“นายน้อยผมมีตาหามีแววไม่ ไปทำให้นายน้อยขุนเคืองโปรอภัยด้วย!”
พี่จีคุกเข่าลงไปหมอบคลานด้วยความหวดกลัวเขาร้องขอความเมตตาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือในเวลานี้เขาทราบแล้วว่าคนเบื้องหน้าเขามีอำนาจขนาดไหน
“มีด!”
เจียงเป่ยเฉินกล่าว
หวังเต็งรีบส่งมีดให้เขาทันที
วู้บบ! เจียงเป่ยเฉินโยนมีดไปปังลงด้านหน้าของพี่จี พี่จีตกใจเป็นอย่างมากรีบวิ่งไปเกาะขาของจ้าวซือเฟิงแล้วบอกกับเขา “พี่สี่ช่วยผมด้วยผมยังไม่อยากตาย!”
“ผ่าสิ! แกไม่อยากตาย แต่แกจะทำให้ฉันตายไปด้วยหรือไง?”
“ใครใช้ให้แกไปหาเรื่องนายน้อยกันเล่า! “
จ้าวซือเฟิงเตะไปที่พี่จีอย่างรุนแรง
ตอนนี้ความเป็นพี่น้องหายไปหมด! เจียงเป่ยเฉินโบกมือและมองไปที่เขาแล้วกล่าว “ฉันจะให้โอกาสนาย!”
ในทันใดนั้นเขาก็ชี้ไปที่เล่ยเฟิงและเฉินจื่อเฉ่า และกล่าวว่า: “จัดการพวกเขาแล้วฉันจะไว้ชีวิตนาย!”
ทันทีที่สิ้นเสียงพี่จีรีบคว้ามีดแล้วเดินเข้าไปหาคนทั้งสองโดยไม่ลังเล
ในตอนนี้หลิวเฟิงรีบพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ: “นายจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ นายคิดว่านายจะใช้มือเดียวบังฟ้าได้ยังงั้นหรอ พ่อของฉันรู้จักกับคุณเหอ เขาเป็นเพื่อนเก่ากันถ้าแกกล้าทำอะไรฉันเรื่องมันไม่จบแค่นี้แน่!”
เมื่อได้ยินแบบนั้นหลายคนต่างตกตะลึง พวกไม่คาดว่าหลิวเฟิงจะรู้จักกับเหอฟู่เฉิง
“ใช่เจียงเป่ยเฉินอย่าให้มันมากเกินไปนัก!”
เฉินจื่อเฉ่าตะโกนทันทีแม้ว่าเขาจะรู้สึกหวาดกลัว “แกคิดว่าแกเป็นแรมาจารย์หรือไง แกคิดว่าแกจะทำอะไรก็ได้หรือยังไงห่ะ!”
“ ถ้านายน้อยไม่ใช่ปรมาจารย์ ในหยุนไห่ก็ไม่มีใครกล้าบอกว้าตัวเองเป็นปรมาจารย์แล้ว!”
ในเวลานี้ก็พลันมีอีกเสียงดังก้องขึ้นมา เป็นชายชราสวมชุดผ้าไหมสีฟ้าเดินเข้ามาพร้อมกับผู้ติดตามไม่ต่ำกว่าห้าร้อยคน
ตอนนี้ในโรงงานเต็มไปด้วยผู้คน
หลิวเฟิงและเฉินจื่อเฉ่าตะลึงเป็นอย่างมาก
“พี่เหอ… ”
“ไสหัวไป ใครพี่พี่แก ตั้งแต่ที่พ่อแกตายไปความสัมพันธ์ของตระกูลเราทั้งสองก็สิ้นสุดทันทีไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน และนายยังทำให้นายน้อยขุ่นเคืองอีกมันเป็นปัญหาของนายไม่เกี่ยวกับฉัน!”
เหอฟู่เฉิงกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง
ร่างกายของหลิวเฟิงสั่นสะท้านไปทั้งร่างในหน้าเขาซีดขาวลงอย่างเห็นได้ชัด ตอนนี้เขาเข้าใจแล้ว! ตอนนี้แม้แต่เหอฟู่เฉิงยังเคารพเจียงเป่ยเฉินเป็นอย่างมาก!
ดวงตาของเฉินจื่อเฉาเบิกกว้างจนแทบจะถล่นออกมาจากเบ้า ทำไมถึงเป็นแบบนี้? นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
เขาไม่ได้เป็นลูกเขยขยะของตระกูลหวังหรอกหรอ?
เฉินจื่อเฉ่ามึนงงเป็นอย่างมากโลกที่เขารู้จักเหมือนถูกพลิกกลับด้านขณะที่เขากำลังตกตะลึงอยู่นั้น เจียงเป่นเฉินก็เดินมาหาเขาแล้สค่อยๆโน้มตัวลงมาพูดเบาๆข้างหูเขา “นายไม่สงสัยเลยหรอทำไมถึงโดนถอนทุนจนทำให้นายล้มละลาย? จนทำให้ตอนนี้นายมีสภาพเป็นแบบนี้”
“ นายเป็นคนทำ… ” เฉินจื่อเฉ่าเบิกตาขึ้นด้วยความหวาดกลัว ตอนนี้เขาเข้าใจทุกอย่างแล้ว!
เจียงเป่ยเฉินยิ้มเยาะและกล่าวว่า “โดยปกติแล้วสิงโตนั้นมันคร้านที่จะสนใจมดอยู่แล้ว เสียแต่ว่าหากมดตัวนั้นไปยั่วยุสิงโตเข้าละก็ คาดว่ามันคงเบื่อชีวิตแล้วแหละ! “
ประโยคนี้ของเจียงเป่ยเฉินเต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยามเฉินจื่อเฉ่าเป็นอย่างมาก เขาถึงกับทรุดลงไปบนพื้นอย่างหมดสภาพ
“ตัดไข่พวกมัน!”
เจียงเป่ยเฉินพูดพร้อมกับเดินตรงออกไปที่ด้านนอกของโรงงานโดยไม่หันมามองทั้งสองคนที่นั่งคุกเข่าอยู่บนพื้น
เวลานี้พี่จีหยิบมีดขึ้นมาแล้วเดินไปหาคนทั้งสองอย่างช้าๆ
ในความมืดมิดก็ปรากฏเสียงร้องโหยหวนดังลั่นออกมาจากโรงงาน
“พี่หลิวทำไมคนมากมายถึงมารวมตัวกันที่นี่ในเวลานี้ พวกเขามาทำอะไรกันเราควรบุกเข้าไปจับกุมพวกเขาเลยไหม?”
ในเวลานี้รถตำรวจสองคันจอดอยู่ด้านนอกโรงงานและเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงในรถก็กล่าวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชายอีกคน
ตำรวจหญิงในวัยยี่สิบต้น ๆ ใบหน้าของเธอน่างดงามน่าดึงดูอีกทั้งเธอมีรูปร่างที่ดีผอมเพียวเหมาะกับเธอเป็นอย่างมากบวกกับผมสั้นของเธอทำให้เธอนั้นดูดีเป็นพิเศษ
เมื่อเห็นกลุ่มคนเหล่านั้นเดินออกมาพวกเขาก็พลันรู้สึกเครียดขึ้นมาทันที
“คนพวกนี้เป็นใครกัน?”
“อย่าผลีผลาม! “
หลิวหมิงกล่าวเตือน
คนพวกนี้เป็นใครงั้นหรอ?
เล่ยหง! หวังเต็ง!จ้าวซือเฟิง! พวกเขาล้วนเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในโลกใต้ดิน พวกเขาแต่ละคนมีอำนาจมากโดยเฉพาะเล่ยหงแม้แต่หัวหน้าเขาก็ยังต้องเกรงใจเขาอยู่สามส่วน
ตัวเขาเป็นเพียงหัวหน้าทีมสืบสวนชุดเล็กๆ เขาจะไปทำอะไรได้?
ทันใดนั้น เมื่อชายชราในชุดสีฟ้าปรากฏตัวขึ้นหลิวหมิงก็อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายเอือกใหญ่
เหอฟู่เฉิงเขาเป็นคนใหญ่คนโตของหยุนไห่! แม้จะเป็นนายกของเมืองเมื่ออยู่ต่อหน้าเขายังต้องเกรงใจเขา แต่สิ่งที่ทำให้เขาประหลานใจยิ่งกว่าคือชายหนุ่มที่กำลังเดินออกมาจากโรงงานอย่างช้าๆ
“เขาเป็นใคร? ชายชราคนนั้นดูเหมือนจะเคารพเขามากเลย! “
หลิวหมิงส่ายหัวกล่าว “ฉันไม่เคยเห็นคนๆนี้ แต่จำไว้ว่าคนๆนี้ จะต้องมีอิธิพลอย่างมากแน่ๆในอนาคต!”
ที่เขากล้ากล่าวเช่นนั้นเพราะแม้แต่เหอฟู่เฉิงเองก็ยังให้ความเคารพเขาเป็นอย่างมาก เพียงแค่นี้ก็สามารถคาดเดาสถานะของเขาได้แล้ว!
“หึ จะบอกว่านี่เป็นกลุ่มผู้มีอิธิพลอย่างนั้นหรอ ฉันจะไม่มีวันยอมก้มหัวให้พวกนี้เป็นอันขาด!”
หลินเสี่ยวหรานกล่าว
“เสี่ยวหรานอย่าพูดไร้สาระ ชายชราผู้นั้นเป็นคนยิ่งใหญ่เขามีธุรกิจอยู่มากมายในจิงโจวเขาเป็นนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก!”
หลิวหมิงกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง เขาคิดว่าเด็กสาวผู้นี้ยังเด็กและเธอนั้นจริงจังเกินไป
“ฉันไม่สนว่าเขามีอิธิพลอะไรยังไงบ้านเมืองก็อยู่ใต้กฏหมาย ถ้าหากฉันพบว่าพวกเขาทำอะไรที่ผิดกฏหมายละก็ฉันจะไม่มีวันยอมอ่อนข้อให้พวกเขาแน่นอน!”
หลินเสี่ยวหรานกล่าว
หลิวหมิงส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้เขาไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับเด็กสาวผู้นี้ดี
หลังจากที่คนอื่นๆจากไปหมดแล้ว หลิวหมิงก็สั่งให้ตำรวจเข้าไปตรวจสอบโรงงานทันที
หลินเสี่ยวหรานเป็นคนแรกที่เข้าไปภายในโรงงาน ทันใดนั้นเองเธอก็เห็นก้อนกลมยาวสองพวงจมกองเลือดอยู่บนพื้น
กรี๊ดดดดด! หลินเสี่ยวหรานกรีดร้องและรีบวิ่งออกมาพร้องกับเอามือปิดตาไว้
“บ้า! บ้าที่สุด! เจ้าพวกบ้านั้น!”
หลินเซียวหรานกำหมัดแน่น กับภาพที่น่าขยะแขยงที่เธอเห็นเกรงว่าชีวิตนี้เธอคงไม่ลืมภาพนี้เป็นแน่! “ไม่ว่าใครจะว่ายังไงฉันจะลากพวกนายมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้ได้!”
หลินเสี่ยวหรานกล่าวอย่างโกรธเคือง
… บ้านตระกูลหวัง.
“ เจียงเป่ยเฉินทำไมนายมาช้าจัง นายรู้ไหมว่าหวังเสี่ยวหวู่ดื่มมากเกินไป? “
“นายเป็นสามีประสาอะไร? “
“ถ้าเธอเป็นอะไรขึ้นมานายจะรับผิดชอบยังไง? “
ทันทีที่เจียงเป่ยเฉินเปิดประตูเข้าไปเตวหยูหลานก็ตะโกนต่อว่าเขาเป็นชุดๆ
“คุณป้าผมขอโทษ!”
เจียงเป่ยเฉินกล่าว เขาขอโทษออกมาจากใจของเขา
เสียวหวู่เกือบที่จะพบกับเหตุการณ์ที่เลวร้ายเป็นอย่างมากในชีวิตเธอ เขากังวลและเป็นห่วงเธอเป็นอย่างมาก เตวหยูหลานตะลึงไปชั่วครู่เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นว่าลูกเขยคนนี้เชื่อฟังและยอมรับผิด
“ เพิ่งรู้ว่าผิดหรอ!”
ทันใดนั้นเธอก็ชี้หน้าของเจียงเป่ยเฉินและต่อว่าเขาอีกรอบ “ถ้าไม่ใช่เพราะต้องมาแต่งงานกับนายลูกสาวของฉันจะต้องทำงานหนักขนาดนี้หรอ? ลองเทียบกับจื่อฉิงดู ตอนนี้เธอเป็นคุณนายของตระกูลเจียงแล้ว เธอเพิ่งให้กำเนิดลูกชายมาคนนึง สามีเธอก็ดูแลเอาใจใส่เธอเป็นอย่างดี ชีวิตของเธอดีมากเทียบกับเราแล้วนับเป็นอะไรได้? “
“ทำไมเสี่ยวหวู่ของเราทำไมต้องแต่งงานกับขยะแบบนายด้วยนะ! “
เตวหยูหลานพูดด้วยท่าทีที่เสียใจ เธอคาดหวังในตัวลูกคนโตของเธอมากกว่าลูกคนรอง อต่เธอไม่คาดว่าการแต่งงานของลูกคนโตของเธอจะลงเอยเช่นนี้
“ จื่อฉิงมีลูกแล้วหรอ?”
เมื่อเจียงเป่ยเฉินได้ยินดังนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะตะลึง สิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาเมื่อห้าปีที่ผ่านมาสำหรับเขาเหมือนมันเพิ่งผ่านมาไม่นาน เรื่องเกี่ยวกับหวังจื่อฉิงเขาไม่ได้ติดใจอะไรมากนักเนื่องจากสมัยนั้นเขายังคงเด็ก และอย่างไรก็ตามหวังจื่อฉิงเธอก็ยังเอาเงินสองแสนหยวนมามอบให้เขา ถึงแม้ว่ามันจะไม่สามารถช่วยพ่อเขาได้ก็ตามแต่เจียงเป่ยเฉินก็ยังจดจำมันได้
ภายในห้องนอนหวังเสี่ยวหวู่ยังคงนอนหลับอยู่อาจจะเพราะฤิทธิ์ยาทำให้เธอดูอ่อนเพลียไปบ้างก็เท่านั้น
รุ่งขึ้นก็มีเสียงเคาะประตูอย่างรุนแรงที่หน้าบ้าน เมื่อเตวหยูหลานไปเปิดประตูก็พบตำรวจสองนายทั้งชายและหญิงยืนอยู่หน้าประตูบ้าน
“ขอโทษด้วย เจียงเป่ยเฉินอยู่บ้านหรือเปล่า?”
หลินเสี่ยวหรานกล่าวอย่างเย็นชา
MANGA DISCUSSION