“ที่รัก!”ชูเย่ร้องไห้และวิ่งไปหาชายคนนึงอย่างรวดเร็ว

 

“เย่เย่ บอกผมมาสิว่าใครรังแกคุณ” ชายคนนั้นถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา

 

“มันเป็นไอ้โง่ตัวนึง ที่คุณเคยมีเรื่องกับมันที่ร้านยามันมาทุบรถของฉัน ที่รักคุณต้องช่วยฉันจัดการเรื่องนี้นะ! มันอยู่ตรงนั้น!”ชูเย่พูดจบแล้วชี้ไปที่เจียงเป่ยเฉิน

 

จ้าวจุนได้ยินเช่นนั้นเขาก็หันไปมองทางทิศทางที่เธอชี้ทันที

 

แต่แล้วเทื่อเขาเห็นว่าเป็นเจียงเป่ยเฉินเขาก็เหงื่อแตกขึ้นมาทันที

 

ผู้หญิงบ้านี่! อยากตายทำไมไม่ไปตายคนเดียวจะลากฉันไปด้วยทำไม!

 

“ประธานคุณไปหลบก่อนดีกว่า ผมจะโทรบอกพี่จี!” จ้างไครีบแนะนำเจียงเป่ยเฉิน แม้ว่าเขาจะไม่ทราบว่าคนพวกนี้มีความเป็นมายังไง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีที่จะมาขัดแย้งกัน เขากลัวว่าเจียงเป่ยเฉินจะเดือดร้อน

 

เจียงเป่ยเฉินโบกมือและพูด “ก็ขอให้มันกล้าลงมือลงมือต่อหน้าฉันเถอะ!”

 

“เจียงเป่ยเฉินเวลานี้แกยังจะมาอวดดีอีก! พี่จุนเขาเป็นผู้จัดการร้านยาตระกูลเหอจุนถึงแม้ว่านายจะรู้จักกับพี่จีก็ตาม แม้แต่เขาก็ยังไม่กล้าที่จะลงมือ…”

 

ป๊าบบบ!

 

ก่อนที่เขาจะพูดจบจ้าวจุนก็ตบไปที่หน้าของชูเย่อย่างรุนแรง

 

“ที่รักคุณ… ”

 

“ใครเป็นที่รักของเธอกัน! เธอมันเป็นแค่พวกแมลงเท่านั้น!” จ้าวจุนตะโกน จากนั้นเขาก็รีบหันมาโค้งคำนับให้เจียงเป่ยเฉินและยิบบุหรี่ออกมายื่นให้เขาด้วยความเคารพพร้อมกับกล่าวว่า “นายน้อย นี่มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันเท่านั้นครับ!”

 

“ขอบใจ! แต่ฉันไม่สูบ!” เจียงเป่ยเฉินหยิบบุหราขึ้นมาและโยนมันทิ้งไป

 

หากเป็นคนอื่นจ้างจุนคงโกรธเป็นอย่างมาก แต่ทว่าตอนนี้แม้แต่ผายลมเขายังไม่กล้าเลยเขาทำได้เพียงแค่ยิ้มเท่านั้น

 

คนตรงหน้าเขาเป็นใครกันละ?

 

คนที่แม้แต่เหอฟู่เฉิงยังให้ความเคารพ คนแบบนี้เขายังจะกล้าไปขัดใจงั้นหรอ?

 

ชูเย่กลายเป็นโง่งม

 

เธอคิดว่าหลังจากที่จ้าวจุนมาแล้วเขาจะจัดการสั่งสอนบทเรียนให้เจียงเป่ยเฉินตามที่เธอต้องการ แต่ใครจะไปคาดคิดว่าเขาจะหวาดกลัวขนาดนี้ นี่มันยังไงกัน!

 

“พี่จุนพี่เป็นผู้จัดการของร้านยาตระกูลเหอ ทำไมพี่ถึงยอมลดตัวไปรับใช้คนแบบนั้น ”ชูเย่อดถามไม่ได้

 

“บ้านเธอสิ! ฉันไม่ได้เป็นผู้จัดการแล้วเขาไล่ฉันออกนานแล้ว!” จ้าวจุนชี้ไปที่ชูเย่และกล่าวต่อ “ถ้ามันไม่เป็นเพราะเธอ ฉันคงไม่ทำให้เขาขุ่นเคืองใจจนฉันถูกไล่ออกมาแบบนี่หรอก!”

 

“คุณถูกไล่ออกเพราะเขา?”ชูเย่ตะลึง

 

“เพราะเธอมันไม่มีตา กล่าวหาว่าเขาเป็นขยะบ้านเธอสิขยะจะมาเป็นแขกที่แม้เจ้านายของฉันยังเคารพและเขายังเป็นประธานของหรงติ่งด้วย ขนาดนี้แล้วเธอยังกล้าไปมีเรื่องกับเขาอีก! ” จ้าวจุนตะโกนลั่น เขาพอมีเส้นสายอยู่บ้างจึงได้ทำการสืบประวัติของเจียงเป็นเฉินมาคร่าวๆ พอได้รู้เขายิ่งเข้าใจชัดเจนแจ่มแจ้งว่าคนผู้นี้ไม่ควรที่จะไปยั่วยุ!

 

“คุณ คุณว่ายังไงนะเขาเป็นคนที่แม้แต่เจ้านายของคุณยังให้ความเคารพและเขายังเป็นประธานของหรงติ่งด้วย?”

 

ชูเย่ตะลึงเป็นอย่างมาก

 

นี่มันไม่ใช่เรื่องจริงใช่มั้ย เขาไม่ได้เป็นคนขับรถ!

 

แต่เขาเป็นประธานของหรงติ่ง!

 

เมื่อเข้าใจเรื่องทั้งหมดชูเย่ก็เกิดอาการเข่าอ่อนทรุดตัวลงกับพื้นทันที ร่างกายของเธอสั่นสะท้านเธอมองไปที่เจียงเป่ยเฉินด้วยความประหลาดใจ

 

“ถ้างั้นฉันกลับละ ผมขอตัวกลับก่อนครับ!” จ้าวจุนแสดงความเคาระและเตรียมตัวจากไป

 

ทันใดนั้นชูเย่นึกบางอย่างออกจึงรีบลุกวิ่งไปหยุดเขา“พี่จุน พี่หลอกฉันใช่ไหมพี่แค่ต้องการจะทิ้งฉัน แต่ไม่เป็นไรหากพี่จะทิ้งฉันไป แต่พี่ช่วยเซ็นชื่อให้ฉันก่อนได้ไหม ไม่งั้นฉันจะโดนหัวหน้าไล่ออกแน่นอน! “

 

“ไปให้พ้น! เธอคิดว่าฉันยังสามารถเซ็นให้เธอได้อยู่งั้นหรอ” จ้าวจุนผลักชูเย่และเดินต่อ

 

ชูเย่ตะลึงจากนั้นใบหน้าเธอก็เปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความโกรธและเธอก็ตะโกนต่อว่าเขาทันที “จ้าวจุนไอ้สารเลวแกหลอกฉัน แกโดนไล่ออกแล้วแกยังมาหลอกฉันให้ไปกับแกอีกในวันนั้นแก่มันไอ้ชั่ว”

 

“หึ มันผิดนักหรือไงความจริงแล้วที่ฉันโดนไล่ออกก็เพราะเธอเพราะงั้นนี่ก็ถือเป็นของขวัญชดเชยให้ฉันก็แล้ว”จ้าวจุนกล่าว

 

ชูเย่ได้ยินเช่นนั้นเธอก็พุงตัวหมายจะจัดการกับจ้าวจุน แต่เธอก็ถูกจ้าวจุนตบอย่างรุนแรงทำให้เธอล้มลงกับพื้นและร้องไห้ออกมา

 

ตอนนี้ทุกอย่างในชีวิตของเธอพังหมดแล้วไม่ว่าจะเป็นรถหรือหน้าที่การงานมันพังไปหมดแล้ว! และเรื่องทั้งหมดก็เป็นเพราะเจียงเป่ยเฉิน!

 

“เจียงเป่ยเฉินฉันจะไม่ปล่อยนายไว้แน่ ฉันจะบอกเรื่องนี้กับเสี่ยวหวู่ค่อยดูเถอะถ้าเธอรู้เรื่องเธอจะหย่ากับนายแน่!” ชูเย่กล่าวด้วยความโมโห

 

เอี๊ยดดดด!

 

เวลานี้รถตู้สองสามคันก็ขับมาจอดที่หน้าร้าน 4S จากนั้นพี่จีก็เดินลงมาพร้อมกับกลุ่มชายร่างใหญ่ที่มาพร้อมกับอาวุธมีดขนาดใหญ่ในมือของพวกเขา

 

ชูเย่กลัวเป็นอย่างมากก่อนหน้านี่ที่เธอทำตัวหยิ่งผยองกล้าท้าทายไปทั่วเพราะเธอคิดว่ามีจ้าวจุนหนุนหลังอยู่ แต่ทว่าตอนนี้ไม่มีแล้ว

 

“นายน้อย ผมได้ยินว่ามีคนกล้าจะมาทำร้านคุณมันอยู่ให้ผมจะฆ่ามันให้ตายเลย!”

 

พี่จีกล่าวออกมาด้วยท่าทีทีดุร้ายเป็นอย่างมาก ใบหน้าของชูเย่พลันซีดลงทันทีที่ได้ยินดังนั้น

 

เจียงเป่ยเฉินยิ้มและเดินไปหาเธอช้า ก่อนจะโน้มตัวลงไปและถาม “เธอยังอยากจะพูดอะไรอีกไหม”

 

ชูเย่ทำได้เพียงเงียบด้วยความหวาดกลัว

 

เจียงเป่ยเฉินกล่าวต่อ “จากนี้ไปเธออย่าได้มาหาภรรยาของฉันอีก คนอย่างเธอไม่คู้ควรที่จะเป็นเพื่อนสนิทของภรรยาฉัน หากฉันรู้ว่าเธอยังติดต่อกับอยู่ฉันมีเป็นหมื่นๆวิธีที่จะทำให้เธอเสียงใจที่ได้เกิดมาบนโลกนี้! “

 

แววตาของเจียงเป่ยเฉินตอนนี้เต็มไปด้วยเจตนาฆ่าที่เอ่อล้นออกมา จนทำให้ชูเยสัมผัสได้ถึงความหนาวเย็นที่ซึมลึกเข้าไปถึงกระดูก เธอรู้ตัวดีว่าเจียงเป่ยเฉินไม่ได้พูดเล่น หากเธอไม่ทำตามเขาจะฆ่าเธอแน่ๆ!

 

“ฉัน ฉันรู้แล้วฉันจะไม่ติดต่อกับเสี่ยวหวู่อีกต่อไป!” ชูเย่ต่อบและรีบลุกขึ้นวิ่งออกไปที่ด้านนอกร้าน 4S ทันที

 

ท้ายที่สุดแล้วพี่จีเห็นว่าไม่มีอะไรแล้วจึงขอตัวจากไป ไม่นานหวังเสี่ยวหวู่ก็โทรมาหาเจียงเป่ยเฉิน

 

“เรื่องรถของชูเย่เป็นยังไงบ้าง”หวังเสี่ยวหวู่ถามอย่างเย็นช้าให้ได้ชัดว่าเธอยังคงโกรธเขาอยู่

 

“ไม่ต้องเป็นห่วง ฉันจัดการเรียบร้อย!” เจียงเป่ยเฉินตอบ

 

จากนั้นน้ำเสียงของหวังเสี่ยวหวู่ก็พลันคลายลงเล็กน้อยเธอกล่าวว่า “ก็ดีแล้วยังไงก็ตาม ฉินเสี่ยว โทรหาฉันบอกว่าต้องการที่จะเจอนายโดยเร็วที่สุด คิดว่าเธอคงมีปัญหาและต้องการความช่วยเหลือจากนาย นายจะไปช่วยเธอไหม?” หวังเสี่ยวหวู่รู้สึกเจ็บที่ใจนิดหน่อยเมื่อเธอพูดออกไป

 

เจียงเป่ยเฉินหัวเราะและกล่าว “เธออยากให้ฉันไปไหมละ”

 

“มันเกี่ยวอะไรกับฉัน นายจะทำอะไรก็เรื่องของนาย!” เธอรู้สึกหงุดหงิดนิดหน่อย แต่เธอก็กล่าวออกมา “เอาเถอะยังไงก็ตามเธอก็เป็นเพื่อนสนิทของฉันอีกคน นายควรไปนะ โรงพยาบาลของเธอคือ หอหลินจือ! “

 

“งั้นฉันไปก่อนละ!”

 

จากนั้นเจียงเป่ยเฉินก็รีบขับรถตรงไปที่หอหลินจืนทันที

 

ในตอนนี้หอหลินจือกำลังวุ่นวายเป็นอย่างมากผู้คนมากมายกำลังรุมล้อมอยู่รอบๆ

 

“ของที่พวกเธอขายในหอหลินจือนี้มันเป็นของปลอมใบหน้าที่งดงามของฉันต้องถูกทำร้ายด้วยยาปลอมของพวกเธอ ฉันจะฟ้องร้องพวกเธอทุกคนฉันจะทำให้หอหลินจือของพวกเธอต้องพังพินาศเ!” หญิงอ้วนอายุสี่สิบเศษแต่งตัวดีตะโกนลั่น

 

คนเริ่มมามุงดูมากยิ่งขึ้น ตรงกลางมีหญิงสาวร่างสูงในชุดแพทย์กำลังอธบายด้วยท่าทีที่ร้อนลน “คุณผู้หญิงคุณจะพูดอย่างนี้ไม่ได้นะ ตัวยาในใบสั่งยานี้มันถูกสือทอดมารุ่นต่อรุ่นในหอหลินจือ หลายคนที่มาก็ไม่เคยมีปัญหามาก่อนฉันว่าคุณต้องแพ้อย่างอื่นแน่นอน ฉันแนะนำให้คุณไปที่แผนกโรงผิวหนังของโรงพยาบาลเพื่อตรวจดู! “