ราชันมังกรแห่งสงคราม - ตอนที่ 39
จ้าวไคเดินไปหาชูเย่พร้อมกับรายการเดิมของเจียงเป่ยเฉินซึ่งตอนนี้กลายเป็นของชูเย่แล้ว
“จ้าวไคเจ้าบ้าไปแล้วเหรอ?” หน้าชูเย่กลายเป็นน่าเกลียด
จ้าวไคกล่าวอย่างเย็นชา”ขอโทษด้วยคุณชูเย่นี่เป็นการชาร์จเพิ่มตามปกติของร้านเรา!”
ชูเย่กับฟันแน่นเธอมองไปทางเจียงเป่ยเฉินและกล่าวเจียงเป่ยเฉินยังไงฉันก็เป็นเพื่อนสนิทของเสี่ยวหวู่ นายจะทำแบบนี้กับฉันจริงหรอ? “
เจียงเป่ยเฉินส่ายหัว”ขอโทษด้วย! ความรู้สึกส่วนความรู้สึกแต่นี่เป็นธุรกิจ แต่แน่นอนว่าถ้าเธอคุกเข่าขอร้องตอนนี้และเรียกฉันว่าพ่อ ฉันอาจจะลดให้เธอสัก 5 แสนหยวนก็ได้! ลองดูไหมละ”
นี่คือการเอาคืน ก่อนหน้านี้ชูเย่ก็ทำแบบนี้กับเขา ตอนนี้เขาจึงเอาคืนเธอบ้าง!
“นาย นายอย่างได้หวัง!” หน้าของชูเย่แดงก่ำด้วยความโกรธ จะให้คุกเข่าเขางั้นหรออย่าหวังเลยไม่มีทาง
“ก็เนื่องจาก เธอไม่ได้สนใจโอกาสที่ฉันมอบให้ก็ช่างมัน!”เจียงเป่ยเฉินส่ายหัวและเดินจากไป
ชูเย่ทำได้เพียงกำหมัดแน่นเธอไม่สามารถพูดอะไรออกไปได้เนื่องจากตอนนี้เธอรู้ว่าเจียงเป่ยเฉินมีอำนาจมากขนาดไหน เธอจึงทำได้เพียงกลืนคำพูดนั้นลงไป
“หึ! ฉันจะไปหาเสี่ยวหวู่ มาลองดูกันว่านายจะกล้าขัดใจเธอหรือไม่!” เธอมองไปที่เจียงเป่ยเฉินที่กำลังเดินจากไป เธอรู้ว่าเขาเป็นยังไงตอนอยู่ในครอบครัวนั้น เขามักจะโดนดุโดยภรรยาของเขาเห็นได้ชัดเลยว่าเขากลัวภรรยามาก ถึงเธอจะไม่กล้ามีเรื่องกับเขาตรงๆแต่เธอก็สามารถให้เพื่อนเธอช่วยเธอได้ ตราบใดที่เธอไปบอกเสี่ยวหวู่เธอจะต้องช่วยอย่างแน่นอน!
……
บ้านตระกูลหวัง
หลังจากที่หวังเสี่ยวหวู่กลับมาจากบ้านหลัก เธอก็รู้สึกหดหู่ใจเป็นอย่างมาก ย่าของเธอเชื่อใจหวังเฉินมากเกินไป เธอรู้สึกว่ามีบ้างอย่างแปลกๆกันโครงการของเขา แต่เธอไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่ามันคืออะไร
ตอนนี้เธอแทบจะหมดหวังแล้ว ถ้าโครงการนี้ล้มเหลว ซือหยุ่น ที่พ่อของเธอสร้างมาก็จะหายไปในทันที
“ลูก ไอ้เจ้าขยะนั้นยังไม่กลัวอีกหรอ หรือว่ามันก่อคดีมาจริงๆ!” เตวหยูหลานกำลังฝึกโยคะในห้องนั่งเล่น “ฉันบอกแล้วให้เธอไปคุยกับทนายของฉัน เจ้านั้นมันเสร็จแน่ครั้งนี้ทันทีที่มันติดคุกเธอก็หย่ากับมันเลย ฉันหาคนดีๆมาให้แล้วเข้าเป็นคนที่ยอดเยี่ยมมาก”
“ แม่นี่ไม่ใช่เวลาพูดแบบนั้น!” หวังเสี่ยวหวู่คิดกังวลเรื่อง ซือหยุ่น มากเธอไม่ต้องการให้ เตวหยูหลาน
“เธอจะคิดมากไปทำไมยังไงหญิงชรานั้นก็ห่วงแต่หวังเฉินมากกว่า เราคงไม่สามารถหาเงินจากตระกูหวังมากนักหรอก แต่ถ้าเธอได้แฟนที่ดีเธอก็จะมีทุกอย่าง แล้วจะแคร์ไรกันตระกูลหวัง? “เตวหยูหลาน พูดโน้มน้าวเธอ
“ แม่อย่าพูดถึงมันอีกเลย หนูสัญญากับเจียงเป่ยเฉินแล้วว่าจะไม่หย่ากับเขา!”
“อะไรนะ?” เตวหยูหลาน จ้องมอง “ฉันบอกเธอแล้วไงว่ายังไงในอนาคตเธอต้องหย่ากับมัน ไม่งั้นเธอก็จะไม่มีอนาคตฉันก็แก่แล้วจะอยู่แบบนี้ได้นานขนาดไหนกัน อย่าทำให้ฉันผิดหวังสิ!”
“แม่เป่นเฉินทำงานอย่างหนักเราควรให้โอกาสเขา ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเกิดมารวยและอีกอย่างเขาเพิ่งกลับมาจากไปเป็นทหารา!” หวังเสี่ยวหวู่ขมวดคิ้วกล่าว
“การทำงานหนัก?” เตวหยูหลานยิ้มเยาะ “เห็นแต่มันเอาแต่ทำตัวเรื่อยเปื่อยไปวันๆตั้งแต่กลับมา ถ้าเธอไม่บอกให้หางานมันจะไปหางานมั้ย เธอควรจะหายคนที่รวยๆตั้งแต่ตอนนี้ไม่งั้นอีกไม่กี่ปีความสวยของเธอก็จะลดลง!”
เอี๊ยด!
ในเวลานี้มีเสียงรุมาจอดที่หน้าประตู เป็นเจียงเป่ยเฉิน ขับ BMW ของหวังเสี่ยวหวู่กลับมา
“เจียงเป่ยเฉินนายไม่ได้ถูกจับไปหรอ มันยังไงกันเนี้ย”เตวหยูหลานตะใจไปชั่วขณะเพราะหวังเสี่ยวหวู่ไม่ได้บอกกับเธอว่าเจียงเป่ยเฉินไม่ได้เป็นอะไร
เจียงเป่ยเฉินส่ายหัว “ขอโทษด้วยป้า ผมเคลียร์ข้อสงสัยทั้งหมดแล้ว!”
“นาย…”
“รถซ่อมเสร็จหรือยัง” หวังเสี่ยวหวู่รีบตัดบท และทำเป็นไม่สนใจแม่ของเธอ มีแม่สามีที่ไหนเขาอยากจะให้ลูกเขยติดคุกกันละ
“เรียบร้อย!” เจียงเป่ยเฉินตอบ
เสี่ยวหวู่ตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและถามออกไปว่า “ฉันไปที่ร้าน 4S มาก่อนหน้านี้พวกเขาบอกว่ามันจะต้องใช้เงินอย่างน้อยก็ 1 แสนหยวนนายจ่ายไปแล้วหรอ”
“โห 1 แสนหยวนเขาจะมีได้ไง” เตวหยูหลานเย้ยหยัน
“มันก็ไม่ได้เป็นปัญหาขนาดนั้น!” เจียงเป่ยเฉินไม่อย่าพูดอะไรมากมาย แต่แล้วเขาก็นึกอะไรบางอย่างออกและก็พูดขึ้นมาทันที “ฉันได้งานแล้ว ฉันจะเริ่มพรุ่งนี้!”
“หืมม นายทำงานอะไร ที่ไหน” หวังเสี่ยวหวู่ถามอย่างอยากรู้
“หรงติ่ง เป็นคนขับรถ!”
หวังเสี่ยวหวู่ตกใจไปพักหนึ่งและมองไปที่ Rolls Royce ที่จอดอยู่ด้านนอกและถามว่า: “รถคันนั้นก่อนหน้านี้นายบอกเป็นของเพื่อนนายไม่ใช่หรอ งั้นเป็นว่าเพื่อนของนายก็คือเจ้านายของนายยังงั้นสินะ”
หวังเสี่ยวหวู่ครั้งนี้เหมือนเธอจะเข้าใขทุกอย่างแล้ว
ก่อนหน้านี้เธอได้รับเงินสนับสนุนจาก หรงติ่ง และการที่เช่าอาคารสำนักงานในย่ายธุรกิจอีก เธอเคยสงสัยว่าทำไม หรงติ่ง ถึงสนับสนุนเธอเป็นพิเศษ
ตอนนี้เธอเข้าใจแล้วทั้งหมดคงเป็นเพราะเจียงเป่ยเฉิน?
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้หวังเสี่ยวหวู่เม้มริมฝีปากแน่น ดวงตาของเธอฉายแววสับสนและเธอไม่ทราบว่าจะพูดยังไงออกไปดี
เจียงเป่ยเฉินยิ้ม “จากนี้ไปฉันจะตั้งใจทำงานหาเงินมาจุนเจือครอบครัวแล้วกัน” จากนั้นเขาก็เดินขึ้นไปชั้นบน
“เจียงเป่ยเฉินจะไปทำงานกับบริษัทใหญ่อย่าง หรงติ่ง นี้มันจะโม้เกินไปแล้ว นี่ลูกอย่าไปเชื่อนะเขาน่าจะโกหกแน่นอน!”เตวหยูหลานกล่าวอย่างไม่เชื่อ ยังไงซะ หรงติ่ง ก็เป็นบริษัทที่มอบรายได้ให้มากที่สุดแล้วในหยุนไห่ แม้ว่าจะเป็นพนักงานธรรมดาพวกเขาก็มีรายได้มากกว่า 10,000 หยวนต่อเดือน
“แม่พอเถอะ หนูเชื่อเขา!”หวังเสี่ยวหวู่ยืนยันชัดเจน แต่เธอก็อดกังวลไม่ได้การที่เจียงเป่ยเฉินเขาไปทำงานที่นั้นได้น่าจะเป็นเพราะเพื่อนของเขา และเขาคงไม่สามารถไปได้ไกลกว่าต่ำแหน่งคนขับรถเป็นแน่
เจียงเป่ยเฉินเดินกลับไปพักผ่อนที่ห้องเขาอย่างสบายๆ ผ่านไปสักพักก็มีโทรศัพท์จากหลี่หมิงหยวน
“สวัสดีครับคุณเจียง ผมอยากจะขอเชิญคุณมาทานอาหารร่วมกันได้หรือไม่ครับ?”
“หืม คุณหลี่หรอได้สิผมว่างช่วงบ่ายๆเย็นๆพอดี บอกผมแล้วกันว่าจะไปที่ได้ ผมก็อยากจะขอบคุณคุณเรื่องร้าน 4S เช่นกัน!!”
“คุณเจียง ผมได้จองห้องส่วนตัวไว้แล้วที่ ชุยหยุน”
“ โอเค ผมไปเดี๋ยวนี้!”
หลังจากวางสายโทรศัพท์เจียงเป่ยเฉินก็ขับรถตรงไปที่ชุยหยุน
ชุยหยุน เป็นภัตาคารที่มีชื่อเสียงในหยุนไห่แม้ว่ามันจะไม่ใหญ่โตมากมาย แต่มันก็โด่งดังไปทั่ว ว่ากันว่าพ่อครัวของที่นี่เป็นเชฟที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก ปกติแล้วการจะมาทานอาหารที่นี่ต้องจองล่วงหน้ากันเป็นเดือนๆ
เมื่อเจียงเป่ยเฉินมาถึงที่อาคารชุยหยุนทันทีที่จอดรถเขาก็พบเจอกันคนรู้จัก ไม่ใช่ใครที่ไหนเป็นหวังซู
“โอ้ว นี่ไม่ใช่พี่เขยของฉันหรือเนี้ย ทำไมถึงมาที่ชุยหยุนละ หรือว่ามากินข้าวเย็น?”หวังซูและคนอื่นๆในตระกูลหวังแสดงออกถึงความเย้ยหยัน
ที่นี่ เป็นที่ไหน?
ภัตาคารที่มีชื่อเสียงที่สุด การจะมาที่นี่ต้องจองกันเป็นเดือนๆ แล้วนับประสาอะไรกับเจียงเป่ยเฉิน? เขาจะมากินข้าวที่นี่ได้ยังไงกัน?
“ ฉันมากินข้าว” เจียงเป่ยเฉินตอบ
“นายมากินข้าวเย็นหรอฮ่าฮ่า! นายจะบอกฉันว่านายมากินข้าวเย็นที่นี่น่ะหรอ” หวังซูกล่าวพร้อมกับหัวเรา เขาพลันเหลือไปเห็นรถที่เจียงเป่ยเฉินขับมาเขาจึงถามขึ้น “หืมรถคันนั้นยังไม่ได้เอาไปคืนอีกหรอ?”
“ รถคันนี้มันเป็นของฉัน ทำไมต้องไปคืนล่ะ” เจียงเป่ยเฉินกล่าวเรียบๆ
“ ฮ่าฮ่า! เจียงเป่ยเฉินนายนี่หน้าหนาจริงๆ นายคิดว่านายจะช่วยเหลือเสี่ยวหวู่ได้หรอ นายมีปัญญาหรอ? “
“ฮ่าฮ่า! “
“ฮ่า!”
คนอื่นๆก็ต่างพากันหัวเราะเยาะเขา
เจียงเป่ยเฉินส่ายหัวเขาไม่อยากจะสนใจคนพวกนี้อีกแล้ว เขาจึงเดินไปที่ชุยหยุนแต่เขาก็ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหยุดเอาไว้ที่หน้าประตู
“ขอโทษด้วยครับคุณ ชุยหยุนของเรานั้นเป็นภัตตาคารส่วนตัวเราไม่สามารถอนุญาติให้เข้าไปได้หาดไม่ได้ทำการจองไว้!” เจ้าหน้าที่พูดอย่างเย็นชา
จอง?
เจียงเป่ยเฉินขมวดคิ้ว ก็หลี่หมิงหยวนเป็นคนจองไว้จะบอกว่าไม่ได้นัดมาได้ยังไง
“เพื่อนของฉันจะมาถึงในอีกไม่นาน จะรอไม่ได้เลยหรอ”เจียงเป่ยเฉินกล่าว
“ นี่… ” รปภ. ลังเล ถ้าเพื่อนเขาจองไว้เขาก็สามารถเข้าไปได้จริงๆ เหตุที่เขาหยุดเจียงเป่ยเฉินไว้เพราะเขาดูไม่เหมือนคนมีเงิน
“ ฮ่าฮ่า! ดูสิ! ยังมีหน้ามาโม้อีกว่ามากินข้าวที่นี่” หวังซูเดินมาพร้อมกับคนอื่นๆอีกหลายคน เขาหยิบบัตรออกมาจากกระเป๋าเสื้อของเขา เห็นได้ชัดเลยว่าเขาได้ทำการจองไว้แล้ว
“พี่ชาย ฉันจะบอกอะไรให้นะ ไอหมอนี่มันเป็นแค่ขอทานคุณต้องไม่ปล่อยให้เขาได้เข้ามา!”หวังซูยิ้มเยาะ