รันนิ่งแมนกับระบบครองโลก - ตอนที่ 35 เมนเทอร์เลี้ยงอาหารกลางวัน
เพร้ง เพร้ง เพร้ง … เสียงของไวน์แดงถูกทุบทำลายยังคงดังขึ้นอย่างไม่หยุดหย่น ฟ่านปิงปิงยังทุบทำลายบาร์ด้านหลังด้วยความไม่พอใจ ดูคุณเธอหวังว่าจะพลิกทั้งบาร์ให้คว่ำลง
“ทำเป็นหยิ่งหรอ ท่องบทโคลงดังๆ ให้ฉันฟังหน่อยสิ” เบบี้พูดอย่างเย็นช้าตอนที่เธอถ่ายวีดีโออยู่ เทพธิดาทั้งสองเหมือนกำลังสนุกกับตัวเองอยู่
“นายไม่ได้ยินฉันหรอ บอกให้ท่องโคลงให้ดังขึ้นอีก ใครที่ท่องน้อยกว่า 100 จบ จะให้เขาหักนิ้ว ถ้าท่องผิดไปหลายประโยคจะให้หักแขนเป็น 2 ท่อน” ลู่เฟยเบ่งกล้ามแขนโชว์เบ่งเสียงกร่างเต็มที่
พอได้ยินเสียงลู่เฟย เจ้าของบาร์และเหล่านักเลงทั้งสี่ ก็ท่องเสียงดังขึ้นพร้อมกับเหล่าน้ำหูน้ำตาและน้ำมูก
คำพูดจริงใจไม่ไพเราะ คำพูดไพเราะอาจไม่จริงใจ
ผู้ที่รู้ไม่พูดมาก ผู้ที่พูดมากไม่รู้
โลกไม่โต้เถียงกับผู้ที่ไม่โต้เถียง
จงหยุดดีกว่าเติมน้ำจนล้นถ้วย
จิตใจที่สงบและอดทน เป็นพื้นฐานแห่งชีวิตที่เป็นสุข
….”
พรึด! ! !.. ลู่เฟยกลั้นหัวเราะไม่ได้แล้ว แล้วทั้งสามก็ออกจาก บาร์หลังผ่านไปได้ครึ่งชม.
ลู่เฟยพาฟ่านปิงปิงและเบบี้ไปส่งที่โรงแรมตรงข้าม ใบหน้าของฟ่านปิงปิงและหยางอิ่งยังคงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
“สนุกจุงเบย พวกนี้นิสัยไม่ดี สมควรโดน” เบบี้พูดพร้อมรอยยิ้ม ใบหน้าเธอยังดูสนุกสนานอยู่เลย
“นั่นสิ ในที่สุดฉันก็รู้สึกดีขึ้น” ฟ่านปิงปิงก็ตามน้ำไปเช่นกัน
“พวกเธอทั้งสอง ฉันจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้วนะ ฉันใจแทบวายน่ะคืนนี้ คิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพวกเธอแล้ว ฉันไม่ได้รับสายจากเธอเลยเบบี้ เธอตัดสายฉัน” ลู่เฟยกล่าวหาเธอเบาๆ
“อ๋า? ไม่ใช่ว่าฉันตั้งใจไม่รับซักหน่อย ฉันกำลังรับแล้วนักเลงพวกนั้นหยุดไว้ไง” เบบี้อธิบายด้วยสีหน้าเว้าวอน
“โชคดีที่คืนนี้ไม่มีอันตราย เพราะงั้นพวกเธอต้องระมัดระวังมากขึ้น ต่อไปอย่าออกไปข้างนอกตอนกลางคืน ยิ่งบาร์แบบนั้นไม่ต้องไปเลย” ลู่เฟยเตือนหยางอิ่งและปิงปิง
“อือ เข้าใจแล้ว ลู่เฟยขอบคุณนะ ว่าแต่นายรู้ได้ไงว่าเจ๊ปิงปิงกับฉันอยู่ที่นั่นกัน?” หยางอิ่งเริ่มถาม
“นั่นสิลู่เฟย หรือว่านายสะกดรอยตามพวกเรามา?” ฟ่านปิงปิงถามจากอีกด้าน
“ไม่ต้องคิดพิเรนทร์แบบนั้นเลย ฉันก็ถามหาคนต่อคน จนมาเจอพวกเธอทันเวลาเนี่ย” ลู่เฟยบอกความจริง แน่หล่ะจะให้เขาบอกความจริงได้ไง..
“อ่อ เป็นงี้นี่เอง.. แต่ว่าขอบคุณนะ ลู่เฟย” ฟ่านปิงปิงระบายยิ้ม ใบหน้ารูปเม็ดแตงโมง(ซึ่งก็น่าจะรูปไข่แหละ) ที่สวยงาม มีเสน่ห์ขึ้นมาพอควร
“ยินดีต้อนรับครับ”
“แม้ว่านายจะช่วยฉันคืนนี้ แต่นายก็ปฏิบัติกับฉันอย่างโหดร้ายระหว่างเกมวันนี้ ไม่รู้จักอ่อนโยนปกป้องเพศที่อ่อนแอกว่า ไม่ช้าก็เร็วฉันจะจัดการบัญชีนี้กับนาย…” ฟ่านปิงปิงเอ่ยเสียงเย็นจ้องลู่เฟยอย่างมีเสน่ห์
“หือ?” ลู่เฟยถึงกับงง
“เจ๊ปิงปิงคะ เจ๊ควรชำระกับฉันโดยตรงค่ะ ลู่เฟยเขาทำเพี่อฉัน” เบบี้เม้มริมฝีปากอธิบาย
“เธอก็มีส่วนด้วย เบบี้” ฟ่านปิงปิงยิ้ม ทั้งประเทศก็สว่างสดใสโดยพลัน ภาพนี้มันงดงามเกินไป งามพอจะทำให้เหล่าชายหนุ่มแตกตื่นกันเลยทีเดียว
“อ่อย..” เบบี้ยิ้มแหย…
ไม่กี่นาทีต่อมาห้องพักในโรงแรม จากนั้นทั้ง 3 คนก็บอกลากันสักครู่แล้วกลับไปห้องใครห้องมันไปพักผ่อน
ตอนนี้ลู่เฟยก็เอนตัวลงนอน เขาคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยแล้วก็ค่อยๆ เข้าสู่ห่วงนิทรา
เช้าวันรุ่งขึ้น ทุกคนในทีมรันนิ่งแมนก็รับประทานอาหารเช้ากัน และไปที่สนามบิน ฟ่านปิงปิงและหานเกิงกล่าวอำลากับทีมงานและนักแสดงรันนิ่งแมน ภารกิจของพวกเขาเสร็จสิ้นแล้ว
สมาชิกทีมรันนิ่งแมนขึ้นบินตรงไปหางโจวตอน 9 โมง แล้วถึงบ่าย 2 พอถึงหางโจวทุกคนก็ขึ้นรถบัสไปที่โรงแรมที่ทีมงานจองไว้
ภายในไม่กี่นาทีหลังจากที่ลู่เฟยเข้าห้องพักที่โรงแรมในหางโจว เขาก็ได้รับสาย ซึ่งระบุได้ว่าเบอร์นี้มาจากปักกิ่ง
“สวัสดีครับ”
“สวัสดีค่ะ คุณลู่เฟยใช่ไหมคะ?” เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น ฟังดูเหมือนเธอจะเป็นสาวมีอายุประมาณ 40 ปี ลู่เฟยจำได้ทันทีว่าเสียงนี้เป็นเสียงของใคร
“ใช่ค่ะ เป็นอาจารย์น่าหยิงเอง” ใช่แล้วเสียงของน่าหยิง น่าหยิงอาศัยอยู่ในปักกิ่ง ดังนั้นเบอร์ของเธอจึงเป็นเบอร์ปักกิ่ง
“อืม.. ใช่ ลู่เฟย ฉันได้กำหนดการถ่ายทำตอนที่สองแล้วนะคะ คืนนี้ฉันอยู่ที่หางโจว ตอนนี้คุณพอมีเวลาไหม ฉันจะเชิญคุณมาทานอาหารกลางวัน และคุยกับคุณเกี่ยวกับการแข่งขันรอบหน้า” น่าหยิงแจ้งด้วยรอยยิ้ม
“ได้ครับอาจารย์หยิง เจอกันที่ไหนดีครับ”
“อยู่ที่ร้านอาหารเหมยกัง ติดถนนซีผู ในเขตปินเจียงค่ะ ฉันได้ยินมาว่าอาหารที่นี่รสชาติดี เพราะงั้นเราไปเจอกันที่นั่นนะคะ”
“ได้ครับอาจารย์น่าหยิง แล้วผมจะออกไปทันทีครับ”
“ค่ะ”
ทั้งสองก็วางสายไป จากนั้นลู่เฟยก็ออกจากห้อง กำลังจะออกไปอยู่แล้ว…
ลู่เฟย นายกำลังจะไปไหนน่ะ” ทันทีที่ลู่เฟยก้าวพ้นจากประตูห้องพัก เฉินเฮ่อก็หยุดเขาไว้ สมาชิกทั้ง 7 คน ทีมชายพักอยู่ในชั้นเดียวกัน
“พี่เฉินเฮ่อนี่เอง โอ้ ผมกำลังจะไปกินหน่ะ”
“พาพี่ไปด้วย ไปกับพี่ดีกว่า ฮิฮิ” เฉินเฮ่อยิ้มแนวที่เป็นซิกเนเจอร์ของเขา
“โอ้ อาจารย์น่าหยิงเธอเชิญผมไปทานมือกลางวันหน่ะครับ” ลู่เฟยอธิบาย
“อ่าาา. งั้นนายไปเธอ ฉันไม่ไปแล้ว”
“ได้ครับพี่เฉินเฮ่อ ไว้ผมจะเชิญพี่ไปทานอาหารเย็นวันอื่นนะครับ”
“ได้”
ลูเฟยก็ออกจากเขตโรงแรม นั่งแท็กซี่ไปร้านอาหาร เหมยกัง ในเขตปินเจียง
ผ่านไปกว่า 20 นาที ในที่สุดลู่เฟยก็เห็นน่าหยิง ทั้งสองเข้าไปในห้องและสั่งอาหารและแอลกอฮอ
อาหารและไวน์ก็พร้อมในไม่ช้า ลู่เฟยเติมไวน์ให้น่าหยิงเต็มที่ จากนั้นก็รินให้ตัวเอง
“อาจารย์น่าหยิงครับ ผมไม่คิดว่าจะเจอ และกินอาหารร่วมกันจริง ขอชนแก้วหน่อยได้ไหมครับ?” ลู่เฟยยกแก้วขึ้น
“โอเค อย่าสุภาพกับฉันนักสิ ฉันเป็นครู เป็นชาวแมนจู ผู้หญิงชาวแมนจูทุกคนเป็นผู้หญิงกล้าได้กล้าเสีย ยุคนี้มันเรียกเราว่าสาวมั่น 5 5”
ทั้งสองดื่มในทันใด จากนั้นลู่เฟยก็เติมให้น่าหยิงแล้วก็แก้วเขาอีกครั้ง
“กินข้าวกัน มาคุยกันเถอะระหว่างทานข้าว” น่าหยิงเตือนลู่เฟย
“ได้ครับอาจารย์น่าหยิง” ลุ่เฟยรู้สึกหิวเล็กน้อย แล้วเขาก็หยิบตะเกียบพร้อมกับน่าหยิง ทานอาหารที่เต็มโต๊ะ มีกับข้าว 6 อย่าง ซุปอีก 1 อย่าง เป็นอาหารแนะนำของทางร้าน
“รสชาติดีจริงๆ ครับ อาจารย์น่าหยิง”
“ก็ไม่เลวนะ อาหารที่หางโจวอร่อยทีเดียว” น่าหยิงตอบด้วยรอยยิ้ม
============