขามันเป็นขยะ แต่ทำไมเขาถึงได้หนักแน่นเช่นนี้? เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ดวงตาของหวังเสี่ยวหวู่ก็เป็นสีแดง เธอรู้สึกผิดมาก
“ไม่ฉันต้องหย่าให้ได้ ฉันเสียเวลามาสามปีแล้วจะปล่อยให้เสียอีกไม่ได้! “
วังซิวหวู่เช็ดน้ำตาของเธอทันทีและต่อสายหาทนาย ขอให้ทนายความจากฝ่ายกฎหมายเข้ามาและเตรียมร่างข้อตกลงการหย่าร้าง
……เจียงเป่ยเฉิน ระบายลมหายใจออกมาและค่อยๆลืมตาขึ้น
ในเวลานี้โทรศัพท์ดังขึ้นอย่างกะทันหัน
“หลิว?”
เจียงเป่ยเฉิน ประหลาดใจเล็กน้อย เขาไม่คาดคิดว่าจะเป็น หลิวฮาว เพื่อนร่วมชั้นเก่าของเขาที่โทรหาเขา เมื่อเขาอยู่ในโรงเรียน หลิวฮาว มีความสัมพันธ์ที่ดีที่สุดกับเขา เจียงเป่ยเฉิน ไม่ได้ตัดความสัมพันธ์ของพวกเขาระหว่างอยู่ในกองทัพ
“พี่เจียงมีคนเห็นนายที่สนามบิน นายกลับมาแล้วหรอ?”
หลิวโฮ่วถามอย่างระมัดระวัง
“ ใช่ฉันเพิ่งกลับมาวันนี้!”
เจียงเป่ยเฉิน ไม่ได้ปิดบัง
“โอ้กลับมาก็ดีแล้วสินะ วันนี้เพื่อนๆมารวมตัวกันนายจะมาด้วยไหม”
“ ตอนนี้?”
“พวกเขาได้ยินว่านายกลับมาและพวกเลยต้องการที่จะเจอนาย!”
น้ำเสียงของ หลิวฮาว ดูไม่เป็นธรรมชาติ
ทันใดนั้นก็มีเสียงดังที่ปลายสายอีกด้านของโทรศัพท์
“รีบให้เขามาเลย ไม่ใช่ว่าเจียงน้อยอยู่กองทัพนานจนเป็นนายผลไปแล้วนะ?”
“ฮ่าฮ่า! ขับรถถังมาเลย!”
“เฮ้ขยะที่ถูกไล่ออกจากบ้าน ถ้าเขาขับรถถังได้นะฉันก็ขับเครื่องบินได้แล้ว!”
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ!”
ในตอนท้าย หลิวฮาว รีบคว้าโทรศัพท์และวิ่งออกไปข้างนอก
“ พี่เจียงพี่มาไหม!”
หลิวฮาว ถอนหายใจ “เอาละฉันจะบอกความจริงพี่ พี่จำหลี่ลี่เว่ยได้ไหม เขาทำงานเป็นกรรมการของ บริษัท ในฮ่องกงและฉันมีธุรกิจเล็กๆ ที่รอให้เขาเซ็นให้อยู่ แต่เขาบอกจะไม่เซ็นให้ถ้าไม่ได้เจอพี่! “
หลิวฮาวเป็นคนแบบนี้เรียบง่าย เขาบอกทุกอย่างให้เจียงเป่ยเฉินทราบโดยไม่ปิดบัง
เจียงเป่ยเฉินขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้และร่างๆหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในความคิดเขา
หลี่ลี่เว่ย! ในตอนนั้นเป็นเด็กยากจนคนนึง แต่เขากลับหลงรักสาวสวยคนหนึ่งในชั้นเรียน แต่ว่าสายสวยคนนั้นกลับชอบเจียงเป่ยเฉิน และเธอก็มาสารภาพกับเขาผลลัพธ์ที่ได้คือเธอถูกเจียงเป่ยเฉินปฏิเสธในที่สาธารณะ เมื่อเห็นว่าเทพธิดาของตัวเองอับอาย หลี่ลี่เว่ย จึงออกมาตามหาเจียงเป่ยเฉิน แต่ก็ถูกเจียงเป่ยเฉินจัดการ
“พี่เจียงฉันก็รู้หลี่ลี่เว่ยนั้นตั้งใจจะหาเรื่องนาย ฉันกลัวว่าจะมีปัญหาแต่ก็อยากให้นายช่วยฉัน!”
หลิวฮาว รู้ดีว่าตอนนี้หลี่ลี่เว่ยกลายเป็นผู้อำนวยการและเขามีจุดประสงค์เดียวในการตามหา เจียงเป่ยเฉิน เพื่อที่จะแก้แค้น!
“ไม่เป็นไรหรอกน่า นายเห็นฉันเจียงเป่ยเฉินกลัวปัญหาหรอ?”
“เขาต้องการจะตามหาฉันหรอ? ได้ฉันจะไปหาเขา! “
แต่เดิมเจียงเป่ยเฉินไม่ต้องการที่จะไป แต่เขาก็ไม่สามารถปล่อยเรื่องหลิวฮาวไปได้
หลิวฮาว รู้สึกตื่นเต้นมากที่เจียงเป่ยเฉินยังคงเป็นคนที่ไม่กลัวใครเหมือนเดิม
“พี่ซิงเจียงนายอยู่ที่ไหนฉันจะขับรถไปรับนาย!”
“ไม่เป็นไรฉันจะไปที่นั้นด้วยตัวเอง!”
เจียงเป่ยเฉิน ขอที่อยู่จาก หลิวฮาว หลังจากวางสายเขาก็ใส่เสื้อโค้ทแล้วออกไปทันที สถานที่ที่ หลิวฮาว กล่าวว่าเป็นคลับเฮาส์ชื่อ “ฮั่วเฉียนเยว่เซี่ย” ห่างจากบ้านตระกูลหวังไม่ถึง 1 กิโลเมตร
ชั้นแรกของคลับเฮาส์เป็นร้านน้ำชาและห้องส่วนตัวอยู่ชั้นบน
เมื่อเจียงเป่ยเฉินมาถึงห้องส่วนตัวก็พบเห็นกลุ่นคนหลายคนกำลังนั่งกินและดื่มกันอยู่
“โย่! นายน้อยเจียงไม่ใช่หรอ?”
“มา มา มานั่งเร็ว! “
เมื่อเห็น เจียงเป่ยเฉิน มาถึง หลี่ลี่เว่ย ก็รีบพูดขึ้นด้วยเสียงที่ดังคนอื่น ๆ จึงมองไปที่ เจียงเป่ยเฉินและท่าทางของพวกเขาก็ดูเฉยเมยทันที
มีเพียง หลิวฮาว เท่านั้นที่ลุกขึ้นจากที่นั่งอย่างรวดเร็ว
“ พี่เจียงมานี่นั่งกับฉัน!”
แต่ที่นั่งไม่ได้มีขนาดใหญ่มากทำให้เจียงเป่ยเฉินนั่งด้วยกับหลิวฮาวไม่ได้ ในที่สุดบริกรก็ได้นำมาเปลี่ยนให้ทั้งสองจึงได้นั่งลงด้วยกัน
“เป่ยเฉินฉันได้ยินมาว่าคุณไปที่กองทัพมานี้ เป็นไงบ้างละ?”
สายตาของเพื่อนร่วมชั้นคนอื่น ๆ ยังจับจ้องไปที่ เจียงเป่ยเฉิน ในตอนนั้นเจียงเป่ยเฉินเป็นนายน้อยเจียงคนที่สองและตอนนี้ทุกคนต่างสงสัยว่าตอนนี้เขาเป็นยังไงบ้าง?