รันนิ่งแมนกับระบบครองโลก - ตอนที่ 8 การรวมกันของเพื่อนสาวที่งดงามที่สุด
“นั่งลงเถอะลู่เฟย” หนีหนี่ทักทายลู่เฟยด้วยรอยยิ้มมีเสน่ห์ ลู่เฟยค้นพบว่าสายตาของหนีหนี่มีเสน่ห์มาก
ดวงตาของเธอสดใสมากจริงๆ เธอกับเบบี้แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เป็นผู้หญิงคนละสไตล์ แต่พวกเธอก็สามารถเป็นเพื่อนซี้ที่สนิทที่สุด ช่างเป็นเรื่องเหลือเชื่อจริงๆ
“ได้ครับหนีหนี่” ลู่เฟยยิ้มรับอย่างสุภาพ จากนั้นเขาก็นั่งลง หนีหนี่ ก็นั่งตาม เธอสวมกระโปรงสั่นมาก
สั้นจนปกปิดสถานที่สำคัญของเธอแค่บางส่วนเท่านั้น หลังจากหนีหนี่นั่งแล้วเธอก็วางมือบนระหว่างกระโปรงของเธออย่างแผ่วเบา ปิดป้องแสงที่ตกกระทบไม่ให้ลอดผ่าน ขาคู่นั้นก็ตึงแน่นเบียดกัน
“ฉันได้ยินเบบี้บอกฉันว่าคุณทำอาหารอร่อยหรอ?” หนีหนี่ถามอย่างสงสัย
“ก็นะ.. แหะๆ” ลู่เฟยยิ้มจางๆ ตอบอย่างถ่อมตัว เขาต้องบังคับตัวเองไม่ให้สนใจหนีหนี่ตรงหน้ามากจนเกินไป เพราะกังวลว่าจะไปเห็นอะไรที่ไม่ควรเห็นเข้า ถ้าเป็นอย่างนั้นบุปผาดรุณีน้อยคนนี้ต้องรู้สึกอัดอัดกับเขาแน่
หนีหนี่กับเบบี้สาวน้อยทั้งคู่เป็น 2 ใน 4 บุปผาดรุณีน้อยคนล่าสุด เด็กสาวเหล่านี้ต่างก็มีเสน่ห์ทางเพศและความเป็นผู้ใหญ่ในตัวอย่างชัดเจน
“คุณดูเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตนจริงๆ นะ ต่อไปฉันจะมาอยู่บ้านเบบี้บ่อยขึ้นล่ะแล้วฉันก็คงมาที่บ้านคุณบ่อยๆ ด้วย คุณรังเกียจหรือป่าวคะ?” หนีหนี่กล่าวถามด้วยรอยยิ้ม
“แน่นอน ใครจะรังเกียจกันครับ มันเป็นเกียรติของผมด้วยซ้ำ ถ้าได้ทำอาหารให้ดาราใหญ่อย่างหนีหนี่” ลู่เฟยเหลือบมองหนีหนี่แล้วก็ค้นพบว่าตัวเขาเองถึงกับกระสับกระส่ายเล็กน้อยทันทีที่มอง
ให้ตายสิ หนีหนี่นี่มีเสน่ห์ทางเพศสูงเกินไปจริงๆ เขากังวลว่าจะควบคุณตัวเองไม่ได้ แล้วถ้าหนีหนี่สังเกตุเห็นนะ เขาต้องเอาหน้าแทรกมุดแผ่นดินแน่
“ไม่ต้องสุภาพนักก็ได้นะ ดาราก็คนเหมือนกัน อิอิอิ ฉันได้ยินมาว่าคุณสมัคร The Voice China หรอ
เห็นเธอบอกว่าคุณร้องเพลงได้ดีมาก ดูเหมือนว่าอีกไม่นานคุณจะได้กลายเป็นดาราใหญ่แล้วนะ เพราะหลังดินเนอร์คืนนี้เราจะไปที่ KTV ไปร้องเพลงกัน ถึงตอนนั้นเราต้องฟังคุณร้องให้ฟังแล้วล่ะ”
“อืม.. ได้เลย อย่าหัวเราะนะ เอาจริงๆ ผมก็แค่ระดับกลางๆ นะหนีหนี่” ลู่เฟยยิ้มจางๆ ตอนนี้หยางอิ่งเดินออกมาแล้ว
ตอนนี้เธอดูสวยมากจากอายไลเนอร์ที่สวยงาม ขนตาแพรยาวใบหน้ารูปไข่ที่ดูน่ารักน่าชัง ร่างเพรียวสวมรองเท้าส้นสูงและกระโปรง เธอดุจเทพธิดา
“หนีหนี่ ลู่เฟย เราไปกินข้าวเย็นกันเถอะ” เบบี้พูดกับทั้งคู่ด้วยรอยยิ้มโดยถือกระเป๋า LV ไว้ในมือ
“อื้อ โอเค ไปกันเลยเบบี้” หนีหนี่จับมือของหยางอิ่ง แล้วทั้งสามคนก็ออกจากห้องไปกันอย่างรวดเร็ว
ไม่นานพวกเขาก็ถึงลาดจอดรถใต้ดิน ไปรถคันเดียวกันกับหยางอิ่ง หนีหนี่ไม่ได้ขับรถไปเอง ทั้งหมดอยู่ในรถหยางอิ่ง
ภายในรถ ลู่เฟยกับหนีหนี่นั่งอยู่ด้วยกัน มีเพียงเบบี้ขับรถอยู่เบาะหน้าคนเดียว
“ร้านอาหารที่ฉันจองเป็นร้านอาหารฝรั่งเศษนะ” หยางอิ่งบอกขณะขับรถ
“อือ ไงก็เถอะ คืนนี้เธอเลี้ยงพวกเรานะ ฉันไม่ช่วยออกด้วย” หนีหนี่ยิ้ม ลู่เฟยเหลือบมองหนีหนี่ด้านข้าง
ตอนนี้เขาพบว่ากระโปรงของหนีหนี่มันถดขึ้นไปมากกว่าเดิม ความงามและทิวทัศน์บางส่วนเปิดเผยขึ้นอย่างมีนัยสำคัญต่อหน้าลู่เฟย
เช็ดเขร้ เกิดไรขึ้นกับหนีหนี่ฟร่ะเนี่ย ไม่ ไม่ ฉันต้องไม่มองมัน
ลู่เฟยรีบหันไปมองข้างนอกหน้าต่างทันที
“ลู่เฟย พ่อแม่ของคุณจะไปเชียร์คุณสัปดาห์หน้าหรือเปล่า?” หยางอิ่งถาม
“โอ้ ผมไม่มีพ่อแม่หรอก ผมเป็นกำพร้าน่ะ” ลู่เฟยตอบอย่างไม่แยแสนัก
หลังจากประโยคนั้นของลู่เฟย ใบหน้าของทั้งคู่ ทั้ง หยางอิ่งและหนีหนี ก็ตกใจบวกความกับเศร้าหมองเล็กน้อย หลังจากเงียบกันไปประมาณ 2-3 วิฯ หนีหนี่ก็เริ่มถามว่า “คุณมีเพื่อนในปักกิ่งไหม?”
“ผมเพิ่งมาถึงปักกิ่งนี่เอง ผมยังไม่มีเพื่อนหรอก เพื่อนคนแรกที่เจอก็เบบี้ แล้วคนต่อมาก็คือคุณไง หนีหนี่” ลู่เฟยตอบอย่างตรงไปตรงมา ตอนนี้เขารู้สึกอับอายเล็กน้อยเมื่อพูดเรื่องนี้
“ลู่เฟย มั่นใจได้นะว่าฉันกับหนีหนี่จะเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของคุณ เมื่อคุณเข้าแข่งขันในอาทิตย์หน้า ฉันกับหนีหนี่จะไปเชียร์คุณ ใช่ไหมหนีหนี่?” เบบี้ก็ส่งสายตาปิ๊งๆ เป็นสัญญาณให้กับหนีหนี่ให้เธอเห็นด้วย
“ใช่แล้วล่ะลู่เฟย เราจะเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดให้คุณเอง และเราจะไปเชียร์คุณด้วย” หนีหนี่ตอบยืนยันกลับในทันที
หัวใจของลู่เฟยรู้สึกกระปี้ประเปร่าไปชั่วขณะ แล้วเขาก็ตอบกลับไปว่า “ขอบคุณครับ เบบี้ หนีหนี่ ขอบคุณ”
“ด้วยความยินดี ทำไมนายยังต้องสุภาพอยู่อีกล่ะ? เครไหม” หนีหนี่ยื่นมือออกมากตีแขนของลู่เฟย เหมือนเธอจะเพิ่งรู้ตัวว่ากระโปรงของเธอมันลอยขึ้นกว่าเดิม
บางสิ่งบางอย่างที่อธิบายไม่ได้ก็เปิดเผยมากขึ้นกว่าเดิมด้วย หลังจากเห็นฉากนั้นแล้วใบหน้าของเธอก็แดงแจ๋ทันทีเธอดูกระอักกระอ่วนพอตัว จากนั้นเธอก็ดึงกระโปรงรั้งลงไปบนขาคู่งามของเธอ
==================