ราชันมังกรแห่งสงคราม - ตอนที่ 4
หวังเสี่ยวหวู่บีบกำมือและหายใจเข้าลึก ๆ หันศีรษะและเดินกลับเข้าไปในวิลล่า
ฉันละไม่อยากจะเชื่อเลยเจ้าขยะนี้! “นายเจียงเป่ยเฉิน ดูสิพี่สาวเสี่ยวหวู่โกรธแล้วนั้น นายคงสมใจสินะ!”
ยูเฉียน บ่นใส่เขาและรีบเดินตาม หวังเสี่ยวหวู่ ไป
“เหอ เจียงเป่ยเฉินฉันรู้ว่านายอิจฉาฉัน!”
ตอนแรกเฉินจื่อเฉ่าโกรธมาก แต่เขาก็หัวเราะออกมาทันทีเมื่อเขาเห็นว่าหวังซิวหวู่นั้นโกรธเจียงเป่ยเฉิน
“เพราะฉันนั้นมีความสามารถที่จะช่วย เสี่ยวหวู่ แต่นายทำไม่ได้!”
“คนระดับนายไม่สามารถช่วย เสี่ยวหวู่ ในตำแหน่งของเธอได้เลยและการอยู่ในบ้านตระกูลหวัง มีแต่จะทำให้ตัวเองขายหน้าขอแนะนำให้คุณหย่ากับ เสี่ยวหวู่ เถอะ!”
เฉินจื่อเฉ่ายิ้มเยาะ
เจียงเป่ยเฉิน ชำเลืองมองเขาและหันกลับเดินไปในวิลล่า สถาฐานะของเขาเทียบกันแล้วคนอย่างเฉินจื่อเฉ่า ไม่มีคุณสมบัติพอที่จะคุยกับเขา
“หึ ไม่เชื่อก็รอดูสักวันเธอจะทิ้งนาย!”
เฉินจื่อเฉ่าถ่มน้ำลายด้วยความโกรธและเดินขึ้นรถจากไป
เมื่อหวังเสี่ยวหวู่กลับเขาไปในวิลล่าเธอนั่งบนโซฟาด้วยความโกรธ ตั้งแต่ยังเด็กไม่มีใครกล้าจะพูดกับฉันแบบนั้น แต่ไอ้บ้านั้นนับเป็นอะไร
“โอ้ แม่อัญมณีของฉัน ใครทำอะไรให้คุณโกรธหรอ?
ในเวลานี้มีผู้หญิงแต่งตัวดูดีเดินเข้ามา ผู้หญิงคนนี้เป็นแม่ของหวังเสี่ยวหยู่และหวังจื่อฉิง เธอคือ เตวหยูหลาน
“คุณป้าหนูไม่อยากพูดถึงเลย เป็นไอ้ทหารบ้านั้นทำพี่สาวโกธร!”
ยูเฉียนได้ตามเข้ามาแล้วและรีบอธิบายว่าเกิดอะไรขึ้น
“ไอ้บ้านั้น มันทำให้ครอบครัวเราโดนดูถูกแล้วยังไม่พออีกหรอ มันยังจะมาทำให้เธอไม่มีความสุขด้วยการกลั่นแกล้งเธอทันทีที่กลับมาเนี้ยนะเหรอ? “
“ฉันคงต้องสั่งสอนมันหน่อยแล้ว! “
เตวหยูหลาน รีบลุกขึ้นเดินไปที่ประตู
ในเวลาเดียวกันเจียงเป่ยเฉินกำลังจะเข้าประตูพลันหยุดชะงัก
“คุณป้า!”
“แกเรียกฉันว่าไงนะ”
หน้าตาเตวหยูหลานเปลี่ยนเป็นน่าเกลียดทันที ในความคิดเธอเจียงเป่ยเฉินก็นับเป็นลูกเขยของเธอ แจ่เขากลับไม่เรียกเธอว่า “แม่” ตอนพบกันนี่มันไม่เคารพกันเลยหรอ?
“ คุณป้าผมต้องการเวลาปรับตัวสักหน่อย!”
“ออกไปสะครอบครัวเราไม่ต้องการแก ไอลูกเขยที่เรียกฉันว่า ‘แม่’ ไม่ได้!”
เตวหยูหลานง้างมือหมายจะตบเขา แต่เจียงเป่ยเฉินก็สามารถหลบไปได้อย่างง่ายดาย ทำให้เตวหยูหลานพลาดเป้าและโซเซล้มลงกับพื้น
“ โอ้ย เอวฉัน!”
“แม่!”
“คุณป้า!”
เสียงอุทานสองเสียงดังขึ้นหวังเสี่ยวหวู่และยูเฉียนนรีบเข้าช่วยเหลือเตวหยูหลาน
“ แม่เจ็บตรงไหนบ้าง ขอให้หนูดูหน่อยสิ”
หวังเสี่ยวหวู่กล่าวว่าด้วยความกังวล
“เจียงเป่ยเฉินนายจะทำเกินไปแล้วนะ นายกล้าทำร้ายคุณป้าได้ไง!”
ยูเฉียนที่อยู่ข้างๆตะโกน
“ไหน ขอฉันดูหน่อยสิ!”
เจียงเป่ยเฉิน ย่อตัวลงอย่างรวดเร็วเพื่อตรวจสอบ
แต่ทว่าเตวหยูหลานก็ขัดขึ้นมาทันที “อย่าเอามือสกปรกมาแตะต้องฉัน เสี่ยวหยู่รีบพาแม่ออกไปจากตรงนี้ แม่ไม่อยากเห็นหน้ามัน!”
เจียงเป่ยเฉิน ขมวดคิ้วดูจากการหายใจและสีหน้าแล้วเตวหยูหลานนั้นไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรใดๆเลย แต่เธอแกล้งทำเป็นว่าได้รับบาดเจ็บหนัก
ในเวลานี้เมื่อหวังเสี่ยวหวู่ได้ยินแม่เธอบอก เธอก็ลุกขึ้นยืนช้าๆ เธอชี้ไปที่ประตูและพูดออกมา
“เจียงเป่ยเฉิน นี่เป็นบ้านของฉัน ฉันขอให้นายออกไป!”
“เราก็เป็นครอบครัวกันแล้วทำไมเธอต้องเย็นชากันด้วยนะ!”
เจียงเป่ยเฉิน ส่ายหัวและเดินไปในวิลล่า
“อ้ออีกอย่างนะ ฉันจะไปอาบน้ำหน่อย ช่วยเตรียมชุดมาให้ฉันหน่อยเอาแค่เสื้อเชิ้ตสีขาวก็พอ!”
หลังจากกล่าวออกมานั้นเจียงเป่ยเฉินก็เดินขึ้นไปชั้นบนโดยไม่หันกลับไปมอง
หญิงสาวทั้งสามตะลึง ไอ้บ้านี้คิดว่าที่นี่เป็นบ้านตัวเองรึไง?
“ เมื่อกี้เขาว่าอะไรนะ?”
เขากำลังสั่งฉันหรอ? “
หวังเสี่ยวหวู่ กัดฟันแน่นจนร่างกายสั่นเทา ผู้ชายคนนี้เพิ่งกลับมาวันแรกแต่กลับสั่งเธอราวกับว่าเธอเป็นภารยาของเขา นี่มันจะมากไปแล้วนะ เธอไม่ได้รู้สึกว่าเจียงเป่ยเฉินเป็นสามีของเธอเลย แต่ผู้ชายคนนี้กลับทำทุกอย่างเหมือนเขาเป็นหัวหน้าของครอบครัวสะงั้น!
“จะบ้าตาย ถ้าพ่อแกกลับมาเมื่อไร ฉันจะให้เขาไล่ไอ้บ้านั้นออกจากบ้านตระกูลหวังของเรา!”
เตวหยูหลานโมโหมาก
“แม่อย่าโกรธไปเลย เดียวหนูจะไปคุยกับเขาเรื่องหย่า!”
หวังเสี่ยวหวู่พูดปลอบอย่างรวดเร็ว
ในตอนแรกถ้าเจียงเป่ยเฉินปฏิบัติตัวเองให้อยู่ในฐานะแขก เธอก็ยังพอรับการแต่งงานที่มีเพียงแค่ชื่อนี้ได้อยู่ แต่ตอนนี้เห็นได้ชัดเลยว่าอีกฝ่ายนั้นหยาบคายมาก และเธอไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีกในอนาคตเธอแทบจะรอไม่ไหวแล้วที่จะหย่ากับเขา!
เจียงเป่ยเฉินเพิ่งเดินไปที่ห้องน้ำและกำลังจะทิ้งตัวลงอาบน้ำร้อนในอ่าง ก็พลันรู้สึกถึงความเจ็บปวดบางอย่างพุ่งพลานออกมา เขารีบใช้มือจับกำแพงไว้และหอบหายใจออกมา ภารกิจสุดท้ายในดินแดนตะวันตกเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสและเกือบตายในสนามรบ แม้ว่าจะโชคดีที่รอดชีวิตมาได้ แต่ว่าอวัยวะภายในของเขาก็ได้รับความเสียหายอย่างมาก มันอันตรายถึงขนาดที่จะเสียชีวิตได้ทุกเวลา ด้วยสถานะและความสำคัญของเขาในฉางเฟิงเขาจึงได้รับอนุญาติให้ถอนตัวออกมาได้ชั่วคราว
เสียงโทรศัพท์ที่อยู่ข้างหลังเขาดังขึ้นอย่างกะทันหัน แม้ว่าโทรศัพท์ที่จัดจำหน่ายโดย เวสเทียริทอรี่ จะเป็นโทรศัพท์ดาวเทียมรุ่นเก่า แต่มันก็สามารถกันน้ำได้ เจียงเป่ยเฉิน หยิบมันขึ้นมาแล้วรับสาย
“หืม?
คุณชายได้ยินว่าคุณกลับมาแล้วหรอ? “
เสียงในโทรศัพท์ฟังดูตื่นเต้นมาก
“โอ้ว ข่าวไว้ดีจังเลยนะ!”
เจียงเป่ยเฉินยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้ เมื่อสามปีก่อนตอนเขาไปปฏิบัติภารกิจทางใต้ เขาได้ช่วยชายชราและครอบครัวโดยบังเอิญ โดยไม่ได้คิดอะไรเลย แต่ชายชรากลับสาบานกับเขาว่าตระกูลเหอจะรับใช้และติดตามเขาไปตลอดชีวิต
“เฮ้ คุณจะอยู่ที่นี้อีกนานไหม”
เหอฟู่เฉิงถามออกมาอย่างเร็ว
“ฉันยังไม่ไปไหนตอนนี้ ฉันจะอยู่ฝึกฝนที่นี่ไปสักระยะ!”
“ คุณยังไม่ไปไหนงั้นหรอ?”
“เยี่ยมเลย! “
หากมีใครได้เห็นท่าทางของเหอฟู่เฉิงชายที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองหยุนไห่ที่แสดงออกมาด้วยความตื่นเต้นตอนนี้ พวกเขาจะต้องอ้าปากค้างอย่างแน่นอน!
“ถ้าคุณมีอะไรที่ต้องการขอเพียงแค่คุณบอกมา หรือว่าคุณต้องการให้ผมไปพบกับคุณตอนนี้เลย?”
น้ำเสียงของเหอฟู่เฉินตื่นเต้นมาก
“ไม่ต้องมาหาฉัน ฉันจะเรียกให้มาพบเองเมื่อฉันต้องการ!”
เจียงเป่ยเฉินปฏิเสธอย่างรวดเร็ว เขากลับมาที่หยุนไห่เพื่อฝึกฝนอย่างลับๆในครั้งนี้และไม่ต้องการให้ใครมารบกวนมากเลยไป มิฉะนั้นมันอาจจะเกิดความวุ่นวายขึ้นมาได้
“ฉันต้องการตัวตนบางอย่างในหยุนไห่ เอาเป็นนักธุรกิจก็ได้!”
เจียงเป่ยเฉินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและกล่าวนี่เป็นเรื่องธรรมดาที่จะปกปิดตัวตนของเขาและทำให้ศัตรูเขาสับสน
“เอาล่ะถ้าอย่างนั้นผมจะมอบ หรงติ่ง ซึ่งเป็นบริษัทที่ดีที่สุดภายในตระกูลเหอ ให้เป็นชื่อของคุณและผมจะให้เลขาจางเหมียวติดต่อคุณให้เร็วที่สุด!”
ฟู่เฉินกล่าวทันที
“ หรงติ่ง?”
เจียงเป่ยเฉิน อึ้งอยู่ครู่หนึ่งแต่เขาก็อดหัวเราะไม่ได้
ไม่นานหลังจากที่เหอฟู่เฉิงวางสายก็มีอีกสายหนึ่งเข้ามา เป็นเสียงผู้หญิงที่ไพเราะมาก: “คุณเจียง ฉันจางเหมียว เลขาของประธานบริษัท หรงติ่ง คะประธานสั่งให้ฉันโทรหาคุณโดยทันที จากนี้ไปคุณจะเป็นเจ้านายของฉัน ไม่ว่ามีอะไรโปรดสักฉันมาได้เลย อะไรก็ได้!”
“สองอย่าง!”
เจียงเป่ยเฉิน ออกคำสั่ง “อย่างแรกยกเลิกการร่วมมือกับ เฉินจื่อเฉ่า และยกเลิกแผนการลงทุนสำหรับ บริษัท เทคโนโลยีภายใต้ชื่อของเขา!”
“อย่างที่สองเตรียมเช็คสิบล้านแล้วส่งให้หวังเสี่ยวหวู่ ของซือหยุ่น!”
“รับทราบ!”
แม้ว่าจางเหมียวจะสงสัยเกี่ยวกับคำสั่งทั้งสองนี้ แต่เขาก็เป็นเจ้านายเธอ
แต่เฉินจื่อเฉ่าคนนี้ช่างโชคร้ายจริง! เนื่องจากตอนนี้โครงการของทั้งสองฝ่ายได้ดำเนินมาถึงครึ่งทางแล้วและเพื่อรองรับการลงทุนของหรงติ่งเฉินจื่อเฉ่าจึงลงทุนเป็นจำนวนมากในช่วงแรก หากหรงติ่งถอนตัวในเวลานี้ก็ไม่เป็นไร แต่อีกฝ่ายจะต้องล้มละลายแน่นอน! หลังจากอาบน้ำร้อนสักพักเจียงเป่ยเฉินก็รู้สึกสบายขึ้น หลังจากเช็ดตัวให้แห้งแล้วเขาก็เดินออกจากห้องน้ำโดยห่อตัวไว้ด้วยผ้าขนหนูอาบน้ำ
ขณะนี้มีเสื้อผ้าถูกเตรียมไว้บนเตียงอย่างเรียบร้อยเป็นเสื้อเชิ้ตสีขาว
“คุณผู้หญิงบอกให้คุณลงไปข้างล่างเมื่อคุณแต่งตัวเสร็จ เธอมีเรื่องสำคัญจะคุยกับคุณ!”
แม่บ้านมองไปที่ร่างอันสง่างามของเจียงเป่ยเฉินและเม้มริมฝีปากของเธอ เพราะอะไรทำไมชายรูปร่างดีแบบนี้ถึงเป็นลูกเขยที่ไร้ประโยชน์ได้
“ฝากไปบอกเธอทีว่าฉันเหนื่อย และจะไปคุยด้วยทีหลีง!”
เจียงเป่ยเฉินกล่าวขณะสวมเสื้อผ้า
แม่บ้านตะลึง เธอคาดไม่ถึงว่าเขาจะปฏิเสธ!