ราชันมังกรแห่งสงคราม - ตอนที่ 27
เมื่อเล่ยหงและคนอื่น ๆ จากไปเช่นนี้บรรยากาศในห้องจัดเลี้ยงก็คลายลง
หญิงชรามองไปที่หวังเสี่ยวหวู่
เธอคิดว่าเล่ยหงได้ถูกเชิญมาโดนหวังเสี่ยวหวู่ถึงแม้ว่าเล่ยหงจะไม่ได้แสดงออกอย่างชัดเจนว่าสนับสนุนเธอ แต่ในสถานการณ์เช่นนี้การประกาศเรื่องทายายคงต้องเลื่อนไปก่อน
หวังซูมองไปที่คุณย่าด้วยความลำบากใจ ยังไงก็แล้วแต่เข้าเพิ่งบังคับคุณย่าไป ตอนนี้ท่านสี่ก็จากไปแล้วเขาไม่มีอะไรให้พึ่งพาแล้ว
“คุณย่า … ”
“ไปให้พ้นจากนี้ไปฉันไม่มีหลานชายแบบแก!”
หญิงชราตะโกนด่าและนั่งลงบนเก้าอี้
หวังซุรีบคุกเข่าลง“ คุณย่า คุณย่าผมกลัวว่าคุณจะตกลงเรื่องการลงทุนกับน้องรองจะทำให้เกิดความผิดผลาดเพราะงั้นที่ผมทำไปเพราะคิดถึงตระกูลหวังเหมือนกัน!”
เพื่อตระกูลหวัง?
ทุกคนรู้ดีว่าหวังซูนั้นได้ติดต่อกับจ้าวซือเฟิงมานานแล้วและที่เขามาก็เพื่อผลประโยชน์จากตระกูลหวัง
ใครจะเชื่อเรื่องที่หวังซูพูด
“ เหอเหอ พี่ชายที่ผมทำก็เพื่อผลประโยชน์ของตระกูลหวังของเรา เมื่อการลงทุนสามร้อยล้านดพเนินไปได้ด้วยดีตระกูลเราจะเปลี่ยนไปเลย แต่คุณมันเห็นแก่ประโยชน์ของตัวเองผมละผิดหวังกับคุณจริงๆ”
หวังเฉินส่ายหัวถอนหายใจ
“แก!”
“เอาล่ะ เอาล่ะ!”
หญิงชราโบกมือแล้วเธอก็พิจารณาอยู่พักหนึ่ง เธอลุกขึ้นละมองไปรอบๆพร้อมกล่าวว่า “หลังจากที่เกิดเรื่องทั้งหมดในวันนี้ทำให้ฉันไม่อาจว่าใจได้ อย่างนั้นฉันก็จะดำรงตำแหน่งนี้ต่อไปก่อน!”
“ไงก็ตามฉันยังคงคาดหวังกับโครงการของเฉินเอ๋อที่วอลล์สตรีทอยู่ ดังนั้นการที่ตระกูลเราจะพัฒนาไปได้มากกว่านี้หรือไม่ขึ้นอยู่กับโครงการนี้! “
“ถ้าโครงการนี้สามารถสร้างเงินได้สามพันล้านเฉินเอ๋อก็สมควรได้รับตำแหน่งไป!”
“ทุกคนคิดว่ายังไง”
หญิงชรากวาดตามองและถามออกไป
“คุณย่า… ” เมื่อหญิงชรามองมาหวังซูเหมือนจะพูดอะไรสักอย่าง
เมื่อเห็นว่าไม่มีใครคัดค้านหญิงชราจึงให้ฝ่ายการเงินจัดการโอนเงินไปที่บัญชีของหวังเฉินทันที
เงินสามร้อยล้านเป็นเงินทั้งหมดในบัญชีของตระกูลหวัง นับเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงมาก เมื่อเห็นว่าเงินเข้าแล้วหวังเฉินก็ยิ้มเล็กน้อยจากนั้นเขาก็เดินไปหาหญิงชราเพื่อประจบ “คุณย่าช่างฉลาดจริงๆ ผมว่าคุณย่าต้องอยู่ได้อีกเป็นร้อยปีแน่นอน”
หญิงชราหัวเราะและรีบนำ “โสมตะวันโลหิต” ที่ได้รับออกมา
หญิงชราเห็น “โสมตะวันโลหิต” ด้วยสีแดงเลือดที่เต็มไปด้วยกลิ่นยา เธอจิงรีบตะโกนออกมา: “ถ้าแกยังมีความกตัญญูก็รีบนำมันลงมาใส่ในหม้อ เอาล่ะทุกคนเรามาจัดงานเลี้ยงกันต่อเถอะ!”
งานเลี้ยงดำเนินต่อไป
หลังจากที่หญิงชราดื่มซุปโสมแล้วเธอรู้สึกอบอุ่นและสบายใจมาก เธอชื่นชมหวังซูและรู้ว่านี้ไม่ใช่ของปลอมและเริ่มที่จะยกโทษให้เขา แต่สักพักเธอก็รู้สึกไม่สบายท้องจึงให้คนช่วยพาไปเข้าห้องน้ำ
ทุกคนคิดว่าเธออาจจะป่วยนิดหน่อยเลยไม่คิดอะไรมาก
ในเวลาต่อมาก็มีสาวสวยผู้หนึ่งเดินเข้ามาในห้องจัดเลี้ยงและเธอก็ดึงดูสายตาของทุกคนทันที คนผู้นี้ไม่ใช่ใครอื่นเธอคือ ฉินเสี่ยว วันนี้เธอมาร่วมงานประชุมของตระกูลหวังในนามของปูเธอ แต่เธอก็มาสายไปบางเนื่องจากเธอมีผู้ป่วยที่ต้องดูแล
“เสี่ยวเอ๋อเธอก็มา?”
เมื่อหวังเสี่ยวหวู่ทักทาย ฉินเสี่ยวก็พลันขวดคิวและไม่สนใจเขา
ต่อมาฉินเสี่ยวก็ต้องตะลึงเมื่อเธอเห็นบางอย่างที่อยู่บนพื้นเธอจึงย่อตัวลงและเอามือหยิบมันขึ้นมา
“ เสวี่ยเอ๋อเธอจะไปหยิบยาขยะแบบนั้นขึ้นมาทำไม?
“มันสกปรก! “
หวังซูกล่าว
“ยาขยะ?”
ฉินเสี่ยวเธอไม่สบอารมณ์อย่างมากและมองไปที่หวังซูอย่างดูถูกจากนั้นก็นำยาดังกล่าวขึ้นมาดมอย่างระมัดระวัง หลังจากที่เธอดมกลิ่นขอยานั้นบนหน้าเธอก็พลันเปลี่ยนเป้นความประหลาดใจ ตามที่เธอคาดมันเป็นโสมตะวันโลหิตในตำนาน! มันเป็นตัวยาวิเศษที่ซึ่งหาซื้อได้ยากมากแม้แต่ในพื้นที่ของทางทิเบต เธอไม่คาดว่าจะได้พบมันที่นี้ในวันนี้ แต่ตัวยาวิเศษล้ำค่าอันนี้ดันถูกโยนไว้บนพื้นราวกับขยะ “นี่มันของใครกัน”
ฉินเสี่ยวถามออกมา
เวลานี้ทุกคนต่างแปลกใจกับพฤติกรรมแปลกๆ ของฉินเสี่ยว
หวังซูตะลึงไปชัวครู่และจึงหัวเราะออกมาเสียงดัง: “จะเป็นใครไปได้อีกละ ก็เป็นสามีขยะของหวังฌสี่ยวหวู่เจียงเป่ยเฉินไงล่ะ!”
ฮ่า ๆ ๆ ๆ! คนอื่น ๆ ก็หัวเราะเช่นกัน
แม่ลูกทั้งสองหน้าแดงขึ้นมาด้วยความอับอาย พวกเธอไม่คาดคิดว่าจะมีคนหยิบเรื่องนี้ขึ้นมาพูดอีกครั้ง
“ฮึ่ม! โชคดีที่ไม่ได้นำมันให้เป็นของขวัญไม่ไม่งั้นแย่แน่!”
เตวหยูหลานกล่าวด้วยความโกรธ ส่วนทางหวังเสี่ยวหวู่เธอก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาในใจเธอตอนนี้เธออยากจะหย่ากับเขาให้เร็วที่สุดเลยด้วยซ้ำ เพราะความอัปยศที่เจียงเป่ยเฉินทำนั้นมากกว่าการกระทำในยี่สิบปีที่ผ่านมาอีก! “เป็นเขาเอง?”
ดวงตาของฉินเสี่ยวเบิกกว้างและเป็นประกาย
สำหรับเธอแล้วเจียงเป่ยเฉินเป็นคนที่ลึกลับอย่างมาก ทั้งทักษะทางการแพทย์ที่เขาแสดงให้เธอเห็นในครั้งล่าสุดทำให้เธอสนใจในตัวเขาเป็นอย่างมาก! ฉินเสี่ยวมองไปรอบๆแต่ก็ไม่พบเจียงเป่ยเฉินเธอก็รู้สึกเสียใจหากเขาอยู่เธอก็อยากจะพูดคุยขอคำแนะนำกับเขาสักเล็กน้อย
“หากว่าไม่มีใครต้องการตัวยานี่แล้ว ฉันจะเอามันไปแล้วกัน!”
ฉินเสี่ยวกล่าวยังไงก็ตามนี่คือโสมตะวันโลหิตเลยนะบางทีในอนาคตเธออาจะไม่ได้พบเจอกับมันอีกก็เป็นได้อย่างงี้แล้วเธอจะพลาดได้อย่างไร
หวังซูงุนงง เขากล่าว “เสี่ยวเอ๋อนั้นมันเป็นแค่ขยะ”
“คุณทิ้งมันไปเถอะ ถ้าคุณอยากได้เดียวผมจะหามาให้ใหม่!”
ฉินเสี่ยวไม่พูดอะไร เธอหยึบผ้าออกมาและวางโสมตะวันโลหิตลงไปอย่างระมัดระวัง
เมื่อคนอื่นๆเห็นฉากนี้ก็อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ แต่ก็ไม่มีใครพูดอะไรออกมา ยังไงก็ตามฉินเสี่ยวก็เป็นแพทย์แผนจีน บางทีที่เธอทำไปเพราะเธอเสียดายตัวยา
“แย่แล้ว! แม่เฒ่าเป็นลมในห้องน้ำ!”
ทันใดนั้นผู้ช่วยของหญิงชราก็วิ่งกลับมาด้วยความตื่นตระหนกและตะโกน
ทุกคนตกใจเป็นอย่างมากและรีบวิ่งไปที่ห้องน้ำเพื่อนำหญิงชราออกมา
“หมอฉินเกิดอะไรขึ้นทำไมเธอถึงเป็นลมไปได้!”
“หมอฉินคุณต้องช่วยคุณย่านะ!”
ทุกคนรีบกล่าวด้วยความเป็นห่วงเพราะหญิงชราเธอเป็นเสาหลักของตระกูลหวังจะปล่อยให้เธอเป็นอะไรไปไม่ได้! หลังจากที่ฉินเสี่ยวจับชีพจรของเธอแล้วทันใดนั้นสีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปเธอกล่าวออกมาด้วยความโกรธ “พวกคุณเอาอะไรให้เธอกินกันแน่?”
ทุกคนตะลึงไปสักพักและจากนั้นก็มองไปที่หม้อไฟบนโต๊ะโดยพร้อมเพรียงกันฉินเสี่ยวขมวดคิ้วและรีบเดินเข้าไปดูทันทีที่เธอสูดดมกลิ่นสีหน้าเธอก็เปลี่ยนไปทันที เธอใช้ตะเกียบคีบโสมออกมาจากหม้อ และหันกลับมาตวาด
“พวกคุณบ้าหรือเปล่า?”
“ปํนเคยบอกไปแล้วว่าอาการของเธอไม่สามารถใช้ยาบำรุงได้ ทำไมพวกคุณถึงให้เธอกินโสมแดงกันห่ะ?”
“พวกคุณอยากจะฆ่าเธอหรอ! “
โสมแดง?
คนอื่นตกใจมากที่ได้ยินและหันไปทองหวังซูทันที
หวังซูนำมามันเป็นโสมตะวันโลหิตไม่ใช่เหรอ?
ทำไมถึงกลายเป็นโสมแดงไปได้?
เวลานี้ใบหน้าของหวังซูเปลี่ยนไปอย่างมาก!