ราชันมังกรแห่งสงคราม - ตอนที่ 17
“คุณย่าฟื้นแล้วเหรอ”
หวังเสี่ยวหวู่ เดินเข้าไปในห้องลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วก้าวไปข้างหน้าเพื่อจับมือของย่า
“ซู่วว! ย่าไม่สบาย อย่าโกรธย่าเลย”
หญิงชราอ่อนแอ แต่เธอก็พยายามจะพูดดีด้วย
“ คุณย่าคุณกำลังพูดถึงอะไร. มันเป็นความผิดของหนูด้วยหนูทำให้คุณโกรธ! “
ดวงตาของ หวังเสี่ยวหวู่ เปลี่ยนเป็นสีแดงทันที
“เสี่ยวหวู่. เธอโตแล้ว เธอควรมีเหตุผล เธอก็รู้ว่าการดูแลตระกูลมันยากลำบากขนาดไหน อีกอย่างเธอเป็นผู้หญิง ถ้าให้เธอดูแลตระกูลหวังมันจะไม่แย่เอาหรอ”
“ย่าขอร้อง… เธอมอบ บริษัท ให้ลูกพี่ลูกน้องของเธอได้ไหม ตราบใดที่เธอส่งมอบไปย่าก็ตายตาหลับแล้ว”
หญิงชราหลับตาและวิงวอนอย่างขมขื่นด้วยน้ำตา
หวังเสี่ยวหวู่โกรธ เธอไม่คาดว่าย่าของเธอจะพูดแบบนี้ในเวลานี้ แต่เมื่อมองไปที่รูปลักษณ์ที่แก่ชราของคุณย่าของเธอ เธอก็อดไม่ได้ที่จะมีน้ำตา
หลังจากลังเลอยู่พักหนึ่งเธอกัดริมฝีปากและพยักหน้า: “โอเคคุณย่า อย่าได้พูดว่ากำลังจะตายตราบใดที่คุณมีสุขภาพที่ดี เสี่ยวหวู่ สัญญาจะสัญญากับคุณ!”
“ดีดี เธอยังมีสติดี เด็กดี!”
หญิงชราจับมือของ หวังเสี่ยวหวู่ จากนั้นก็รีบพูดกับ หวังซู ด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น “เร็วเข้าขอบคุณลูกพี่ลูกน้องของเธอซะ!”
“คุณย่าทำไมผมต้องขอบคุณเธอ! หรงติ่ง ลงทุนกับเธอไม่ใช่เพราะเขาเห็นถึงศักยภาพของ ซือหยุ่น ไม่ใช่หรอแต่เดิม บริษัท นั้นก็เป็นของตระกูลหวังเรา เพราะงั้นเราจะขอบคุณเธอทำไม!”
หวังซู ยกริมฝีปากขึ้นละพูด: “คราวนี้เธอมอบ บริษัท ให้ฉันแล้ว เธอสบายใจได้ฉันจะนำตระกูลเราให้กลายเป็นยักษ์ใหญ่อันดับต้นๆได้อย่างแน่นอน!”
หญิงชราส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้และพูดพร้อมกับถอนหายใจ: “เอาล่ะคราวนี้ตระกูลหวังของเราสามารถร่วมมือกับหรงติ่งได้แล้ว ถ้าไม่เป็นเพราะเสี่ยวหวู่ เพราะงั้นนายไปจองโต๊ะจัดเลี้ยงที่ จี้เซียน ตระกูลหวังของเราจะไปที่นั้น เพื่อจัดงานเลี้ยงฉลองให้ เสี่ยวหวู่ “
จี้เซียนเหลา?
ทุกคนตะลึง
นั่นคือร้านอาหารหรูที่สุดใน หยุ่นไห และมีราคา 100,000 หยวนต่อโต๊ะ
ด้วยคนจำนวนมากในตระกูลหวังเขาต้องจัดโต๊ะหลายโต๊ะเลยทีเดียว หวังซูกังวลอย่างมากเพราะมันจะเขาเนื้อเขาอย่างหนักเลย
“ ย่ามันมีอะไรน่าฉลอง ถึงงั้นแม้ว่าอยากจะฉลองก็ไม่จำเป็นต้องไปที่ จี้เซียนเหลา! “
หวังซูพูดด้วยสีหน้าเจ็บปวด
“ฉันบอกให้ไปก็ไปสิ!”
หญิงชราตะโกน
หวังซู ตกใจแล้วรีบวิ่งออกไปทันที
“คุณย่า ไม่ต้องลำบากขนาดนี้ก็ได้”
หวังเสี่ยวหวู่ ขมวดคิ้วเล็กน้อย
“ เสี่ยวหวู่ เธอแค่ฟังย่า เธอคือฮีโร่ของครอบครัวเรามื้อนี้ต้องฉลอง! “
หญิงชรายืนกราน
หญิงชรามีจุดประสงค์ในการทำแบบนี้ หนึ่งเลยคือเอาใจหวังเสี่ยวหวู่ และอีกทางคือจัดฉากให้หวังซูเข้ามามีส่วนในการบริหารจัดการของตระกูลหวังในภายหน้า หญิงชราเป็นหัวหน้าตระกูลมาหลายปีในตระกูลไม่มีใครเจ้าแผนการเท่าเธออีกแล้ว
หวังเสี่ยวหวู่ ต้องจำใจยอมรับ
อีกด้านหนึ่ง เจียงเป่ยเฉิน ได้รับโทรศัพท์จาก หวังเสี่ยวหวู่ ทันทีที่เขากลับมาถึงบ้าน
“ ไงเมียจ้า!”
เขาเรียกเธออย่างเป็นธรรมชาติเหมือนกับว่าแต่งกันมาหลายปีแล้ว
หวังเสี่ยวหวู่ตะลึงอยู่พักหนึ่งแล้วพูดด้วยความเขินอาย: “อย่าหาพูด! ใครเป็นเมียนาย!”
“แล้วโทรมามีอะไร”
เจียงเป่ยเฉิน ถาม
หวังเสี่ยวหวู่ ถอนหายใจและกล่าวว่า “คุณย่าขอให้ฉันส่งมอบ บริษัท ให้ หวังซู ฉันไม่มีทางเลือก จากนั้นย่าของฉันก็ให้หวังซูจัดโต๊ะจีนเลี้ยงให้ฉันที่ จี้เซียนเหลา นายพาแม่ของฉันไปด้วยละกัน! “
“เธอมอบซินซิหยุนไปแล้ว?”
เจียงเป่ยเฉิน ขมวดคิ้ว
แม้ว่าภรรยาของเขาจะมีความสามารถมาก แต่เธอก็ยังมีจุดอ่อน เธอใจอ่อนเกินไป
“นี่เป็นธุรกิจของฉัน นายไม่เกี่ยว อย่ามาพูดมาก ตอนนี้นายพาแม่ฉันไปที่ จี้เซียนเหลา ก่อน! “
หวังเสี่ยวหวู่ รู้สึกหงุดหงิด
หลังจากวางสาย เจียงเป่ยเฉิน ก็เดินเข้าไปในบ้าน
ตอนนี้ เตวหยูหลาน สวมกางเกงรัดรูปสีชมพูและกำลังฝึกโยคะอยู่ รูปร่างเธอผอมเพรียวเกือบจะเทียบเท่ากับ หวังเสี่ยวหวู่ แม้ว่าเธอจะไม่ได้อยู่ในวัยหนุ่มสาวแล้ว ถ้าเธอออกไปข้างนอกพร้อมกับหวังเสี่ยวหวู่คนอื่นๆคงคิดว่าเป็นพี่น้องกันแน่ๆ
“คุณป้าไปอาบน้ำเถอะอีกสักพักผมจะพาคุณไปที่ จี้เซียนเหลา!”
เจียงเป่ยเฉิน เดินไปด้านข้างและกล่าว
“ จี้เซียนเหลา? ฮ่าฮ่านายจะพาฉันไป จี้เซียนเหลา เพื่อทานอาหารเย็นหรอ? นายทำได้หรอ?”
เตวหยูหลาน ยืดตัวขึ้นมองไปที่ เจียงเป่ยเฉิน อย่างดูถูก
เจียงเป่ยเฉิน ส่ายหัว “ไม่ใช่ผม เป็นหวังซู เสี่ยวหวู่ ส่งมอบ บริษัท ใหม่ให้กับตระกูลหวังและหญิงชราต้องการจัดงานเลี้ยงฉลองให้ เสี่ยวหวู่! “
“อะไรนะ? เสี่ยวหวู่ มอบ ซินซิหยุน ให้กับตระกูลหวัง? “
เตวหยูหลาน ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและเธอก็มีสีหน้าที่โล่งใจทันทีและพูดว่า “ดีแล้วก็ดีแล้ว
ในที่สุดฉันก็ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป! “
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เตวหยูหลาน รู้สึกกังวลกับ บริษัท ใหม่เพราะกลัวว่าหญิงชราจะตอบโต้ครอบครัวของเธอหากเธอรู้ ตอนนี้พอเธอได้ยินว่า บริษัท ได้ส่งมอบให้ตระกูลหวังในที่สุดเธอก็โล่งใจสักที
เจียงเป่ยเฉิน ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้
แม่ภรรยาคนนี้ของเขาช่างโง่เง้าเสียจริง เมื่อหวังซูควบคุมตระกูลหวังแล้ว หวังเสี่ยวหวู่ จะมีชีวิตที่ดีในตระกูลหวังได้หรอ?
เตวหยูหลาน พอรู้ว่าจะไปทานอาหารเย็นที่ จี้เซียนเหลา เธอก็จะการแต่งตัวและหาเสื้อผ้าใส่เป็นเวลานานก่อนที่เธอจะออกมาพร้อมกับเจียงเป่ยเฉิน
เมื่อพวกเขามาถึง จี้เซียน ตระกูลหวังก็มาถึงที่นี่กันก่อนแล้ว
หญิงชราไม่ได้มาหลังด้วยเพราะเธอเพิ่งฟื้นตัวและให้ ฉินเสี่ยว ดูแลเธออยู่
“วันนี้ฉันหวังซูเลี้ยงพวกคุณเองมาดื่ม!”
หวังซู จองเห้องที่แพงที่สุดใน จี้เซียน เขาขึ้นมายืนบนเวทีพร้อมกับแก้วไวท์และตะโกนเสียงดัง ตอนแรกหญิงชราบอกให้เขาจัดงานเลี้ยงฉลอง แต่เขาดันจัดงานเลี้ยงส่วนตัวเพื่อตัวเอง ในเวลานี้ไม่มีใครพูดถึง หวังเสี่ยวหวู่ เลยทุกคนรู้ดีว่าหญิงชราหนุ่นหลังหวังซูและตระกูลจะอยู่ในมือของเขาในอนาคต
หวังเสี่ยวหวู่ นั่งอยู่อย่างไม่มีความสุข
เตวหยูหลาน รับรู้ถึงบ้างอย่างเธอรู้สึกโกรธมากเธอพึมพำออกมา “เห็นได้ชัดว่านี่มันเป็นโครงการของครอบครัวเรา เสี่ยวหวู่ หากจะพูดถึงบริษัทใหม่เป็นลูกสาวฉันก่อตั้ง แล้วนี่มันอะไรกัน! “
“ แม่อย่าพูดอะไรเลย “
หวังซู่หวู่กัดริมฝีปากของเธอและกล่าว ใบหน้าของแสดงถึงความท้อแท้และเสียใจ
แต่จะทำอะไรได้?
ใครใช้ให้เธอเป็นหลานสาวที่มีย่าแบบนี้
“ฉันไม่ได้อยากจะบ่นอะไรแบบนี้! ถ้าจะโทษก็โทษพ่อแกที่หาลูกเขยไร้ประโยชน์แบบนี้มา!”
เตวหยูหลาน กล่าวว่าเจียงเป่ยเฉิน
“หากเป็นคนที่ร่ำรวยมีอำนาจเธอก็ไม่ต้องลำบากขนาดนี้ และไม่จำเป็นต้องแข่งขันกับตระกูลหวัง เสี่ยวหวู่ ตอนนี้ บริษัท ใหม่ก็ได้ส่งมอบไปแล้วตอนนี้เธอก็ไม่มีอะไรด่วนแล้วแม่ว่าเธอรีบไปหย่าดีกว่า แม่มีเพื่อนที่มีลูกดีๆมากมายพวกเขาทำธุรกิจของตัวเองบริษัทของเขามีมูลค่ามากกว่า 100 ล้าน!”
“โอ้แม่ แม่อย่าพูดอะไรตอนนี้ได้ไหม”
หวังเสี่ยวหวู่ พูดอย่างช่วยไม่ได้แล้วมองไปที่ เจียงเป่ยเฉิน
ยัไงก็ตาม เจียงเป่ยเฉิน ก็ทำในส่วนของเขาได้ดีแล้วในช่วงเวลานี้ในตอนที่เขาช่วยเธอเรื่องอาคารสำนักงาน ความประทับใจของเธอที่มีต่อเขาก็เพิ่มมากขึ้น
“เสี่ยวหวู่, ยังไงก็ตามพ่อของเธอก็ไม่ได้อยู่ที่นี่ตอนนี้ ฉันจะบอกเธออีกครั้งนะรีบไปหย่าซะ”
“ปัง!” ในขณะนี้ประตูห้องโถง จี้เซียน ก็เปิดออกทันที
มีชายร่างสูงหัวโล้นมีโซ่สีทองคล้องที่คอเดินเข้ามาพร้อมกับคนจำนวนหลายสิบคน
“นี่เป็นวันเกิดของปู่ของฉัน ฉันต้องการห้องโถงของ จี้เซียน ห้องนี้ยกให้ฉันได้ไหม!”
หลังจากที่ชายหัวโล้นเข้ามาเขาก็มองไปรอบๆและพูด
“นายเป็นใคร?”
“ห้องโถง จี้เซียน วันนี้ถูกจองโดยตระกูลหวังของเราแล้ว นายไปหาที่อื่นเถอะ! “
หวังซูตะโกน
ถุ้ย! ชายหัวโล้นถ่มน้ำลายและพูดอย่างเหยียดหยาม: “ตระกูลหวัง?
แล้วมันยังไงอะ ฉันเหลาหวังเต็ง แห่ง ซินเจี๋ย ต้องกลัวแล้วจากไปหรอ! “
ซินเจี๋ย หวังเต็ง?
หวังซูกำลังจะโมโหแต่เขาก็ตกใจทันทีเมื่อได้ยินชื่อนี้ สมาชิกในตระกูลคนอื่นๆก็ตกใจไม่แพ้กัน
หวังเต็งเป็นนักเลงที่รู้จักกับเป็นอย่างดีในหยุ่นไห เขามีอิทธิพลอย่างมากใน ซินเจี๋ย แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขากลัว คนที่พวกเขากลัวจริงๆเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังของหวังเต็ง นั้นคือ เหลยหง
เขาเรียกว่า เหลยเย่
นี่คือจักรพรรดิของโลกใต้ดิน ไม่ใช่อะไรที่ตระกูลหวังจะต่อกรได้!